ข้อเท้าแพลงเป็นเหตุสังเกตได้

2325 คำ
ตกเย็นมาสกุลฮั่วต่างก็มาร่วมวงกินอาหารค่ำร่วมกันดังเช่นทุกวันที่ผ่านมา  โดยอาหารหลักในมื้อนี้นั้นมีหน่อไม้ป่าที่ซ่งเว่ยหยางใส่ลงในตะกร้าให้กับเพ่ยเจินด้วย "ซินเหยียนอาการเจ็บป่วยของเจ้าเป็นเช่นไรแล้วบ้าง  ท่านหมอมาตรวจดูอาการแล้วบอกว่าเจ้าเป็นอะไรเช่นนั้นหรือ?"  ไป๋ซูเจียวพูดขึ้นพร้อมทั้งคีบน่องไก่ตุ๋นน้ำยาจีนใส่ลงในชามข้าวของลูกสะใภ้ด้วยความเอาใจใส่ ฮั่วหวังซูเมื่อมองเห็นภรรยามีท่าทีพะอืดพะอมจึงตอบแทนไปว่า  "เรียนท่านพ่อ ท่านแม่  ซินเหยียนนางตั้งครรภ์ได้ราวสองเดือนแล้วขอรับ" "เจ้าพูดจริงเช่นนั้นรึหวังซู?"  มารดาถามย้ำออกมาเสียงดังด้วยความตกตะลึง  ฮั่วหานตี้ที่กำลังคีบข้าวใส่ปากก็เอาแต่ถือตะเกียบค้างไว้อยู่อย่างนั้นราวกับถูกแช่แข็งเมื่อได้รับฟังข่าวที่น่ายินดีจากบุตรชายครานี้ "ข้าพูดจริงขอรับ  ท่านหมอที่มาตรวจอาการให้กับซินเหยียนรับรองเช่นนั้นมิมีผิดพลาดแน่นอนขอรับ  อีกทั้งนางยังมีอาการแพ้ท้องมากอีกด้วย"  หลังฮั่วหวังซูกล่าวจบกัวซินเหยียนก็รีบลุกขึ้นไปโก่งคออาเจียนอยู่ตรงพุ่มไม้ด้านนอกเสียจนหมดไส้หมดพุง  ฮั่วหวังซูจึงรีบรุดลุกออกไปดูอาการของภรรยาด้วยความห่วงใย "ท่านพี่เรากำลังจะมีหลานให้อุ้มกันแล้วนะเจ้าคะ"  ไป๋ซูเจียวเอ่ยขึ้นปากคอสั่นพร้อมทั้งเขย่าแขนสามีไปมาเบาๆ  ฮั่วหานตี้เองก็เอาแต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่ยอมหยุดเช่นเดียวกัน หลังฮั่วหวังซูประคองภรรยาเข้ามาร่วมกินข้าวข้างในด้วยกันต่อ  ฮั่วหานตี้ที่เริ่มดึงสติของตนกลับคืนมาได้ก็เอ่ยขึ้นมาว่า  "ท่านหมอจัดยาอะไรให้เจ้าบ้างล่ะซินเหยียน?" "ท่านหมอได้จัดยาบำรุงครรภ์ให้ข้าเอาไว้สองสามชุดเจ้าค่ะ ท่านพ่อ"  ผู้เป็นสะใภ้ตอบออกไปด้วยความสุภาพเรียบร้อย "เอาอย่างนี้สิเจ้าคะท่านพี่  วันพรุ่งนี้เรามอบหมายให้เพ่ยเจินออกไปซื้อสมุนไพรเพิ่มเติมสำหรับหญิงตั้งครรภ์มาไว้ให้ซินเหยียนดีหรือไม่เจ้าคะ?"  ไป๋ซูเจียวพูดพลางส่งสายตาอ้อนวอนมาให้ด้วย  ทำให้ประมุขของสกุลฮั่วอย่างฮั่วหานตี้ต้องพลอยพยักหน้าลงเป็นเชิงตอบรับอย่างมิมีทางเลี่ยง 'ท่านแม่จะให้ข้าไปซื้อสมุนไพรมาไว้ให้พี่สะใภ้เช่นนั้นหรือ  แต่ทั่วทั้งหมู่บ้านของเรามีแค่เพียงมารดาของซ่งเว่ยหยางเท่านั้นมิใช่หรือที่เปิดร้านขายสมุนไพรอยู่  หรือว่าข้าจะเดินทางออกนอกหมู่บ้านไปหาซื้อสมุนไพรจากร้านอื่นเอามาไว้ให้พี่สะใภ้ดีนะ?'  