ตอนที่ 2
"อ้าวเชิญนั่งๆ ตามสบายนะครับคนกันเอง" ป๊ะป๋าเอ่ยชวนคุณพ่อคุณแม่บ้านโน้น แล้วก็พี่เก้านั่งลงที่โซฟาภายในห้องนั่งเล่น ส่วนฉันก็นั่งหน้าหงิกอยู่ตรงนี้นี่แหละ ก็ฉันกำลังพูดอยู่ๆ ก็มีแขกมาบ้านแล้วอย่างนี้จะรู้ได้ยังไงว่าจะได้ไปหรือไม่ได้ไป
"คุณตาคุณยายขาาา สวัสดีค่าาา" น้ำฟ้าหลานสาวเพียงคนเดียวของบ้านวิ่งเข้ามาหาคุณตากับคุณยายของแกพร้อมพี่แพร
"โอ้โหคนสวยของตา ตากับคุณยายมีขนมกับตุ๊กตามาฝากด้วยนะ" ตอนนี้ไม่มีใครสนใจฉันเลย ฉันกลายเป็นธาตุอากาศไปแล้ว
"แล้วนั่นเป็นอะไรล่ะ นั่งหน้าบูดเลย" คุณแม่ที่มาใหม่หันมาทางฉันแล้วถามขึ้น ขอบคุณนะคะที่ยังเห็นหนูนั่งอยู่ตรงนี้
"ยัยไอน่ะเหรอ กำลังอ้อนมามี้ขอออกไปอยู่คอนโดน่ะสิ แต่มามี้ไม่ให้ไป หน้าก็เลยเป็นแบบที่เห็นนี่แหละครับพี่" ป๊ะป๋ากำลังอธิบายถึงสีหน้าของฉันที่แสดงออกอยู่ตอนนี้ ให้กับคุณพ่อคุณแม่ของบ้านโน้นฟัง ส่วนพี่เก้าที่มาด้วยตอนนี้ฉันไม่รู้ว่าเขาทำหน้ายังไง เพราะฉันนั่งก้มหน้าอยู่ ไม่ได้มอง แต่เขาก็คงทำหน้านิ่งๆ เหมือนอย่างเคยนั่นแหละ
"อ้าวทำไมล่ะลูก" คุณแม่บ้านดองถามขึ้น ฉันก็เลยเงยหน้าขึ้นไปมองท่านพร้อมกับพนมมือไหว้ท่านทั้งสองแบบไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่นัก ก็ฉันกำลังถูกขัดใจอยู่นี่ จะให้อารมณ์ดีได้ยังไงล่ะ
"ช่วงนี้หนูเรียนหนักค่ะ อยากจะหาที่อ่านหนังสือเงียบๆ" ฉันก็เลยบอกเหตุผลข้อแรกไป เพราะเหตุผลของฉันมีเยอะมาก
"วัยรุ่นก็อย่างนี้แหละค่ะ อยากมีพื้นที่ส่วนตัวเป็นของตัวเอง น่าจะลองให้แกไปใช้ชีวิตดูนะคะ" ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองคุณแม่ที่กำลังพูดอยู่ คือพูดได้ดีมาก ขอบคุณมากนะคะที่เข้าใจหนู
"จริงด้วยค่ะคุณแม่ ไออยากอยู่แบบเงียบๆ ฟังเพลงอ่านหนังสือ นะคะมามี้" เมื่อได้โอกาส ฉันก็ต้องรีบพูดแหละ
"แต่มามี้เป็นห่วงนี่คะ" มามี้ยังคงไม่ยอมง่ายๆ ฉันคงหมดสิทธิ์แล้วแหละ เฮ้ยยยย...
