กักขังครั้งที่ 7

3748 คำ
​#Wolf "ไปเถอะค่ะพี่ชินน์ อย่าไปฟังหมาเห่าเลยรำคาญหูแย่" ฟึ้บ... "หึ..." ผมมองตามร่างบางที่เดินผ่านหน้าผมออกไปด้วยสายตานิ่งเรียบก่อนที่สายตาผมจะเลื่อนลงมองที่มือพวกเขาที่กำลังสอดประสานกันไว้อยู่และหัวเราะออกมาเบาๆ ขำว่ะ...จะประชดก็เอาให้เนียนกว่านี้หน่อยดีไหมเห็นแบบนี้ล่ะอยากจะหัวเราะออกมาดังๆหากไม่ติดว่าบริเวณนี้คนเยอะ แหม่หลอกอะไรก็หลอกได้นะแต่จะมาหลอกผมว่าไม่รู้สึกอะไรกับผมแล้วนี่ฟังดูน่าตลกดี...นี่มิวสิคเล่นมุขใส่ผมรึไงกัน? ปึ่ก! "ไงมาเร็วจังว่ะ!?" ผมหันกลับไปมองคนที่เดินเข้ามาข้างหลังผมและตีไหล่ผมเบาๆก่อนจะส่งยิ้มให้เธอบางๆและเอื้อมมือตัวเองไปกุมมือของเธอไว้ นลินเบิกตาขึ้นเล็กน้อยก่อนจะมองมาที่ผมดุๆ "คนเยอะ!" "เขินกูก็พูดมาเถอะ ^^" "ไอ้นี่!" "เป็นไง เสร็จแล้วหรอ?" "อืม เรียบร้อยล่ะเหลือแค่ร่วมงานพรุ่งนี้ก็เป็นอันจบ ^^" ฟึ้บ.. "เก่งแบบนี้คงต้องให้ของรางวัลแล้วล่ะ ^^" "ของ...อะไรอ่ะ?" "คืนนี้ไปอู่กูสิเดียวเอาให้ดู ^^" "มึงอย่ามาวูฟ!" ผมหัวเราะออกมาเบาๆพร้อมกับเอื้อมมือตัวเองขึ้นลูบหัวนลินอย่างเอ็นดู เธอเหลือบตาขึ้นมามองผมก่อนจะยิ้มออกมาบางๆแต่มันกลับทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นไปอีก ผมดึงนลินให้เดินตามมาที่ลิฟท์และลงมาที่ชั้นล่างของอาคารเพื่อที่จะพาเธอไปหาอะไรกิน "อยากกินอะไร?" "ไม่รู้ดิ...มึงอยากกินอะไรก็พากูไปเถอะกินได้หมดอ่ะ" ผมพยักหน้าช้าๆก่อนจะเดินไปที่รถและก้าวขึ้นพร้อมกับส่งหมวกให้นลินที่ขึ้นมาตามไปด้วยก่อนจะค่อยๆออกรถไปตามทางถนนเพื่อหาร้านข้าว แม่งรถเยอะสัสผมขมวดคิ้วพร้อมกับขับหลบรถยนต์อีกคันที่พุ่งออกมาโดยไม่ตีไฟเลี้ยวก่อนจะหันไปมองมันนิดๆและหันกลับมาสนใจถนนต่อผมเอื้อมมือไปจับมือนลินให้กอดเอวผมแน่นขึ้นเพราะผมกลัวเธอตก...นี่พยายามขับช้าล่ะนะเพราะมีนลินมาด้วยปกตินี่คงถึงร้านไปแล้วอ่ะ "ไฟจะแดงแล้วๆ" "เห็นแล้วๆ" ผมตอบนลินที่เอ่ยเตือนก่อนจะขับไปจอดเทียบกับรถยนต์คันคุ้นตาเมื่อไฟตรงหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดง ผมเหลือบมองเข้าไปในรถก่อนจะเหยียดยิ้มออกมานิดๆเมื่อมั่นใจแล้วว่านี่คือรถใคร