เพ่ยเจินทุ่มเถียงกับตนเองในใจ  ก่อนบิดาจะพูดขึ้นมาเสียงทุ้มว่า "เพ่ยเจินวันพรุ่งนี้เจ้าจงรีบตื่นแต่เช้าไปซื้อสมุนไพรที่ร้านของ เว่ยหยางมาไว้ให้พี่สะใภ้ด้วยนะ  และเจ้าห้ามมัวแต่เที่ยวเล่นเถลไถลไปไหนไกลเป็นอันขาดเข้าใจหรือไม่?"  บิดากล่าวกำชับ 'หมดกันแผนการดีๆของข้า'  เพ่ยเจินโอดครวญขึ้นมาในใจพร้อมทั้งตอบบิดาเสียงอ่อยไปว่า  "ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะท่านพ่อ" ทั้งสี่คนร่วมกินอาหารกันต่อไปด้วยความยินดีปรีดา  ผิดกันกับ เพ่ยเจินที่ตอนนี้เริ่มมีอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออกขึ้นมาหน่อยๆแล้ว เช้าวันรุ่งขึ้นยามเฉิน  (เวลา 7.00น.)  หลังจากที่เพ่ยเจินอาบน้ำแต่งตัวเสร็จจึงได้รีบรุดไปหาหยุนซีในทันทีด้วยหวังว่าจะให้หยุนซีเดินทางไปที่ร้านสมุนไพรกับตนด้วย  แต่แล้วเพ่ยเจินก็ต้องผิดหวังอย่างหนักเมื่อหยุนซีบอกว่า  ต้องรีบเดินทางติดตามมารดาของตนไปทำบุญที่วัดเจ้าแม่กวนอิมผ่อสักบนเทือกเขาหยวนซาง  และนำเสื้อคลุมของซ่งเว่ยหยางที่ซักทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วมามอบให้กับเพ่ยเจินนำไปส่งคืนให้กับ ซ่งเว่ยหยางด้วยตนเองอีกด้วย 'สวรรค์เอ๋ยไยท่านจึงมิมีความเมตตามอบให้กับข้าเพ่ยเจินคนนี้บ้างเล่า  เอะอะอะไรก็ชอบผลักดันให้ข้าได้ปะทะกับเขา  ได้เจอกันกับเขาซึ่งๆหน้าตลอดเลยนะ'  เพ่ยเจินรำพึงขึ้นมาในใจด้วยความหวาดหวั่นพร้อมทั้งรับชุดคลุมของซ่งเว่ยหยางมาถือไว้อย่างไม่มีทางเลือก  และกัดฟันเดินทางออกจากคฤหาสต์สกุลฮั่วไปอย่างอ้อยอิ่งด้วยไม่อยากจะไปถึงร้านขายสมุนไพรของ ซ่งเว่ยหยางเร็วนัก  แต่ด้วยเหตุผลกลใดมิทราบได้  เวลาผ่านไปได้สักพัก เพ่ยเจินก็มาหยุดยืนอยู่ที่หน้าร้านขายสมุนไพรของซ่งเว่ยหยางแล้ว "เพ่ยเจิน!"  