#Wolf
"ไปเถอะค่ะพี่ชินน์ อย่าไปฟังหมาเห่าเลยรำคาญหูแย่"
ฟึ้บ...
"หึ..."
ผมมองตามร่างบางที่เดินผ่านหน้าผมออกไปด้วยสายตานิ่งเรียบก่อนที่สายตาผมจะเลื่อนลงมองที่มือพวกเขาที่กำลังสอดประสานกันไว้อยู่และหัวเราะออกมาเบาๆ ขำว่ะ...จะประชดก็เอาให้เนียนกว่านี้หน่อยดีไหมเห็นแบบนี้ล่ะอยากจะหัวเราะออกมาดังๆหากไม่ติดว่าบริเวณนี้คนเยอะ แหม่หลอกอะไรก็หลอกได้นะแต่จะมาหลอกผมว่าไม่รู้สึกอะไรกับผมแล้วนี่ฟังดูน่าตลกดี...นี่มิวสิคเล่นมุขใส่ผมรึไงกัน?
ปึ่ก!
"ไงมาเร็วจังว่ะ!?"
ผมหันกลับไปมองคนที่เดินเข้ามาข้างหลังผมและตีไหล่ผมเบาๆก่อนจะส่งยิ้มให้เธอบางๆและเอื้อมมือตัวเองไปกุมมือของเธอไว้ นลินเบิกตาขึ้นเล็กน้อยก่อนจะมองมาที่ผมดุๆ
"คนเยอะ!"
"เขินกูก็พูดมาเถอะ ^^"
"ไอ้นี่!"
"เป็นไง เสร็จแล้วหรอ?"
"อืม เรียบร้อยล่ะเหลือแค่ร่วมงานพรุ่งนี้ก็เป็นอันจบ ^^"
ฟึ้บ..
"เก่งแบบนี้คงต้องให้ของรางวัลแล้วล่ะ ^^"
"ของ...อะไรอ่ะ?"
"คืนนี้ไปอู่กูสิเดียวเอาให้ดู ^^"
"มึงอย่ามาวูฟ!"
ผมหัวเราะออกมาเบาๆพร้อมกับเอื้อมมือตัวเองขึ้นลูบหัวนลินอย่างเอ็นดู เธอเหลือบตาขึ้นมามองผมก่อนจะยิ้มออกมาบางๆแต่มันกลับทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นไปอีก ผมดึงนลินให้เดินตามมาที่ลิฟท์และลงมาที่ชั้นล่างของอาคารเพื่อที่จะพาเธอไปหาอะไรกิน
"อยากกินอะไร?"
"ไม่รู้ดิ...มึงอยากกินอะไรก็พากูไปเถอะกินได้หมดอ่ะ"
ผมพยักหน้าช้าๆก่อนจะเดินไปที่รถและก้าวขึ้นพร้อมกับส่งหมวกให้นลินที่ขึ้นมาตามไปด้วยก่อนจะค่อยๆออกรถไปตามทางถนนเพื่อหาร้านข้าว แม่งรถเยอะสัสผมขมวดคิ้วพร้อมกับขับหลบรถยนต์อีกคันที่พุ่งออกมาโดยไม่ตีไฟเลี้ยวก่อนจะหันไปมองมันนิดๆและหันกลับมาสนใจถนนต่อผมเอื้อมมือไปจับมือนลินให้กอดเอวผมแน่นขึ้นเพราะผมกลัวเธอตก...นี่พยายามขับช้าล่ะนะเพราะมีนลินมาด้วยปกตินี่คงถึงร้านไปแล้วอ่ะ
"ไฟจะแดงแล้วๆ"
"เห็นแล้วๆ"
ผมตอบนลินที่เอ่ยเตือนก่อนจะขับไปจอดเทียบกับรถยนต์คันคุ้นตาเมื่อไฟตรงหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดง ผมเหลือบมองเข้าไปในรถก่อนจะเหยียดยิ้มออกมานิดๆเมื่อมั่นใจแล้วว่านี่คือรถใคร
ฟึ้บ...
