มนัสนันมองแผ่นหลังกว้างที่อุ้มลูกชายเอาไว้ในอ้อมแขน เพียงข้างเดียว ซึ่งตัวเธอขอเดินห่าง ๆ ไม่อยากจะเดินเข้าไปใกล้ให้เป็นจุดสนใจ แค่เธอมาปรากฏที่นี่ก็มีสายตาแปลก คอยชำแลงมองดูตลอด
“น้องนาย เรียกคุณแม่ให้เดินใกล้ๆ เราสิครับ ดูสิคุณแม่เดินสะไกลเลย” แดเนียลกระซิบพูดกับลูก
ตัวของมนัสนันแอบเห็นทั้งสองกระซิบสายตาดูแปลกๆ ไม่น่าไว้วางใจ ยิ่งคนโตไม่รู้สอนลูกให้ทำอะไรอีก
“คุณแม่ครับ! คุณพ่อเรียกให้มาเดินใกล้ๆ ด้วยกันครับ” เสียงเล็กๆ ตะโกนออกมา ทำให้ผู้คนที่เดินเล่นในห้างสรรพสินค้าใหญ่กลางใจเมืองหัวหิน ต้องหยุดชะงัก สงสัยคุณแม่ที่เด็กกำลังตะโกนเรียกเป็นใคร
มนัสนันถึงกับมีใบหน้าถอดสี ถ้าลูกชายอยู่กับเธอแค่สองคนเธอ ก็ไม่รู้สึกอะไร แต่นี่คืออยู่ในอ้อมแขนแกร่ง ใจนึกโมโหต้องเป็นคน ตัวโตแน่ ที่สั่งให้ตะโกนเรียกแบบนี้
สายตาผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมา ต่างมองมาที่เธอเป็นจุดเดียว แม้ว่า เธอจะสวมหมวกใส่แว่นตาสีดำ
“นี่คุณจะให้ลูกตะโกนเรียกอีกนานไหม” แดเนียลทำน้ำเสียงเข้ม แต่ในใจแอบขำกับท่าทางระแวดระวัง ผู้หญิงคนนี้คิดอะไร เขาแดเนียลเจ้าพ่อสื่อธุรกิจชื่อดัง ผู้ชายที่ไม่เคยมีข่าวเรื่องความสัมพันธ์ของหัวใจกับ ผู้หญิงคนไหนมาก่อน
“นี่คุณจะสอนลูกให้ตะโกนเรียกทำไม เดินไปก่อนเลย ไปสิ!” มนัสนันถลึงตาใส่คนที่ทำเหมือนไม่แคร์
แดเนียลเริ่มจะสนุกในความสัมพันธ์ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น เขาได้อุ้มลูกชายกลับไปหา แล้วทำการโอบไหล่เธอเอาไว้แน่น
“นี่คุณปล่อยจะมาโอบไหล่ฉันทำไม” มนัสนันเอ่ยเสียงเข้ม โดยความที่เป็นดารานักแสดงชื่อดัง ไม่แปลกที่ผู้คนที่เดินไปเดินมา จะจับลักษณะท่าทางของเธอได้ ทุกคนต่างพากันมองด้วยความสงสัย
“เราเป็นครอบครัวเดียวกันก็ต้องเดินด้วยกันใช่ไหมครับ น้องนาย” แดเนียลหันไปขอความคิดเห็นกับลูกที่พยักหน้าสนับสนุนคนเป็นพ่อ
“คุณแดเนียล! คุณก็รู้ว่า เพราะอะไรคุณก็ยังจะมาสอนให้ลูก ทำแบบนี้” มนัสนันพยายามสะบัดไหล่ให้หลุดจากอ้อมแขน หากผู้คน เห็นจำเธอได้ว่า เธอคือดาราชื่อดังที่เคยมีข่าวเรื่องการตั้งท้องไม่มีพ่อ
“รู้ แต่เราทั้งสามคนก็ต้องพยายามปรับตัวกันใช่ไหมครับ คนเก่ง”แดเนียล พูดน้ำเสียงนุ่ม
“ใช่ครับ คุณพ่อ น้องนายอยากมีภาพแบบนี้มานานนะครับ คุณแม่อย่าดื้อกับคุณพ่อนะครับ”
ได้ยินสิ่งที่ลูกชายพูด คนเป็นแม่ถึงกับอ้าปากค้างสรุปนี่เธอดื้อเหรอ จึงมองเลยไปที่คนสอนลูกได้ดีเยี่ยมเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง ลูกชายเธอก็เปลี่ยนไปเข้าข้างอีกฝ่ายทันที
“ขนาดลูกยังรู้เลยว่า คุณนะดื้อ ใช่ไหมครับลูกชายของพ่อ” แดเนียล หอมไปที่แก้มนิ่มของลูกชายเสียงหัวเราะชอบใจของทั้งสอง สร้างความขุ่นเคืองให้คนที่ตอนนี้ได้กลายเป็นส่วนเกิน
“เฮ้ย! ดาราคุณมนัสนันนิ / แล้วผู้ชายคนนั้นคือใคร / ดารา!”