ฟึ้บ... "ทำไรของมึงเนี้ย??" "แค่อยากจับมือไม่ได้ไง? ^^" "กวนประสาท!" ผมที่เพิ่งเปิดกระจกขึ้นหัวเราะออกมาเบาๆพร้อมกับกระซับมือของนลินที่กำลังสอดประสานกับมือผมไว้มากขึ้นแต่สายตาผมกลับไม่ได้มองไปที่นลินเลยเพราะสายตาผมกำลังจ้องเข้าไปที่กระจกรถคันข้างๆพร้อมกับสบสายตากับเธออีกคนที่อยู่ภายในรถด้วยสายตากวนๆ มิวสิคสบสายตากับผมนิ่งและผมรู้ว่าเธอเห็น เห็นว่าผมกำลังจับมือกับนลินอยู่ "หึ..." บรื้น!! ผมเหยียดยิ้มออกมาให้มิวสิคที่นั่งอยู่ในรถก่อนจะหันมาขับรถตัวเองเมื่อไฟเขียว...ทำไม?ผมทำแบบนี้เพื่อที่จะให้มิวสิคเห็นแล้วมันจะยังไง ผมก็แค่อยากให้เธอเห็นและให้เธอรู้ว่าเธอไม่ได้สำคัญอะไรกับผมมากไปกว่าคนเคยๆ และเรื่องเมื่อสองอาทิตย์ก่อนมันยังทำให้ผมแค้นอยู่ผมล่ะโคตรจะหงุดหงิดและโมโหที่ถูกไล่ออกมาแบบนั้นแม่งมันจะอะไรหนักหนากะอีกแค่ไม่รับโทรศัพท์คือหนักกว่านี้ผมก็เคยทำแล้วไหม หรือเพิ่งจะมาคิดได้ว่าควรจะเลิกกับผมได้แล้วผมไม่ชอบอ่ะเธอมาทำเหมือนว่าผมเป็นคนที่ต้องการทุกๆอย่างทั้งๆที่ทั้งหมดเป็นความต้องการของเธอ นี่คิดว่าจะให้ผมเข้าไปและจะไล่ออกมาเมื่อตัวเองมีใครใหม่ตอนไหนก็ได้หรอว่ะ...ฝันไปเถอะ "คิดถึงหญิงคนไหนอยู่รึไง??" "บ้ารึไง คิดว่าจะกินอะไรอยู่หรอก" "ก็มึงไม่สั่งสักทีเนี้ย เขารอมึงสั่งอยู่คนเดียว!" ผมเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะมองเมนูในมืออีกครั้ง...กินอะไรล่ะว่ะปกติไม่ได้สั่งเองนี่หว่า ผมเม้มริมฝีปากอย่างคิดๆอีกครั้งก่อนจะมองหน้านลินและเลื่อนไปมองพี่ที่รอรับเมนูอยู่ "เอาเหมือนเธออ่ะ" "โอเคค่ะ งั้นรอสักครู่นะคะ" "ครับ" "มึงคิดไม่เป็นรึไงว่าจะกินอะไร?" "อืม ขี้เกียจคิดวะปกติมีอะไรก็กินได้หมดอ่ะ" "มึงนี่มัน..." "หล่อ ^^" "ถุย!" "เป็นผู้หญิงมาถุยๆนี่ไม่เหมาะสมเลยนะครับ" "แหม่ มึงนี่ผู้ชายมากเนาะ!" "สุภาพบุรุษสุดกูอ่ะ ^^" "ขอไปอ้วกได้ไหม?" "แพ้ท้องรึไง?" "พ่อง!" ผมหัวเราะออกมาเบาๆพร้อมกับเท้าแขนไปกับโต๊ะขณะที่สายตาเฉียบๆของผมก็ไม่ได้ล่ะออกจากใบหน้าของนลินเลยแม้แต่นิดๆ นลินเหลือบตามองผมอีกเสี้ยววิก่อนจะหันหน้าหนีไม่ยอมมองสบสายตาผมอย่างเคยแต่นั้นกลับทำให้ผมรู้สึกดีไปใหญ่เพราะมันทำให้ผมรู้ว่าเธอเริ่มจะรู้สึกเปลี่ยนไปจากเดิมที่เธอรู้สึกกับผมแล้ว...