6
โอกาสสามเดือน
“ฉันต้องการหย่ากับเธอให้เร็วที่สุด วันนี้ พรุ่งนี้!”
“ไม่ค่ะ ปลื้มไม่หย่า!”
ปลื้มสบตากับคนที่มองหน้าเธออย่างเอาเรื่อง
“จะให้ฉันทำตัวเป็นผัวที่ดี ซื่อสัตย์ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ทำทุกอย่างจนเธอพอใจแล้วเธอจะยอมหย่าให้งั้นเหรอ”
อัทธ์ร้องเหอะออกมาพร้อมกับยกมือขึ้นเสยผมที่ตกลงมาปรกหน้าผากลวกๆ เขาโคตรจะหงุดหงิดกับหน้าซื่อๆ ตาใสๆ ของเธอเลย
“ฉันจะไม่ทำตัวเป็นผัวที่ดีให้เธอยอมหย่า แต่ฉันจะบ้าจนเธออยู่ไม่ได้แล้วยอมหย่าเอง!”
ปลื้มเบือนหน้าหนีเมื่อคนตัวโตเดินเข้ามาใกล้เธอมากขึ้น เธอแทบไม่กล้าหายใจออกมาแรงๆ ด้วยซ้ำ แต่ถึงอย่างนั้นตัวเธอก็ไม่ขยับเขยื้อน ปล่อยให้เราสองเผชิญหน้ากันอยู่แบบนั้น
“หลบตาทำไมวะ ในเมื่อเธอเป็นคนแบบนี้ เธอก็ต้องรับผลการกระทำของตัวเองให้มันได้ดิ”
ตอนนั้นแหละที่เธอหันกลับมาสบตาเขา เห็นชัดว่าอัทธ์ขบกรามแน่นจนเป็นสันนูน
“นับจากวันนี้ฉันจะจับตาดูเธอไม่ให้คลาดสายตา อย่าคิดว่าจะใช้โซ่มาล่ามคอฉันในขณะที่เธอจะใช้ชีวิตอย่างสงบสุขโดยเฉพาะกับผู้ชายคนอื่น ไม่มีวัน!”
ฝ่ามือหนาคว้าแขนเรียวทั้งสองข้าง ปลื้มหลุบตามองก่อนจะช้อนสายตาขึ้นมองหน้าเขาอีกครั้ง
“ในเมื่ออยากเป็นเมียฉันนัก งั้นวันนี้ทำหน้าที่เมียหน่อยไหม”
“คะ คุณจะให้ปลื้มทำอะไร”
“หน้าที่เมียอย่างเธอมันก็มีหน้าที่แค่ที่เตียงแหละ แค่เรื่องบนเตียง ทำตัวเหมือนนางบำเรอที่คอยอ้าขาอยู่บนเตียง!”
เพี๊ยะ!
ปลื้มตวัดฝ่ามือเข้าที่ใบหน้าคมคายทันทีที่เขาหลุดคำหยาบคายพวกนั้นออกมา เธอไม่พอใจในสิ่งที่เขาพูด มันทั้งรุนแรงและหยาบคายที่สุด เขาไม่ให้เกียรติเธอเลยแม้แต่นิดเดียว
“คุณไม่มีสิทธิ์มาด่าว่าปลื้มเป็นนางบำเรอ ตราบใดที่ปลื้มมีทะเบียนสมรส”
“แค่กระดาษแผ่นเดียวมันจะมีค่าอะไรขนาดนั้น คิดว่าฉันจะให้ความสำคัญงั้นเหรอ”
“ก็แค่กระดาษแผ่นเดียวที่ปลื้มใช้มันเพื่อฟ้องคุณได้ ตราบใดที่คุณไม่ทำตัวเป็นผัวที่ดี”
“โห… นี่คุณปลื้มคนดีของแม่ฉันโกรธขนาดนี้เลยเหรอ เกือบเผยธาตุแท้ออกมาเลยนะเนี่ย”
คนหาเรื่องเหยียดยิ้มอย่างเย้ยหยัน เขาจะยั่วเธอ กวนประสาทเธอ หาเรื่องเธอไปเรื่อยๆ แบบนี้แหละ อยากรู้เหมือนกันว่าจะทนได้นานสักแค่ไหนกันเชียว
“โกรธแล้วยังไงครับ เผยธาตุแท้ออกมาวันนี้อย่างดีก็ได้แค่รถราคาไม่กี่สิบล้าน แต่ถ้าทนไม่ไหวจริงๆ ก็ระเบิดมันออกมาเถอะ ระเบิดมันออกมาก่อนที่จะทนไม่ไหว คิดซะว่าถ้าไม่ระเบิดวันนี้สุดท้ายวันนึงก็ต้องระเบิดมันออกมาอยู่ดี”
“ปล่อยค่ะ”
“ทำไมต้องปล่อย”
อัทธ์ย้อนถามพร้อมกับกระชับฝ่ามือที่พันธนาการข้อมือเล็กให้แน่นขึ้น ออกแรงกระตุกเบาๆ ร่างบางก็กระแทกเข้ามาชนร่างกายของเขา
“คุณอัทธ์ ปลื้มบอกให้ปล่อยค่ะ”
“ถ้าผมไม่ปล่อยคุณจะทำอะไรผมได้ อย่าลืมว่าผมมีสิทธิ์ในตัวคุณทุกอย่าง คุณบอกเองว่าคุณเป็นเมียผม เพราะฉะนั้นการที่ผัวจะจับมือถือแขนเมียตัวเองมันเป็นเรื่องธรรมดา และต่อให้ทำมากกว่านี้มันก็เป็นเรื่องธรรมชาติของผัวเมียอยู่ดี อย่าลืมสิว่าคุณเป็นคนยัดเยียดสถานะนี้ให้ผมเอง เพราะฉะนั้นไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ชอบ คุณก็ไม่มีสิทธิ์ผลักไสผมอยู่ดี”
“ถ้าวันนี้คุณกับปลื้มไม่ได้อยู่ด้วยกันในสถานะนี้ คุณจะยังใจดี ยังจะพูดจาเพราะๆ และมองปลื้มด้วยสายตาที่มองเหมือนวันแรกที่เราเจอกันไหมคะ”
ปลื้มสบตาขณะถาม เธออยากรู้ว่าที่เขาเปลี่ยนมันเพราะสถานะเราเปลี่ยน หรือต่อให้วันนี้สถานะเราไม่เปลี่ยนแต่เขาก็จะยังเป็นแบบนี้เหมือนเดิม
“จะถามให้มันได้อะไรในเมื่อสุดท้ายก็กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว”
“แต่สำหรับปลื้ม ถ้าวันนั้นไม่ใช่คุณ ปลื้มจะไม่ปล่อยให้เรื่องแบบนั้นมันเกิดขึ้นเด็ดขาด”
“เพราะเธอคิดมาแล้วไงปลื้ม เธอวางแผนทุกอย่างมาตั้งแต่ต้น เธออยากให้ทุกอย่างมันลงเอยแบบนี้ เธอรับงานแม่ฉันและเลือกที่จะใจดำกับคนที่วันนั้นเธอทำเหมือนรู้สึกดีต่อกัน”
อัทธ์ระบายความอึดอัดออกมาอย่างเหลืออด ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมต้องเป็นผู้หญิงคนนี้ คนที่วันนั้นเธอทำให้เขายิ้มได้แม้ต่อให้ก่อนหน้านั้นเขาจะเจอเรื่องฉิบหายอะไรมาก็ตาม
“แล้วถ้าปลื้มบอกว่าปลื้มมีเหตุผลล่ะคะ”
“เหตุผลของเธอคือเงินไงปลื้ม เพราะเธอเห็นแก่เงิน เห็นแก่ตัว ในเมื่อเธอเองก็เป็นคนแบบนี้ เธอก็ไม่ควรใช้เรื่องนี้ไปพูดให้คนอื่นเสียหายเหมือนกัน”
“หมายถึงคุณณิชาเหรอคะ”
“ใช่ ฉันหมายถึงณิชา และจำเอาไว้เลยว่าเธอไม่มีสิทธิ์แตะต้องณิชา ไม่มีสิทธิ์ทำเหมือนวันนี้นี่คือคำสั่ง และถ้าเธอไม่เชื่อที่ฉันบอก ก็อย่าหาว่าฉันไม่เตือนก็แล้วกัน”
“คุณจะยังคบกับผู้หญิงคนนั้นเหรอคะ”
“ใช่ ฉันจะคบกับณิชา ณิชามาก่อนเธอด้วยซ้ำ”
ทั้งที่คืนนั้นเขาบอกว่าไม่มีใคร เขาบอกว่าเขาแค่ต้องการใครสักคนที่เข้าใจเขา ไม่คิดเลยว่าวันนี้กับวันนั้นเขาจะพูดไม่เหมือนกัน แต่ก็นั่นแหละ เธอไม่ควรคาดหวังตั้งแต่แรก ทั้งที่คิดไว้อยู่แล้วว่าทุกอย่างจะลงเอยแบบนี้
“ปลื้มรู้ค่ะว่าเขามาก่อน และถ้าคุณมีคุณณิชาอยู่แล้ว แล้ววันนั้นคุณทำแบบนั้นทำไมคะ หรือคุณแค่หาความสุขใส่ตัว ไม่สนว่าผู้หญิงคนนั้นจะเป็นใคร ไม่ได้คิดจะไปต่อตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แบบนั้นเหรอคะ”
“ถ้าเธอไม่ทำแบบนี้ บางทีทุกอย่างมันอาจจะไม่ลงเอยแบบนี้ก็ได้”
คำตอบของเขามันทำให้เธอเหมือนจะมีหวัง ต่อให้มันจะเป็นความหวังเล็กๆ ที่ไม่รู้ว่าจะสมหวังจริงๆ ไหม แต่คนที่ตัดสินใจก้าวเข้ามาอยู่ตรงนี้แล้วอย่างเธอก็ไม่มีทางเลือกเหมือนกัน
“ปลื้มขอโทษได้ไหมคะ ขอโทษที่ปลื้มให้คุณรับผิดชอบปลื้มด้วยวิธีนี้ ในเมื่อวันนั้นเราเหมือนจะรู้สึกดีต่อกัน คุณให้โอกาสปลื้มอยู่ในชีวิตคุณได้ไหมคะ ปลื้มอาจจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนวันนั้นอีกก็ได้”
“ขอโอกาสงั้นเหรอ”
อัทธ์หลุดเสียงในลำคอเบาๆ ทั้งที่เขาไม่คิดว่าเธอจะพูดแบบนี้ แต่ลึกๆ แล้วเขาก็ยังโกรธในสิ่งที่เธอทำอยู่ดี
“อยากได้โอกาสอะไร”
“โอกาสให้ปลื้มได้ทำให้คุณเห็นว่าปลื้มเป็นภรรยาที่ดีของคุณได้”
อัทธ์สบตากับดวงตากลมที่มีน้ำใสๆ เอ่ยคลออยู่ ต่อให้มันจะไม่ได้หยดออกมา แต่เขาเห็นว่ามันกวัดแกว่งและวูบไหว
“เธอคงไม่ได้คิดที่จะขอและเห็นแก่ได้แค่ฝ่ายเดียวใช่ไหม”
“คุณต้องการอะไรคะ นอกเหนือจากการหย่า คุณบอกปลื้มมาได้เลย”
อัทธ์นิ่งคิด เธอฉลาดและรู้ทัน เธอเข้าใจทุกอย่างง่ายดายโดยที่เขาไม่จำเป็นต้องพูดซ้ำหลายรอบ
“แล้วระหว่างที่ขอโอกาส เธอต้องการอะไร”
“ปลื้มขอให้คุณไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้นก็พอค่ะ”
“สามเดือน”
“คะ?”
“ถ้าเธออยากได้โอกาส ฉันให้เธอสามเดือน ฉันจะทำตามข้อตกลงของเธอ แต่ถ้าภายในสามเดือนเธอไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกว่าอยากได้เธอเป็นเมีย เธอต้องหย่าให้ฉันโดยไม่ต้องเอาอะไรติดตัวไป”
อัทธ์ยื่นข้อเสนอ และคิดว่าผู้หญิงใจดำอย่างเธอต้องหาเรื่องอะไรมาต่อรองอีกแน่ๆ แต่ทว่าทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นแบบที่เขาคิด เพราะเธอตอบกลับทันที ทำเหมือนไม่ได้สละเวลาคิดก่อนด้วยซ้ำ
“ตกลงค่ะ ปลื้มขอโอกาสภายในสามเดือน แล้วถ้าครบสามเดือน ปลื้มพร้อมยอมรับทุกการตัดสินใจของคุณ ถ้าวันนั้นคุณไม่อยากมีปลื้มอยู่ในชีวิต ปลื้มไม่เอาของของคุณแม้แต่บาทเดียว ปลื้มพร้อมออกไปจากชีวิตคุณทันที”
———————————
กดไลก์ + คอมเมนต์ + กดติดตาม