#Wolf
"ร่างกายฉันมันเป็นของของฉันไม่ใช่ของของนายจำใส่หัวเอาไว้ด้วย!"
"..."
ฟึ้บ...
ผมมองตามร่างบางที่เดินกลับไปที่รถกับผู้ชายที่เธอบอกว่าเขาคือคนสำคัญของเธอด้วยแววตาดุดัน ร่างกายผมมันไม่ยอมขยับตั้งแต่เห็นภาพเมื่อกี้แล้ว ภาพที่ริมฝีปากที่ผมเป็นเจ้าของมันกำลังบดจูบกับผู้ชายอีกคนต่อหน้าต่อตาผม! มิวไม่เคยไม่เคยที่เธอจะกล้าประชดผมขนาดนี้มาก่อนมือของผมกำเข้าหากันแน่นจนผมรู้สึกถึงเส้นลือดตัวเองที่มันกำลังบูดออกมา
"คนสำคัญหรอว่ะ...ผมไม่ใช่รึไงคนสำคัญของพี่?"
"วูฟ..."
พรึ่บ!
ผมยกมือตัวเองลูบหน้าทันทีเพื่อเรียกสติหลังจากเสียงนึงเรียกผมขึ้นจากข้างหลัง ผมหันกลับมามองก่อนจะพบว่าเป็นนลินที่ยืนอยู่เจ้าตัวเดินเข้ามาหาผมพร้อมกับมองไปรอบๆอย่างสงสัย
"มายืนทำอะไรกลางถนนคนเดียว?"
"ออกมาทำไม?"
"ก็เห็นว่าออกมาสูบบุหรี่นานแล้วเลยออกมาดู แล้วตกลงเป็นไรเนี้ยยืนเหม่ออะไร?"
ผมค่อยๆเสยผมที่ปรกลงมาที่ใบหน้าตัวเองขึ้นช้าๆก่อนจะเอื้อมมืออีกข้างไปจับมือนลินไว้และยิ้มออกมาให้เธอบางๆ
"ไม่มีอะไรเข้าไปในร้านเถอะ"
"อื้อ"
นลินรับคำเบาๆก่อนที่เธอจะเดินนำออกไปแต่เพียงไม่กี่เก้าเธอก็ต้องหยุดเดินอีกครั้งเมื่อผมที่กำลังเดินตามหลังเธอหยุดเดิน นลินหันกลับมามองผมอย่างไม่เข้าใจ และผมก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าจะหยุดเดินทำไมผม...ผมเพียงแค่อยากจะมองหน้านลิน
"มึงเป็นคนสำคัญของกู"
"...มึงเมาบุหรี่หรอว่ะ?"
"กูไม่รู้กูแค่อยากพูด"
"..."
ผมสบสายตากับสายตาตรงหน้าด้วยแววตาที่ยังคงดุดันของตัวเองก่อนที่ผมจะค่อยๆเดินเข้าไปใกล้นลินมากขึ้น นลินเงยหน้ามองมาที่ผมอย่างไม่เข้าใจขณะที่มือผมก็ค่อยๆเอื้อมมันขึ้นสัมผัสใบหน้าเธอไว้อย่างเบามือที่สุด...นลินเป็นคนที่ผมต้องการต้องการมาตลอด ผมไม่เคยมองใครนอกจากเธอเพราะเธอเแ็นคนคนเดียวที่ทำให้หัวใจของผมเต้นแรงได้
"กูรักมึงนะ"
"...วูฟ"
"กูรักมึงนะนลิน มีแค่มึงคนเดียวที่กูรัก"
ฟึ้บ...
นลินยกมืออีกข้างตัวเองจับไหล่ผมไว้เบาๆเมื่อใบหน้าของเราสองคนขยับเข้าหากันมากขึ้น ผมสบสายตากับสายตาตรงหน้านิ่งไม่หลบขณะที่ลมหายใจร้อนๆของพวกเราก็รดกันไม่ห่าง นลินค่อยๆหลับตาลงช้าๆเพื่อรอผมกดริมฝีปากตัวเองลงและผมรู้ว่าผมต้องการเป็นเจ้าของริมฝีปากตรงหน้ามากแค่ไหนแต่เมื่อริมฝีปากของผมกำลังจะแตะกับริมฝีปากบางของนลินภาพของผู้หญิงที่ผมไม่ต้องการกลับแทรกเข้ามาในหัวผมจนผมชงัก...มันเป็นภาพที่มิวจูบกับไอ้ชินน์!
พรึ่บ!
"วะ...วูฟ?"