เห็นพวกผมเป็นแบบนี้แต่ยังไม่ได้คบกันหรอกนะ แต่ตอนนี้ผมกำลังจีบเธออยู่และนลินก็รู้ว่าผมกำลังจีบเธออยู่เพราะผมบอกเธอ ผมบอกเธอหลังจากวันที่เธอจูบผมที่คลับนั้นแหละเราไม่ได้ไปไหนกันต่อหรอกนะผมไปส่งที่เธอห้องและกลับมานอนที่อู่ตามเดิม เห็นผมแบบนี้แต่ถ้าอีกคนเมาผมก็ไม่ได้จะเอาโอกาสนั้นมาขนาดนั้น มีเวลาที่ผมจะได้จีบเธอเยอะแยะ "วันนี้เห็นมิวสิคที่ลิฟท์ด้วยล่ะ มึงเห็นเธอไหม?" "...ไม่อ่ะ" ผมโกหกกลับไปหน้าตายก่อนจะเคี้ยวข้าวที่อยู่ในปากต่อขณะที่สายตาก็มองนลินอย่างสงสัย สงสัยว่าเธอจะพูดถึงมิวสิคทำไมนลินที่จับช้อนอยู่เขี้ยข้าวไปมาก่อนจะเหลือบสายตาของตัวเองขึ้นมาสบสายตาผมอีกครั้ง "เธอมีเล่นในงานพรุ่งนี้น่ะ" "อ่อ..." "เผื่อมึงอยากจะไปดู" "ทำไมกูต้องอยากไปดูด้วยล่ะ?" "..." นลินเงียบไปทันทีที่ผมถามขึ้นแบบนั้นพร้อมกับสายตาผมที่กำลังมองเธอเพื่อรอคำตอบ "กูก็เห็นมึงสนิทกับมิวไงเพื่อมึงสนใจไปดูการแสดงงี้" "อย่ามาพูดอ้อมค้อม...ดูไม่เป็นมึงเลยนะ" "เอ้าไอ้นี่!" ผมมองนลินที่โมโหกลบเกลื่อนด้วยสายตาเรียบนิ่งก่อนที่ริมฝีปากตัวเองจะยิ้มออกมาเมื่อคิดถึงสาเหตุที่นลินเป็นแบบนี้ออก...นลินกำลังหึงผมกับมิวสิคหรอว่ะ? "...กูไม่ได้อะไรกับมิว ต้องให้กูบอกมึงกี่ครั้งหรอว่าคนที่กูต้องการจริงๆคือมึง?" "วูฟ!" "เข้าใจนะว่ากูเป็นคนที่ไม่ค่อยน่าไว้ใจแต่ถ้าระหว่างมึงกับมิวใครที่สำคัญกับกูกูก็ตอบได้แค่คำเดิมๆว่าคนนั้นคือมึงอ่ะ" "..." "มึงเหอะไม่ยอมเปิดใจให้กูสักที" "มึงก็รู้ว่ากูยังไม่ได้..." "กูรอได้ กูรอมึงเคลียร์ปัญหาของมึงได้ ^^" นลินมองมาที่ผมอย่างคิดหนักอย่างเห็นได้ชัดแต่สิ่งที่ผมตอบกลับไปมีเพียงรอยยิ้มและแม้ว่าใบหน้าผมหรือการพูดของผมมันจะดูว่าไม่ได้อะไรแต่ที่จริงแล้วมันกลับไม่ใช่เลย นลินยังไม่เลิกกับแฟนมันแต่ผมก็ยังจะจีบเธอแม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าเธอมีแฟนแล้ว...