"ทำไรของมึงเนี้ย??"
"แค่อยากจับมือไม่ได้ไง? ^^"
"กวนประสาท!"
ผมที่เพิ่งเปิดกระจกขึ้นหัวเราะออกมาเบาๆพร้อมกับกระซับมือของนลินที่กำลังสอดประสานกับมือผมไว้มากขึ้นแต่สายตาผมกลับไม่ได้มองไปที่นลินเลยเพราะสายตาผมกำลังจ้องเข้าไปที่กระจกรถคันข้างๆพร้อมกับสบสายตากับเธออีกคนที่อยู่ภายในรถด้วยสายตากวนๆ มิวสิคสบสายตากับผมนิ่งและผมรู้ว่าเธอเห็น เห็นว่าผมกำลังจับมือกับนลินอยู่
"หึ..."
บรื้น!!
ผมเหยียดยิ้มออกมาให้มิวสิคที่นั่งอยู่ในรถก่อนจะหันมาขับรถตัวเองเมื่อไฟเขียว...ทำไม?ผมทำแบบนี้เพื่อที่จะให้มิวสิคเห็นแล้วมันจะยังไง ผมก็แค่อยากให้เธอเห็นและให้เธอรู้ว่าเธอไม่ได้สำคัญอะไรกับผมมากไปกว่าคนเคยๆ และเรื่องเมื่อสองอาทิตย์ก่อนมันยังทำให้ผมแค้นอยู่ผมล่ะโคตรจะหงุดหงิดและโมโหที่ถูกไล่ออกมาแบบนั้นแม่งมันจะอะไรหนักหนากะอีกแค่ไม่รับโทรศัพท์คือหนักกว่านี้ผมก็เคยทำแล้วไหม หรือเพิ่งจะมาคิดได้ว่าควรจะเลิกกับผมได้แล้วผมไม่ชอบอ่ะเธอมาทำเหมือนว่าผมเป็นคนที่ต้องการทุกๆอย่างทั้งๆที่ทั้งหมดเป็นความต้องการของเธอ นี่คิดว่าจะให้ผมเข้าไปและจะไล่ออกมาเมื่อตัวเองมีใครใหม่ตอนไหนก็ได้หรอว่ะ...ฝันไปเถอะ
"คิดถึงหญิงคนไหนอยู่รึไง??"
"บ้ารึไง คิดว่าจะกินอะไรอยู่หรอก"
"ก็มึงไม่สั่งสักทีเนี้ย เขารอมึงสั่งอยู่คนเดียว!"
ผมเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะมองเมนูในมืออีกครั้ง...กินอะไรล่ะว่ะปกติไม่ได้สั่งเองนี่หว่า ผมเม้มริมฝีปากอย่างคิดๆอีกครั้งก่อนจะมองหน้านลินและเลื่อนไปมองพี่ที่รอรับเมนูอยู่
"เอาเหมือนเธออ่ะ"
"โอเคค่ะ งั้นรอสักครู่นะคะ"
"ครับ"
"มึงคิดไม่เป็นรึไงว่าจะกินอะไร?"
"อืม ขี้เกียจคิดวะปกติมีอะไรก็กินได้หมดอ่ะ"
"มึงนี่มัน..."
"หล่อ ^^"
"ถุย!"
"เป็นผู้หญิงมาถุยๆนี่ไม่เหมาะสมเลยนะครับ"
"แหม่ มึงนี่ผู้ชายมากเนาะ!"
"สุภาพบุรุษสุดกูอ่ะ ^^"
"ขอไปอ้วกได้ไหม?"
"แพ้ท้องรึไง?"
"พ่อง!"