ซ่งเว่ยหยางอุทานขึ้นมาอย่างไม่เชื่อสายตาตนเองนักที่ได้พบเจอกันกับคนที่ตนเอาแต่เฝ้าคิดถึงทั้งคืนจนแทบจะข่มตานอนหลับไม่ลงกำลังปรากฏกายยืนอยู่หน้าร้านขายสมุนไพรยามเช้าเช่นนี้  พลันรอยยิ้มกว้างขวางก็ประดับอยู่บนใบหน้าของซ่งเว่ยหยางราวกับดอกทานตะวันที่กำลังบานแข่งกันรับแสงพระอาทิตย์ในยามเช้า  ดวงตาทั้งคู่ก็เปล่งประกายระยิบระยับราวกับดวงดาวบนท้องฟ้ายามราตรีที่ดูแล้วสดใส  สุกสกาว  อบอุ่น  อ่อนโยนเป็นอย่างยิ่ง เพ่ยเจินแอบลอบมองความดูดีของซ่งเว่ยหยางอยู่ชั่วขณะก่อนจะตี สีหน้าเคร่งขรึมและกล่าวน้ำเสียงขึงขังขึ้นมาว่า  "ท่านป้าจงอยู่หรือไม่?"  พร้อมทั้งวางเสื้อคลุมของซ่งเว่ยหยางเอาไว้บนโต๊ะคิดเงินด้วยความรวดเร็ว "เจ้ามีธุระอันใดกับท่านแม่ของข้าเช่นนั้นหรือ?"  ซ่งเว่ยหยางถามขึ้นพร้อมทั้งรีบตะครุบมือของเพ่ยเจินที่กำลังจะผละออกจากเสื้อคลุมของตนเอาไว้ทันที "ปล่อยมือข้าเดี๋ยวนี้นะเจ้าหมียักษ์บ้า!"  เพ่ยเจินเอ็ดขึ้นเสียงเขียว "บอกธุระของเจ้ามาก่อนแล้วข้าถึงจะยอมปล่อย?"  ซ่งเว่ยหยางกล่าวตะล่อมร่างเล็กอย่างใจเย็น "ข้ามาหาซื้อยาสมุนไพรไปให้กับพี่สะใภ้"  เพ่ยเจินตอบพลางพยายามชักมือของตนกลับ "นางเจ็บป่วยเป็นอะไรหรือ  เจ้าถึงได้รีบร้อนตื่นนอนตั้งแต่เช้ามาซื้อสมุนไพรให้กับนางได้เช่นนี้?"  ซ่งเหว่ยหยางพูดพลางใช้นิ้วมือใหญ่ของตนทั้งสองข้างสอดประสานระหว่างนิ้วมือเล็กของเพ่ยเจินเอาไว้แน่น "นางไม่ได้เจ็บป่วยอันใดมากหรอก  นางก็แค่ตั้งครรภ์หลานของข้าเพียงเท่านั้นเอง"  เพ่ยเจินพูดพลางช้อนสายตาข่มขู่ส่งไปให้กับซ่งเว่ยหยางเป็นเชิงบังคับว่าให้ปล่อยมือตนเสียที  แต่ดูเหมือนเจ้าหมียักษ์บ้านี่จะหน้าหนานัก  นอกจากจะไม่ยอมปล่อยมือของเพ่ยเจินแล้ว  ยังก้มหน้าลงมากระซิบอยู่ข้างริมใบหูเล็กของ เพ่ยเจินว่า  "เรียกข้าว่าพี่เว่ยหยางก่อนสิ  แล้วข้าจะยอมปล่อยมือเจ้า" "ฝันไปเถอะเจ้าหมียักษ์ชั่ว!"  เพ่ยเจินเข่นเคี้ยวเขี้ยวฟันด้วยความ คั่งแค้น  ในใจนึกอยากจะฟาดท่อนฟืนใส่หลังของซ่งเว่ยหยางหลายๆครั้งติดกันระบายความแค้นใจนัก  แต่ดูเหมือนโชคจะยังพอเข้าข้างนางอยู่บ้าง  เมื่อหลี่่ซีโมวน้องชายของหลี่หมิงได้เดินทางเข้ามาซื้อยาสมุนไพรที่ร้านของซ่งเว่ยหยางพอดี  จึงทำให้ซ่งเว่ยหยางต้องพลอยปล่อยมือของตนออกจากการกอบกุมมือของเพ่ยเจินเอาไว้ด้วยความเสียดาย หลี่ซีโมวแอบลอบส่งสายตามองสองหนุ่มสาวไปมาสลับกันอยู่เป็นระยะก่อนจะเอ่ยขึ้นมาว่า  "หากพวกเจ้าใจร้อนกันนัก  