"เอ่อมามี้ครับ บังเอิญว่าคอนโดของผมอยู่ที่เดียวกันกับคอนโดของพี่เก้าเลยครับ ถ้ามามี้เป็นห่วงยัยไอ ให้พี่เก้าช่วยดูยัยไอให้ดีไหมครับ" โอ้...พี่ชายฉัน ฉันเริ่มมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง และเมื่อพี่เกียร์พูดจบ ทั้งหมดก็หันไปหาพี่เก้าเป็นสายตาเดียว ทำให้พี่เก้าที่นั่งฟังอยู่เฉยๆ ถึงกลับทำตัวไม่ถูก
"เออ…ครับๆ ผมช่วยดูแลน้องให้ก็ได้ครับ" ฉันยิ้มหวานให้พี่เก้าทันที แล้วเขาก็หันมาสบตากับฉัน แต่เขาก็ทำหน้านิ่งๆ เหมือนเดิมนั่นแหละ สงสัยจะยิ้มไม่เป็น แต่ช่างเถอะขอแค่ให้ฉันได้ออกไปลั้นลาก็พอ
“จะเป็นภาระให้เก้าหรือเปล่าจ๊ะ ลูกสาวมามี้ดื้อนะจะบอกให้” มามี้ทำท่าเหมือนจะเกรงใจพี่เก้า แถมยังบอกว่าฉันดื้ออีกด้วย แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยนะว่า ที่อยากออกไปก็เพราะไม่อยากอยู่ในสายตาของใคร อยากเป็นอิสระน่ะเข้าใจไหม พี่เก้าก็พี่เก้าเถอะขอบอกไว้ก่อนเลยว่าต่างคนต่างอยู่ ฉันไม่ต้องการให้ใครมาช่วยดูแลหรอก ฉันดูแลตัวเองได้ ก็บอกแล้วไงว่าโตแล้ว
"ไม่ต้องเกรงใจหรอกเนอะ ใช่ไหมครับพี่เก้า" เสียงพี่เกียร์เอ่ยขึ้น แล้วพี่เกียร์กับพี่เก้าก็มองหน้ากัน เหมือนมีอะไรกันสักอย่าง ส่งสายตากันแปลกๆ แต่ฉันก็ไม่อยากจะสนใจหรอก ขอแค่ให้ได้ไปอยู่ที่คอนโดก็พอ
"ครับ" พี่เก้าตอบสั้นๆ แต่ก็ได้ใจความดี
"มามี้ให้ไอไปนะคะ" ฉันรีบถามย้ำขึ้นอีกครั้งทันที คนเยอะๆ อย่างนี้ก็ดีมามี้อาจจะเกรงใจไหนๆ พี่เก้าก็รับปากแล้ว จะไม่ให้ไปก็จะกะไรอยู่
"ถ้างั้นมามี้ฝากน้องด้วยนะเก้า" เย๊!!! ในที่สุดฉันก็ได้ออกไปอยู่คอนโดแล้ว ฉันยิ้มแก้มแทบแตก แต่ก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรมากไปกว่ายิ้ม แต่ในใจนี่สิดีใจสุดๆ
"ครับ ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ เดี๋ยวผมจะช่วยดูแลน้องให้เองครับ" เสียงพี่เก้ารับคำอย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะ
"ถ้างั้นมามี้อนุญาตให้ไปก็ได้ แต่อย่าดื้อนักนะเราน่ะ มามี้ไม่ค่อยไว้ใจยิ่งซนๆ อยู่ด้วย" คำก็ดื้อ สองคำก็ซน รวมๆ แล้วก็บอกว่าฉันยังไม่โตนั่นแหละ ก็บอกแล้วว่าโตแล้วๆ
"ไชโย!!!! ขอบคุณมามี้มากนะคะ" ขอบคุณพี่เกียร์แล้วก็ขอบคุณพี่เก้าด้วย ถ้าไม่ได้พี่ๆ สองคนนี้ฉันคงไม่ได้ไปแน่ๆ เลย