ผมหัวเราะออกมาเบาๆพร้อมกับเท้าแขนไปกับโต๊ะขณะที่สายตาเฉียบๆของผมก็ไม่ได้ล่ะออกจากใบหน้าของนลินเลยแม้แต่นิดๆ นลินเหลือบตามองผมอีกเสี้ยววิก่อนจะหันหน้าหนีไม่ยอมมองสบสายตาผมอย่างเคยแต่นั้นกลับทำให้ผมรู้สึกดีไปใหญ่เพราะมันทำให้ผมรู้ว่าเธอเริ่มจะรู้สึกเปลี่ยนไปจากเดิมที่เธอรู้สึกกับผมแล้ว...เห็นพวกผมเป็นแบบนี้แต่ยังไม่ได้คบกันหรอกนะ แต่ตอนนี้ผมกำลังจีบเธออยู่และนลินก็รู้ว่าผมกำลังจีบเธออยู่เพราะผมบอกเธอ ผมบอกเธอหลังจากวันที่เธอจูบผมที่คลับนั้นแหละเราไม่ได้ไปไหนกันต่อหรอกนะผมไปส่งที่เธอห้องและกลับมานอนที่อู่ตามเดิม เห็นผมแบบนี้แต่ถ้าอีกคนเมาผมก็ไม่ได้จะเอาโอกาสนั้นมาขนาดนั้น มีเวลาที่ผมจะได้จีบเธอเยอะแยะ
"วันนี้เห็นมิวสิคที่ลิฟท์ด้วยล่ะ มึงเห็นเธอไหม?"
"...ไม่อ่ะ"
ผมโกหกกลับไปหน้าตายก่อนจะเคี้ยวข้าวที่อยู่ในปากต่อขณะที่สายตาก็มองนลินอย่างสงสัย สงสัยว่าเธอจะพูดถึงมิวสิคทำไมนลินที่จับช้อนอยู่เขี้ยข้าวไปมาก่อนจะเหลือบสายตาของตัวเองขึ้นมาสบสายตาผมอีกครั้ง
"เธอมีเล่นในงานพรุ่งนี้น่ะ"
"อ่อ..."
"เผื่อมึงอยากจะไปดู"
"ทำไมกูต้องอยากไปดูด้วยล่ะ?"
"..." นลินเงียบไปทันทีที่ผมถามขึ้นแบบนั้นพร้อมกับสายตาผมที่กำลังมองเธอเพื่อรอคำตอบ "กูก็เห็นมึงสนิทกับมิวไงเพื่อมึงสนใจไปดูการแสดงงี้"
"อย่ามาพูดอ้อมค้อม...ดูไม่เป็นมึงเลยนะ"
"เอ้าไอ้นี่!"
ผมมองนลินที่โมโหกลบเกลื่อนด้วยสายตาเรียบนิ่งก่อนที่ริมฝีปากตัวเองจะยิ้มออกมาเมื่อคิดถึงสาเหตุที่นลินเป็นแบบนี้ออก...นลินกำลังหึงผมกับมิวสิคหรอว่ะ?
"...กูไม่ได้อะไรกับมิว ต้องให้กูบอกมึงกี่ครั้งหรอว่าคนที่กูต้องการจริงๆคือมึง?"
"วูฟ!"
"เข้าใจนะว่ากูเป็นคนที่ไม่ค่อยน่าไว้ใจแต่ถ้าระหว่างมึงกับมิวใครที่สำคัญกับกูกูก็ตอบได้แค่คำเดิมๆว่าคนนั้นคือมึงอ่ะ"
"..."
"มึงเหอะไม่ยอมเปิดใจให้กูสักที"
"มึงก็รู้ว่ากูยังไม่ได้..."
"กูรอได้ กูรอมึงเคลียร์ปัญหาของมึงได้ ^^"
นลินมองมาที่ผมอย่างคิดหนักอย่างเห็นได้ชัดแต่สิ่งที่ผมตอบกลับไปมีเพียงรอยยิ้มและแม้ว่าใบหน้าผมหรือการพูดของผมมันจะดูว่าไม่ได้อะไรแต่ที่จริงแล้วมันกลับไม่ใช่เลย นลินยังไม่เลิกกับแฟนมันแต่ผมก็ยังจะจีบเธอแม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าเธอมีแฟนแล้ว...ผมนิสัยไม่ดีน่ะและไม่ได้สนอะไรด้วยที่เธอมีแฟน ก็แล้วถ้านลินรักแฟนมากเธอจะยอมให้ผมไปนู้นมานี้ด้วยทำไมเมื่อผมบอกเธอแล้วว่าผมไม่ได้คิดกับเธอแค่พี่สาว ไม่รู้ดิแต่ผมก็สำคัญกับนลินระดับนึงเลยไม่งั้นผมคงโดนเธอไล่นานแล้วล่ะ
21.36 น.