หลังเทศกาลอ้ายเสินผ่านพ้นไปแล้วก็รีบๆ เข้าพิธีแต่งงานกันไปเสียเลยเล่า  พวกเจ้าก็จะได้อยู่ด้วยกันไม่พรากจาก  อีกทั้งยังไม่ต้องคอยหลบๆซ่อนๆไปมาหาสู่แอบพลอดรักกันเอาเช่นนี้"   "ข้ามิได้มาพลอดรักกันกับเขานะเจ้าคะ  ข้ามาซื้อสมุนไพรไปให้พี่สะใภ้ของข้าต่างหากเล่า"  เพ่ยเจินกล่าวแย้งขึ้นพร้อมกับลอบส่งสายตาขุ่นเคืองใจไปให้กับ ซ่งเว่ยหยางด้วย "ก็เห็นพวกเจ้าจับมือกันแนบแน่นขนาดนั้น  ข้าก็พลอยนึกไปถึงว่าข้าได้เข้ามาขัดจังหวะของพวกเจ้าเข้าเสียแล้วนะสิ"  หลี่ซีโมวพูดพลางมองไปที่ซ่งเว่ยหยางพร้อมทั้งเอ่ยออกมาอีกว่า  "ยาสมุนไพรที่เจ้าขายให้ข้าไปเมื่อไม่กี่วันก่อนให้ผลดียิ่งนัก  วันนี้ข้าจึงมาซื้ออีกสามชุด  รีบจัดยาให้ข้าเร็วเข้า  ข้าจะได้รีบจากไป  ไม่เป็นตัวอุปสรรคของพวกเจ้าอีก" "ขอรับท่านลุงหลี่"  ซ่งเว่ยหยางพูดพลางจัดยาออกมาเป็นสามชุดมอบให้กับหลี่ซีโมวอย่างรวดเร็ว  อีกฝ่ายจึงรีบเดินออกจากร้านไปในทันที ซ่งเว่ยหยางก้มหน้าก้มตาขีดเขียนตัวอักษรลงบนแผ่นกระดาษแข็งอยู่สักพักและนำออกไปห้อยที่ประตูทางเข้าร้านพร้อมกับเดินเข้ามาหา เพ่ยเจินอย่างรวดเร็ว  "เช่นนั้นข้าจะจัดยาสมุนไพรให้เจ้านำไปให้พี่สะใภ้ของเจ้าสักสามชุดก็แล้วกันนะ"  ซ่งเว่ยหยางพูดพลางจัดยาด้วยความคล่องแคล่วว่องไว "ห่อนี้คือยาบำรุงครรภ์  ห่อนี้คือยาลดอาการคลื่นไส้อาเจียนวิงเวียนศีรษะ  ห่อนี้คือยาบำรุงโลหิตและกระดูกของหญิงมีครรภ์"  ซ่งเว่ยหยางพูดพลางยื่นห่อยาออกมาวางไว้บนโต๊ะเบื้องหน้าของ เพ่ยเจิน "ทั้งหมดนี่ราคาเท่าไหร่หรือ?"  เพ่ยเจินถามขึ้นพร้อมทั้งหยิบถุงเงินออกมาจากถุงผ้า "มิเป็นไรข้ามิคิดเงิน"  ซ่งเว่ยหยางเอ่ยขึ้นยิ้มๆ "นี่เป็นของซื้อของขาย  เจ้าจะมิคิดเงินได้อย่างไรกัน  ข้าไม่ยอมหรอกนะ"  เพ่ยเจินพูดพลางวางเงินสามตำลึงลงบนโต๊ะเสียงดังปัง  พร้อมกับ หมุนตัวเดินจากมาอย่างรวดเร็ว  แต่เมื่อก้าวขาออกมาได้เพียงหน้าร้าน ขายสมุนไพรเท่านั้นก็พลันมีเด็กชายผู้หนึ่งวิ่งมาชนเข้ากับเพ่ยเจินอย่างแรงจนร่างเล็กกระเด็นล้มก้นจ้ำเบ้าอยู่ที่พื้น  ห่อยาทั้งสามห่อต่างก็หกกระจัดกระจายอยู่เต็มพื้น ซ่งเว่ยหยางรีบเดินออกมาดูอาการของเพ่ยเจินในทันที  เด็กชายผู้นั้นช่วยเก็บยาที่ตกกระจัดกระจายอยู่บนพื้นคืนให้  และกล่าวขอโทษ ขอโพยเพ่ยเจินอยู่พักใหญ่  ก่อนเพ่ยเจินจะกล่าวให้อภัยเด็กชายผู้นั้นจึงจากไปได้ ซ่งเว่ยหยางอุ้มเพ่ยเจินเข้ามานั่งในร้านด้วยความห่วงใยทะนุถนอมพร้อมทั้งดึงชายแขนเสื้อขึ้นเตรียมตรวจดูร่างกายของเพ่ยเจินในทันที "ช้าก่อน!!  