intro
intro
บรรยากาศฝนตกโปรยปราย เสียงฝีเท้าเล็กย่างก้าวอย่างเฉื่อยชาท่ามกลางบรรยากาศที่หนาวเหน็บ
‘เจ้าขา’ เดินทอดน่องอย่างโดดเดี่ยวบนท้องถนนที่ไร้ซึ่งผู้คนสัญจรไปมา
เด็กสาวเหม่อลอยมองท้องถนนด้วยความว่างเปล่าในขณะที่หน้าแก้มเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตาที่ผสมผสานกับน้ำฝนจนไม่สามารถแยกออกจากกันได้เลย
‘ถ้าแกไม่เชื่อฟังฉันก็ออกจากบ้านฉันไปซะ! อย่ากลับมาให้ฉันเห็นหน้าอีก!’
ประโยคสุดท้ายที่เธอคุยกับแม่ตอกย้ำให้เด็กผู้หญิงที่เคยสดใสทรุดเข่าลงไปนั่งร้องไห้อยู่ตรงเก้าอี้ไม้ริมทาง
เสียงร้องไห้สะอื้นดังคลอพอ ๆ กับสายฝนที่พร่ำตกลงมาอย่างไม่ขาดสาย
เจ้าขาไม่รู้จะไปที่ไหน เธอไม่มีใครเลยแม้แต่เพื่อนตัวจริง หากจะมีคงจะมีแต่เพื่อนที่รู้จักกันผ่านโซเชียลอยู่หนึ่งคน เป็นเพื่อนที่คุยกันในแชทตั้งแต่มอสี่จนตอนนี้เธอกำลังจะขึ้นชั้นปีที่สอง
เป็นการพูดคุยเพื่อแลกเปลี่ยนเรื่องราวในชีวิตประจำวันตลอดหลายปีที่ผ่านมาโดยที่เจ้าขาไม่เคยกล้าที่จะออกไปเจอกับคนปลายทางทั้งที่อีกคนอยากเจอเธอมานานแล้ว
ตะดึ้ง!
ข้อความจากเฟสบุ๊กส์แจ้งเตือนขึ้น เจ้าขาปาดน้ำตาจากพวงแก้มออกไปแล้วหยิบมือถือตัวเองออกมาเปิดอ่านแชทจาก ‘สโนว์’ เพื่อนในโลกออนไลน์ของเธอ
สโนว์ :: เกิดอะไรขึ้น ทำไมแกเงียบหายไปอย่าบอกนะว่าทะเลาะกับแม่อีกแล้ว
เธออ่านข้อความจบน้ำตาก็ไหลรินออกมาเป็นทางยาว
เธออัดอั้นตันใจจนแทบร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ
นิ้วเรียวกดพิมพ์ข้อความตอบเพื่อนเพียงคนเดียวของตัวเองกลับไป
Me :: โดนแม่ไล่ออกจากบ้าน TT
อีกฝ่ายอ่านข้อความทันทีราวกับเปิดรออยู่แล้ว
Me :: เรืี่องเดิมเลย แม่บังคับให้เราหมั้นกับลูกชายเพื่อนสนิทตัวเอง สโนว์ก็รู้ว่าเราไม่ได้อยากแต่งงานกับเขา
“ฮือออ”
เจ้าขาพิมพ์ตอบกลับเพื่อนไปเธอก็ร้องไห้โฮออกมา เป็นเสียงร้องที่น่าสงสารจับใจแต่กลับไม่มีใครได้ยินเลยสักคน
แต่ทว่าไม่กี่วินาทีต่อมาสโนว์ก็กดโทรวิดีโอมาหาเธอด้วยความร้อนรน
เจ้าขาสับสน เธอกำมือถือตัวเองเอาไว้แน่นเพราะสภาพเธอตอนนี้อาจจะทำให้สโนว์เป็นห่วงได้
สายแรกจบไปสโนว์ก็โทรซ้ำมาอีกเป็นครั้งที่สอง และสาม จวบจนสายที่สี่เจ้าขาจึงยอมรับสายเพื่อนตัวเองไป
“ (เจ้าขา! นี่แกอยู่ไหน!) ”
เสียงสโนว์ดังแผดออกมาจากจอมืิอถือทันทีที่เห็นสภาพเพื่อนปลายสายเปียกปอนและดวงตาก็แดงก่ำ
“ฮึก..”
เจ้าขาแทบจะเก็บอาการเสียใจไว้ไม่ไหว แค่เห็นหน้าคนคนเดียวที่อยู่เคียงข้างเธอมาตลอดน้ำตาเธอก็ไหลออกมาราวกับเขื่อนแตก
“ (นี่รอบนี้แกออกจากบ้านมาจริง ๆ ใช่มั้ย?) ”
สโนว์เริ่มไม่สบายใจเพราะดูจากสภาพแวดล้อมแล้วเจ้าขาน่าจะอยู่คนเดียว
“ชะ ใช่.. รอบนี้แม่บังคับให้แต่งงานแต่เราไม่ยอมเลยถูกไล่ออกมา”
เธอไม่อยากถูกแม่บังคับเรื่องนี้ แม่กับเพื่อนตัวเองทำสัญญากันเอาไว้โดยไม่ได้ถามเธอสักคำ
อีกอย่าง เธอไม่ชอบ ‘โซ่’ เอามาก ๆ เลย
เขาไม่ใช่ผู้ชายดีเลิศเหมือนที่แม่เธออวยแต่กลับสร้างภาพลักษณ์ต่อหน้าผู้ใหญ่ได้ไม่เป็นสองรองใคร
“ (ไม่เอาแล้วนะ คราวนี้ไม่ให้อยู่คนเดียวแล้วแกรีบบอกฉันมาว่าแกอยู่ไหนฉันจะไปรับ) ”
สโนว์ถามปลายสายด้วยความจริงจัง เธอจะไม่ยอมให้เจ้าขาเผชิญความโดดเดี่ยวอยู่คนเดียวอีกต่อไปแล้ว
เจ้าขาลังเล เธอไม่อยากทำให้ใครเดือดร้อน
เธอไม่อยากพึ่งคนอื่น เธออยากพึ่งตัวเองจนสุดความสามารถแต่วันนี้เธอกับแม่ทะเลาะกันจริงจังมากจริง ๆ
“ระ เรา..”
ความเกรงใจค้ำคอ เธอพูดไม่ออกด้วยซ้ำ
แต่ทว่าสายตาสโนว์ที่มองผ่านหน้าจอก็กดดันให้เธอรีบพูดมันออกมา
“ (คราวนี้ถ้าแกไม่บอกฉันจะโกรธแกจริง ๆ แล้วนะ) ”
สโนว์ยื่นคำขาด เธอมองหน้าเพื่อนตัวเองด้วยสายตาตัดพ้อจนเจ้าขาเริ่มลังเล
“ (เจ้าขา) ”
พอถูกเค้นเจ้าขาก็หมดสิ้นหนทาง เธอยอมแพ้เพราะตอนนี้แค่ต้องการใครสักคนที่อยู่เคียงข้างกัน
“เราอยู่ที่สวนสาธารณะ xx"
ในที่สุดเธอก็ยอมบอก
และนี้ก็ถือเป็นการเจอกันครั้งแรกของเธอกับสโนว์โดยมีรถยนต์คันหรูสีขาวขับมาจอดเทียบอยู่บนถนนชิดฟุตบาทกับที่เธอนั่งอยู่
บานกระจกถูกเลื่อนลงไปจนเจ้าขาสบตาเข้ากับดวงตาสีเข้มที่ดุดัน
เจ้าของใบหน้าหล่อเหล่าจ้องมองเธอด้วยแววตานิ่งสงบจนเจ้าขาเริ่มทำตัวไม่ถูกเพราะไม่รู้ว่าคนที่มองอยู่คือใคร
“เจ้าขา! เราสโนว์เอง”
ไม่ปล่อยให้เจ้าขาได้วิตกกังวลกับคนแปลกหน้าสโนว์ก็เปิดประตูรถลงมาพร้อมวิ่งมาหาเจ้าขาที่ลุกขึ้นยืนด้วยท่าทีเก้ ๆ กัง ๆ
“เปียกหมดแล้ว ให้ตายสิตัวจริงสวยใจจะหลุด”
สโนว์กางร่มที่อยู่ในมือให้เจ้าขา เธอมองเพื่อนสนิทที่พึ่งเจอกันเป็นครั้งแรกด้วยสายตาชื่นชม
“เรารบกวนสโนว์มั้ย”
นิสัยขี้เกรงใจทำให้เจ้าขารู้สึกไม่ค่อยดี ทั้งที่เป็นเรื่องเดือดร้อนของเธอแต่สโนว์กลับต้องมาลำบากด้วย
“ไม่แก บอกแล้วไงคนเป็นเพื่อนต้องช่วยเหลือกันและฉันก็ดีใจมากทีีได้เจอแก ขอกอดหน่อยน้า~”
สโนว์โผล่เข้ากอดเจ้าขาจนคนโดนกอดแข็งทื่อ
เธอตะลึงและไม่คุ้นชิน แต่แล้วความอบอุ่นที่ได้รับก็ทำให้เจ้าขาเผยยิ้มออกมาด้วยความดีใจ
ปี๊นนน
แต่ทว่าเสียงบีบแตรจากรถดังกล่าวก็ทำให้คนสองคนที่กอดกันอยู่สะดุ้งตกใจจนต้องผละออกจากกัน
เจ้าขาเคลื่อนสายตาไปมองคนที่อยู่ในรถและเป็นคนคนเดียวกับที่บีบแตรใส่เธอกับสโนว์ด้วย
เขาปรายสายตามองมาแล้วพ่นควันบุหรี่ที่สูบอยู่ลอยคลุ้งขึ้นไปกลางอากาศ
“ฉันไม่ได้มีเวลาให้เธอทั้งคืน รีบขึ้นรถฉันมีธุระต่อ”
เป็นครั้งแรกที่ได้ยินเสียงคนตรงหน้า
น้ำเสียงทุ้มต่ำกับการจ้องมองที่ดุร้ายทำให้ภาพจำแรกที่เจ้าขาจดจำคือความ ‘ร้ายกาจ’ ที่ไม่อาจต่อกรได้
“รู้แล้ว นายนี้ใจร้อนไม่เปลี่ยนเลยนะดัสติน”
สโนว์หันไปแว้ดเพื่อนในรถแล้วกุมมือเจ้าขาเอาไว้
“ไปกันเถอะ เพื่อนเรามันขี้หงุดหงิดถ้ามันวีนมันจะกลายเป็นหมาบ้าไปเลย”
“จะไปไหนเหรอ?”
เจ้าขายังไม่ยอมเดินตาม เธอยื้อสโนว์จนอีกฝ่ายหันมา
“บ้านฉันไง บ้านที่มีแค่ฉันและเพื่อนไม่ต้องกลัวว่าจะรบกวนครอบครัวฉันเพราะฉันแยกมาอยู่ระหว่างที่เรียนมหาลัย”
“งั้นเหรอ..”
"ไปเถอะ ไอ้ดัสตินมันเปิดไฟสูงเร่งแล้ว"
สโนว์กุมมือเล็กเอาไว้ เธอออกแรงจูงให้เจ้าขาเดินตามมาขึ้นรถด้วยกัน
ทันทีที่ประตูรถปิดลงเจ้าขาก็ตัวแข็งทื่อ
เธอไม่ค่อยคุ้นชินกับสังคมใหม่ โดยเฉพาะสายตาจากดัสตินที่จ้องเธอผ่านบานกระจกฝั่งคนขับนั้น
เขาจ้องเหมือนไม่ไว้ใจที่เธอขึ้นรถมาด้วย
ผู้ชายคนนี้ดูอันตรายจนเจ้าขาต้องหลบหลีกสายตาแล้วนั่งเงียบสงบไปตลอดทาง
Talk
เจอกันครั้งแรกมันก็กร่างใส่น้องแล้ว
ดัสตินมันแสบมากพูดเลย
ครบ 5 เม้นมาอัปน้า