(พรุ่งนี้อย่าลืมมาที่งานด้วยนะอย่าให้จารย์รู้ว่าเธอหนีอีกเข้าใจไหม!?)
"จารย์โทรมาจิกผมขนาดนี้ผมก็รู้แล้วล่ะครับท่าน"
(ประชดประชันเป็นที่หนึ่งหน้าที่ของตัวเองแท้ๆ)
"โถ่ รุ่นน้องปีก่อนก็มีเยอะแยะจารย์ก็ไม่เรียกนะ"
(เขาเรียกมาเต็มล่ะย่ะเหลือแกคนเดียวเถอะ!)
"ครับท่าน ผมเข้าใจแล้วครับ"
(เออ งั้นแค่นี้จิ๊ต้องให้ได้โทรมาด่า!)
ผมกลอกตาไปมาอย่างเพลียๆหลังจากที่วางสายจากอาจารย์ที่คุ้มงานพรุ่งนี้ ท่านโทรมาจิกให้ผมไปร่วมงานและต้องพูดต้อนรับคนมางานน่ะ มันเป็นหน้าที่ของพวกดาวเดือนอะไรนี่แหละซึ่งผมก็เป็นเดือน...แต่ผมเป็นของปีที่แล้วไงปีนี้กลับต้องได้ไปทำหน้าที่อีกอุสาหนีพวกรุ่นพี่ที่ตามแล้วนะโคตรจะหงุดหงิด!
ฟึ้บ...
ผมลุกขึ้นจากเตียงพร้อมกับทิ้งโทรศัพท์ตัวเองลงที่เตียงขณะที่ขาของผมก็ก้าวไปที่ตู้เสื้อผ้าเพื่อหาอะไรมาใส่เพราะจะอาบน้ำก่อนที่มือของตัวเองมันจะชงักนิดๆเมื่อเหลือบเห็นชุดของใครอีกคนที่มันติดอยู่ในตู้ลิ้นของผมดันกระพุงแก้มตัวเองอย่างหงุดหงิดทันทีพร้อมกับมือของผมที่คว้าเอาเสื้อตัวนั้นออกมาพร้อมกับจ้องมองมันนิ่ง
"เดินออกไปงั้นสินะ...เธอไม่ใช่รึไงที่อยากให้ฉันเข้าไปน่ะ!"
พรึ่บ!!
ผมเหวี่ยงเสื้อตัวนั้นเข้าไปในตู้อีกครั้งพร้อมกับคว้าผ้าเช็ดตัวติดมือมาและเดินเข้าไปในห้องน้ำทันทีเพราะความหงุดหงิดที่มันกำลังครอบงำตัวเองมากขึ้น มันก็หลายวันมาแล้วนะหลังจากวันนั้นผมรึก็อุสาไปง้อแต่แม่ง!...ผมเท้าแขนไปกับอ่างล้างหน้าขณะที่สายตาแข็งกร้าวของตัวเองก็สบสายตากับสายตาตัวเองผ่านกระจกไม่หลบ ผมไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เมื่อผมคิดถึงมิวสิคผมหงุดหงิดและโมโหทุกครั้งทุกครั้งที่ผมนึงถึงสายตาที่จ้องมองมาที่ผมในวันนั้น สายตาที่เคยเต็มไปด้วยความรักที่เคยจ้องมองมาที่ผมแต่วันนั้นมันกลับเต็มไปด้วยความเกลียดและความเฉยชาจนผมทนไม่ได้และเดินออกมา เสื้อเธอผมจะโยนทิ้งก็ได้แต่ผมก็ไม่รู้ว่าแม่งเพราะอะไรถึงโยนมันกลับเข้าตู้มันง่ายนะแค่ทิ้งอะไรสักอย่างแต่คงเพราะผมยังโมโหเธออยู่ผมจึงไม่สามารถทำอะไรได้แต่ผมจะทำให้เธอรู้ว่าเธอไม่ควรไม่ควรจะมาทำอะไรแบบนั้นใส่ผมอีกผมจะระรานจนเธอต้องกลับมาขอโทษผมเอง!
