บทนำ
บทนำ
เสียงลมหายใจผายออกดังในขณะที่หญิงสาวนั่งก้มหน้าอยู่กับหน้าจอมือถือตนเอง มือน้อยเขี่ยหน้าจอไปมาด้วยความหงุดหงิดและเครียดกับดราม่าที่เจอ
"แล้วแกจะเอายังไงมินตรา...ถ้าปล่อยไปแบบนี้เจ้าของโรงงานเขาได้ฟ้องเราอย่างแน่นอน" เสียงหวานของเพื่อนสนิทดังขึ้นจากทางด้านข้างในขณะที่เธอกำลังรินน้ำใส่แก้วให้กับเพื่อน
มินตราเงยหน้าขึ้นส่ายหน้าไปมา เธอครวญคิดอยู่หลายวันว่าควรจัดการกับคนพวกนี้อย่างไร แต่จะจับมือใครดมก็ไม่ได้จับมือคนทำก็อยาก
"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพวกมันต้องการอะไรมันเอาคลิปของฉันไปตัดต่อ แล้วก็เอาเสียงใครมาพูดก็ไม่รู้และเสียงผู้หญิงคนนั้นดันเหมือนฉันอีกนะ"
"ก็ใช่ไง...คือคนทั้งโซเชียลก็คิดว่าเป็นแกประจานสินค้าเขาอะ คือความเสียหายมากนะ แกจะถูกเขาฟ้องและผู้ชายในโซเชียลก็จะมองว่าแกเป็นผู้หญิงที่อึ่ม อย่างนั้นน่ะ!"
"พริตตี้มีตั้งเยอะแยะทำไมต้องเป็นฉันด้วยเนี่ย"
"ก็เพราะว่ามีคนจ้องเล่นงานแกไง อย่าให้รู้นะว่าเป็นใคร! แล้วเอายังไงเย็นนี้แคนเซิลไหม??"
"ที่ฉันนั่งกลุ้มใจอยู่เพราะอะไรรู้ป่ะเหมียว" มินตราเอ่ยถามเหมียวเพื่อนสนิทของตนเอง แต่ได้คำตอบจากเหมียวคือการยักไหล่ให้
"โนว่! ไม่รู้มีอะไรเหรอ"
"ก็งานของเราในวันนี้ที่จ้างเราคือเจ้าของผลิตภัณฑ์ที่ฉันถูกแอบอ้างนี่แหละ"
ดวงตาคู่น้อยของเหมียวเบิกกว้างทันทีพร้อมกับกลืนน้ำลายลงคอด้วยความตกใจที่เพิ่งรู้จักเพื่อน
"ฉิบหายละ! แล้วแกจะไปยังไงมินตราเขาไม่ฆ่าแกทิ้งเหรอ??"
"เหมียว...ถ้าเกิดเจ้าของสินค้าเขาโกรธในคลิปปลอมๆ นั้นจริงเขายังจะเอาฉันไปเป็นพรีเซนเตอร์ในงานเขาอีกเหรอ แกลองคิดดีๆ สิ" มือน้อยของเหมียวจับเข้ายังปลายคางของตนเองและครวญคิดในคำพูดของเพื่อน
"มันก็จริงนะ...หรือว่าเขาไม่เชื่อ"
"ไม่รู้ดิ...ทำไมตาขวาถึงกระตุกขนาดนี้ก็ไม่รู้หรือว่าเขาจะหลอกเราไปเล่นงาน"
"มันก็มีให้คิดหลายอย่าง แต่ฉันว่าแกให้คนอื่นไปแทนเถอะ ทีมในกรุ๊ปของเรามีเพื่อนตั้งหลายคนนี่"
"ไม่ได้! งานนี้อาจจะช่วยฉันก็ได้ถ้าเจ้าของเขาไม่เชื่อและออกมายืนยันให้ว่าคลิปวิดีโอนั้นไม่ใช่ฉัน เขาอาจจะใจดีช่วยก็ได้ แล้วแกลองคิดดูสิ ถ้าข่าวในโซเชียลยังว่อนขนาดนี้ต่อไปใครจะจ้างงานฉัน"
"ชีวิตจริงไม่ใช่ในนิยายนะเว้ย!ที่แกจะไปเจอผู้ชายหล่อรวยมีฐานะมีอำนาจช่วยไว้"
"ก็ถ้าไม่ใช่ผู้ชายอย่างในนิยายถือซะว่า ฉันไปเผชิญความจริงก็ได้ ฉันบริสุทธิ์ใจว่าฉันไม่เคยทำงานแบบนั้นและที่สำคัญไม่เคยใส่ร้ายสินค้าของใคร"
"ก็คงขัดอะไรเธอไม่ได้หรอก ไปหาอะไรกินกันเถอะ ตอนเย็นจะได้ไปทำงานหวังว่าพริตตี้เบอร์หนึ่งจะไม่ตุยนะฮ่าๆ"
คิ้วน้อยขมวดเข้าหากันมองเพื่อนที่ลุกขึ้นยืนและทำท่าวิ่งหนี
"ไอ้เหมียวนี่ให้กำลังใจหรือว่าแช่งกันแน่เนี่ย" ทั้งสองคนหัวเราะและวิ่งหยอกกันดั่งกับเด็กน้อย เธอใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันมาเป็นปีหลังจากที่ทั้งสองคนได้ร่วมเข้างานเดียวกันหรือเป็นพริตตี้ในสังกัดเดียวกันก็กลายเป็นเพื่อนสนิทที่ไว้วางใจกันมาโดยตลอด
ณ.ช่วงเวลางาน
19:00 น.