คำพูดของคนที่เดินผ่านไปผ่านมาที่จดจำดาราสาวได้ ต่างพากันแอบถ่ายภาพ ยิ่งตอนที่เธอตกอยู่ในอ้อมกอดของผู้ชาย ตอนนี้รู้สึกจะไม่ใช่แค่เรื่องข่าวซุบซิบที่จะตามมาในไม่น่า
“คุณเห็นไหมว่า มีคนแอบถ่ายรูป คุณไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยหรือไง” มนัสนันกระซิบให้อีกฝ่ายรู้เรื่อง
“จะกลัวทำไม ผมอยู่กับลูกกับเมียจะถ่ายก็ถ่ายไปสิ ก็ดีไม่ต้องพูดอะไรมาก” แดเนียล พูดเหมือนเป็นเรื่องปกติ แต่กับคนหยุดเดินแล้วมองใบหน้าคนพูดเหมือนไม่สนุกกับสิ่งที่ได้ยิน
“ฉันบอกแล้วว่า ไม่ให้พูดแบบนี้ ฉันไม่ใช่เมียคุณ”
“ไม่ใช่เมียแล้วเป็นอะไร มีลูกด้วยกันหนึ่งคน สิ่งทำให้น้องนายเกิดมันก็มันต้องผ่านเรื่องฟีเจอริงกันก่อน ก็มีแต่หน้าที่เมียเท่านั้นที่ทำได้นะครับคุณมนัสนัน” แดเนียลพูดกวนๆ
“หึย! จะเข้าร้านไหนก็รีบๆ เข้า รีบทานรีบกลับ” ดาราสาวรู้สึกอาการไมเกรนกำลังกำเริบ ตั้งแต่ที่ได้เจอผู้ชายคนนี้ เธอไม่คิดว่า แดเนียลจะมึนและกวนมากขนาดนี้
ซานิสได้ยินทุกคำพูดของผู้เป็นนายแล้วรู้สึกแปลกใจ ไม่น่าเชื่อว่าผู้ชายหยิ่งผยองเรื่องมาก อย่างเจ้านายตัวเอง ตั้งแต่ที่รู้ว่า มีภรรยาและลูกชาย ทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลงไปหมด ตัวเขายังมีแอบถ่ายรูปส่งไปรายงานให้มาดามใหญ่ของปีเตอร์ ที่ดูจะตื่นเต้นไม่น้อยไปกว่าลูกชาย
เข้ามาภายในร้านไก่ทอดเจ้าดัง ลูกชายสุดที่รักก็จัดการสั่งอาหารโดยที่ไม่เกรงใจท้องเล็ก ๆ ที่คนเป็นแม่รู้ว่า ไม่น่าจะทานไม่หมด
“น้องนายสั่งเยอะไปหรือเปล่าแม่รู้ว่าเรานะทานไม่หมดแน่ๆ” มนัสนันแอบดุลูกชาย ตอนนี้ถูกให้ท้ายจากคนเป็นพ่อ
“น้องนายครับ สั่งเลย คุณพ่อไม่ว่า ทานไม่หมดก็ไม่เป็นไร” แดเนียลมองใบหน้าของลูกชายสลดลงไปเพราะถูกแม่ตัวเองดุ
“คุณแดเนียล ฉันชักจะไม่โอเคที่คุณพูดให้ท้ายลูกแบบนี้ ฉันไม่ต้องการสอนให้ลูกไม่รู้จักคุณค่าของเงินตั้งแต่เด็ก อย่าเอานิสัยที่ไม่ดีของคุณมาสอนลูกแบบนี้” มนัสนันหลุดปากบ่นออกไป ทำให้คนโดนต่อว่า ถึงกับชะงัก
“คุณพ่อ คุณแม่อย่าทะเลาะกันจะได้ไหม น้องนายไม่ได้ดื้อ แค่หิวมากเลยเผลอสั่งออกไปเยอะ”
ทั้งสองต่างนิ่งเงียบรู้สึกเสียใจกับประโยคของลูกที่พูดออกมา ทั้งสองต่างพยายามระงับอารมณ์ให้เย็นลง เมื่อรู้ว่า ลูกของทั้งคู่กับเริ่มจะน้อยใจเหมือนตัวเองเป็นต้นเหตุให้พ่อแม่ต้องทะเลาะกัน
แดเนียลให้ซานิสเป็นคนจัดการซื้ออาหาร แล้วนำไปให้ที่โต๊ะ ที่ตอนนี้ถูกคนของเจ้าพ่อสื่อนั่งไปเกือบเต็มร้าน
“กลับจากที่นี่ไป ฉันขอพูดกับคุณอย่างคนที่มีเหตุผล” มนัสนันกระซิบเสียงเข้มให้คนตัวโตกว่าได้ยิน โดยที่เธอก็ไม่ต้องการให้ลูกชายรู้สึกเสียใจอีก
ภาพความน่ารักของเจ้าพ่อสื่อ ดาราสาวและเด็กชาย ทำให้คนที่เห็นต่างพากันเอ่ยชมมากมาย ตัวของมนัสนันได้มองไปรอบๆ เริ่มจะคิดหนัก วันพรุ่งนี้จะต้องมีข่าวของเธอกับเจ้าพ่อสื่อปรากฏบนสื่อออนไลน์แน่ ๆ งานนี้ เธอได้ล้วงเอามือถือขึ้นมาจัดการพิมพ์ข้อความ ส่งไปหาเพื่อนรักอย่างสิตางค์ให้เดินทางมาพบเธอที่หัวหินด่วน พร้อมกับรูปภาพของสองพ่อลูกที่จะทำให้เพื่อนสนิทพ่วงตำแหน่งผู้จัดการต้องรีบขับรถมาหาเธอทันที
ตลอดเวลาที่ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมาสักพัก มนัสนันได้ยืนมองสองวัยที่ต่างกัน ดูเหมือนว่า น้องนายดูจะมีความสุขเวลาที่ได้อยู่กับแดเนียล หญิงสาวความรู้สึกตอนนี้ มันสับสน ว้าวุ่นอยู่ภายในใจ
สุดท้ายแล้วหญิงสาวเดินเข้าไปนั่งอยู่ตรงระเบียงด้านหน้า ภาวนาขอให้เพื่อนรักเดินทางมาถึงเร็วๆ เสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊ากอยู่ภายในห้องรับแขก เสียงพูดคุยระหว่างแดเนียลกับน้องนาย ถึงแม้เธอจะเลี้ยงน้องนายด้วยความรักก็ตาม ทำให้หญิงสาวคิดอยู่ภายในใจว่า ลูกชายของเธอโหยหาพ่อของเขามากมายขนาดนี้เลยหรือไง สุดท้ายเธอ ไม่สามารถทดแทนคนเป็นพ่อได้เลย
ส่วนแดเนียลแอบมองออกไปยังด้านนอก ที่มองเห็นว่า มนัสนัน นั่งเหม่ออยู่ตรงชิงช้า ซึ่งเขาไม่รู้ว่า ทำไมผู้หญิงคนนี้ ถึงได้มีท่าทางไม่พอใจในการที่เขาเป็นพ่อของน้องนาย ทั้งที่อีกฝ่ายควรจะต้องดีใจสิ ถึงจะถูก เขามาเพื่อรับทั้งสองกลับไปอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัว ซึ่งมนัสนันจะยอมหรือไม่ มันไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะสุดท้ายแล้วทุกอย่าง มันขึ้นอยู่กับการตัดสินของเขาอยู่ดี มันอาจจะไม่ได้เริ่มต้นจากความรัก ทันทีที่เขาได้เจอทั้งสองแม่ลูก เขาคิดเอาไว้แล้วว่า ภาระหน้าที่นี้ เขาจะต้องทำมันให้ดี มันมีความรู้สึกพิเศษที่มากกว่าแค่คำว่า รับผิดชอบ
หญิงสาวนั่งเหม่อคิดอะไรวนเวียนไปมา นานแค่ไหนกว่า จะได้สติกลับมา จนรู้สึกว่า มีใครบางคนมายืนตรงด้านหน้าของเธอ เงยหน้าขึ้นก็มองเห็นอีกฝ่ายยืนจ้องมองตัวเธอนิ่ง
“เราสองคนมานั่งคุยกันดี ๆ จะได้ไหม” แดเนียลเอ่ยเสียงเข้ม
“น้องนายไปไหน” มนัสนัน มองเลยเข้าไปในตัวบ้าน ตอนนี้บ้านเงียบสนิทไร้เสียงของลูกชาย
“น้องนายหลับไปแล้ว” แดเนียลเอ่ยตอบเบา ๆ เขาไม่ต้องการให้เสียงดัง กลัวลูกชายจะตื่น เมื่อลูกชายหลับเขาจึงเดินออกมา เพื่อจะพูดคุยกับแม่ของลูก
“คงจะเหนื่อยถึงได้นอนหลับง่าย” หญิงสาวเอ่ยน้ำเสียงที่ อ่อนโยน
“ผมอยากจะพูดถึงเรื่องที่จะต้องดำเนินต่อไปหลังจากนี้ ผมได้พิสูจน์ทุกอย่างและหลักฐานที่มี มันก็น่าจะเพียงพอแล้ว ผมมีอีกเรื่องที่ผมต้องการอยากจะให้คุณทำ” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยจริงจัง
“ฉันก็ไม่ได้ว่า อะไร คุณจะมาพบลูกก็ได้ แต่ฉันไม่ยอมให้ลูกย้ายไปอยู่กับคุณแน่” มนัสนันเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ผมย้ำมาหลายครั้ง ผมไม่ได้ต้องการแค่ลูก ผมต้องการทั้งสองอย่าง ถ้าลูกไม่มีคุณก็ไม่ได้ ลูกของเราจะต้องมีทั้งพ่อและแม่อยู่ในสถานที่เดียวกันนั้นหมายถึงบ้าน เข้าใจไหม” แดเนียล พูดเสียงเข้ม
“ฉันไม่รับข้อเสนอนี้ ฉันกลับคุณ เราสองคนไม่ได้มีความรู้สึกอะไรพิเศษต่อกันเลย ควรจะต่างคนต่างอยู่ใช้ชีวิตที่อิสระ คุณก็อยู่ใน ที่ของคุณ ฉันก็จะอยู่ในที่ของฉัน เราสองคนทำหน้าที่พ่อแม่ของน้องนายได้ ไม่จำเป็นต้องย้ายไปอยู่ด้วยกัน” มนัสนันเอ่ยเม้มปากเล็กน้อย
“ผมว่า คุณน่าจะเป็นคนที่เข้าใจอะไรได้ง่าย แต่เปล่าเลย การที่ลุกรู้แล้วว่า มีพ่อ คุณทำแบบนี้คุณไม่รู้ตัวเหรอว่า กำลังสร้างบาดแผลให้กับลูก ไหนปากพูดว่า รักลูก แต่ทำสิ่งที่ลูกต้องการไม่ได้ น้องนายจะต้องมีทั้งพ่อแม่อยู่ในที่เดียวกัน ผมไม่มีพันธะและตัวคุณก็ไม่มีพันธะอะไรกับใคร” แดเนียลสวนกลับทันความคิดของอีกฝ่าย ซึ่งมนัสนันกอดหน้าอก สายตามองจับผิด
“ใช่! ฉันรู้ว่า ลูกจะต้องมีทั้งสองอย่าง การที่จะให้ฉันต้องย้าย ไปอยู่กับคุณ ฉันไม่รู้จักนิสัยใจคอ ตัวตนจริงๆ ของคุณว่าเป็นยังไง ฉันก็ยังไม่รู้ ที่สำคัญหน้าที่การงานของฉันอยู่ที่นี่ ฉันไม่มีทางทิ้งมันไป เพื่อสิ่งที่คุณพูด” หญิงสาวได้พูดในสิ่งที่ตัวเองคิด สิ่งที่ได้รับกลับมาคือรอยยิ้ม
“ผมคือสามีคุณ เป็นพ่อของลูกชายคุณ ผมก็ไม่ต้องการให้เป็นเรื่องราวใหญ่โต ตัวคุณก็รู้ว่า ผมสามารถทำให้ทุกอย่างเป็นอย่างที่พูดอธิบายกับคุณได้ โดยที่ตัวคุณไม่ต้องทำอะไร สิ่งที่ผมทำยังถือว่า ให้เกียรติคุณที่ได้ชื่อว่า เป็นเมียและแม่ของลูกชายผม”
“คุณแดเนียล ฉันก็บอกไปแล้วว่า เรื่องลูกฉันไม่ได้ห้ามคุณ แต่เรื่องที่จะให้ฉันย้ายไปอยู่กับคุณ ฉันไม่โอเค คุณมีผู้หญิงรายล้อมอยู่รอบตัว สักวันหนึ่งคุณก็คงจะเจอผู้หญิงที่เป็นคู่ชีวิต เมื่อถึงวันนั้นคุณก็สามารถมีได้เลย โดยที่ฉันก็ไม่ได้ห้าม มันดีกับตัวคุณผู้ชายที่หวงความโสดเช่นคุณ”
“ทำไมถึงคิดว่า ผมจะมีใครคนอื่น หากมีวันนั้นจริงๆ คุณก็ต้องเป็นคนช่วยผมตัดสินใจว่า ผู้หญิงที่ผมจะแต่งงานด้วยสามารถอยู่กับ ลูกของเราสองคนได้ไหม ผมไม่มั่นใจว่า คนที่เข้ามานั้นจะเข้ากับลูกเราได้ไหม การที่เราสองคนอยู่ด้วยกัน ไม่จำเป็นต้องมีเรื่องอย่างว่า ก็อยู่กันไปแบบเพื่อน คุณก็ช่วยผมดูว่า ผู้หญิงคนไหนเหมาะสมเข้ากับลูกได้ ส่วนผมก็จะช่วยคุณดูผู้ชายที่จะเข้ามาในชีวิตของคุณด้วยเช่นกัน สิ่งที่ผมพูดก็เพื่อความสุขของน้องนาย คนเป็นพ่อ เป็นแม่ ต้องคิดถึงจิตใจของ ลูกเป็นสำคัญเข้าใจหรือเปล่า” เมื่อได้ฟังคำพูดและข้อเสนอของแดเนียล มนัสนันถึงกับส่ายหัว
“ไม่! ฉันยังยืนยันคำตอบเดิม” หญิงสาวยังพูดยืนยันแบบเดิม
“ผมพูดบอกคุณแล้ว ในเมื่อคุณยังดื้อแบบนี้ ผมคงจะต้องทำในสิ่งที่ผมเห็นสมควรว่า จะต้องทำ และตัวคุณจะได้ไม่สามารถปฏิเสธน้องนายไม่ได้เป็นลูกชายของคุณแค่คนเดียว น้องนายเป็นลูกเราสองคนผมไม่มีวันให้ลูกชายผมขาดคนใดคนหนึ่ง” แดเนียลย้ำเตือนในคำว่า เราสองคน
คำว่าของเราสองคน มันส่งผลให้ผู้หญิงที่อยู่ด้วยตัวเองถึงกับ นิ่งไป มนัสนันได้แต่หลบสายตาของผู้ชายตรงหน้า
แดเนียล พอจะรู้และมองออกว่า ผู้หญิงอย่างมนัสนันเป็น คนแบบไหน ปกติตัวเขาไม่ชอบการมานั่งอธิบายหรือขอความเห็นอะไรจากใคร ยิ่งกับเพสตรงข้ามมีเรื่องเดียวที่พูดคือ เรื่องบนเตียงเท่านั้น เขาไม่มามัวเสียเวลานั่งอธิบายแบบนี้ให้เมื่อย แดเนียลหันหลังเดินออก ไปยังบริเวณหน้าประตูรั้ว
“คุณจะกลับแล้วใช่ไหม” มนัสนันรีบเอ่ยถาม แต่คำตอบที่ได้ดัน ทำให้หญิงสาวต้องมีอาการหงุดหงิดหัวใจมาก
“ใครบอก ผมเดินมาปิดประตูรั้วเฉย ๆ ผมพึ่งจะพูดไป คุณอยู่ที่ไหน ผมก็อยู่ที่นั้นนะครับ คุณแม่” แดเนียล พูดเสร็จก็ฉีกยิ้มด้วยความ ที่ตัวเองเหมือนจะถือไพ่เหนือกว่าอีกฝ่าย
“นี่คุณ...” มนัสนันรู้สึกหงุดหงิดหัวใจอย่างบอกไม่ถูก ไม่รู้จะสรรหาคำต่อว่าอะไรมาพูดให้อีกฝ่ายยอม
“ไม่มีอะไรแล้วใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นก็กลับเข้าบ้านกันเถอะนะครับ ลูกเรารอแล้ว” แดเนียลไม่พูดเปล่า ชายหนุ่มเดินย้อนกลับมา พร้อมกับช้อนตัวอุ้มร่างของอีกฝ่ายกลับเข้าไปภายในบ้าน
“คุณแดเนียลปล่อยฉันลงเลยนะ” มนัสนันดิ้นให้หลุดจากวงแขนใหญ่ที่ยึดไหล่ของเธอเอาไว้แน่น
“อย่าดิ้นมาก ยิ่งดิ้นส่วนด้านล่างมันยิ่งขยายนะรู้ตัวหรือเปล่า พอมันขยายมาก ๆ มันก็ยิ่งมีความต้องการ ถึงตอนนั้นคุณจะเดือดร้อนนะครับ” แดเนียลขู่แอบยกยิ้ม มันเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่สุดเท่าที่มนัสนัน เคยเห็น
“ก็ลองทำดูสิ ฉันจะพาลูกหนีไปจากคุณทันที” มนัสนันพูดสวนกลับไปอย่างไม่ยอม
แดเนียลมองใบหน้าหวานนิ่ง คำพูดของคนในอ้อมแขนกล้าขู่ เขาเรื่องนี้อย่างไม่เกรงกลัวเขาเลย
“หึ หึ ... ก็ลองดูนะครับ ถ้าคุณคิดจะพาลูกหนีผม หนีได้ แต่ตอนที่ผมตามคุณเจอ ผมเตือนคุณตรงนี้เลยว่า คุณจะจบไม่สวยแน่ๆ หลังจากที่ผมตามคุณเจอ ผมให้คุณนับไปอีก 9 เดือน คุณจะต้องมีน้อง ให้น้องนายแน่นอนคอยดู ถ้ายังขืนดื้อกับผมแบบนี้”แดเนียล พูดย้ำเตือนเสียงดัง
หลังจากทะเลาะกันไปก่อนนอน แดเนียลได้หายไปจากบ้าน ทำให้มนัสนันรู้สึกดีใจที่ไม่เห็นอีกฝ่ายเข้ามาวุ่นวายในชีวิตของเธออีก
ช่วงที่กำลังเปิดประตูออกไปหน้าบ้าน ก็เจอผู้ชายยืนล้อมบริเวณบ้านของเธอเต็มไปหมด จึงได้สอบถามชายฉกรรจ์ว่า อีกฝ่ายหายไปไหนและทำไมถึงมายืนบริเวณบ้านเธอเยอะแยะขนาดนี้ สอบถามจนรู้ว่า ตอนนี้ทางโล่งและเสียงของเพื่อนรักก็ดังมาจากบริเวณหน้าบ้านพัก
“เพื่อนรัก Hello ฉันมาถึงแล้ว...”
เสียงของสิตางค์ดังแทรกขึ้นมา ทำให้ใครบางคนที่กำลังเดินกลับมาจากบ้านฝั่งตรงข้าม รีบวิ่งข้ามถนนมาอีกฝั่ง แดเนียลพึ่งทำงานตรวจเช็คเอกสารเสร็จ เขาต้องการข้ามถนนเพื่อมาทานข้าวเช้าพร้อมกับลูกชายจำต้องหยุดชะงักยืนนิ่ง มือกำหมัดแน่น
“ผู้ชายคนนี้เป็นใคร!”
สิตางค์ได้ยินเสียงเข้มดุ ถึงกับชะงักไม่กล้าเดินเข้าไปหาเพื่อนรัก สายตาที่จ้องเขม็งมาที่ตัวเอง ช่างน่ากลัวมาก
“เพื่อนของฉัน” มนัสนันรีบบอก เพราะไม่แน่ใจว่า อีกฝ่ายทำท่าทางเหมือนจะพุ่งเข้าไปทำร้ายเพื่อนของเธอ
สถานการณ์ตอนนี้ ทำให้สิตางค์รู้สึกตึงเครียด สายตาของ แดเนียลจ้องหน้าตัวเองนิ่ง“อะไรว๊ะ! สาวขนาดนี้ ยังดูไม่ออกอีกหรือไง ว่าฉันเป็นอะไร” สิตางค์แอบบ่นกับตัวเอง
“เพื่อนคุณมาทำไม”
“นี่คุณแดเนียล ถามแปลก เพื่อนฉันมาที่นี่ก็ต้องมาหาฉันสิ” มนัสนันรีบตอบ เดินเข้าไปหาเพื่อนรักที่ยืนนิ่งเป็นรูปปั้น
“ถ้าก้าวเท้าเดินไปหา เพื่อนคุณ ผมจะจับคุณมาจูบโชว์คนที่ คุณบอกว่า เป็นเพื่อนทันที”
ทั้งมนัสนันและสิตางค์ได้ยินต่างพากันตกใจ ดวงตาเบิกกว้าง ส่วนสิตางค์ที่ได้ยินชัดทุกคำถึงกับเอามือปิดปากกลั้นเสียงอุทาน “อุตะ”
“มันจะมากไปแล้วนะ สิตางค์คือเพื่อนฉัน เป็นคนที่ฉันรักน้องนายก็รักเพื่อนฉันมาก คุณบ้าไปแล้วหรือไง” มนัสนันแย้งกลับ ไปทันที
“เอ่อ...เดี๋ยวนะคะ ขอประทานโทษ คุณแดเนียลเป็นอะไรกับเพื่อนฉันคะ”
“นี่คุณไม่รู้จริงๆ หรือไง ถึงได้ถามแบบนี้ ผมจะเป็นอะไรได้ ผมคือคนที่ทำให้น้องนายเกิด พูดภาษาบ้าน ๆ ก็ผัว” แดเนียล พูดย้ำในการกระทำ
สิตางค์ยืนนิ่ง อ้าปากค้างพยายามจับคำพูดของทั้งสอง กว่าจะหาเสียงของตัวเองเจอ ก็กินเวลาไปสักพัก รีบถามในสิ่งที่เพื่อนขอร้องให้เธอมาที่นี่เพื่อแก้ปัญหา
“แต่เพื่อนฉันยังบอกว่าไม่มีสามี เพียงแต่มีลูกก็เท่านั้น ฉันไม่เคยรู้เลยว่า เพื่อนฉันรู้จักกับคุณเลยนะครับ”
แดเนียล มองหน้าคนที่กล้าถาม พร้อมกับรอยยิ้มเย็นๆ มองคนที่มาใหม่อีกครั้ง
“แล้วผมจะต้องสาธิตการทำน้องนายให้คุณดูด้วยไหมว่า ผมทำแบบไหนถึงจะได้ชื่อว่า เป็นผัวและพ่อของน้องนายผม” เจ้าพ่อสื่อเอ่ย น้ำเสียงทุ้มดุ สบตาคนมาใหม่ผู้ซึ่งไม่เคยรู้เรื่องของเพื่อนมาก่อน
“ผะ...ผัว พ่อของน้องนาย” สิตางค์ตกใจรีบหันหน้าไปหาเพื่อนรัก เพื่อเป็นการยืนยัน ซึ่งเพื่อนเธอก็ได้แต่ยืนหน้าซีดตกใจเช่นกัน
“ใช่เป็นผัว อย่าให้ผมได้ยินคำถามนี้จากใครอีก ไม่อย่างนั้น ผมจะตั้งโต๊ะแถลงข่าวให้สิ้นเรื่องสิ้นราว” แดเนียลพูดน้ำเสียงไม่พอใจมากที่สุด
“นี่คุณ!” มนัสนันร้องตกใจ
“ชัดเลยแก” สิตางค์หันไปพูดกับเพื่อน เอาแล้วไงเจอผู้ชาย ตัวจริง งานนี้ไม่รู้จะจัดการแก้ไขช่วยเหลือเพื่อนต่อยังไงดี
“มันจะมากไปแล้วกับสิ่งที่คุณพูด คุณแดเนียล!” หญิงสาวโมโหยืนเท้าเอว เตรียมจะด่า แต่แล้วต้องนิ่ง เมื่อเห็นนิ้วยาวชี้มายังตัวเธอและเพื่อนก็ยืนอยู่ด้วย
“เอ่อ...คือว่า...คุณแดเนียลตกลงกับยัยนันแล้วใช่ไหมเรื่องนี้” สิตางค์พูดแทรกขึ้นมาก่อนที่จะไม่ได้พูด
สิตางค์มองการกระทำของเพื่อนรักและเจ้าพ่อสื่อ ทำให้ตัวเองเริ่มสับสน
“แล้วคุณมาพบเมียของผมทำไม หรือเมียผมใช้ให้คุณมาทำอะไร” เจ้าพ่อสื่อหรี่ตามองจับสิ่งผิดปกติของการมาของอีกฝ่าย
“คือว่า...” สิตางค์กำลังจะพูดแต่แล้วต้องตกใจ เมื่อเห็นว่าเจ้าพ่อสื่อเดินตรงเข้ามาหาเหมือนกำลังจะทำร้าย
มนัสนันเห็นท่าทางไม่น่าไว้ใจ ต้องรีบวิ่งเข้าไปขว้างก่อนที่อีกฝ่ายจะเข้าถึงตัวของสิตางค์ ตอนนี้ยืนใบหน้าซีดเผือด สั่น หวาดกลัวมาก
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ คุณแดเนียลอย่าทำนิสัยต่ำๆ แถวนี้” หญิงสาวพูดขู่ เสียงดัง
ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรกันต่อก็มีเสียงเล็ก ๆ ดังมาจากประตูหน้าบ้าน ทำให้ผู้ใหญ่ที่ยืนอยู่บริเวณหน้าบ้านต้องหยุดชะงัก