ซ่าาาา~
เสียงน้ำจากอ่างล้างหน้าดังเป็นเวลานาน หญิงสาวลูกครึ่งยืนมองเงาของตัวเองในกระจก
ไวโอลิน เบลล์ วัชรากุล มีใบหน้าที่สวยหวานกับนัยตาสีอ่อนสามารถทำให้ผู้คนหลงใหลได้ไม่ยาก อีกทั้งผิวขาวผ่องกับเรือนร่างอวบอิ่มอย่างสาวตะวันตกที่ใครต่อใครหมายปองก็ทำให้เธอดูมีราศีมากกว่าใคร
แต่นั่นก็ดูเหมือนว่าจะยังไม่มากพอ...
" ปิดน้ำได้ล่ะ ว่างมากหรือไงถึงมายืนเปิดน้ำที่ผับของคนอื่นเล่น "
ภาวิน ศุภโชติจรัญ เขายืนอยู่ข้างหลังเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
ร่างสูงยืนเอาหลังพิงกำแพงพร้อมกับกอดอกมองเธออยู่ เสื้อผ้าพี่ชายหนุ่มสวมใส่หลุดลุ่ยแม้แต่กางเกงเขาก็ยังใส่ไม่เรียบร้อยเลยด้วยซ้ำ
แต่เอ๊ะ! นี่มันห้องน้ำหญิงไม่ใช่หรือไง...
หญิงสาวถึงกับต้องออกไปดูป้ายหน้าห้องน้ำอีกครั้งเพื่อเป็นการยืนยัน
" เธอมาทำอะไรที่นี่! "
" เผื่อเธอจะยังไม่รู้ว่าฉันเป็นเจ้าของผับเพราะฉะนั้นฉันจะอยู่ที่ไหนก็ได้ " ภาวินยักไหล่ขึ้น เขาเดินออกมาหยุดตรงก๊อกน้ำด้านข้างเธอ ไม่นานนักก็มีผู้หญิงร่างอวบอัดเดินตามเขาออกมาจากห้องน้ำห้องเดียวกัน
" ..!!.. " สาวลูกครึ่งเบิกตาโพลงไม่เชื่อสายตาตัวเอง " เข้าไปทำอะไรกัน! "
" หึ...ผู้ชายผู้หญิงออกมาจากห้องเดียวกันคงเข้าไปเล่นจ้ำจี้มั้งถามมาได้ "
" ..!!.. "
" สกปรก!! " หญิงสาวอดไม่ได้ที่จะเอ่ยคำด่าออกไป มือบางกำเข้าหากันแน่น ก่อนที่ร่างบางจะเบี่ยงตัวหลบเพราะไม่อยากรับรู้เหตุการณ์อะไรอีก
หมับ!
" เฮ้ย! เธอมีสิทธิ์อะไรมาด่าฉันวะ " แต่มีหรือที่หมาป่าหนุ่มหล่อจะยอมถูกด่าฟรี มือหนากระชากร่างของเพื่อนรักให้เข้าไปใกล้ ดวงตาดุจเหยี่ยวจ้องมองใบหน้าเธออย่างเอาเรื่อง
" ปล่อยเรานะวิน! นี่มันที่สาธารณะถ้าใครไม่เห็นเข้าจะว่ายังไง! " ก็ชายหนุ่มแทบจะซุกใบหน้าเธอเข้ากลางอก ภาพล่อแหลมแบบนี้เป็นใครก็กลัวจะมีคนมาเห็นทั้งนั้นแหละ
แล้วมัดกล้ามเนื้อนั่น ทำไมเขาไม่ติดกระดุมให้เรียบร้อยสักที...
