ฝ่ายประสานงานบริษัท
(เลขาท่านประธาน)
แพรพิไล นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดก็ปัญหางานแก้ที่ต้องส่งให้ท่านประธานหนุ่มเซ็นนั้นมันน่าปวดหัว เรียวคิ้วสวยเรียงเส้นของเธอย่นลงจนยับไปหมด ไม่รู้ว่าต้องตรวจอันไหนก่อนดี
"พี่แพรจะเที่ยงแล้วไม่ไปทานข้าวหรือคะพี่"
"พี่หิวจะตายอยู่แล้ว แต่งานที่ต้องเอาไปให้คุณครามมันยังไม่เสร็จน่ะสิ อีกอย่างช่วงบ่ายนี้คุณครามจะเข้ามาแล้วด้วย"
เธอพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนล้า พร้อมใบหน้าที่บูดบึ้ง แพรพิไลเป็นเลขาของลายครามปีนี้ก็เข้าปีที่สามที่เธอทำงานอยู่กับเขา ส่วนรูปร่างหน้าตาเธอเป็นคนสูงสัดส่วนแต่ชอบแต่งตัวเฉย ๆ มิดชิดสวมแว่นเพราะสายตาสั้น แต่มันก็เป็นการดีเพราะเธอทำงานอยู่กับเจ้านายเจ้าชู้ เด็กสาวหน้าตาสวยหน่อยก็ถูกท่านประธานสอยไปกินแทบจะหมด
เธอพ่นลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ กวาดสายตามองแฟ้มเอกสารจากนั้นก็นั่งคอตกห่อเหี่ยวอยู่บนเก้าอี้
"หากได้เด็กมาช่วยงานสักคนก็คงดี คุณครามนะคุณครามไม่รู้จะเอางานมาให้ทำอะไรเยอะขนาดนี้"
พอพูดแบบนั้นก็เปิดแฟ้มอันใหม่ขึ้นอีกครั้ง จากนั้นก็ยกมือมาดูเวลาที่ข้อแขนเรียวเล็ก ตอนนี้จะเที่ยงครึ่งแต่เธอยังไม่มีอะไรตกถึงท้อง หากเป็นแบบนี้หวังตายก่อนที่งานจะเสร็จเป็นแน่
สุดท้ายแล้วก็เลือกที่จะเดินลงมาที่ชั้นล่างของบริษัท ต้องบอกก่อนว่าบริษัทแห่งนี้มีสองชั้น แต่ละชั้นกว้างขวางใหญ่โตมีหลากหลายแผนกที่ทำงานอยู่ และถูกแบ่งเป็นสัดเป็นส่วนอย่างดี
"อ้าวพี่แพรไหนว่าจะไม่ลงมาไงคะ" เด็กพนักงานแผนกตัวเองพูดขึ้น ส่วนแพรพิไลเธอก็ยังไม่ได้ตอบ เธอมุ่งหน้าไปหยิบถ้วยมาม่าที่บริษัทมีไว้ให้พนักงานทาน ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งสวัสดิการของที่นี่ ใครที่เงินเหลือน้อยไม่พอใช้ก็ใช้ประทังชีวิตได้เหมือนกัน
เมื่อหยิบมาแล้วก็เดินไปที่ตู้น้ำร้อนจัดการต้มให้เรียบร้อย หลังจากที่เดินกลับมาเธอก็พูดขึ้น
"หากพี่ไม่กินนะมีหวังพี่ตายแน่ ๆ พี่ละอยากให้คุณครามรับเด็กมาช่วยงานพี่สักคนจริง ๆ "
"อ้าว วันนี้ที่บริษัทเราก็เปิดรับไม่ใช่หรือคะ ทำไมพี่ไม่ไปติดต่อฝ่ายบุคคลดูละ"
"เอ่อจริงของเธอ แต่คุณครามเขาจะพูดกับพี่หรือเปล่าเรื่องรับคนเพิ่มมาช่วยงานพี่"
"ก็ลองคุยดูก่อนสิคะ พี่ก็บอกไปสิว่าตอนนี้งานลุ้นมือทำคนเดียวไม่ทันหนูว่าคุณครามไม่น่าจะใจร้ายหรอก อีกอย่างเขาไม่ค่อยสนใจด้วยซ้ำ"