"เข้าไปข้างในเหอะพวกนั้นคงรอนานล่ะ"
ผมพูดออกมาทันทีพร้อมกับดึงให้นลินเดินตามหลังมาเข้าร้านที่ผมมานั่ง ผมไม่ได้หันไปมองหน้านลินผมจึงไม่รู้ว่าเธอกำลังทำหน้ายังไงแต่สิ่งที่ผมรู้...คือเรื่องของมิวสิคมันเริ่มรบกวนจิตใจผมมากเกินไปแล้ว มากจนถึงขนาดที่ตามมาก่อกวนในความคิดของผม!
"สัสกูนึกว่าสูบหมดเป็นซองแล้ว!"
"เออ นานจนพี่รหัสกูต้องออกไปตาม!"
"พูดมากน่ารำคาญ!"
"โว๊ะ มึงหงุดหงิดแล้วอย่ามาลงที่เพื่อนนะเฮ้ย...ไม่ดีๆ"
"กูไม่ได้หงุดหงิด!"
"จ่ะๆ"
คิ้วของผมขมวดเข้าหากันทันทีที่เห็นเพื่อนตัวเองประชัดใส่แบบนั้น ผมที่เพิ่งนั่งลงที่เก้าอี้ภายในร้านหยิบแก้วที่มีเหล้าเหลืออยู่ขึ้นมากระดกทีเดียวหมดแก้วก่อนจะหยิบขวดหล้ามาเทเพิ่มและยกขึ้นกระดกอีกครั้งพร้อมกับสายตาแข็งกร้าวตัวเองที่มองไปรอบๆร้านอย่างหงุดหงิด ผมรึก็สงสัยมานานตอนนี้ก็เข้าใจสักทีว่าทำไมไอ้หนึ่งกับไอ้เสืออยากมากันจังไอ้ร้านที่มันว่าว่าเพราะนักเพราะหนาที่แท้ที่นี้มีนักร้องที่คุ้นเคยกับผมมากๆนี่เองพวกมันสองคนชวนผมมาตั้งแต่วันจันทร์แล้วน่ะแต่ผมที่ไม่ว่างเลยบอกมันวันศุกร์ซึ่งตอนแรกที่ผมเดินเข้ามาในร้านผมโคตรจะตกใจที่เห็นว่านักร้องที่ร้องอยู่คือมิวสิค...บ้านเธอไม่ได้ขาดเงินนะและออกจะรวยมากด้วยซ้ำแต่ทำไมถึงมาร้องเพลงกลางคืนแบบนี้? แถมยังดูสนิทกับแม่งพวกลูกค้านั้นอีก!
"กูไปเข้าห้องน้ำแป๊บนะ"
"นี่มึงคิดว่าพวกกูพามึงมาสวนสนุกรึไงว่ะ เดินไปนั้นนี่อยู่ได้"
"กูปวดขี้!"
"พูดดังไอ้สัสสาวๆจะมองพวกกูแบบไหนห๊ะ!?"
ผมกลอกตาไปมาอย่างอารมณ์เสียเมื่อไอ้หนึ่งมันพูดขึ้นมาแบบนั้น คือตอนแรกมึงก็ถามไหมไอ้ห่านี่ผมลุกขึ้นพร้อมกับมองนลินที่มองมาเป็นเชิงไปเข้าห้องน้ำก่อนซึ่งเธอก็ไม่ได้อะไร ผมที่ก้าวออกมาได้ไกลพอสมควรดันลิ้นใส่กระพุ้งแก้มตัวเองพร้อมกับก้าวขาไปอีกฝั่งของห้องน้ำทันทีที่ลับตาเพื่อนตัวเองแล้ว
"เอ่อ...ทางนี้เข้าไม่ได้นะคะ"
"ผมอยากคุยกับเจ้าของร้านน่ะ เรียกเขาออกมาได้รึป่าว?"
"งั้นเดียวรอตรงนี้แป๊บนะคะ"
ผมพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจและมองพนังงานสาวที่เดินเข้าไปหลังร้านไปด้วย ผมมันเป็นพวกอยากรู้น่ะเวลาอยากรู้อะไรก็ต้องรู้เลยและผมก็ทนเฉยกับเรื่องที่มันกวนใจผมไม่ได้นาน
"มีอะไรรึป่าวครับ?"
ผมเหลือบสายตาตัวเองขึ้นสบสายตากับพี่เจ้าของร้านซึ่งๆดูๆแล้วน่าจะห่างกับผมไม่กี่ปีก่อนที่ริมฝีปากผมจะยิ้มให้เขาบางๆอย่างเป็นมิตร
"คือผมอยากจะถามอะไรสักหน่อยน่ะครับ ^^"
"อ่อ ได้ครับว่ามาเลย"
"คือผู้หญิงที่ร้องนำวงเมื่อกี้เธอทำงานประจำอยู่นี่หรอครับ?"
