บ่วงรัก รอยพิศวาส

เกาะ กรีนโรส รีสอร์ทหรูชื่อดังตั้งอยู่บนเกาะส่วนตัวที่มีบริการลูกค้าให้ประทับใจตั้งแต่ลงเรือไปที่เกาะ จัสมินจองวิลล่าขนาดกลางที่ยื่นออกไปในทะเลไว้ตั้งแต่เดือนก่อนมีวิลล่าสุดหรูริมทะเลและบางวิลล่าก็ยื่นออกไปในทะเลนอนฟังเสียงคลื่นอย่างเพลิดเพลิน ทุกวิลล่าจะมีสระน้ำเล็กใหญ่ต่างกันออกไปแต่ทุกที่มองออกไปเห็นท้องทะเลกว้างใหญ่ตลอดจนชายหาดส่วนตัวที่สวยงามและยังมีสระใหญ่อยู่ท่ามกลางวิลล่าน้อยใหญ่กว่าสามสิบหลังที่สงบร่มรื่นอิงธรรมชาติที่เจ้าของหนุ่มหล่อได้ปรุงแต่งน้อยที่สุดเพื่อรักษาป่าบนเกาะให้สมบูรณ์เหมือนเดิมมากที่สุดส่วนอีกฟากหนึ่งของเกาะก็เป็นบ้านพักของเจ้าของเกาะ สาวสวยลูกครึ่งหุ่นเซ็กซี่ขยี้ใจอกเป็นอกเอวเป็นเอวสะโพกงอนผายออกรับกับรูปร่างบอบบางอ้อนแอ้นของเธอได้อย่างลงตัวเดินขึ้นมาจากสระน้ำของรีสอร์ทหรูเรียกความสนใจจากหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ทั้งไทยทั้งฝรั่งที่มาว่ายน้ำและนอนอาบแดดมองตามเธอไปจนสาวสวยนอนอาบแดดที่เก้าอี้นอนของเธอที่มีบอดี้การ์ดร่างสูงและพี่เลี้ยงสาวสวยคอยดูแลอย่างไม่คาดสายตา จัสมิน เบอร์นัวต์ วรเกียรติสกุล วัย 27ปีสาวสวยจากสองตระกูลดังที่ไม่ค่อยได้ออกงานโชว์ตัวเหมือนสาวไฮโซทั้งหลายที่วันๆไม่ทำอะไรเตรียมตัวออกงานโชว์ตัวทุกวัน เธอและน้องชายไม่ชอบออกงานสังคมเหมือนม่ามี้ที่มักจะถูกแด๊ดดี้ขอร้องให้ไปด้วยทุกครั้งจึงไม่ค่อยมีใครรู้จักมาก จัสมินเรียนจบปริญญาตรีและโทจากมหาวิทยาลัยซื่อดังอันดับต้นๆของอังกฤษโปรไฟล์เยี่ยมยอดมากความสามารถ แล้วสองหนุ่มลูกครึ่งหน้าตาหล่อเหลาเหมือนกันแทบแยกไม่ออกเดินเข้ามาที่สระน้ำจนสาวๆถึงกับมองเหลียวหลังก็เห็นว่าหนุ่มแฝดสุดหล่อเดินไปหยุดที่เก้าอี้นอนของสาวลูกครึ่งสุดเซ็กซี่ที่ลุกขึ้นนั่งเมื่อพี่วินนี่บอกว่าน้องชายมาหาก็เห็นน้องชายทั้งสองเดินตรงมาหาเธอ “เจเจ้หนีมาเที่ยวคนเดียวอีกแล้วนะครับ” เจนิสสวมกอดพี่สาวและหอมแก้มนวลต่อว่าเล็กน้อยที่แอบหนีมาเที่ยวจนเขากับน้องชายถูกแด๊ดดี้ดุที่ปล่อยให้ลูกสาวคนสวยสุดรักสุดหวงมาเที่ยวโดยไม่ตามมาเป็นเพื่อน เจนิส เบอร์นัวต์ วรเกียรติสกุล วัย 20 ปี แฝดพี่ลูกชายสุดหล่อคนที่สองของแด๊ดดี้เบนกับม่ามี้ลีก้ากำลังเรียนปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยชื่อดังของเมืองไทย “แด๊ดดี้บ่นไม่หยุดเลยจนผมกับเจนิสต้องเผ่นมาหาเจเจ้ถึงเกาะนี่แหละ” จัสตินพูดจบก็นั่งลงคลอเคลียอ้อนพี่สาวคนสวยที่ยิ้มหวานให้น้องชายคู่แฝดจอมป่วนของเธอที่หวงพี่สาวไม่ต่างจากแด๊ดดี้ จัสติน เบอร์นัวต์ วรเกียรติสกุล วัย20ปีแฝดน้องลูกชายคนที่สามของแด๊ดดี้เบนกับม่ามีลีก้า เรียนทีเดียวกันกับเจนิสแต่คนละสาขา “เจเจ้รู้ไงว่าเดี๋ยวพวกนายก็ตามมาเองก็เลยไม่บอก แล้วมาแค่สองคนเหรอ” เจเจ้คนสวยถามน้องชายเมื่อไม่เห็นบอดี้การ์ดของน้องชาย “โรมันกับหลุยส์เอาของไปเก็บครับ ผมโทรหาพี่วินนี่บอกว่าเจเจ้อยู่ที่สระก็เลยแวะมานี่ก่อนครับ” จัสตินตอบพี่สาวแล้วล้มตัวลงนอนแทนที่ “นี่ จัสตินลุกเลยไปเปลี่ยนชุดว่ายน้ำแล้วลงมาเล่นน้ำกันเร็วๆเลย” หญิงสาวบอกน้องชายคนเล็กที่ขี้อ้อนไม่เหมือนเจนิสที่ชอบทำตัวเหมือนพี่ชายคนโตมากกว่าเป็นน้องชายของเธอ “โธ่ เจเจ้ จัสตินยังเหนื่อยอยู่เลยนะครับ นั่งเครื่องมาถึงภูเก็ตแล้วยังต่อเรือมาที่เกาะอีกขอนอนดีกว่าครับ นายว่ายน้ำเป็นเพื่อนเจเจ้สิเจนิส” จัสตินโบ้ยไปให้พี่ชายเพราะเมื่อคืนเขาก็ไปเที่ยวกับเพื่อนมากลับดึกเช้ามาเจนิสก็ลากตัวขึ้นเครื่องมาหาพี่สาวที่ภูเก็ตอีกเขาจึงอยากนอนมากกว่า “ก็ได้ งั้นนายอยู่เป็นเพื่อนเจเจ้ก่อนนะฉันไปเปลี่ยนชุดก่อน” เจนิสเห็นสายตาหนุ่มๆที่มองเจเจ้ของเขาแล้วกวาดตามองจนทำให้หนุ่มๆไม่กล้ามองเพราะสาวสวยมีสองหนุ่มหล่อมาคลอเคลียและยังบอดี้การ์ดติดตามน่าจะไม่ธรรมดา “จัสตินทาครีมกันแดดให้หน่อยสิ” จัสมินยื่นหลอดครีมกันแดดให้น้องชายแล้วหันหลังให้เขาโดยมีสายตาของหนุ่มๆที่ว่ายน้ำและนอนอาบแดดรอบสระมองจัสตินด้วยความอิจฉา เมื่อเจนิสเปลี่ยนชุดกลับมาจัสตินก็กลับห้องพร้อมกับหลุยส์บอดี้การ์ดของเขาปล่อยให้พี่สาวอยู่ในความดูแลของแฝดพี่สองพี่น้องว่ายน้ำเสร็จก็มานอนอาบแดด “เจเจ้ว่าผมจะไปเรียนต่อที่ไหนดีครับ ระหว่างอังกฤษกับอเมริกา” เจนิสถามพี่สาวเพราะจัสมินจบมาจากอังกฤษตอนเด็กๆพวกเขาอยู่ที่เสปนและเรียนที่สเปนก่อนกลับมาเรียนต่อที่เมืองไทยจนจบเกรดสิบสองส่วนจัสมินไปเรียนตอนอายุสิบสองจึงทำให้พวกเขาพูดได้ถึงห้าภาษา ตอนนี้แด๊ดดี้กับม่ามี้ก็ไปๆมาๆระหว่างเมืองไทยกับสเปนและให้ลูกสาวเข้ามาเรียนรู้งานในโรงแรมตั้งแต่เรียนจบมาแล้วตอนนี้มัลลิกาก็มอบหมายให้จัสมินบริหารต่ออย่างเต็มตัวส่วนบริษัทนำเข้ารถหรูโทมัสก็ดูแลสลับกับเบนจามินเพราะ เจนิส จัสติน