มันอาจจะจริงของเด็กที่แผนก คุณครามของเธอไม่ค่อยใส่ใจลูกน้องเท่าไรด้วยซ้ำหากไม่สวยพอ ส่วนมากก็เรียกเอาแต่งาน ดีหน่อยที่ไม่ค่อยดุอะไรมาก เข้างานทีก็บ่ายหรือสายหากไม่มีคุณขาลช่วยบริหารละก็เจ๊งแน่นอน
"งั้นเดี๋ยวพี่ลองโทรหาเขาก่อนแล้วกัน"
พูดจบแพรพิไลก็ไม่รอช้ารีบยกหูขึ้นมาต่อสายไปหาเจ้านาย ไม่นานลายครามก็รับ
โทรศัพท์
(ว่ายังไงแพร)
"คุณครามค่ะ วันนี้บริษัทเราเปิดรับพนักงานแพรเห็นว่างานเราเร่งมากแพรทำคนเดียวไม่ทัน อยากให้คุณครามพิจารณาเด็กมาช่วยงานแพรสักคนค่ะ"
ดูเหมือนปลายสายจะเงียบ จนทำให้แพรพิไลรู้สึกกระวนกระวายใจไปหมด ความเงียบก่อตัวขึ้นไม่รู้ว่าท่านประธานจะดุตัวเองหรือเปล่ากระทั่ง
(งั้นก็สั่งฝ่ายบุคคลคัดมาสักคน)
"ขอบคุณ คุณครามมากค่ะ"
ใบหน้าที่บูดบึ้งเมื่อครู่เหมือนจะผ่อนปรนลงบ้างแล้ว แพรพิไลยิ้มกว้างออกมาต่อหน้าพนักงานในแผนก จากนั้นก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ทรงพลังขึ้นมาก
"พี่รอดตายแล้ว คุณครามอนุญาตงั้นพี่ไปที่แผนกบุคคลก่อนนะ"
"พี่แพร กินก่อนตอนนี้ไม่มีใครอยู่หรอกค่ะ คงพักเที่ยงกันหมดนั่นแหละ"
ก็คงดีใจมากจนลืมไปเลยว่าเวลานี้เป็นเวลาที่พนักงานต้องพักเที่ยง ในเมื่อมาม่าก็ต้มแล้วก็คงต้องทานรองท้องไปก่อน หากไม่อย่างนั้นก็คงไม่มีแรงทำงานต่อให้เจ้านายเป็นแน่
เวลาผ่านไปครู่ใหญ่แพรพิไลก็เดินไปที่ฝ่ายบุคคลเพื่อคัดพนักงานมาช่วยงาน ทว่าฝ่ายบุคคลดันล็อกหน้าที่ไว้จนหมดก็คงเหลือแค่คนที่ไม่ได้รับคัดเลือกเท่านั้น
"ไหนพี่ขอดูเอกสารผู้ที่มาสมัครหน่อยสิ"
เอกสารพวกนั้นเตรียมที่จะทำลายทิ้งแล้ว แต่ก็ต้องหยิบขึ้นมาให้แพรพิไลเป็นคนเลือก เอกสารห้าฉบับที่เหลือหนึ่งในนั้นก็มีของแก้วรุ้งด้วย
เธอกวาดสายตาอ่านจนครบทุกคน ทว่าส่วนมากมีแต่เด็กจบใหม่ไม่มีประสบการณ์ที่ไหน ไม่เคยทำงานบริษัทแต่ดันไปสะดุดตากับชื่อแก้วรุ้ง และเมื่อเห็นผลการเรียนก็ดันสนใจท่าทางน่าจะสอนง่ายหัวเร็ว
"พี่เลือกคนนี้นะ ช่วยติดต่อให้พี่ด้วย"
"คุณนี้เหรอคะ อันที่จริงหนูก็อยากได้น้องเขานะ แต่คนอื่นก็มีประสบการณ์กว่าก็เลยเอาไว้ก่อน หากใครไม่มาก็คิดว่าจะเรียกมาเสริมทีหลัง"
"งั้นเอาเด็กคนนี้ส่งให้พี่เลย หากเธอสะดวกเริ่มงานพรุ่งนี้ได้"
"ได้ค่ะ"
ก็คงจะเป็นวาสนาของแก้วรุ้งละมั้ง ทั้ง ๆ ที่ถูกปัดตกไปแล้วแต่ดันถูกเลือกให้ขึ้นไปช่วยงานพี่เลขา แพรพิไลไม่ได้คิดอะไรมากในเมื่อท่านประธานอนุมัติเธอก็ต้องรีบหาเด็กมาช่วยงานไม่อย่างนั้นเธอตายผ่อนส่งแน่