"...อ่อเปล่าหรอกครับน้องมิวสิคเธอมาร้องแทนนักร้องนำที่ป่วยน่ะครับ ^^"
"อ่อ..." ผมพยักหน้าช้าๆ "แล้วเธอได้ร้องเดี่ยวที่นี้ไหมครับ?"
"เอ่อคือ...เราบอกข้อมูลส่วนตัวไม่ได้หรอกนะครับ"
"เปล่าผมไม่ได้อยากรู้ข้อมูลส่วนตัวเธอหรอก ผมแค่อยากจะรู้นะว่าเธอจะมาร้องอีกรึป่าว ^^"
"อ่อ น้องมิวสิคเขาร้องประจำวันจันทร์กับอังคารน่ะครับ"
"งี้นี่เอง ขอบคุณนะครับ"
ผมเอ่ยขึ้นอีกครั้งและเดินออกมาจากเขาทันทีที่รู้ข้องมูลที่ตัวเองอยากจะรู้แล้ว มิวสิคมาร้องที่นี้วันจันทร์อังคารสินะ...อะไรที่ทำให้เธออยากร้องเพลงตอนกลางคืนนะผมล่ะอยากจะรู้จริงๆ ริมฝีปากผมเหยียดยิ้มออกมาช้าๆขณะที่คิดเรื่องมิวสิคไปด้วยงั้นตอนนี้ผมก็รู้แล้วว่าจะหาเธอได้จากไหนก็แค่ทำเป็นมาดื่มเพียงเท่านี้ก็สามารถกวนใจเธอได้แล้วสินะ หึ...ผมบอกมิวแล้วว่ายังไงผมก็ไม่ปล่อยถ้าผมยังไม่พอใจและถึงแม้ตอนนี้เธอจะมีใครแล้วมันยังไงล่ะยังไงเธอก็แค่จูบแต่ร่างกายเธอยังไงมันก็มีแต่ผมเท่านั้นแหละที่เป็นเจ้าของ เธอให้มันกับใครนอกจากผมไม่ได้หรอก
7/02/20xx
11.36 น.
"เอออยู่ร้านแล้วเนี้ยจะมาถึงรึยัง?"
(กำลังๆ อย่าเร่งนักสิว่ะ!)
"ขับรถยังไงช้าชิป!"
(ถ้ามึงหิวนักก็แดกก่อนเลยวูฟ น่ารำคาญ!)
ผมกดตัดสายพร้อมกับทิ้งโทรศัพท์ตัวเองลงบนโต๊ะข้างหน้าตัวเองทันทีพร้อมกับมองไปรอบๆอย่างอารมณ์เสียคือเหี้ยอะไรว่ะคนที่นัดมาก็คือมันแล้วมาช้าแล้วยังมาด่าผมว่าน่ารำคาญนี้คือ...ไม่คิดบ้างรึไงว่าผมก็รำคาญแม่งเหมือนกัน! ผมยกมือตัวเองขึ้นเสยผมอย่างหงุดหงิดไม่หายพร้องกับถอนหายใจออกมาเสียงดังตอนนี้ผมอยู่ร้านเข้าน่ะลินมันหิวมันเลยโทรชวนผมมากินแต่มันกลับมาช้ากว่าผมนี่คือ?
"รับอะไรดีคะ?"
"รอเพื่อนอยู่!"
"..ค่ะๆ"
ผมเหลือบสายตาแข็งๆของตัวเองมองพนักงานที่เรียบเดินออกไปอย่างไม่สบอารมณ์เมื่อถูกเธอถามแบบนั้น และคงต้องขอโทษเธอเช่นกันที่เข้ามาถามตอนผมอารมณ์เสียผมเลยเผลอเหวี่ยงใส่เธอไปซะได้
"นั่งไหนอ่ะ?"
"มันว่างอยู่โต๊ะเดียวเนี้ย กวนพี่รึไง?"
"ช่ายย"
"ดื้อเอ้ย!"
ผมเอียงคอไปมาช้าๆพร้อมกับหรี่ตาลงเล็กเมื่อได้ยินเสียงคุ้นหูที่ดังขึ้นจากข้างหลัง ก่อนที่ผมจะค่อยๆหันกลับไปมองด้านหลังตัวเองช้าๆและหันกลับมาทันทีเมื่อเห็นว่านั้นเป็นใคร...แล้วมันเรื่องอะไรที่กูจะต้องแอบมองด้วยว่ะ!?