03/02/20xx
10.36 น.
"น้องวูฟเข้ามาแต่งตัวก่อนค่ะ!"
"เร็วเลยๆ จารย์ว่าจารบอกนายว่าเก้าโมงครึ่งไม่ใช่หรอวูฟ!"
"เมื่อคืนเล่นเกมส์ดึกไปหน่อยน่ะครับ แต่ด้านหน้าก็มีน้องๆต้อนรับแล้วนิ"
"รุ่นน้องเขาได้ต้อนรับแต่แกต้องขึ้นเป็นพิธีกรช่วงการแสดงไอ้นี่!"
"เฮ้อ..."
"ไม่ต้องมาถอนหายใจใส่เอานี่ไปอ่านแล้วพูดตามนี้ด้วยนะงานก็ออกบ่อยแล้วจารย์คงไม่ต้องอะไรกับแกอีกนะไอ้เด็กมีปัญหา!"
"ครับท่าน"
ผมขานรับด้วยน้ำเสียงเพลียๆพร้อมกับมองดูสคริปที่อาจารย์ยื่นมาให้ระหว่างที่นั่งให้พี่ๆที่งานทำผมให้...ให้ตาย!อุสาแอ๊บมาช้าแล้วยังไม่เปลี่ยนคนอีก ผมถอนหายใจออกมาอีกครั้งก่อนที่สายตาตัวเองที่กำลังอ่านสคริปอยู่จะชงักนิดๆเมื่อเห็นรายชื่อของการแสดง อ้าวก็ไม่ได้แย่นิผมว่าผมมีเรื่องสนุกให้ทำแล้วล่ะ
"ชมรมดนตรีเขาแต่งตัวอยู่ไหนหรอครับ?"
เสียงทุ่มต่ำของผมเอ่ยขึ้นถามพี่ที่กำลังแต่งตัวให้เบาๆพร้อมกับมองเธอผ่านกระจก เจ้าตัวที่โดนผมถามเลิกคิ้วขึ้นนิดๆก่อนจะทำหน้าครุ่นคิดนานนับนาทีจนผมต้องเลิกคิ้วมองไปด้วย
"พี่ก็ไม่แน่ใจแต่น่าจะอยู่ไม่ใกล้จากห้องนี้เพราะเขาต้องขึ้นแสดง"
"อ่อ...ครับ ^^"
ผมพยักหน้าช้าๆพร้อมกับยิ้มออกมาเพราะภายในใจของตัวเองมันกำลังรู้สึกสนุก ผมมองไปรอบๆห้องก่อนจะหยิบโทรศัพท์ตัวเองออกมากดอะไรเล่นรอไปเรื่อยมีบ้างที่คุยกับนลินแต่เธอไม่ค่อยว่างผมเลยไม่กวนผมจึงเปลี่ยนมาเลื่อนดูไอจีไปเรื่อยจนไปเห็นรูปของรุ่นน้องที่อยู่ชมรมเดียวกับมิสิคที่ลงรูปกลุ่มและในกลุ่มนั้นมันมีเธออยู่ด้วย สายตาผมไม่ได้มองคนอื่นๆภายในรูปแต่กลับจ้องมองไปที่มิวสิคที่ยืนยิ้มให้กล้องอยู่ข้างหลังรุ่นน้องตัวเองโดยมีใครอีกคนที่ยืนยิ้มอยู่ข้างๆ...ไอ้พี่ชินน์อะไรเนี้ยมันเริ่มทำให้ผมหงุดหงิดมากขึ้นแล้วนะแต่ก่อนมันก็ไม่ได้ขนาดนี้นะแต่พอเห็นว่าผมห่างจากมิวสิคหน่อยนี่เอาใหญ่เชียว
"หึ.."