ผมนิสัยไม่ดีน่ะและไม่ได้สนอะไรด้วยที่เธอมีแฟน ก็แล้วถ้านลินรักแฟนมากเธอจะยอมให้ผมไปนู้นมานี้ด้วยทำไมเมื่อผมบอกเธอแล้วว่าผมไม่ได้คิดกับเธอแค่พี่สาว ไม่รู้ดิแต่ผมก็สำคัญกับนลินระดับนึงเลยไม่งั้นผมคงโดนเธอไล่นานแล้วล่ะ 21.36 น. (พรุ่งนี้อย่าลืมมาที่งานด้วยนะอย่าให้จารย์รู้ว่าเธอหนีอีกเข้าใจไหม!?) "จารย์โทรมาจิกผมขนาดนี้ผมก็รู้แล้วล่ะครับท่าน" (ประชดประชันเป็นที่หนึ่งหน้าที่ของตัวเองแท้ๆ) "โถ่ รุ่นน้องปีก่อนก็มีเยอะแยะจารย์ก็ไม่เรียกนะ" (เขาเรียกมาเต็มล่ะย่ะเหลือแกคนเดียวเถอะ!) "ครับท่าน ผมเข้าใจแล้วครับ" (เออ งั้นแค่นี้จิ๊ต้องให้ได้โทรมาด่า!) ผมกลอกตาไปมาอย่างเพลียๆหลังจากที่วางสายจากอาจารย์ที่คุ้มงานพรุ่งนี้ ท่านโทรมาจิกให้ผมไปร่วมงานและต้องพูดต้อนรับคนมางานน่ะ มันเป็นหน้าที่ของพวกดาวเดือนอะไรนี่แหละซึ่งผมก็เป็นเดือน...แต่ผมเป็นของปีที่แล้วไงปีนี้กลับต้องได้ไปทำหน้าที่อีกอุสาหนีพวกรุ่นพี่ที่ตามแล้วนะโคตรจะหงุดหงิด! ฟึ้บ... ผมลุกขึ้นจากเตียงพร้อมกับทิ้งโทรศัพท์ตัวเองลงที่เตียงขณะที่ขาของผมก็ก้าวไปที่ตู้เสื้อผ้าเพื่อหาอะไรมาใส่เพราะจะอาบน้ำก่อนที่มือของตัวเองมันจะชงักนิดๆเมื่อเหลือบเห็นชุดของใครอีกคนที่มันติดอยู่ในตู้ลิ้นของผมดันกระพุงแก้มตัวเองอย่างหงุดหงิดทันทีพร้อมกับมือของผมที่คว้าเอาเสื้อตัวนั้นออกมาพร้อมกับจ้องมองมันนิ่ง "เดินออกไปงั้นสินะ...เธอไม่ใช่รึไงที่อยากให้ฉันเข้าไปน่ะ!" พรึ่บ!! ผมเหวี่ยงเสื้อตัวนั้นเข้าไปในตู้อีกครั้งพร้อมกับคว้าผ้าเช็ดตัวติดมือมาและเดินเข้าไปในห้องน้ำทันทีเพราะความหงุดหงิดที่มันกำลังครอบงำตัวเองมากขึ้น มันก็หลายวันมาแล้วนะหลังจากวันนั้นผมรึก็อุสาไปง้อแต่แม่ง!...ผมเท้าแขนไปกับอ่างล้างหน้าขณะที่สายตาแข็งกร้าวของตัวเองก็สบสายตากับสายตาตัวเองผ่านกระจกไม่หลบ ผมไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เมื่อผมคิดถึงมิวสิคผมหงุดหงิดและโมโหทุกครั้งทุกครั้งที่ผมนึงถึงสายตาที่จ้องมองมาที่ผมในวันนั้น สายตาที่เคยเต็มไปด้วยความรักที่เคยจ้องมองมาที่ผมแต่วันนั้นมันกลับเต็มไปด้วยความเกลียดและความเฉยชาจนผมทนไม่ได้และเดินออกมา เสื้อเธอผมจะโยนทิ้งก็ได้แต่ผมก็ไม่รู้ว่าแม่งเพราะอะไรถึงโยนมันกลับเข้าตู้มันง่ายนะแค่ทิ้งอะไรสักอย่างแต่คงเพราะผมยังโมโหเธออยู่ผมจึงไม่สามารถทำอะไรได้แต่ผมจะทำให้เธอรู้ว่าเธอไม่ควรไม่ควรจะมาทำอะไรแบบนั้นใส่ผมอีกผมจะระรานจนเธอต้องกลับมาขอโทษผมเอง! 