"พี่ชินน์จะกินอะไร?"
"มิวกินอะไรล่ะ?"
"ไม่ค่อยหิวอ่ะ"
"เดียวกระเพาะก็ขึ้นอีกหรอก พี่ไม่อยากไปนอนเฝ้าที่โรงบาลอีกแล้วนะ!"
"อย่าดุๆ ขอคิดแป๊บนะคะ"
ผมขมวดคิ้วเข้าหากันช้าๆหลังจากนั่งฟังบทสนทนาของโต๊ะข้างหลังมานานนับนาที...มิวเป็นโรคกระเพาะตั้งแต่ตอนไหนว่ะ? ผมกัดริมฝีปากตัวเองอย่างใช้ความคิดก่อนที่มือของผมจะกำเข้าหากันแน่นอย่างทำอะไรไม่ถูกเมื่อคิดถึงวันนั้น มันเป็นวันที่มิวจับท้องตัวเองแทบจะตลอดเวลาและเธอโทรมาหาผม...ซึ่งผมไม่ได้สนใจมันเพราะผมอยู่กับนลิน
"วูฟ"
ฟึ้บ...!
"โทษทีที่มาช้า รถติดโคตรๆ"
"ไม่มาพรุ่งนี้เลยล่ะ"
ผมประชดออกไปเบาๆก่อนจะเหลือบสายตาตัวเองไปข้างหลังอีกครั้งก่อนจะพบว่าทั้งสองคนที่นั่งอยู่โต๊ะข้างหลังกำลังมองมาที่พวกผม ผมสบสายตากับมิวที่ดูตกใจนิดๆเมื่อเห็นว่าผมนั่งอยู่ก่อนแล้วแต่เพียงไม่กี่วิเธอก็เบี่ยงสายตาไปมองเมนูตรงหน้าเหมือนกับว่าผมไม่มีตัวตน ผมหัวเราะออกมาบาๆก่อนจะหันกลับมาหานลินอีกครั้ง
"ประชดดีจริงๆนะมึงเนี้ย"
"ก็ระดับนึง"
"สั่งอะไรรึยัง?"
"ยัง รอมึงแหละ"
นลินพยักหน้าช้าๆพร้อมกับเปิดเมนูตรงหน้าเพื่อดูว่าจะกินอะไร ผมหยิบโทรศัพท์ตัวเองมาถือไว้ก่อนจะสไลด์เปิดมันเล่นไปพลางๆเพื่อรอนลิน อันที่จริงผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะกินอะไรน่ะนะ
"รับอะไรดีคะ?"
"ผมเอาข้าวผัดอเมริกันครับ มิวเอาไร?"
"เอ่อ...สปาเก็ตตี้คาโบนาร่าค่ะ"
"แล้วก็น้ำเปล่าสองนะครับ"
"ค่ะรอสักครู่นะคะ"
ผมยกมือขึ้นเพื่อเรียกพนักงานที่เพิ่งรับออเดอร์จากโต๊ะมิวสิคไว้ทันทีและเธอก็เดินมาที่โต๊ะพวกผม นลินสั่งของที่อยากจะทานไปทันทีก่อนที่เธอจะหันมามองผมว่าผมจะกินอะไร ผมเม้มริมฝีปากแน่นก่อนจะเหลือบสายตาตัวเองไปสบสายตามิวสิคที่มองมาอยู่และเหยียดยิ้มออกมาช้าๆ
"สปาเก็ตตี้คาโบนาร่าครับ ^^"
"ค่ะรอสักครู่นะคะ"
ผมพยักหน้าพร้อมกับแววตาขำๆของตัวเองที่เหม่อมองไปที่มิวสิคที่เม้มริมฝีปากตัวเองและมองมาที่ผมอย่างไม่พอใจอยู่ ผมเลิกคิ้วขึ้นนิดๆก่อนจะหันมองเธอดีๆก่อนจะเบิกตากว้างเหมือนว่าเพิ่งเห็นเธอ
"อ้าว มิวสิคนี่เองมาตอนไหนเนี้ย?"
"..."
"มิวสิคนี่เอง เราก็ว่าอยู่คุ้นๆ"
นลินเสริมขึ้นเบาๆพร้อมกับมองหน้ามิวสิคยิ้มๆมันจึงทำให้มิวสิคต้องยิ้มตอบกลับมาแม้รอยยิ้มนั้นมันจะดูสวยขนาดไหนแต่ผมก็รู้ว่ามันฝืนขนาดไหน ผมยิ้มออกมาอย่างนึกสนุกก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่ตัวเองนั่งอยู่และเดินไปที่โต๊ะของมิวสิคยิ้มๆ
"เมื่อคืนนี้ไม่ทันทักทายเลยอ่ะ กลับก่อนผมอีก ^^"
"อย่ามายุ่งกับฉัน!"