13.25 น.
วู้ๆๆ!!
"ครับยังไงก็ขอเสียงปรบมือให้กับการแสดงที่เพิ่งแสดงจบไปด้วยนะครับ ขอบคุณมากสำหรับการแสดงที่ดีและเป็นประโยชน์ของมหาลัยเรา ^^"
ผมหันไปโค้งให้บรรดานักแสดงที่เพิ่งโชว์ผลงานตัวเองจบไปพร้อมกับยิ้มให้พวกเขาอย่างเป็นมิตรก่อนจะหันหน้ากลับมามองพิธีกรหญิงที่คู่มากับผมซึ่งเป็นดาวมหาลัยปีเดียวกันนั้นเอง เธอยิ้มให้กับผมก่อนจะหันไปมองผู้ชมยิ้มๆ
"แต่การแสดงของมหาลัยเรายังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะยังมีการแสดงที่รอโชว์ต่ออยู่ซึ่งเป็นการแสดงของ..."
"ของชมรมดนตรีอันโด่งดังของมหาลัยเรานั้นเอง ^^"
ผมตอบกลับเธออย่างรู้งานขณะที่สายตาตัวเองก็เหลือบมองคนจัดสถานที่ก่อนจะเลื่อนสายตามองผู้ชมที่อยู่เต็มบริเวณอีกครั้ง
"ซึ่งการแสดงนี้ก็อย่างเคยล่ะครับ ผมขอเชิญพี่ชินน์ที่เป็นผู้นำวงขึ้นมาด้วยนะครับ ^^"
เสียงปรบมือทั่วทั้งหอประชุมดังขึ้นทันทีที่ผมว่าขึ้นแบบนั้นพร้อมกับการปรากฎตัวของไอ้ชินน์ที่เดินออกมาจากหลังเวที ผมมองมันก่อนจะยิ้มให้มันอย่างเป็นมิตร...แม้ภายในใจมันจะอยากซัดขนาดไหนแต่นี้มันงานครับผมแยกแยะได้ว่าอะไรเป็นอะไร
"โอ้โหเสียงกรี๊ดดังไปไหมคะเนี้ย??"
"ก็ต้องดังเป็นธรรมดาล่ะครับคนดังของมอเรามายืนอยู่ข้างๆทั้งที และนี้คือพี่ชินน์หัวหน้าชมรมดนตรีและยังเป็นเดือนมหาลัยปีก่อนๆอีกด้วย ^^"
หลังจากผมพูดจบไอ้พี่ชินน์ก็ยิ้มออกมาพร้อมกับโค้งให้กับทุกคนพร้อมกับผมที่ส่งไมค์อีกตัวให้เขา เราสบสายตากันเพียงแวบเดียวก่อนที่มันจะเบี่ยงสายตาหนี
"สวัสดีครับ ^^"
วู้ๆๆ
"เอาล่ะค่ะ เราทุกคนคงอยากรู้แล้วว่ามาครั้งนี้พี่ชินน์จะเอาอะไรมาโชว์พวกเรา"
"ว่าแต่วันนี้พี่จะโชว์เพลงแนวไหนหรอครับ?"
"ครับ สำหรับวันนี้ผมและคนในชมรมได้นำเพลงที่ทางเราได้นำมามิกซ์รวมกันซึ่งเป็นแนวที่ฟังง่ายๆแต่ความหมายลึกซึงแน่นอน ^^"
"หูย...พูดแค่นี้ก็น่าฟังแล้วล่ะค่ะใช่ไหมคะวูฟ"
"ครับ ผมว่าเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราไปฟังกันดีกว่าไหม?"