03/02/20xx 10.36 น. "น้องวูฟเข้ามาแต่งตัวก่อนค่ะ!" "เร็วเลยๆ จารย์ว่าจารบอกนายว่าเก้าโมงครึ่งไม่ใช่หรอวูฟ!" "เมื่อคืนเล่นเกมส์ดึกไปหน่อยน่ะครับ แต่ด้านหน้าก็มีน้องๆต้อนรับแล้วนิ" "รุ่นน้องเขาได้ต้อนรับแต่แกต้องขึ้นเป็นพิธีกรช่วงการแสดงไอ้นี่!" "เฮ้อ..." "ไม่ต้องมาถอนหายใจใส่เอานี่ไปอ่านแล้วพูดตามนี้ด้วยนะงานก็ออกบ่อยแล้วจารย์คงไม่ต้องอะไรกับแกอีกนะไอ้เด็กมีปัญหา!" "ครับท่าน" ผมขานรับด้วยน้ำเสียงเพลียๆพร้อมกับมองดูสคริปที่อาจารย์ยื่นมาให้ระหว่างที่นั่งให้พี่ๆที่งานทำผมให้...ให้ตาย!อุสาแอ๊บมาช้าแล้วยังไม่เปลี่ยนคนอีก ผมถอนหายใจออกมาอีกครั้งก่อนที่สายตาตัวเองที่กำลังอ่านสคริปอยู่จะชงักนิดๆเมื่อเห็นรายชื่อของการแสดง อ้าวก็ไม่ได้แย่นิผมว่าผมมีเรื่องสนุกให้ทำแล้วล่ะ "ชมรมดนตรีเขาแต่งตัวอยู่ไหนหรอครับ?" เสียงทุ่มต่ำของผมเอ่ยขึ้นถามพี่ที่กำลังแต่งตัวให้เบาๆพร้อมกับมองเธอผ่านกระจก เจ้าตัวที่โดนผมถามเลิกคิ้วขึ้นนิดๆก่อนจะทำหน้าครุ่นคิดนานนับนาทีจนผมต้องเลิกคิ้วมองไปด้วย "พี่ก็ไม่แน่ใจแต่น่าจะอยู่ไม่ใกล้จากห้องนี้เพราะเขาต้องขึ้นแสดง" "อ่อ...ครับ ^^" ผมพยักหน้าช้าๆพร้อมกับยิ้มออกมาเพราะภายในใจของตัวเองมันกำลังรู้สึกสนุก ผมมองไปรอบๆห้องก่อนจะหยิบโทรศัพท์ตัวเองออกมากดอะไรเล่นรอไปเรื่อยมีบ้างที่คุยกับนลินแต่เธอไม่ค่อยว่างผมเลยไม่กวนผมจึงเปลี่ยนมาเลื่อนดูไอจีไปเรื่อยจนไปเห็นรูปของรุ่นน้องที่อยู่ชมรมเดียวกับมิสิคที่ลงรูปกลุ่มและในกลุ่มนั้นมันมีเธออยู่ด้วย สายตาผมไม่ได้มองคนอื่นๆภายในรูปแต่กลับจ้องมองไปที่มิวสิคที่ยืนยิ้มให้กล้องอยู่ข้างหลังรุ่นน้องตัวเองโดยมีใครอีกคนที่ยืนยิ้มอยู่ข้างๆ...ไอ้พี่ชินน์อะไรเนี้ยมันเริ่มทำให้ผมหงุดหงิดมากขึ้นแล้วนะแต่ก่อนมันก็ไม่ได้ขนาดนี้นะแต่พอเห็นว่าผมห่างจากมิวสิคหน่อยนี่เอาใหญ่เชียว "หึ.." 