ร่างบางเบนสายตาออกไปทางอื่นพร้อมกับใบหน้าที่แดงระเรื่อเล็กน้อย อยู่ๆอากาศภายนอกก็รู้สึกร้อนระอุขึ้นมาจนแทบอยากใช้น้ำเย็นฉ่ำเข้าลูบเพื่อคลายความร้อน
" หึ! ฉันเป็นเจ้าของผับทำไมต้องกลัวคนอื่นจะมาเห็น ที่เธอกลัวคงจะกลัวไอ้ภูมาเห็นมากกว่าล่ะมั้ง "
" เราจะกลัวใครมาเห็นก็ช่างเราเถอะ แต่นี่มันห้องน้ำผู้หญิงเธอไม่กลัวว่าจะมีคนเข้าใจเธอผิดรึไง " แถมเขายังเข้าไปอยู่กับผู้หญิงคนนั้นอีก...
ในใจของหญิงสาวอยู่ๆก็รู้สึกไม่ยินยอมขึ้นมา
" ก็เข้าใจกันถูกแล้วนะฉันเอากับผู้หญิงเป็นเรื่องปกติ แค่วันนี้อยากลองเปลี่ยนบรรยากาศมาใช้ห้องน้ำสาธารณะเท่านั้น "
ภาวินเดาะลิ้น ยิ่งเห็นคนตรงหน้าทำสายตาโกรธเคืองเขาก็ยิ่งชอบใจ
" นี่เธอ!...สกปรก! มีอะไรกับคนไม่เลือกหน้า ป่านนี้ไม่ติดโรคไปแล้วหรือไง! "
" จุ๊ๆๆๆ ติดโรคอะไร ฉันป้องกันดีทุกครั้ง ถุงยางอนามัยของโรงงานฉันเนี้ยระดับเกรดพรีเมี่ยมเลยนะขอบอก ทั้งยืดทั้งทนเอาดุแค่ไหนก็ไม่มีทางแตก สนใจอยากเอาไปลองดูสักล็อตไหมล่ะ ฉันส่งให้ใช้ฟรีได้เลยนะในฐานะที่เราเป็นเพื่อนกัน "
" อี๋~ ใครอยากใช้ของของเธอ! ทุเรศ! เราไม่คิดเลยนะว่าเธอจะเป็นคนแบบนี้ไปได้ ภาวินเพื่อนคนเดิมของเราหายไปไหน ทำไมถึงกลายเป็นคนวิตถารบ้ากามไปได้! "
แล้วมันเป็นเพราะใครกันล่ะที่ทำให้ฉันกลายเป็นคนแบบนี้!!
ดวงตาสีดำเข้มแปลบขึ้นทันที มือหนาดึงร่างของหญิงสาวให้เข้าไปใกล้อีก
" ทำไม! รับไม่ได้เหรอ! รับไม่ได้แล้วมาทำไม ก็ไปอยู่กับไอ้ภูสิ! "
เพื่อนสนิท 2 คนคบกันเองแล้วจะให้หนุ่มโสดแบบเขาทำอะไร ถ้าไม่หาความสุขให้ตัวเองสักหน่อยก็คงได้นั่งอมทุกข์อีกหลายปี
" ... " หญิงสาวเม้มปากแน่น เธอรับไม่ได้ที่ภาวินมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่น ในขณะที่เธอไม่เคยคิดที่จะทำเรื่องแบบนี้กับภูริชเลยสักครั้ง
" กลับไปซะไวโอลินที่นี่ไม่เหมาะกับเธอ " ชายหนุ่มตวัดสายตามองเธอเล็กน้อย ใบหน้าที่ทะเล้นเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมาทันที
ภาวินที่เธอคุ้นเคยกลับมาแล้วแต่เป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้น
" น่ารังเกียจ! เธอมันน่ารังเกียจที่สุด! " ร่างบางสะบัดหน้าหนีและเดินจากไป มือเล็กกำเข้าหากันแน่น แววตาคู่งามปรากฏถึงความขุ่นเคืองอยู่ในนั้นเล็กน้อย ไม่รู้เป็นเพราะอะไรเมื่อคิดว่าภาวินมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่นเธอถึงได้โกรธเหมือนว่าเขากำลังนอกใจ ทั้งๆที่เราเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น
แค่เพื่อนกัน...