"เอางั้นก็ได้ครับเพราะทางชมรมเราก็พร้อมอยู่แล้ว ^^"
ผมมองไอ้พี่ชินน์ที่หันกลับมาตอบผมนิ่งๆก่อนจะเหลือบสายตามองคนในวงที่เดินเข้าประจำที่แล้ว สายตาของผมตวัดมองร่างบางที่เดินเข้ามานั่งที่เก้าอี้ที่จัดไว้นิ่งก่อนที่ริมฝีปากผมจะเหยียดยิ้มให้เธอเมื่อเธอมองมาแต่สิ่งที่ได้รับกลับมามีเพียงสายตาอันนิ่งเรียบเล่นเอาผมอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ ผมลอบถอนหายใจออกมาช้าๆและหันกลับมายิ้มอีกครั้งเมื่อไอ้พี่ชินน์เข้าประจำที่แล้ว
"เอาล่ะค่ะต่อไปเป็นการแสดงของชมรมดนตรีของมหาลัยของเราเชิญทุกท่านรับชมรับฟังอย่างมีความสุขนะคะ"
กรี๊ด!/วู้ๆๆ
ผมหันหลังเดินลงมาจากเวทีและก้าวไปที่ที่ยืนสำหรับพิธีกรพร้อมกับพิธีกรอีกคนที่เดินตามลงมา ผมวางสคริปลงที่แท่นอย่างเพลียๆจะไม่ให้เพลียได้ไงล่ะแม่งผมทั้งยืนและยิ้มจนปากจะฉีกอยู่ล่ะ
"แน่ใจนะว่าเพิ่งอ่านสคริปวันนี้อ่ะ อะไรจะพูดคล่องขนาดนั้น ^^"
"เก่งไง ไม่ต้องอ่านก็พูดได้สบายอยู่ล่ะ ^^"
"จ้าพ่อคนเก่ง"
ผมยิ้มออกมานิดๆเมื่อพิธีกรที่คู่ด้วยหันมาแซวก่อนที่สายตาผมจะมองไปที่การแสดงตรงหน้าที่กำลังจะเริ่ม เสียงกีตาร์ที่เล่นโดยไอ้พี่ชินน์ค่อยๆดังขึ้นขณะที่มิวสิคก็เอื้อมมือขึ้นจับไมค์ที่ตั้งอยู่ข้างหน้าตัวเองไว้พร้อมกับเริ่มร้องขึ้นด้วยน้ำเสียงหวานๆของตัวเอง...วันก่อนผมมาทันช่วงท้ายๆจึงไม่ทันดูตอนเธอร้องแต่วันนี้ผมมาทันและได้ดูการแสดงตั้งแต่เริ่ม ผมจ้องมองไปที่มิวสิคที่หลับตาลงเพื่อถ่ายทอดเสียงหวานๆของตัวเองออกมาเรื่อยๆแต่มันกลับสะกดคนดูได้เป็นอย่างดีรวมไปถึงผมด้วย
"..."
ริมฝีปากของผมเม้มเข้าหากันแน่นเมื่อเธอค่อยๆลืมตาขึ้นมาพร้อมกับริมฝีปากนั้นที่ค่อยๆยิ้มออกมาเมื่อเธอร้องจบสายตากลมโตนั้นเหลือบมองไปทั่วทั้งห้องประชุมจนมันมาปะทะกับสายตาผมเหมือนเมื่อวานแต่สิ่งที่มันไม่เหมือนเดิมคือสายตานั้นมันไม่ได้มีความตกใจเลยแม้แต่น้อยเพราะตอนนี้มันมีเพียงความว่างเปล่าที่ส่งมาแต่มันกลับทำให้ภายในใจของผมรู้สึกเบาแปลกๆ ผมหันหน้าหนีพร้อมกับมองไปที่คนดูแทนก่อนจะต้องอารมณ์ขึ้นมากกว่าเดิมเมื่อเจอสายตาของคนดูที่เป็นผู้ชายที่กำลังจ้องมองไปที่มิวสิคด้วยสายตาปานจะกลืนกินมือของผมกำเข้ากันช้าๆขณะที่สายตาตัวเองก็จ้องมองกลับไปที่ใบหน้าของมิวสิคที่หันไปยิ้มกับไอ้พี่ชินน์ด้วยท่าทีน่ารัก มันน่ารักน่ารักจนผมเริ่มรู้สึกหงุดหงิด!
กรี๊ดดด/วู้ๆๆ!