เจ้าจะทำอะไร?"  เพ่ยเจินรีบร้องห้าม "ข้ากำลังจะตรวจดูว่าเจ้าบาดเจ็บที่ตรงส่วนใดหรือไม่?"  ซ่งเว่ยหยางพูดพลางเอื้อมมือเข้ามาเลิ่กชายกระโปรงของเพ่ยเจินขึ้น  พลันข้อเท้าและขาขาวผ่องก็ปรากฏสู่สายตาของซ่งเว่ยหยางทันที "โอ๊ยย!!"  เพ่ยเจินร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวดเมื่อมือใหญ่ของ ซ่งเว่ยหยางสัมผัสเข้ากับข้อเท้าข้างขวาของตนที่กำลังบวมช้ำอยู่ "เพ่ยเจินเจ้าข้อเท้าแพลงเสียแล้ว  นั่งอยู่ตรงนี้นิ่งๆ นะข้าจะไปนำยาสมุนไพรมานวดให้"  ซ่งเว่ยหยางพูดพลางหยิบตลับยานวดออกมาจากลิ้นชักโต๊ะคิดเงินเดินตรงมาหาเพ่ยเจิน เมื่อเดินมาถึงแล้ว  จึงย่อตัวลงนั่งคุกเข่าพร้อมกับตั้งท่าจะถอดรองเท้าของเพ่ยเจินออกอย่างเบามือ "ห้ามถอดรองเท้าของข้านะ"  เพ่ยเจินพูดขึ้นด้วยความตกใจ 'เจ้าหมียักษ์นี่ดูท่าจะสมองกลับเสียแล้ว  หญิงสาวมิควรเปลือยเท้า ให้ชายผู้อื่นที่มิใช่สามีของตนได้เห็น  จารีตข้อนี้เจ้าหมียักษ์นี่หลงลืมไปได้อย่างไรกัน?'  เพ่ยเจินนึกตำหนิขึ้นมาในใจพร้อมทั้งชักเท้าของตนออกจากอุ้งมือใหญ่แข็งแรงนั่นในทันที "หากมิถอดรองเท้าของเจ้าออกมาแล้วจะทายาให้เจ้าได้อย่างไร?"  ซ่งเว่ยหยางพูดขึ้นอย่างดื้อดึงพร้อมทั้งลงมือถอดรองเท้าของ เพ่ยเจินออกมาได้สำเร็จ  โดยมิได้ให้ความใส่ใจสายตาอยากจะฆ่าแกงของ เพ่ยเจินแต่อย่างใด พลันเท้าเล็กขาวผ่องดุจน้ำนมก็ปรากฏต่อสายตาของ ซ่งเว่ยหยาง  ถึงแม้เขาจะพยายามรวบรวมสติและสมาธิของตนให้จดจ่ออยู่กับการทายานวดแก้อาการปวดฟกช้ำที่ข้อเท้าของเพ่ยเจินมากเพียงไร  แต่ ซ่งเว่ยหยางเองก็ยังคงมือไม้สั่น  และมีเหงื่อเม็ดโตผุดซึมขึ้นมาตามไรผมอยู่เป็นระยะ  ด้วยมีความคิดวาบหวิวลอยเข้าหัวอยู่เป็นระยะว่า  'หากตนร่วมรักกับเพ่ยเจินไปด้วย  ได้ละเลียดดูดชิมนิ้วเท้าขาวผ่องเรียวเล็กเข้าไปในอุ้งปากด้วย  จะสุขสมซาบซ่านรัญจวนใจขนาดไหนกันนะ?’      
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม