EPISODE 04 : Calla Lily

2202 คำ
(ดอกคาลล่า ลิลลี่ - ดอกไม้ของการเริ่มต้นใหม่และละทิ้งตัวตนเก่า เพื่อมีชีวิตใหม่ และยังเป็นดอกไม้แห่งความสว่างไสวให้กับผู้คนที่ได้รับอีกด้วย) “รู้ตัวไหม...เธอคือคนที่ดึงฉันขึ้นมาจากความมืดมนเลยนะ” [PUNDAO’S PART] “ช่วยด้วย!!!” เสียงร้องขอความช่วยเหลือดังมาแต่ไกล ทำให้ฉันกับร่างสูงตรงหน้าหันไปมองทางต้นเสียงพร้อมกัน ภาพตรงหน้าของพวกเราก็คือชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันกับฉันกำลังโดนพวกนักเลงอีก 5 คนวิ่งไล่ตามมาในมือของพวกเขาถืออาวุธครบมือ ถึงอาวุธของพวกเขาจะเป็นไม้เบสบอลก็เถอะ มันอาจจะดูไม่ใช่อาวุธที่อันตรายแต่ถ้าใช้มันทำร้ายคนอื่นสำหรับฉันไม่ว่าอาวุธชนิดไหนก็อันตรายทั้งนั้น “ชะ ช่วยด้วยครับพวกเขาจะไถเงินผม” ระหว่างที่ชายทั้งสองคุยกันฉันจึงได้จังหวะเก็บขนมของตัวเองเข้าถุงตามเดิม ก่อนที่มือหนาของชายร่างสูงคนเดิมจะดึงแขนเรียวของฉันเข้าหาตัวเขาพร้อมกับดันฉันให้หลบออกไปจากทาง... “อะ อื้อ คนอะไรมือหนักชะมัด” ฉันนั่งลงไปกองอยู่พื้นทันทีตามแรงเหวี่ยงของเขา พร้อมกับยังคงกอดถุงขนมไว้แน่นอย่างหวงแหน ความเจ็บปวดบริเวณข้อเท้าของฉันทำให้ฉันไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้ ฉันทำได้เพียงแต่มองร่างสูงคนเดิมกำลังยืนเผชิญหน้ากับพวกนักเลงอีก 5 คนโดยมีชายร่างเล็กหลบอยู่ข้างหลังของเขาอย่างหวาดกลัว “หึหึ ก็แค่ส่งเงินมามันยากรึไงวะ” ฉันมองไปยังร่างสูงที่ดูเหมือนจะเป็นหัวโจกกำลังตะคอกทั้งสองคนตรงหน้าของเขาเสียงดัง แต่ท่าทางที่ดูโกรธจัดของเขาไม่ได้ทำให้ชายในเสื้อฮู้ดดูหวาดกลัวหรือมีปฏิกิริยาอะไรที่มากไปกว่าการยืนดูอยู่เฉยๆ และการที่เขาเป็นแบบนี้ก็ยิ่งทำให้พวกนักเลยเหล่านั้นหัวเสียเข้าไปใหญ่ “...” “เงียบทำไม” “...” ฟุบ!!! “มึง” หัวโจกของกลุ่มยกไม้เบสบอลในมือขึ้นเตรียมจะฟาดร่างสูงตรงหน้าของเขา แต่มือหนาก็คว้ามันไว้ได้ก่อนจะแย้งมันถือพร้อมกับใช้ไม้เบสบอลในมือฟาดร่างสูงตรงหน้ากลับไปทันที ตุบ! ตุบ! !! ฉันมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างอึ้งๆ เรื่องแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้ไม่ว่าอยู่ที่ไหน แต่ฉันไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าตัวเองจะต้องมานั่งอยู่ตรงกลางระหว่างการทะเลาะวิวาทแบบนี้ ตุบ! ตุบ! !! “ระวัง” ฉันร้องบอกชายเสื้อฮู้ดดำออกไปอย่างตกใจ ถึงจะเห็นว่าเขาดูมีทักษะทางด้านการต่อสู้ที่เหนือกว่าพวกนักเลงพวกนั้นอยู่มากทีเดียว “...” ตุบ!! “นี่!” ฉันปาก้อนหินใส่ชายอีกคนที่เตรียมจะลอบทำร้ายเขาจากด้านหลัง นั่นเป็นเหตุให้เขาไม่สนใจร่างสูงในเสื้อฮู้ดแต่กลับมาสนใจฉันแทน ฉันจึงหยิบก้อนหินที่อยู่ใกล้ตัวปาใส่เขาไปอีกครั้ง จนกระทั่ง... ‘หิน...ไม่มีแล้ว’ มือบางของฉันควานหาหินแต่ได้กลับมาเพียงความว่างเปล่า “นี่! คิดจะทำอะไร” ฉันจึงเปลี่ยนเป็นชี้หน้าถามร่างสูงตรงหน้าออกไปแทน ถึงฉันจะกลัวแต่ฉันก็กล้าเหมือนกัน ก่อนจะเห็นเลือดสีแดงสดไหลออกมาจากหัวของเขา ทำให้ฉันรู้ได้ทันทีว่าฝีมือการปาหินของฉันแม่นยำไร้ที่ติ เพราะมันเข้าเป้ากลางหัวของเขาพอดิบพอดีและดูจากท่าทีแล้วเขาจะโกรธฉันเอามากๆ เลยล่ะ “ยะ อย่าเข้ามานะ ฉันสู้นะ” “แก!” “ว๊ายยยย!!!” ฉันยกแขนขึ้นมาปิดหัวของตัวเองเอาไว้พร้อมกับหลับตาลงทันทีอย่างกลัวๆ ก่อนที่ไม้เบสบอลในมือของชายตรงหน้าจะฟาดลงมาใส่ร่างบางของฉัน ตุบ!!! ‘ไม่เจ็บแฮะ!!’ คิดได้ดังนั้นฉันจึงลืมตาขึ้นมามองก่อนจะเห็นร่างสูงในเสื้อฮู้ดนั่งคล่อมเพื่อบังฉันเอาไว้ ด้วยร่างกายที่สูงและใหญ่โตของเขาทำให้เขาบังร่างบางของฉันไว้จนมิด และจังหวะนี้ทำให้ฉันเห็นหน้าเขาถึงจะไม่ได้ชัดมากแต่ก็ทำให้ฉันรู้ว่าตาคมของเขาดูดุดันและน่ากลัวมากแค่ไหน ตุบ!!! “จะ เจ็บไหม” ฉันเอ่ยถามร่างสูงตรงหน้าออกไปเสียงสั่นด้วยความเป็นห่วง ที่เขาต้องมาเจ็บตัวแบบนี้ก็เพราะช่วยฉัน ร่างสูงส่ายหัวเล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปเผชิญหน้ากับนักเลงที่เหลือต่อ ใช้เวลาไม่นานเขาก็จัดการนักเลงพวกนั้นจนหนีหัวซุกหัวซุนไปกันคนละทิศละทาง “ขอบคุณมากครับ” ชายหนุ่มร่างเล็กคนเดิมโค้งคำนับให้ร่างสูงตรงหน้าของเขาอย่างนอบน้อง ก่อนที่เขาจะเดินจากไปเขาเองก็หันมาโค้งให้ฉันด้วยเช่นกัน หลังจากที่สถานการณ์กลับเข้าสู่ความปกติอีกครั้ง สถานที่นี้จึงเหลือเพียงฉันกับเขา 2 คนเท่านั้น ฉันมองไปยังร่างสูงตรงหน้าอย่างกำลังใช้ความคิด เพราะตอนนี้นอกจากแบตโทรศัพท์ของฉันจะหมดแล้ว ขาของฉันก็ยังมาเจ็บอีก แต่ทั้งหมดนี่ยังไม่ได้หน้าเป็นห่วงเท่ากับว่าตอนนี้ฉันอยู่ส่วนไหนของโตเกียว “อ๊ะ!!” ฉันพยายามจะลุกขึ้นแต่มันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เพราะความเจ็บปวดที่บริเวณข้อเท้าของฉันทำให้ฉันไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้ “...” ร่างสูงเดินเข้ามาย่อตัวนั่งลงหันหลังให้กับฉัน ฉันเองก็มองเขากลับไปอย่างพิจารณา เขาดูไม่ใช่คนที่เลวร้ายหรอกมั้งอยู่กัน 2 คนถ้าไม่ได้เขาช่วยฉันต้องลำบากแน่ๆ “จะช่วยฉันเหรอ” ฉันเอ่ยถามร่างสูงตรงหน้าออกไป ซึ่งเขาเองก็ทำเพียงพยักหน้าเล็กน้อยเพื่อเป็นคำตอบให้กับฉัน “...” “นายถืออันนี้ให้ฉันได้ไหม” ฉันยื่นถุงขนมในมือให้กับร่างสูง เขาเองก็หยิบมันไปถือไว้อย่างว่าง่าย ฉันบอกที่อยู่ของตัวเองกับเขาก่อนจะค่อยๆ ขยับขึ้นไปบนหลังของร่างสูงตรงหน้า หลังจากนั้นเข้าก็ยืนขึ้นเต็มความสูงพร้อมกับแขนแกร่งของเขาจับขาเรียวของฉันเอาไว้ ในขณะที่มืออีกข้างยังคงอุ้มถุงขนมไว้ให้ฉันอยู่อย่างนั้น ใจจริงฉันอยากเห็นมากเลยว่าเขาหน้าตาเป็นยังไง แต่อีกใจก็ไม่เอาดีกว่า เพราะการที่เขาใส่ฮู้ดปิดหน้าปิดตาไว้แบบนี้นั่น มันหมายความว่าเขาไม่ได้อยากให้ใครเห็น ‘ฉันก็ควรจะเคารพพื้นที่ส่วนตัวเขา’ “นายไหวแน่นะ เจ็บหลังรึป่าว” ฉันเอ่ยถามร่างสูงออกไปด้วยความเป็นห่วง เขาพาฉันค่อยๆ เดินไปตามทางที่ฉันไม่คุ้นเอาซะเลย แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังมั่นใจว่าเขาจะไม่ทำอะไรฉันหรอก ก็เพราะเขาเคยช่วยเหลือฉันไว้ 2 ครั้งแล้วนี่เนอะ “...” ~จ๊อกกกกกกกกกกกก~ “อะ เอ่อ ท้องฉันร้องน่ะ” ร่างสูงชะงักไปเล็กน้อยก่อนที่เขาจะเดินต่อไปตามทางตรงหน้า หลังจากที่ทุกอย่างคลี่คลายท้องของฉันก็ร้องประท้วงออกมาเสียงดัง ‘นี่จะไม่ไว้หน้าแม่เลยเหรอลูก’ ฉันทำได้แค่บ่นตัวเองเบาๆ อยู่ภายในใจ พร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้กับเส้นทางตรงหน้าแก้เขิน “นายเป็นคนแถวนี้เหรอ” ฉันเอ่ยถามร่างสูงตรงหน้าออกไปอีกครั้ง แต่สุดท้ายคำตอบที่ฉันได้กลับมาก็คือความเงียบ “...” “ไม่อยากพูดก็ไม่เป็นไร ไม่อยากรู้ก็ไม่ว่ากันแต่ฉันอยากจะเล่าให้นายฟัง และที่สำคัญฉันน่ะคุยคนเดียวเก่งมากด้วย” “...” “นายรู้ไหมเมื่อกี้ฉันกลัวมากเลยนะ เกิดมา 23 ปีไม่เคยเห็นคนตีกันใกล้ขนาดนี้มาก่อนเลยอะ” “...” “อ่อ!...ที่หนักไปกว่านั้นคือฉันทำคนอื่นเลือดไหล ดูสิมือฉันทำคนอื่นเลือดออกอะ ถ้าคนที่บ้านฉันรู้ฉันต้องโดนตีแน่เลย” ฉันพูดขึ้นพร้อมกับยกมือบางของตัวเองออกไปให้ร่างสูงตรงหน้าดู ถึงจะไม่ได้รับคำตอบใดๆกลับมา แต่อย่างน้อยเสียงของฉันก็ช่วยทำลายความเงียบระหว่างเราได้บ้าง “...” หลังจากนั้นฉันก็วางคางของตัวเองลงที่ไหล่แกร่งของเขาเบาๆ เหตุการณ์วันนี้ทำให้คนที่มีพลังงานเหลือล้นอย่างฉันหมดแรงได้เลยเหมือนกันนะ “พรุ่งนี้ฉันต้องไปเรียน ถ้าเพื่อนจับได้ว่าฉันหนีเที่ยวจนได้รับบาดเจ็บแบบนี้ฉันต้องโดนด่าจนหูชาแน่เลย” “...” “นั่นอพาร์ทเมนท์ฉัน” ฉันชี้บอกกับร่างสูงออกไปอย่างดีใจ ในที่สุดฉันก็มาถึงจนได้และถ้าไม่ได้เขาตอนนี้ฉันคงนั่งงงอยู่ที่เดิมไม่ได้ไปไหนแน่นอน “เดี๋ยวฉันค่อยๆ เดินเข้าไปเองค่ะ” ฉันเอ่ยบอกกับร่างสูงด้วยน้ำเสียงสดใส ถึงยังไงฉันก็เป็นผู้หญิงให้เขาขึ้นไปส่งถึงห้องก็คงไม่เหมาะ และอีกอย่างแค่เขาพาฉันมาส่งถึงที่นี่ฉันก็เกรงใจเขามากแล้ว หอพักของฉันมีลิฟท์ฉันมั่นใจว่าสามารถพาตัวเองขึ้นไปถึงห้องได้อย่างปลอดภัยแน่นอน “...” ร่างสูงหยุดเดินทันทีที่มาถึงหน้าทางเข้าหอพักของฉัน ก่อนที่เขาจะย่อตัวเพื่อให้ฉันลงจากหลังแกร่งของเขา “ขอบคุณมากนะคะ ถ้าไม่เจอคุณฉันคงแย่” ฉันบอกกับร่างสูงตรงหน้าด้วยน้ำเสียงสดใสพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้กับเขา “...” ร่างสูงไม่ได้พูดอะไรตอบกลับฉันมาเขาเอาแต่ก้มหน้าก้มตาก่อนจะยื่นถุงขนมกลับคืนมาให้ฉันและทำท่าจะเดินจากไป ฉันจึงดึงแขนแกร่งของเขาเอาไว้ก่อนจะยื่นจมเมล่อนของโปรดของฉันให้กับเขา “ฉันให้ถือว่าเป็นคำขอบคุณจากฉัน” “...” “น่านะ...