บริษัท เอสเอ็มวี พีรีพอร์ต เป็นบริษัทพริตตี้ขนาดใหญ่ที่รูปรวมพริตตี้ระดับนัมเบอร์วันของประเทศได้รับงานนี้และถูกย้ำว่าต้องการให้พริตตี้เบอร์หนึ่งไปงานนี้
"สวัสดีค่ะบอสเอ๋" เจ้าของบริษัทชื่อว่า 'คุณเอ๋' เดินตรงเข้ามาหามินตรากับเหมียวด้วยสายตาที่ไม่พึงพอใจเพราะหลายวันมานี้บอสของเขาเครียดในเรื่องคลิปที่ถูกประจานทั้งๆ ที่ไม่ใช่เรื่องจริงแต่ไม่สามารถปิดข่าวได้
"ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอมินตรา"
"ค่ะบอส" เอ๋เจ้าของสังกัดยืนกอดอกมองมินตราก่อนที่จะเอ่ยพูดว่าต้องการคุยเป็นการส่วนตัวและเขานั้นเดินก้าวไปทางด้านหลังเพื่อไม่ให้ใครเห็นและได้ยินในสิ่งที่กำลังจะพูด
"มีอะไรหรือเปล่าคะบอส"
สายตาคู่นั้นจับจ้องมองมินตราก่อนที่จะผายลมหายใจออกมา เขาเป็นคนปั้นมินตราขึ้นมาเป็นพริตตี้พร้อมทั้งดูแลทุกอย่าง
"เรื่องของเธอมันแดงและไม่สามารถปกปิดได้ สิ่งเดียวที่เธอจะทำให้มันหายคือพิสูจน์ความจริง" คิ้วน้อยของตัวเล็กนั้นขมวดเข้าหากันไม่เข้าใจในคำพูดของบอส
"พูดตรงๆ เลยค่ะบอส"
"คุณศิลาเขาจะฟ้องเธอเพราะว่าเรื่องข่าวนั้นที่คิดว่าเธอเป็นคนทำจริงๆ และคิดว่าผู้หญิงในคลิปเป็นเธอมินตรา แล้วรู้ไหมว่าในตอนนี้อันดับและชื่อเสียงของเธอเริ่มตก งานที่ได้รับมาถูกแคนเซิลออกไปหมดเหลืองานนี้เพียงแค่งานเดียว" หัวใจของมินตราเหมือนตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม ทั้งๆที่งานของเธอนั้นล้นไปถึง 3 ปี ข้างหน้าแต่อยู่ๆ ในวันนี้งานพวกนั้นถูกยกเลิกหมด
"แล้วทำไมวันนี้คุณศิลาเขายังจ้างมินตรามาล่ะ"
"แล้วเธอเคยเจอคุณศิลาไหมล่ะ?" มินตราส่ายหน้าให้กับบอสตนเองที่เอ่ยถาม เธอไม่เคยเจอคุณศิลาได้เพียงแต่เห็นเขาในภาพหรือในหน้าจอทีวีเท่านั้น
"ไม่เคยเจอตัวจริงค่ะ"
"คุณศิลาไม่ใช่คนธรรมดา ครอบครัวของเขามีหน้ามีตาพ่อของเขามีอิทธิพลส่วนแม่ของเขาก็เป็นถึงคุณหญิง เขาไม่ปล่อยให้เรื่องนี้อื้อฉาวอย่างแน่นอนธุรกิจของลูกเขากำลังไปได้ดีและอยู่ๆ มีผู้หญิงคนหนึ่งที่มาทำให้ธุรกิจลูกเขาล้มเธอคิดดูสิมินตรา"
"ก็มินตราไม่ได้ทำนี่คะบอส มินตราไม่รู้จะพิสูจน์ยังไงพูดไปก็ไม่มีใครเชื่อเพราะมันตัดคลิปวิดีโอนั้นได้เหมือนจริง เหมือนจริงซะจนแยกไม่ออก! มินตราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไปเหยียบหางใครไว้ทำไมเขาถึงทำร้ายมาแบบนี้มันลอบกัดยิ่งกว่าหมาอีกอะ"
ดวงตาคู่น้อยเต็มไปด้วยน้ำตาที่เอ่อล้นเธอเปล่งเสียงบอกความจริงกับบอส
"ต่อให้เธอพูดแบบนี้ร้องไห้ผ่านโซเชียลต่างๆ ก็ไม่มีใครเชื่อหรอก เขาเชื่อในสิ่งที่เห็น! แต่า..มีทางเดียวที่เธอจะทำให้เรื่องนี้เงียบหายไปได้และคุณศิลาไม่โกรธเธอได้!!"
ในขณะที่มินตราร้องไห้อยู่นั้นเธอขมวดคิ้วเข้าหากันและเงยมองหน้าเอ๋บอสตนเอง
"อะไรเหรอคะ?"
"เธอก็ให้เขาพิสูจน์สิว่าเธอยังบริสุทธิ์!"
"ห๊ะ!! บอส!"
"มีทางเดียวนะมินตราที่เป็นตัวเลือกสุดท้าย และถ้าเกิดคุณศิลาเขาฟ้องแน่นอนที่เธอจะต้องติดคุกเพราะฉันก็ช่วยเธอไม่ได้มินตรา"
ผู้จัดการของเธอนั้นเดินหันหลังและกลับเข้าไปในงานปล่อยให้มินตรายืนค้างกับคำพูดของเขาที่แนะนำ
"ฉันต้องเอาตัวเข้าแลกเพื่อให้เขาพิสูจน์จริงๆหรอ?
ร่างบางยืนพูดบ่นพึมพำกับตนเองควรคิดหาวิธีอื่นก็หมดหนทาง