13.25 น. วู้ๆๆ!! "ครับยังไงก็ขอเสียงปรบมือให้กับการแสดงที่เพิ่งแสดงจบไปด้วยนะครับ ขอบคุณมากสำหรับการแสดงที่ดีและเป็นประโยชน์ของมหาลัยเรา ^^" ผมหันไปโค้งให้บรรดานักแสดงที่เพิ่งโชว์ผลงานตัวเองจบไปพร้อมกับยิ้มให้พวกเขาอย่างเป็นมิตรก่อนจะหันหน้ากลับมามองพิธีกรหญิงที่คู่มากับผมซึ่งเป็นดาวมหาลัยปีเดียวกันนั้นเอง เธอยิ้มให้กับผมก่อนจะหันไปมองผู้ชมยิ้มๆ "แต่การแสดงของมหาลัยเรายังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะยังมีการแสดงที่รอโชว์ต่ออยู่ซึ่งเป็นการแสดงของ..." "ของชมรมดนตรีอันโด่งดังของมหาลัยเรานั้นเอง ^^" ผมตอบกลับเธออย่างรู้งานขณะที่สายตาตัวเองก็เหลือบมองคนจัดสถานที่ก่อนจะเลื่อนสายตามองผู้ชมที่อยู่เต็มบริเวณอีกครั้ง "ซึ่งการแสดงนี้ก็อย่างเคยล่ะครับ ผมขอเชิญพี่ชินน์ที่เป็นผู้นำวงขึ้นมาด้วยนะครับ ^^" เสียงปรบมือทั่วทั้งหอประชุมดังขึ้นทันทีที่ผมว่าขึ้นแบบนั้นพร้อมกับการปรากฎตัวของไอ้ชินน์ที่เดินออกมาจากหลังเวที ผมมองมันก่อนจะยิ้มให้มันอย่างเป็นมิตร...แม้ภายในใจมันจะอยากซัดขนาดไหนแต่นี้มันงานครับผมแยกแยะได้ว่าอะไรเป็นอะไร "โอ้โหเสียงกรี๊ดดังไปไหมคะเนี้ย??" "ก็ต้องดังเป็นธรรมดาล่ะครับคนดังของมอเรามายืนอยู่ข้างๆทั้งที และนี้คือพี่ชินน์หัวหน้าชมรมดนตรีและยังเป็นเดือนมหาลัยปีก่อนๆอีกด้วย ^^" หลังจากผมพูดจบไอ้พี่ชินน์ก็ยิ้มออกมาพร้อมกับโค้งให้กับทุกคนพร้อมกับผมที่ส่งไมค์อีกตัวให้เขา เราสบสายตากันเพียงแวบเดียวก่อนที่มันจะเบี่ยงสายตาหนี "สวัสดีครับ ^^" วู้ๆๆ "เอาล่ะค่ะ เราทุกคนคงอยากรู้แล้วว่ามาครั้งนี้พี่ชินน์จะเอาอะไรมาโชว์พวกเรา" "ว่าแต่วันนี้พี่จะโชว์เพลงแนวไหนหรอครับ?" "ครับ สำหรับวันนี้ผมและคนในชมรมได้นำเพลงที่ทางเราได้นำมามิกซ์รวมกันซึ่งเป็นแนวที่ฟังง่ายๆแต่ความหมายลึกซึงแน่นอน ^^" "หูย...พูดแค่นี้ก็น่าฟังแล้วล่ะค่ะใช่ไหมคะวูฟ" "ครับ ผมว่าเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราไปฟังกันดีกว่าไหม?" "เอางั้นก็ได้ครับเพราะทางชมรมเราก็พร้อมอยู่แล้ว ^^" ผมมองไอ้พี่ชินน์ที่หันกลับมาตอบผมนิ่งๆก่อนจะเหลือบสายตามองคนในวงที่เดินเข้าประจำที่แล้ว สายตาของผมตวัดมองร่างบางที่เดินเข้ามานั่งที่เก้าอี้ที่จัดไว้นิ่งก่อนที่ริมฝีปากผมจะเหยียดยิ้มให้เธอเมื่อเธอมองมาแต่สิ่งที่ได้รับกลับมามีเพียงสายตาอันนิ่งเรียบเล่นเอาผมอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ ผมลอบถอนหายใจออกมาช้าๆและหันกลับมายิ้มอีกครั้งเมื่อไอ้พี่ชินน์เข้าประจำที่แล้ว "เอาล่ะค่ะต่อไปเป็นการแสดงของชมรมดนตรีของมหาลัยของเราเชิญทุกท่านรับชมรับฟังอย่างมีความสุขนะคะ" กรี๊ด!