"ดีใจขนาดนี้น่ากลัวจริงๆ" เป็นเสียงเข้มๆ ของป๊ะป๋า ฉันก็เลยต้องสงบเสงี่ยมลงทันที จากนั้นฉันก็ขอตัวออกไปจากตรงนี้ แล้วขึ้นห้องกำลังจะไปดูว่าจะเอาชุดอะไรใส่กระเป๋าไปไว้ที่คอนโดบ้างดี แบบว่าเห่อสุดๆ
ช่วงเวลาเย็นๆ ของวันอาทิตย์ฉันก็ย้ายไปนอนที่คอนโด โดยขนเสื้อผ้าไปสองกระเป๋าใหญ่ๆ มามี้มาส่งด้วยตัวเอง กำชับโน่นกำชับนี่อยู่พักใหญ่ แล้วท่านก็กลับไป ตอนนี้ก็เหลือแต่ฉันที่อยู่ในห้องนี้คนเดียวแล้ว ฉันเอนตัวนอนลงไปบนเตียงนอนนุ่มๆ อย่างรู้สึกสดชื่นสบายใจ เหมือนนกที่หัดบินใหม่ๆ เงียบสงบเป็นอิสระ และมีความสุขเพราะต่อไปนี้ฉันจะไม่ต้องโดนมามี้ปลุกให้ตื่นตอนเช้าอีกแล้ว ถึงฉันจะเป็นคนขี้เซาแต่ฉันก็รู้เวลาดี แล้วฉันก็หวนนึกถึงคำพูดในวันนั้น ที่บอกว่าคอนโดของพี่เก้าก็อยู่ที่นี่ คงไม่บังเอิญอยู่ตึกเดียวกันหรอกมั้ง เพราะคอนโดที่นี่มีตั้งหลายตึกคงไม่ซวยขนาดนั้น
"มีความสุขจริงโว้ยยยย" ฉันบ่นกับตัวเองแล้วยกมือถือขึ้นมาโทรหาเพื่อนๆ ของฉัน ฉันวิดีโอคลอหาเพื่อนสองคนในกลุ่ม แล้วก็อวดห้องสวยๆ กับพวกมันทันที ห้องนี้มีพื้นที่กว้างขวาง มีห้องนอนขนาดใหญ่พอสมควร มีห้องน้ำอยู่ภายในห้องนอน ห้องครัวที่จัดเป็นโซนแยกออกไปเป็นสัดส่วน ชัดเจน มีพื้นที่นั่งเล่น โซฟาขนาดกำลังดีกับสมาร์ททีวีจอน่าจะประมาณสี่สิบเก้านิ้วหนึ่งจอ จัดว่าโอเคมากๆ เฟอร์นิเจอร์ครบ เครื่องใช้ไฟฟ้าครบ มีพี่ชายมันดีอย่างนี้นี่เอง ตามลำพังฉันคนเดียวคงไม่ได้ออกมาอยู่อิสระแบบนี้แน่
“อุ๊ย! ห้องสวยไหนโชว์หน่อยซิ” ฉันมีเพื่อนที่สนิทมากๆ อยู่สองคน คนแรกชื่อเนตรดาว คนทีสองชื่อมะนาว แล้วไอ้เสียงเมื่อสักครู่นี้น่ะ เสียงไอ้เนตร
“สวยไหมๆ” ก็ฉันคุยเรื่องนี้กับเพื่อนของฉันมาหลายวันแล้ว พวกมันก็เลยอยากเห็นว่าห้องที่ฉันเคยคุยเอาไว้มันจะสวยขนาดไหน
“โห...สวยจริงว่ะ กว้างมากด้วย” ฉันค่อยๆ ขยับกล้องด้านหลังกวาดไปทั่วๆ ห้องจนครบทุกมุม
"ไปฉลองห้องใหม่กันไหม" มะนาวขาเที่ยว รีบเอ่ยชวนฉันกับไอ้เนตรทันที ก็มันน่ะขากิน ขาเทียวเลย ส่วนไอ้ฉันน่ะก็ชอบไปกับมันซะด้วยสิ
“ไปก็ไปดี๊” ฉันบอกพวกมัน แต่ต้องเป็นวันอื่นนะวันนี้คงไม่สะดวก เพราะตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว
“วันอื่นนะ วันนี้ดึกแล้ว” เป็นเสียงของไอ้เนตร ซึ่งฉันกับไอ้มะนาวก็เห็นด้วย จากนั้นฉันสามคนก็คุยกันต่ออีกสักพัก แล้วก็วางสายไป อาบน้ำนอน เพราะพรุ่งนี้ฉันมีเรียนแต่เช้า