ผมยิ้มออกมาอย่างไม่รู้สึกรู้สาและทิ้งตัวนั่งลงกับเก้าอี้ข้างๆมิวสิคทันทีแม้จะรู้ว่าสายตาและคำพูดของมิวสิคมันจะไม่พอใจขนาดไหน ผมหันกลับไปมองนลินที่นั่งอยู่อีกโต๊ะก่อนจะกวักมือเรียกเธอมานั่งเก้าอี้ข้างๆไอ้พี่ชินน์ที่ตีหน้านิ่งอยู่
"มานั่งนี่ๆ คงไม่ว่าอะไรนะครับพี่ชินน์พอดีเราก็สนิทกันดีอยู่แล้วนิเผื่อคนอื่นเขาไม่มีที่นั่ง"
"วูฟจะดีหรอว่ะ?"
"...ไม่เป็นไรหรอกครับ มานั่งด้วยกันก็ได้ ^^"
ผมแสยะยิ้มมุมอย่างพอใจเมื่อไอ้พี่ชินน์อะไรนั้นมันยอมให้เรามานั่งด้วย นลินยิ้มออกมาอย่างทำอะไรไม่ถูกแต่สุดท้ายก็เดินมานั่งข้างๆเขา ผมเท้าแขนตัวเองไปกับโต๊ะพร้อมกับยิ้มออกมาอย่างกวนๆ
"ผมตกใจมากเลยที่เห็นพี่ไปร้องเพลงกลางคืนอ่ะ ไม่บอกกันบ้าง"
"ก็ไม่จำเป็นอะไรนิ"
"แต่เราสนิทกันนะ พูดงี้ผมเสียใจนะพี่มิว"
ผมเอ่ยขึ้นพร้อมกับทำเสียงสั่นๆแต่มันกลับทำให้คนข้างๆผมหันขวับมามองทันที ผมสบสายตากับมิวสิคอย่างกวนๆก่อนที่ผมจะทำให้มิวสิคเบิกตากว้างทันทีที่มือของผมเอื้อมมือตัวเองไปวางไว้ที่ต้นขาของเธออย่างเนียนๆพร้อมกับออกแรงบีบมันอย่างหยาบโลน
"วูฟ!"
"ครับ?"
มิวสิคหลุบตาลงต่ำมองมือผมที่กำลังบีบคลึงขาเธออยู่อย่างไม่พอใจก่อนที่เธอจะพ่นลมหายใจออกมาพร้อมกับมองไปทางอื่นอย่างกลั้นอารมณ์ ผมหัวเราะขึ้นมาอย่างพอใจก่อนที่สายตาผมจะไปสบกับไอ้พี่ชินน์ที่กำลังมองมาอยู่อย่างไม่เข้าใจ หึ...มันไม่รู้หรอกว่าตอนนี้ผมทำอะไรกับแฟนมันอยู่น่ะนะว้าแบบนี้นี่มันโคตรจะสนุก
"ผมรู้มาว่าพี่ไปเล่นวันจันทร์กับอังคาร...เดียวว่างๆผมแวะไปฟังพี่ร้องเพลงดีกว่า ^^"
"...ไม่จำเป็นต้องมาหรอก"
"พูดแบบนี้กะลูกค้าได้ไงเนี้ย โหดร้ายจัง ^^"
มิวสิคเหลือบสายตามามองผมอย่างหัวเสียพร้อมกับมือเธอที่เอื้อมมือตัวเองมาจับมือผมไว้แน่นเมื่อผมกำลังเลื่อนมือร้อนๆของตัวเองขึ้นสูงมากขึ้น ผมสบสายตากับสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจตรงหน้าอย่างพอใจ...หึผมบอกแล้วไงอย่าทำเหมือนผมไร้ตัวตนเพราะนั้นเป็นสิ่งที่ผมเกลียดที่สุด!
"อาหารได้แล้วค่ะ"
"ครับ ^^"
ผมรับคำยิ้มๆพร้อมกับมองอาหารตรงหน้าที่ถูกวางลงที่โต๊ะยิ้มๆ พนักงานมองเรางงๆที่ย้ายโต๊ะแต่ก็ไม่ถามอะไร ผมใช้มือข้างที่ไม่ได้จับขามิวสิคดึงจานอาหารที่เหมือนกับมิวสิคมาตรงหน้าตัวเองก่อนจะเหลือบมองของเธอยิ้มๆ
"โอ๊ะ เหมือนกันเลยอ่ะ ^^"
"กินเข้าไปแล้วหุบปากไปซะ!"
ผมเลิกคิ้วขึ้นนิดๆก่อนจะยิ้มออกมาบางๆเมื่อมิวสิคกระซิบด่าผมเสียงเบาที่มีแค่เราเท่านั้นที่ได้ยิน ผมเหยียดยิ้มออกมานิดๆก่อนจะใช้มือตัวเองม้วนเส้นเข้าไปพร้อมกับสายตาผมที่เหลือบมองมิวสิคที่พยายามทำตัวให้เป็นปกติอยู่แม้มือของเธอจะจับมือผมไว้แน่นขนาดไหน ผมรู้ว่าเธอคงไม่อยากให้ไอ้พี่ชินน์อะไรนั้นเห็นว่าผมทำอะไรกับร่างกายเธออยู่แต่นั้นกลับทำให้ผมรู้สึกสนุกเข้าไปใหญ่
พรึ่บ! ปึ่ก!
"มิว...เป็นอะไรรึป่าว?"
"..."
มิวไม่ตอบพี่ชินน์ของเธอแต่กลับหันมามองผมที่บีบเค้นโคนขาด้านในเธอเต็มแรงจนมือของเธอที่กำลังจับช้อนอยู่ตก มิวสิคเม้มากแน่นพร้อมกับสายตานั้นที่กำลังมองมาที่ผมอย่างโกรธแค้นอย่างเห็นได้ชัด ผมหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะล่ะมือตัวเองออกจากขาของเธอเพราะพอใจแล้วและหันกลับมากินอาหารตรงหน้าต่อทันที
"มิว..?"
"มะไม่เป็นไรค่ะพี่ชินน์ มิวแค่โดนมดกัด"
"หึ..."
"หัวเราะออกของมึงวูฟ?"
ผมเงยหน้ามองนลินที่ถามขึ้นแบบนั้นก่อนจะยักไหล่เป็นเชิงไม่อะไรอย่างกวนๆ พไอ้พี่ชินน์มันมองมาที่ผมนิ่งแต่สิ่งที่ผมตอบกลับมีเพียงรอยยิ้ม...แหม่ปกป้องจนน่ารำคาญ
"ทานเถอะค่ะพี่ชินน์เราจะได้รีบไป"
"...ครับ"
ผมเหลือบมองมิวสิคที่พูดขึ้นแบบนั้นนิ่งๆก่อนที่เธอจะเหลือบสายตามาสบสายตากับผมเช่นกันแต่สายตาที่เธอมองมาที่ผมกลับทำให้ผมรู้สึกแปลกๆที่ตัว ผมเบี่ยงสายตาออกมาจากสายตาเกลียดซังข้างๆอย่างทำอะไรไม่ถูกมันรู้สึกแปลกจนผมกินต่อไม่ได้ผมมองสปาเก็ตตี้ตรงหน้าตัวเองด้วยสายตานิ่งเรียบก่อนที่ผมจะถอนหายใจออกมาเสียงดังอย่างหงุดหงิด...อะไรว่ะทำไมแค่สายตานั้นมันกลับทำให้ผมแดกอะไรไม่ลงได้ขนาดนี้? มิวสิคทำอะไรกับผม?
22.45 น.
"เป็นอะไรของมึงอีกล่ะ?"
"กูเบื่อๆ"
"เบื่อก็กลับบ้านไปนอน มาทำเหี้ยอะไรที่อู่กู?"
ผมไม่ตอบเสียงนิ่งเรียบของไอ้ทร็อตที่มันถามผมแต่กลับเดินไปนั่งที่เก้าอี้แถวนั้นและนั่งดูมันซ้อมรถตรงหน้าอย่างเซ็งไม่หาย ผมไม่รู้แม่งรู้สึกซังกะตายไปหมดล่ะจับอะไรมาก็รำคาญแม่งไปหมด
"เดียวจะถึงช่วงเก็บตัวมึงแล้วนิ"
"เออ"
"มึงหงุดหงิดอะไรไอ้วูฟ?"
ไอ้ทร็อตหันหน้ามามองผมด้วยสายตาที่เริ่มจะหงุดหงิดไม่ต่างกันแต่มันกลับทำให้ผมรู้สึกซังกะตายเข้าไปใหญ่ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่ตัวเองนั่งอยู่และเดินไปที่โซฟากลางอู่พร้อมกับทิ้งตัวลงนอนและถอนหายใจออกมาเสียงดัง
"สายตามึงเมื่อกี้รำคาญกูใช่ไหม?"
"..."
"มึงรำคาญกูใช่ไหมไอ้ทร็อต!!?"
"อาการมึงตอนนี้เหมือนตอนหนามเป็นประจำเดือนเลยรู้ไหม...จะชวนกูทะเลาะเพื่อ!!?"
"มึงมองกูเหมือนรำคาญกูแต่ทำไมก็ถึงไม่รู้สึกไม่ดีเลยว่ะ? ทำไมกูไม่รู้สึกอะไรที่มึงรำคาญกู?"
ไอ้ทร็อตอ้าปากมองผมอย่างทำอะไรไม่ถูกพร้อมกับร่างสูงของมันที่ลุกขึ้นและเดินมาหาผมพร้อมกับมองมาที่ผมอย่างไม่เข้าใจ มันกอดอกเอียงคอมองผมนิ่งจนผมทำอะไรไม่ถูก
"มึงอกหักอีกแล้ว?"
"อกหักเหี้ยไรของมึง!!?"
ผมตวาดกลับเสียงดังพร้อมกับดีดตัวลุกขึ้นอย่างเอาเรื่อง ไอ้ทร็อตมันหัวเราะออกมาเบาๆพร้อมกับพลักอกผมเต็มแรง
"ก็ไอ้ท่าทางแบบนี้แหละที่อกหัก หงุดหงิด หาเรื่อง และก็มากวนกูปกติมึงจะไม่โผหัวมาหากูแน่ถ้าไม่มีเรื่องอะไร!"
"พูดเชี้ยอะไรของมึง กูไปทำอะไรแบบนั้นตอนไหนอีกอย่างกูก็ไม่ได้อกหักโว้ย!!"
"ครั้งก่อนก็พูดแบบนี้"
"ไอ้ทร็อต!"
"หึ!"
"กูไม่คุยกับแม่งเหี้ยล่ะ รำคาญ!"
"มึงอกหัก"
"สัส!"
"จากเพื่อนหนามหรอว่ะ เธอคนนั้นหรอ?"
ผมหันหน้ากลับไปมองมันนิ่ง...ผมไม่ได้อกหักจากนลินบ้ารึไง! เราก็โอเคกันดีแต่ผมแค่รู้สึกเบื่อๆผมที่หงุดหงิดหงุดหงิดสายตานั้นที่มิวสิคมองมาที่ผม...ผมยกมือขึ้นขยี้ผมตัวเองอย่างแรงก่อนจะเดินออกมาจากอู่ไอ้วูฟทันที
"จะไปไหน??"
"ไปหานลิน!"
"เออ ไปคุยกันให้รู้เรื่องแล้วอย่าอกหักอีกล่ะ ^^"
ผมไม่ได้ตอบกลับอะไรไอ้ทร็อตแต่กลับเร่งฝีเท้าตัวเองไปที่รถและขับมันออกมาจากอู่มันอย่างรวดเร็ว ผมต้องไปหานลินผม...ผมต้องเจอเธอ แม่งเอ้ย!! ผมกัดริมฝีปากตัวเองก่อนจะบิดคันเร่งเพิ่มขึ้นเพื่อให้ถึงที่หมายให้เร็วขึ้น
---คอนโดนลิน---
ติ๊ง!
ผมก้าวขาตัวเองออกจากลิฟท์ทันทีก่อนจะเดินมาที่หน้าห้องของนลินพร้อมกับมองประตูตรงหน้านิ่ง ผมอยากเจอหน้าเธอผมอยากคุยกับนลิน คุยเหี้ยอะไรก็ได้ที่มันทำให้ผมไม่ต้องคิดถึงใครหน้าไหนอีก ผมยื่นมือตัวเองไปกดรหัสเข้าห้องเธออย่างเคยชินก่อนจะเปิดประตูเข้าไปทันที
แกร๊ง!
"ลิน...!!"
ขาของผมชงักอยู่กับที่ทันทีที่เห็นภาพตรงหน้าคิ้วของผมขมวดคิ้วหากันอย่างทำอะไรไม่ถูกหลังจากที่เปิดเข้ามาในห้องแล้วเจอว่านลินกำลังยืนจูบกับไอ้เตอร์แฟนที่มันบอกผมว่าเลิกไปแล้วอยู่
"อะไอ้วูฟ?"
"แม่งเอ้ย!!"
พรึ่บ!! พลั่ว!!
"โอ้ย!!"
"ไอ้วูฟอย่าทำเตอร์!!"