ยังต้องไปเรียนต่ออีกหลายปีกว่าจะมารับช่วงต่อจากแด๊ดดี้และอาโทมัสที่มีแต่ลูกสาวส่วนพ่ออดัมของจัสมินก็ไม่ยอมแต่งงานและดูแลบริษัทในอเมริกาส่วนมามาร์โก้ก็แต่งงานกับสาวฝรั่งเศสและดูและบริหารบริษัทรถหรูในโซนยุโรปทั้งหมด “แล้วเจนิสอยากเรียนอะไรล่ะ” “ผมอยากเรียนวิศวะครับแต่ยังเลือกไม่ได้แด๊ดคงอยากให้ผมเรียนเหมือนท่าน” เจนิสพูดแล้วครุ่นคิดเพราะยังไงเขากับจัสตินต้องมาบริหารงานต่อจากแด๊ด “เจนิสก็เลือกก่อนว่าอยากเรียนอะไรทุกสถาบันก็ดีเหมือนกันหมดอยู่ที่เราเลือกแค่นั้นเองจ้ะ” “แล้วทำไมเจเจ้เลือกไปเรียนที่อังกฤษล่ะครับ.” “เจเจ้ก็เลือกสาขาที่ชอบและศิษย์เก่าของแคมบริจด์ก็ประสบความสำเร็จกันเยอะแยะมากมายไงและเจเจ้ก็อยากเป็นหนึ่งในนั้นด้วยก็เลยเลือกเรียนที่นี่แต่เราต้องขยันมากเพราะมหาวิทยาลัยระดับโลกมีการแข่งขันกันเยอะไม่ใช่ว่าใครจะเข้าเรียนได้ง่ายๆ” จัสมินบอกน้องชายเพราะตั้งแต่เธอโตมาจำความได้ทุกคนในบ้านก็ทำงานกันหมดและเธอก็ซึมซับมาจากทุกคนทั้งคุณตาทวดคุณยายทวดที่ตอนนี้พวกท่านไปอยู่บนสวรค์กันหมดแล้ว “งั้นผมรู้แล้วครับว่าผมจะไปเรียนต่อที่ไหน” เจนิสบอกพี่สาว “แล้วจัสตินล่ะคงตามเราไปเหมือนเดิมล่ะสิ” เธอรู้ว่าน้องชายทั้งสองคนไม่เคยห่างกันได้นานเพราะพวกเขาเป็นคู่แฝดก็ได้จึงได้ทำหรือเลือกอะไรที่คล้ายๆกันเธอหวังว่าน้องชายทั้งสองจะไม่เลือกผู้หญิงคนเดียวกัน วันต่อมาสามพี่น้องก็ล่องเรือยอชน์ลำหรูไปดำน้ำดูปาการังและอาบแดดกันอย่างสนุกสนานจนถูกแด๊ดดี้โทรมาเรียกตัวกลับเพราะเที่ยวกันจนเพลินเกินไปแล้ว “เจเจ้เมื่อไหร่จะพาน้องกลับลูก แด๊ดดี้คิดถึงนะครับ” เบนจามินถามลูกสาวคนสวยของเขาและยังเรียกลูกสาวว่า เจเจ้เหมือนกับลูกชายและหลานๆเมื่อก่อนมีจัสมินเป็นหลานคนเดียวทุกคนก็เรียกเธอว่ายัยหนูจนติดปากแต่พอมีน้องๆ เด็กหญิงจัสมินก็อยากเป็นเจเจ้เหมือนเพื่อนทุกคนจึงตามใจและเรียกกันมาตลอดจนทุกวันนี้ แต่มัลลิกายังเรียกยัยหนูของเธอเหมือนเดิมมีบ้างที่เรียกเจเจ้ตามลูกชายและหลานๆจัสมินเป็นพี่สาวที่ดูแลน้องๆได้ดีมากเข้มงวดเป็นบางเรื่องจนสองแฝดเรียกเจเจ้ลับหลังว่าแม่คนที่สองเพราะจัสมินแก่กว่าน้องชายถึงเจ็ดปีและเธอก็เป็นหลานสาวคนโตของ วรเกียรติสกุลกับเบอร์นัวต์ ที่ร่ำรวมหาศาล “กลับเย็นนี้ค่ะแด็ดดี้ พรุ่งนี้ไปเดินแบบงานการกุศลให้แม่นัตตี้ค่ะ” สาวสวยบอกแด๊ดดี้ที่รู้ว่าลูกสาวรักแม่นัตตี้ของเธอมากและนัตตี้ก็เป็นแม่ทูนหัวของสองแฝดด้วยเด็กๆก็เรียกแม่นัตตี้กันทุกคน “แด๊ดจะรอนะคะลูก.” เบนจามินวางสายจากลูกสาวก็โอบกอดภรรยาคนสวยและหอมแก้มนวลฟอดใหญ่ “คุณอัคร” มัลลิกาปรามสามีเพราะคนในบ้านทำความสะอาดเห็นเจ้านายหวานกันก็หัวเราะคิกคัก มัลลิกาในวัยห้าสิบยังสวยเหมือนเดิมเธอดูแลตัวเองดีมากขนาดลูกสามแล้วหุ่นอวบอั๋นเต็มไม้เต็มมือมากขึ้นกว่าเดิม (สามีคอนเฟริม) เบนจามินในวัยห้าสิบปลายๆยังหล่อแซ่บเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือหื่นขึ้นขี้หึงขึ้นมากกว่าเดิมเพิ่มเติมกลัวเมียเป็นอันดับหนึ่งจนเพื่อนๆยกให้เป็นหัวหน้ากลุ่มรักและเคารพเมีย “โธ่ลีก้าครับ พวกเขาเห็นจนเบื่อแล้วครับ.” เบนจามินรู้ว่าภรรยาไม่ชอบให้เขาทำประเจิดประเจ้อแต่ไม่เคยห้ามเขาได้เลย แต่เขาก็แค่หอมแก้มและแอบจุ๊บเป็นบางครั้งเท่านั้นเอง “ลิกาห้ามคุณอัครจนลูกโตเป็นสาวเป็นหนุ่มแล้วเคยฟังบ้างมั้ยคะ” มัลลิกาถามสามีที่ยิ้มใส่ตาเธออย่างมีความหมายจนม่ามี้คนสวยหน้าแดง “เฮ้ นี่จะเล่นเกมจ้องตากันอีกนานมั้ยเบนฉันจะได้กลับไปสวีทกับเมียก่อน” คุณลุงดลสุดหล่อของหลานๆที่สนับสนุนหลานชายหลานสาวและลูกสาวลูกชายของตัวเองเล่นกีฬาผาดโผนทั้งต่อสู้ทั้งยิงปืนบอกเอาไว้ป้องกันตัวแล้วเด็กๆก็ชอบกันซะด้วยนำทีมโดยเจเจ้คนสวยที่ลุงดลสอนมากับมือ “งั้นก็กลับไปสิ ฉันจะพาเมียขึ้นห้อง โอ้ยย เจ็บนะครับเบบี้..” เบนจามินพูดจบก็มีเสียงดังเพี้ยะด้วยฝีมือของมัลลิกาที่ตีแขนสามีเพราะพูดให้เธออายพี่ชาย “ฮ่าฮ่าๆ สมน้ำหน้า” ธนดลหัวเราะเพื่อนที่เปลี่ยนไปมากตั้งแต่แต่งงานกับน้องสาวของเขาจากหน้ามือเป็นหลังมือ “ไปคุยในห้องทำงานเถอะเพื่อน ผมไปคุยงานกับนายดลแป้บหนี่งนะครับเบบี้ จุ๊บ.” พูดจบเขาก็หอมแก้มภรรยาคนสวยอีกครั้งแล้วผิวปากเดินนำหน้าธนดลไปที่ห้องทำงานเพื่อคุยเรื่องรถรุ่นใหม่ที่กำลังผลิตและจะเปิดตัวในปลายปีนี้ “คนบ้านี่ชอบทำให้อายอยู่เรื่อยเลย” มัลลิกาบ่นเบาๆ “น้องลิกายังไม่ชินอีกเหรอคะ อิอิอิ..” อ้อย หรือป้าอ้อย พี่เลี้ยงวัยหกสิบกว่าของลูกๆทั้งสามแซวเจ้านายคนสวยแม้จะผ่านไปยี่สิบกว่าปีเจ้านายของเธอก็ยังสวยเหมือนเดิม “เจ้านายของพี่อ้อยนี่ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุเลยค่ะ” มัลลิกาพูดถึงสามีแล้วยิ้มทำให้พี่อ้อยยิ้มตามที่เห็นเจ้านายมีความสุขเพราะพี่อ้อยไม่ยอมแต่งงานอยู่ดูแลลูกๆของมัลลิกาจนโตเป็นหนุ่มเป็นสาวและเป็นเหมือนญาติกันไปแล้ว ในวิลล่าหรูสามพี่น้องนอนเล่นกันที่สระว่ายน้ำและคุยกันเพราะไปเล่นน้ำที่ชายหาดมากันจนเหนื่อยจึงมาอาบนำ้และนอนเล่นกัน “กำลังสนุกเลยแด๊ดดี้ไม่น่าโทรมาตามเลยเนาะเจนิส” จัสตินพูดกับแฝดพี่เพราะกำลังสนุกและเขากำลังตามจีบบาร์เทนเดอร์สาวสวยอยู่ “ไม่ได้พรุ่งนี้พวกเราต้องไปเดินแบบให้แม่นัตตี้ พวกนายก็ต้องกลับด้วยเข้าใจ๋” จัสมินบอกน้องชายคนเล็กที่หาพวกจะอยู่เที่ยวต่อ “ครับผมเจเจ้” จัสตินต้องยอมให้พี่สาวไม่งั้นเธอจะงอนอีกถ้าเขาไม่ฟังและง้อยากมาก “ไปกินข้าวกันดีกว่าเจเจ้หิวแล้วอ่ะ” จัสมินชวนน้องชายลงไปกินข้าวกลางวันก่อนจะกลับมาเก็บของเพื่อกลับกรุงเทพแล้วเธอค่อยมาเที่ยวอีกเพราะที่นี่สวยบรยากาศดีเป็นส่วนตัวและพนักงานดูแลบริการดีมาก สามพี่น้องและบอดี้การ์ดเดินเข้ามาในห้องอาหารที่มีแต่เศรษฐีไฮโซดาราคนดังที่มาพักรีสอร์ทหรูต่างมองกันเป็นตาเดียวและหนึ่งในนั้นก็คือ เจ้าของรีสอร์ทหรูหรือเจ้าของเกาะสุดหล่อที่สะดุดตาสะดุดใจสาวสวยตั้งแต่วันแรกที่เธอมาถึงและแอบมองเธอเหมือนโรคจิตเลย “ทุกคนจะกินอะไรก็เลือกกันเองนะคะ” จัสมินบอกน้องชายและบอดี้การ์ดส่วนตัวของเธอและน้องชายที่ดูแลเป็นพี่เลี้ยงมาตั้งแต่จัสมินอายุสิบสองและสองหนุ่มก็เหมือนกัน “มาทะเลก็ต้องกินอาหารทะเลสิครับเจเจ้” จัสตินพูดขึ้นมา “นายก็พูดอย่างนี้ทุกมื้อตั้งแต่มาถึงแล้วนะจัสติน” เจนิสผู้เงียบขรึมว่าคู่แฝดตัวเองและรู้ว่าจัสตินชอบอาหารทะเลมากที่สุดพอๆกับจัสมินที่ชอบกินกุ้งตัวโตๆ “ขอล็อบเตอร์อบชีส กับน้ำมะนาวค่ะ.” จัสมินเลือกเมนูที่เธอชอบ “ผมขอล็อบเตอร์ซาซิมิ กับน้ำมะนาวครับ” จัสตินเห็นพี่สาวกินล๊อบเตอร์เขาก็อยากกินด้วย “ผมขอเหมือนเจเจ้ครับ” เจนิสบอกพี่สาวแล้วทุกคนเลือกเมนูที่ชอบ เมื่อสั่งอาหารเสร็จก็คุยกันถึงเรื่องเดินแบบในวันพรุ่งนี้ที่พวกเขาต้องไปเดินด้วยตามคำขอของแม่นัตตี้และเป็นบอดี้การ์ดให้พี่สาวและธนิดาหรือน้องดาลูกสาวลุงดลที่กลายเป็นน้องทั้งที่แก่กว่าสองแฝดไปห้าเดือน ทำให้หนุ่มหล่อที่จงใจนั่งโต้ะหันหลังชนกับสามพี่น้องรู้ว่าสองหนุ่มแฝดลูกครึ่งไม่ได้เป็นแฟนของสาวสวยลูกครึ่งที่เขาสนใจจึงยิ้มกว้างอยางพอใจหลังจากที่ชายหนุ่มเจาะจงมานั่งใกล้ๆและรู้ว่าเขาจะต้องเข้ากรุงเทพเพื่อไปดูแฟชั่นโชว์สักหน่อยแล้ว