"โอ้โห...เป็นการแสดงที่สุดยอดจริงๆขอเสียงปรบมือให้กับชมรมดนตรีอีกครั้งหน่อยเร็ว ^^"
"ครับและสำหรับต่อไปพิธีกรในช่วงต่อไปได้มารออยู่แล้วและพวกผมก็ขอลาไปก่อน ขอบคุณที่ติดตามช่วงนี้มา ณ ที่นี้นะครับ ^^"
ผมกับพิธีกรอีกคนโค้งให้กับผู้ชมพร้อมกับยิ้มให้พวกเขาอีกครั้งเมื่องานของตัวเองในช่วงนี้จบลง ผมเดินเข้าไปภายในหลังเวทีตามหลังชมรมดนตรีที่เดินเข้ามาก่อนแล้วแต่ขาของผมกลับก้าวเร็วขึ้นเมื่อเห็นคนที่ต้องการเจอกำลังยืนอยู่อีกทาง ผมเดินแทรกคนมากมายที่ข้างหลังเวทีเข้าไปขณะที่สายตาตัวเองก็มองไปที่ห้องที่ไม่มีคนไปด้วย
พรึ่บ!
"อ๊ะ!"
แกร๊ง ปั่ง!
"ทำอะไรของนาย!?"
"ทำไม แค่อยากจะคุยกับคุณภรรยาตามลำพังนี่คุยไม่ได้?"
"ต้องการเหี้ยอะไรจากกูอีกว่ะ!?"
ผมสบสายตากับคนตรงหน้านิ่งโดยที่มือสองข้างของตัวเองก็จับแขนมิวสิคไว้แน่นเพื่อกันเธอสบัดตัวหนี มิวสิคมองไปรอบๆห้องที่ไม่มีคนด้วยสายตาไม่ไว้วางใจอย่างเห็นได้ชัดแต่ทำไมเธอในตอนนี้ถึงทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดจนอยากจะทำลายอะไรสักอย่างให้มันพังคามือจังเลยว่ะ!?
"มองมาแบบนี้แปลว่าอะไรวูฟ!?"
"ก็ไม่ได้แปลว่าอะไร"
"แล้วมาทำแบบนี้ทำไม!?"
"เห็นแล้วหงุดหงิด"
มิวสิคขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจพร้อมกับสายตากลมโตของเธอที่สบสายตาผมอย่างไม่หลบ ผมใช้สายตาแข็งๆของตัวเองมองไปทั่วทั้งตัวของมิวสิคอย่างอารมณ์เสีย
"ต้องการอะไร?"
"ก็ไม่ต้องการอะไร"
"แล้วมึงจะทำแบบนี้ทำไม!?"
ผมไม่ตอบเธอแต่กลับสบสายตามิวสิคนิ่งไม่ยอมละสายตาไปไหนจนมันทำให้เธอถอนหายใจเสียงดังพร้อมกับพยายามยื้อตัวเองออกอีกครั้ง มิวสิคมองมาที่ผมด้วยสายตาไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเห็นว่าผมไม่ยอมปล่อย
"ปล่อย!!"
"เธอเป็นของฉันมิว อย่าหวังว่าจะได้ไปหาคนอื่นเลย"
"พูดบ้าอะไร!?"
พรึ่บ!
"เธอก็รู้ว่าผมหมายความว่ายังไง"
"..."
มิวสิคจ้องมาที่ผมอย่างทำอะไรไม่ถูกเมื่อผมเอื้อมมือตัวเองขึ้นบีบปลายคางเธอให้เชิดหน้าขึ้นมาสบสายตากับผม ผมพ่นลมหายใจร้อนๆของตัวเองใส่มิวสิคเบาๆพร้อมกับโน้มใบหน้าตัวเองลงไปหาเธอมากขึ้น
"ทั้งตัวและหัวใจของเธอเป็นของผมแบบนี้ อย่าโกหกดีกว่าว่าไม่ได้รู้สึกอะไรเพราะสุดท้าย...ยังไงเธอก็ต้องกลับมาหาผมอยู่ดี!"