"มึงอย่ามาห้ามกูไหนมึงบอกกูว่ามันนอกใจมึง!!?"
"ยะอย่าทำมันกูรักมันกูขอร้องล่ะ!!!"
ผมหยั่งมือตัวเองที่กำลังจะซัดไอ้เตอร์ไว้อย่างทำอะไรไม่ถูก ผมหันไปมองนลินด้วยสายตาแข็งกร้าวแทบจะทันทีที่เธอว่าแบบนั้น นลินร้องไห้ออกมาพร้อมกับพยายามดึงผมออกห่างจากไอ้เตอร์ไปด้วย
"อึ่ก...กูขอ มันขอโทษกูแล้ว"
"แล้วมึงก็ให้อภัยมัน? มึงคืนดีกับมัน!!?"
"...อึ่ก กะกูขอโทษวูฟ"
ฟึ้บ!
ผมพลักไอ้เตอร์ลงกับพื้นเต็มแรงก่อนจะถอยออกมาพร้อมกับสายตาของผมที่กำลังมองไปยังนลินที่วิ่งเข้าไปหาไอ้เตอร์ทันทีที่ผมปล่อยแฟนมัน ผมกัดริมฝีปากตัวเองแน่นจนรู้สึกว่าเลือดออกขณะที่มือของผมก็ค่อๆยกขึ้นลูบใบหน้าตัวเองเพื่อสงบสติอารมณ์...ลินมันบอกกับผมว่ามันมีปัญหากับไอ้เตอร์เพราะมันนอกใจและมันเลิกกับไอ้เตอร์แต่ดูตอนนี้สิ่งดูมันทำกับผมสิ
"ไหนมึงบอกจะให้โอกาสกู?"
"..."
นลินหลบสายตาแข็งกร้าวของผมที่กำลังสบสายตากับเธออยู่ทันทีที่น้ำเสียงทุ้มต่ำของผมเอ่ยถามแบบนั้น มือของผมกำเข้าหากันแน่นอย่างทำอะไรไม่ถูกมันเจ็บเจ็บเหมือนโดนหักหลัง!
"มึงไม่ได้รักกูและไม่ได้จะให้โอกาสกูจริงๆใช่ไหม...มึงคบกูเพื่อรอผัวมึงกลับมาขอคืนดีใช่ไหม!!?"
"มึงไม่ได้รักกูหรอกวูฟ!!"
ผมเบิกตากว้างพร้อมกับมองนลินอย่างไม่เข้าใจ มันกำลังจะพูดอะไรของมัน!?
"มึงพูดบ้าอะไรของมึง?"
"มึงกลับไปถามใจตัวเองเถอะว่าที่จริงแล้วมึงรักใครกันแน่!"
"มึงอย่ามาเปลี่ยนประเด็น!"
"ถ้ามึงรักกูกูก็คบกับมึงแล้ววูฟ แต่มึงไม่ได้รักกูกูรู้!"
ผมขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างทำอะไรไม่ถูกพร้อมกับมองคนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ นลินดึงไอ้เตอร์ลุกขึ้นช้าๆทั้งที่สายตานั้นมันก็กำลังมองมาที่ผมอยู่มันมองมาที่ผมจนผมเองที่เป็นฝ่ายหันหนี
"มันไม่ใช่เรื่องยากที่เราสองคนจะคบกัน เราสามารถคบกันได้ตั้งนานแล้ววูฟแต่เป็นมึงเองที่ไม่อยากจะคบกับกู!"
"หุบปาก กูรักใครใจกูมันรู้ดี!!"
"มึงมันหลอกตัวเอง!"
"แม่งเอ้ย!!"
ผมตวาดลั่นเสียงดังจนไอ้เตอร์ต้องมาดึงนลินออกห่างจากผม ผมมองมันทั้งสองคนด้วยสายตาที่กำลังคลั่งก่อนจะหันหน้ากลับมาและก้าวออกมาจากห้องมันแทบจะทันที ผมเดินเข้าไปในลิฟท์พร้อมกับมือตัวเองที่ยกขึ้นขยี้ผมตัวเองอย่างทำอะไรไม่ถูก...มันเรื่องบ้าอะไรว่ะ ผมรักใครทำไมผมจะไม่รู้ผมรักนลินและเธอเป็นคนสำคัญของผมผมรักเธอ แต่แม่ง!ทำไมเหมือนว่าตอนนี้ผมกำลังทะเลาะกับตัวเองทำไมผมต้องพูดอะไรซ้ำซากทำไมผมต้องคอยย้ำกับตัวเองว่าผมรักใคร ผมกำลังเป็นบ้าอะไรอยู่ว่ะ!!?