ของโปรดฉันเลยนะเนี่ย ถ้าไม่ใช่นายฉันไม่ยกให้ใครง่ายๆหรอกนะ” ฉันพยายามพูดจาหว่านล้อมร่างสูงตรงหน้าพร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้เขา ถึงฉันจะไม่เห็นว่าเขาทำหน้ายังไงก็เถอะนะ “...” “รับไปสิ” “...” เขาไม่ตอบอะไรฉันกลับมา แต่ก็รับนมเมล่อนในมือของฉันไปถือไว้ก่อนจะหันหลังเดินออกไปเลย “แปลกคนจัง” ฉันบนพึมพำกับตัวเองก่อนจะหยิบคีย์การ์ดออกมาจากกระเป๋า ‘ถ้าฉันทำกระเป๋าเงินหายไปคงลำบากกว่านี้แน่’ เพราะในกระเป๋าของฉันมีทั้งเงิน ทั้งบัตร และก็คีย์การ์ดฉันรู้นะว่าไม่ควรเอามันมาไว้รวมกันแบบนี้ แต่สถานการณ์ตอนนั้นมันยังไม่ทันได้คิดอะไรนี่นา ฉันเปิดประตูก่อนจะพาตัวเองเข้าไปด้านในอย่างทุลักทุเล “ถึงสักที” ฉันว่างทุกอย่างลงก่อนจะหยิบชุดใหม่ออกมาจากตู้ เพื่อจะเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าอีกครั้ง ฉันเห็นสภาพตัวเองในกระจกแล้วฉันยังตกใจเลย เหมือนฉันพึ่งเอาตัวเองไปคลุกกับดินมาเลย... “ลาลา ลาล้า ลาละ โอ้ย...” ฉันก้มลงไปมองข้อเท้าของตัวเองก่อนจะรีบอาบน้ำต่อให้เสร็จจะได้ทายาและก็กินยาแก้ปวดไปด้วยเลย ฉันหวังว่าตื่นเช้ามาคงไม่เจ็บเท่าตอนนี้หรอกนะ “...” ฉันนั่งทายาที่ขาของตัวเองพร้อมกับในหัวของฉันก็คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นไปด้วย แม้แต่สถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดในโลกยังมีมุมเล็กๆที่อันตรายเลย นับประสาอะไรกับที่นี่ สำหรับฉันทุกที่ก็มีอันตรายเหมือนกันหมดนั้นแหละมันอยู่ที่เราว่าจะพาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์นั้นหรือไม่ หรือบางที่สถานการณ์เหล่านั้นก็ดันมาเกิดอยู่ตรงหน้าของเราอย่างที่ฉันเจอเข้ากัยตัวเองวันนี้ไงล่ะ ครั้งนี้ถือว่าโชคยังดีที่ฉันเจอเขา ครั้งหน้าฉันคงไม่กล้าเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงแบบนี้อีกแล้วล่ะ เพราะฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองจะโชคดีอย่างกับวันนี้ไหม “ฉันยังไม่ได้ชื่อเขาเลยนี่นา” ฉันพูดขึ้นเบาๆ ทันทีที่นึกอะไรขึ้นมาได้ ฉันไม่ได้ถามชื่อของเขา แต่ถึงถามไปก็ไม่รู้ว่าเขาจะตอบฉันหรือไม่ และอีกอย่างเขาขึ้นไปทำอะไรบนกำแพงที่สูงขนาดนั้นกันนะ...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม