เสียงฝีเท้าของแม่ค่อย ๆ ห่างออกไป
เหลือเพียงเสียงลมหายใจเบา ๆ ของเธอในห้องเงียบ ๆ
หญิงสาวค่อย ๆ ดึงผ้าห่มขึ้นคลุมถึงศีรษะ ปิดตาแน่น
แต่ภาพข่าวนั้น...ก็ยังไม่ยอมลบเลือนไปจากหัวใจอยู่ดี
“เธอ…ต้องลืมเขาให้ได้นะ อันอัน…ที่ผ่านมา เป็นเธอเองที่คิดเข้าข้างตัวเองไปคนเดียว เขามีคนในใจอยู่แล้ว…”
เสียงพึมพำเบา ๆ หลุดออกมาจากริมฝีปาก
ราวกับเธอกำลังพยายามสั่งหัวใจตัวเองให้เชื่อ ให้ยอมรับ ให้ปล่อยวาง
แต่ไม่มีใครตอบ ไม่มีแม้แต่เสียงปลอบโยนใด ๆ
มีเพียงความเงียบงันที่กดทับอยู่ในห้องเล็ก ๆ
ความเงียบที่เหมือนจะโอบกอดเธอไว้
แต่กลับเย็นเยียบจนทำให้หัวใจเจ็บช้ำมากกว่าเดิม
เธอฝืนกลืนน้ำลายลงคอ รู้สึกเหมือนมันขมไปหมด
ปลายนิ้วกำผ้าห่มแน่น ความร้อนจากไข้ผสมกับความร้อนจากน้ำตาที่กำลังเอ่อขึ้น
คำพูดของเธอเอง…แทนที่จะปลอบใจ กลับยิ่งตอกย้ำ ว่าเรื่องทั้งหมด มันคือความรู้สึก “ข้างเดียว” ที่เธอเผลอให้ไปทั้งใจอย่างไม่รู้ตัว
และในความเงียบนั้น
เธอได้ยินเสียงหัวใจตัวเองแตกเป็นเสี่ยง ๆ ชัดเจนกว่าเสียงใดในโลกนี้
...
ณ โรงละครชื่อดังแห่งหนึ่งในเมืองหลวง
นักแสดงตัวหลักทั้งหกของละครเรื่องใหม่ยืนเรียงกันบนเวที เพื่อร่วมงานโปรโมทละคร หรือ press conference ที่มีสื่อมวลชนมารอทำข่าวคับคั่ง
ภูผายืนนิ่งเงียบอยู่ข้างอัญชัน ดาราสาวคู่รองที่กำลังมีข่าวคบหากับเขาเต็มหน้าสื่อในช่วงนี้
ฝ่ายหญิงยิ้มหวานราวน้ำตาลสิบกิโลตั้งเรียงอยู่ตรงหน้า
จ้องเขาไม่วางตา และพยายามขยับเข้าใกล้เขามากที่สุดเท่าที่จะทำได้...ชนิดที่ว่าถ้าอีกก้าวเดียวคงจะขึ้นไปยืนบนรองเท้าเขาแล้ว
ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มถ่ายทำ อัญชันก็หมายปองภูผามาตลอด
เธอจำได้ดีว่าเขามีเสน่ห์แบบเงียบ ๆ ที่เธอชอบมาก
ยิ่งเป็นคนพูดน้อย สุภาพ และตั้งใจทำงาน
ยิ่งกระตุกต่อมอยากพิชิตของเธอเข้าไปใหญ่
และใช่...เธอนี่แหละ ที่เป็นคนคิดไอเดียเรื่อง “สร้างกระแสคู่จิ้น” ไปบอกผู้จัดการและผู้บริหารบริษัทด้วยตัวเอง
หวังว่ากระแสจิ้นจะเปลี่ยนเป็นเรื่องจริงในไม่ช้า
วันนี้เธอจึงพยายามทำทุกอย่างให้ภาพมัน “ออกมาเหมือนคู่รัก” ให้มากที่สุด
ยืนชิดติดตัวเขายิ่งกว่าเงา แกล้งหัวเราะเบา ๆ เวลาเขาตอบคำถาม แถมยังทำท่าเหมือนจะเอียงหัวมาซบแขนเขาทุกครั้งที่ช่างภาพกดชัตเตอร์
จนหลายคนในงาน รวมถึงนักแสดงคนอื่น แอบมองแล้วอยากกระแอมเบา ๆ ด้วยความเอือม
ในขณะที่อัญชันกำลังยิ้มหวานจนแก้มแทบจับเป็นตะคริว
ภูผากลับยืนตัวตรง ใบหน้านิ่งขรึม ไม่ขยับหนี แต่ก็ไม่ขยับเข้าใกล้เช่นกัน
เขาทำเพียง…ยิ้มบาง ๆ อย่างสุภาพตามหน้าที่
ไม่มีแววหวาน
ไม่มีแววเขิน
ไม่มีแม้แต่แววสนใจตอบรับสายตาหนุนนั้นของเธอเลยแม้แต่นิดเดียว
ทว่านั่น…กลับยิ่งทำให้อัญชันมั่นใจมากขึ้นกว่าเดิมว่า
‘แบบนี้แหละ สเปคเลย เธอจะทำให้เขาสยบให้กับเธอให้ได้’
แสงแฟลชจากกล้องถ่ายรูปสาดเข้ามาไม่หยุดจนเวทีเหมือนถูกเปิดสปอร์ตไลท์เต็มกำลัง
นักข่าวหลายสำนักยกไมค์ขึ้นพร้อมกัน ก่อนที่เสียงหนึ่งจะดังนำมาเป็นจังหวะแรก
“คำถามนี้อยากถามคุณภูผาและคุณอัญชันค่ะ ปลูกต้นรักกันจากการเล่นละครเรื่องนี้หรือเปล่าคะ?”
เสียงฮือฮาในห้องดังขึ้นทันที นักแสดงคนอื่นบนเวทีขยับตัวหลบทางราวกับรู้ดีว่าคำถามนี้ตั้งใจพุ่งเป้าไปที่สองคนนี้เท่านั้น
ภูผาค่อย ๆ ยกไมค์ขึ้น สีหน้ายังคงนิ่งสงบตามแบบฉบับของเขา
ในขณะที่อัญชันยิ้มหวานจัด ก่อนจะขยับเข้าใกล้ชายหนุ่มอย่างจงใจ
และก่อนภูผาจะทันได้เอ่ยคำใด…
มือเรียวของอัญชันก็ วางลงบนแขนสูทของเขา แบบแนบเนียน...แต่ทุกคนเห็นเต็มสองตา
แชะ! แชะ! แชะ!
แฟลชระเบิดรัวทันทีเหมือนนัดสัญญาณกันไว้
ภูผาชะงักเล็กน้อย
สายตาเหลือบมองมือนั้นก่อนที่สีหน้าจะนิ่งสนิทกว่าเดิม…นิ่งจนเหมือนอุณหภูมิในฮอลล์ลดลงไปหนึ่งองศา
อัญชันหัวเราะเบา ๆ เสียงหวาน
ก่อนเลื่อนหน้าเข้าใกล้ไมค์เดียวกันกับเขาอย่างหมายมั่น
“ก็…ละครเรื่องนี้ทำให้เรามีโอกาสพบกันและรู้จักกัน จนกระทั่งเรียนรู้ซึ่งกันและกันอย่างที่ทุกคนเห็นน่ะค่ะ”
เธอพูดเสียงหวานราวกับตัวเองคือเจ้าของงานนี้
“อัญฯ กับคุณซันซันสนิทกันมากขึ้นจริง ๆ ค่ะ ช่วงถ่ายละครเราคุยกันบ่อย”
ภูผาพูดแทรกทันที
น้ำเสียงสุภาพ แต่หนักแน่นจนหยุดคำของเธอได้ในพริบตา
“วันนี้เป็นงานแถลงข่าวละคร ขอพี่ ๆ นักข่าวถามเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับละครจะดีกว่าครับ”
อัญชันชะงักไปวินาทีหนึ่ง แต่ยังยิ้มสู้กล้องเหมือนเดิม
นักข่าวอีกคนรีบต่อคำถามทันที
“คุณภูผากับคุณอัญชันคบกันมาได้กี่เดือนแล้วครับ?”
ภูผาตอบด้วยน้ำเสียงที่ไม่เปิดโอกาสให้ใครตีความไปไกล
“ผมขอรับเฉพาะคำถามเรื่องละครนะครับ”
อัญชันรีบพูดเสริมทันที
“ใช่ค่ะ ๆ เรามาโฟกัสละครกันดีกว่านะคะ”
แต่ระหว่างนั้น เธอกลับบีบแขนเขาเบา ๆ
ราวกับจะส่งสัญญาณ…
หรือบางทีอาจเพื่อให้ภาพข่าวออกมาดู “หวาน” ขึ้นกว่าเดิม
ภูผาไม่ดึงแขนออก เพราะรู้ว่าทำแบบนั้นจะยิ่งเป็นข่าว
แต่เขาขยับตัวนิดเดียวให้มือของเธอเลื่อนไปเหลือแค่จับปลายแขนแทน
เป็นสัมผัสที่เขา จำใจต้องทน มากกว่าเต็มใจ
นักข่าวอีกคนถามต่ออย่างไม่ลดละเพื่อให้ได้ข่าวคู่จิ้นไปลงเรียกกระแสยอดวิว
“ทั้งสองคาดว่าจะสามารถพัฒนาความสัมพันธ์ไปถึงขั้นแต่งงานกันไหมครับ มีพาไปพบครอบครัวของกันและกันแล้วหรือยังครับ”
อัญชันรีบเอียงศีรษะเข้าใกล้เขาอีกนิด
ยิ้มหวานจัดจนคนดูแสบตา
กล้องหลายตัวโฟกัสเข้าหาทันที
แต่ภูผา…หันไปมองนักข่าวด้วยสายตานิ่งสงบ
“ผมขอให้ทุกคนติดตามละครของพวกเราแทนจะดีกว่านะครับ”
เขาพูดช้า ๆ ชัดถ้อยชัดคำ
“ผมไม่อยากให้การโปรโมทวันนี้ถูกเบี่ยงประเด็นไปจากผลงานของทีมงานที่ตั้งใจทำงานกันอย่างเต็มที่มาตลอดหลายเดือน”
แม้คำพูดจะสุภาพ แต่ทุกคำมีน้ำหนักจนผู้สื่อข่าวหลายคนพยักหน้าตามโดยไม่รู้ตัว
อัญชันยังฝืนยิ้ม ในดวงตาแอบมีประกายไม่พอใจเล็กน้อย