ภาพโรงแรมสุดหรูใจกลางกรุงเทพมหานครถูกฉายขึ้นในหน้าโซเชียลมีเดีย ตัวเลขที่ระบุอยู่ทางด้านข้างบ่งบอกว่าเจ้าของต้องการที่จะขายสินทรัพย์ชนิดนี้เป็นจำนวนเงินหลาย 10 ล้าน
โรงแรมแห่งนี้เป็นหนึ่งในกิจการของตระกูลวัชรากุลที่ปิดตัวลงเพราะแบกรับหนี้เศรษฐกิจไม่ไหว แม้กระทั่งห้างหลายแห่งทั้งในกรุงเทพและปริมณฑลก็ทยอยปิดตัวลงด้วยเช่นกัน
เหตุการณ์นี้เองที่ทำให้ไวโอลินต้องกลับมาจากต่างประเทศเพื่อมาช่วยพยุงธุรกิจของครอบครัว
" พ่อคะ ลินโพสต์ขายโรงแรมไปแล้วนะคะ อย่างน้อยๆถ้าเจ้าหนี้เห็นเขาจะได้รู้ว่าเรากำลังพยายามหาเงินมาเคลียร์หนี้สินอยู่ "
" พ่อขอโทษนะลินที่พ่อดูแลกิจการไม่ดีจนเกิดปัญหาแบบนี้ขึ้นมา "
" ไม่เป็นไรค่ะพ่อ ใครๆก็รู้ว่าเศรษฐกิจในประเทศเราไม่ดีขนาดไหน ธุรกิจจะมีล้มบ้างดีบ้างมันก็เป็นเรื่องปกติค่ะ "
" แต่พ่อก็ทำให้ลูกเดือดร้อนต้องลำบากหาเงินช่วยพ่อจ่ายหนี้ ทั้งๆที่ลูกก็ควรจะใช้ชีวิตอยู่กับแฟนที่ต่างประเทศมากกว่า "
แน่นอนว่านักเรียนหัวกะทิอย่างภูริชและไวโอลินสามารถเรียนจบโดยใช้เวลาตามเป้า เพียงแต่ทั้งคู่ยังหาประสบการณ์อยู่ที่ต่างประเทศจึงไม่ได้กลับมาทันทีหลังเรียนจบ ถ้าหากไม่ใช่เพราะเกิดเรื่องขึ้นเกรงว่าคงจะยังไม่กลับมาเสียด้วยซ้ำ
" ลินจะปล่อยให้พ่อลำบากอยู่คนเดียวได้ยังไงคะ ยังไงซะช้าเร็วก็ต้องกลับมาอยู่ดีสู้กลับมาเลยตอนนี้จะดีซะกว่า "
รายการหนี้สินที่พ่อของเธอสร้างไว้ไม่ใช่ตัวเลขน้อยๆ ต่อให้ขายกิจการที่บ้านก็ไม่รู้ว่าจะสามารถจ่ายหนี้ได้หมดหรือเปล่า
" แล้วถ้าเราขายโรงแรมไม่ได้ล่ะลูก จะทำยังไงกันดี "
หญิงสาวค่อนข้างหนักใจกับปัญหานี้ทีเดียวเพราะในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้จะมีใครกล้าทำธุรกิจกับโรงแรมที่ขาดทุน
แต่ถ้าหากไม่มีใครซื้อเธอก็ไม่รู้ว่าจะไปหาเงินจากที่ไหนมาใช้หนี้
" ถ้าไม่ได้จริงๆลินจะไปยืมเงินจากภูมาให้ก่อนนะคะ คุณลุงก็เป็นเพื่อนกับพ่อ คงจะพอช่วยเราได้บ้าง "