/วู้ๆๆ ผมหันหลังเดินลงมาจากเวทีและก้าวไปที่ที่ยืนสำหรับพิธีกรพร้อมกับพิธีกรอีกคนที่เดินตามลงมา ผมวางสคริปลงที่แท่นอย่างเพลียๆจะไม่ให้เพลียได้ไงล่ะแม่งผมทั้งยืนและยิ้มจนปากจะฉีกอยู่ล่ะ "แน่ใจนะว่าเพิ่งอ่านสคริปวันนี้อ่ะ อะไรจะพูดคล่องขนาดนั้น ^^" "เก่งไง ไม่ต้องอ่านก็พูดได้สบายอยู่ล่ะ ^^" "จ้าพ่อคนเก่ง" ผมยิ้มออกมานิดๆเมื่อพิธีกรที่คู่ด้วยหันมาแซวก่อนที่สายตาผมจะมองไปที่การแสดงตรงหน้าที่กำลังจะเริ่ม เสียงกีตาร์ที่เล่นโดยไอ้พี่ชินน์ค่อยๆดังขึ้นขณะที่มิวสิคก็เอื้อมมือขึ้นจับไมค์ที่ตั้งอยู่ข้างหน้าตัวเองไว้พร้อมกับเริ่มร้องขึ้นด้วยน้ำเสียงหวานๆของตัวเอง...วันก่อนผมมาทันช่วงท้ายๆจึงไม่ทันดูตอนเธอร้องแต่วันนี้ผมมาทันและได้ดูการแสดงตั้งแต่เริ่ม ผมจ้องมองไปที่มิวสิคที่หลับตาลงเพื่อถ่ายทอดเสียงหวานๆของตัวเองออกมาเรื่อยๆแต่มันกลับสะกดคนดูได้เป็นอย่างดีรวมไปถึงผมด้วย "..." ริมฝีปากของผมเม้มเข้าหากันแน่นเมื่อเธอค่อยๆลืมตาขึ้นมาพร้อมกับริมฝีปากนั้นที่ค่อยๆยิ้มออกมาเมื่อเธอร้องจบสายตากลมโตนั้นเหลือบมองไปทั่วทั้งห้องประชุมจนมันมาปะทะกับสายตาผมเหมือนเมื่อวานแต่สิ่งที่มันไม่เหมือนเดิมคือสายตานั้นมันไม่ได้มีความตกใจเลยแม้แต่น้อยเพราะตอนนี้มันมีเพียงความว่างเปล่าที่ส่งมาแต่มันกลับทำให้ภายในใจของผมรู้สึกเบาแปลกๆ ผมหันหน้าหนีพร้อมกับมองไปที่คนดูแทนก่อนจะต้องอารมณ์ขึ้นมากกว่าเดิมเมื่อเจอสายตาของคนดูที่เป็นผู้ชายที่กำลังจ้องมองไปที่มิวสิคด้วยสายตาปานจะกลืนกินมือของผมกำเข้ากันช้าๆขณะที่สายตาตัวเองก็จ้องมองกลับไปที่ใบหน้าของมิวสิคที่หันไปยิ้มกับไอ้พี่ชินน์ด้วยท่าทีน่ารัก มันน่ารักน่ารักจนผมเริ่มรู้สึกหงุดหงิด! กรี๊ดดด/วู้ๆๆ! "โอ้โห...เป็นการแสดงที่สุดยอดจริงๆขอเสียงปรบมือให้กับชมรมดนตรีอีกครั้งหน่อยเร็ว ^^" "ครับและสำหรับต่อไปพิธีกรในช่วงต่อไปได้มารออยู่แล้วและพวกผมก็ขอลาไปก่อน ขอบคุณที่ติดตามช่วงนี้มา ณ ที่นี้นะครับ ^^" ผมกับพิธีกรอีกคนโค้งให้กับผู้ชมพร้อมกับยิ้มให้พวกเขาอีกครั้งเมื่องานของตัวเองในช่วงนี้จบลง ผมเดินเข้าไปภายในหลังเวทีตามหลังชมรมดนตรีที่เดินเข้ามาก่อนแล้วแต่ขาของผมกลับก้าวเร็วขึ้นเมื่อเห็นคนที่ต้องการเจอกำลังยืนอยู่อีกทาง ผมเดินแทรกคนมากมายที่ข้างหลังเวทีเข้าไปขณะที่สายตาตัวเองก็มองไปที่ห้องที่ไม่มีคนไปด้วย พรึ่บ! "อ๊ะ!" แกร๊ง ปั่ง! "ทำอะไรของนาย!?" "ทำไม แค่อยากจะคุยกับคุณภรรยาตามลำพังนี่คุยไม่ได้?" "ต้องการเหี้ยอะไรจากกูอีกว่ะ!?" ผมสบสายตากับคนตรงหน้านิ่งโดยที่มือสองข้างของตัวเองก็จับแขนมิวสิคไว้แน่นเพื่อกันเธอสบัดตัวหนี มิวสิคมองไปรอบๆห้องที่ไม่มีคนด้วยสายตาไม่ไว้วางใจอย่างเห็นได้ชัดแต่ทำไมเธอในตอนนี้ถึงทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดจนอยากจะทำลายอะไรสักอย่างให้มันพังคามือจังเลยว่ะ!? "มองมาแบบนี้แปลว่าอะไรวูฟ!?" "ก็ไม่ได้แปลว่าอะไร" "แล้วมาทำแบบนี้ทำไม!?" "เห็นแล้วหงุดหงิด" มิวสิคขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจพร้อมกับสายตากลมโตของเธอที่สบสายตาผมอย่างไม่หลบ ผมใช้สายตาแข็งๆของตัวเองมองไปทั่วทั้งตัวของมิวสิคอย่างอารมณ์เสีย "ต้องการอะไร?" "ก็ไม่ต้องการอะไร" "แล้วมึงจะทำแบบนี้ทำไม!?" ผมไม่ตอบเธอแต่กลับสบสายตามิวสิคนิ่งไม่ยอมละสายตาไปไหนจนมันทำให้เธอถอนหายใจเสียงดังพร้อมกับพยายามยื้อตัวเองออกอีกครั้ง มิวสิคมองมาที่ผมด้วยสายตาไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเห็นว่าผมไม่ยอมปล่อย "ปล่อย!!" "เธอเป็นของฉันมิว อย่าหวังว่าจะได้ไปหาคนอื่นเลย" "พูดบ้าอะไร!?" พรึ่บ! "เธอก็รู้ว่าผมหมายความว่ายังไง" "..." มิวสิคจ้องมาที่ผมอย่างทำอะไรไม่ถูกเมื่อผมเอื้อมมือตัวเองขึ้นบีบปลายคางเธอให้เชิดหน้าขึ้นมาสบสายตากับผม ผมพ่นลมหายใจร้อนๆของตัวเองใส่มิวสิคเบาๆพร้อมกับโน้มใบหน้าตัวเองลงไปหาเธอมากขึ้น "ทั้งตัวและหัวใจของเธอเป็นของผมแบบนี้ อย่าโกหกดีกว่าว่าไม่ได้รู้สึกอะไรเพราะสุดท้าย...ยังไงเธอก็ต้องกลับมาหาผมอยู่ดี!"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม