ตอนที่ 1
ตอนที่ 1
(นพเก้า)
"เฮ้ยยยย!!" ผมนั่งทำงานไป ถอนหายใจไป เพราะอายุของผมเข้าเลขสามเรียบร้อยแล้ว แต่ผมก็ยังไม่มีแฟนกับเขาสักที มันก็ออกจะเหงาๆ หน่อยน่ะครับ เมื่อก่อนผมยังมีน้องสาวกับหลานสาวให้ดูแล แต่ตอนนี้น้องสาวกับหลานสาวของผม ได้ย้ายไปอยู่ที่บ้านน้องเขยของผมเรียบร้อยแล้ว ช่วงนี้ผมก็เลยเหงาๆ เป็นพิเศษ อยากจะหาแฟนสักคนแต่ก็ไม่รู้จะไปหาที่ไหน เพราะวันๆ ผมก็ทำแต่งาน งาน งาน แล้วก็งาน แต่น้องเขยของผมมันดันเสนอน้องสาวที่ยังเรียนไม่จบให้ผมจีบนี่สิ แล้วผมจะจีบเธอติดเหรอ อายุของเราห่างกันตั้งสิบปี แต่!! ไอ้เกียร์พี่ชายของเธอ น้องเขยของผมนั่นแหละครับ มันดันบอกว่าจะช่วย เออ! ก็ดีเหมือนกันลองดูก็ได้
"จะกลับคอนโดหรือกลับบ้านดีวะ" ผมบ่นกับตัวเองเบาๆ ถ้ากลับคอนโดก็อยู่คนเดียว ถ้ากลับบ้านก็ไปหาคุณพ่อกับคุณแม่ แต่ก็ไม่รู้จะคุยอะไรกับพวกท่านอยู่ดี เพื่อนๆ ของผมก็อยู่คนละทิศละทาง อีกคนอยู่เชียงใหม่ ชื่อไอ้ดิน (ปฐพี) อีกคนอยู่ภูเก็ตชื่อไอ้เสือ (พยัคฆ์) นานๆ ทีพวกมันถึงจะลงมากรุงเทพสักที
"กลับบ้านดีกว่าโว้ย" ในที่สุดผมก็ตัดสินใจกลับบ้าน อย่างน้อยก็ยังมีคุณพ่อกับคุณแม่ถึงไม่รู้จะคุยอะไรกับพวกท่าน แต่แค่ได้เจอหน้ากันก็ยังดี เพราะพรุ่งนี้เป็นวันหยุด ปกติวันทำงานผมจะพักที่คอนโดเพราะมันใกล้บริษัท ถ้าเดินทางจากบ้านไปบริษัททุกวันมันต้องใช้เวลา ไหนจะรถในกรุงเทพที่ติดอีก ผมก็เลยเลือกที่จะอยู่คอนโดมากกว่า ส่วนบ้านก็จะกลับเฉพาะเสาร์อาทิตย์เท่านั้น
ทางด้าน ไอยวริญ หรือ ไอรีน
ฉันเป็นลูกสาวคนเดียวของป๊ะป๋ากับมามี้ และยังเป็นลูกสาวคนเล็กอีกต่างหาก ฉันเป็นคนรักสนุกมีออกเที่ยวบ้าง ก็ฉันอายุยี่สิบแล้วนะ แต่มามี้ของฉันท่านบอกว่าฉันยังไม่โต อะไรกันสำหรับน้องเล็กของบ้านอย่างฉัน ฉันคงเป็นเด็กในสายตาพวกเขาเสมอสินะ แต่ฉันอยากพิสูจน์ว่าฉันไม่ใช่เด็กแล้ว แล้วฉันก็โตพอที่จะออกไปอยู่ข้างนอกคนเดียวแล้วด้วย ฉันมีความคิดที่อยากได้คอนโดของพี่เกียร์ พี่ชายคนโตของฉัน ไหนๆ พี่เกียร์เขาก็กลับมาอยู่บ้านแล้ว ถ้างั้นคอนโดที่ซื้อในราคาที่แพงแสนแพง ฉันขอก็แล้วกันทิ้งไว้ฝุ่นก็จะเกาะเอาเปล่าๆ เดี๋ยวฉันจะเป็นคนดูแลให้เอง
"พี่เกียร์ขาาา" ฉันเจอพี่ชายของฉันพอดี ฉันรีบปรี่เข้าไปแล้วทำเสียงใสทันที ก็ฉันกำลังจะขอคอนโดไง ก็ต้องมีปากหวานกันหน่อย
"ทำเสียงแบบนี้ต้องมีอะไรแน่ๆ" พี่เกียร์หรี่ตามองมาที่ฉันอย่างรู้ทัน
"โหรู้ใจอ่ะ" ฉันว่า...พี่ชายของฉันมักจะรู้ใจฉันดีแบบนี้เสมอ ก็ฉันเป็นน้องสาวของเขานี่ บอกเลยว่าพี่ชายทั้งสองคนของฉันนิสัยดีแล้วก็น่ารักกับฉันเสมอ
"ก็เราเป็นน้องพี่นะ เราอ้าปากพี่ก็เห็นไปถึงตับไตไส้พุงแล้ว อ้าวว่ามามีอะไร" พี่เกียร์ยืนเท้าเอวอย่างเข้ม อย่างหล่อก็ได้เอา ยืนดีๆ ไม่ได้หรือไงเล่า ฉันกลัวเหมือนกันนะ กลัวโดนเตะไง ก็โดนแกล้งมาตั้งแต่เด็กแล้วด้วยความที่เป็นน้องเล็ก
"คอนโดพี่…น้องขอนะ" ฉันบอกออกไปตามตรง จากที่มันยืนเท้าเอวอย่างเข้มๆ อยู่นั้น มันก็เปลี่ยนมาเป็นยืนกอดอกแทน ฉันก็เลยเลือกที่จะถอยหลังไปก้าวหนึ่ง แบบไม่ค่อยไว้ใจเท่าไหร่นัก กลัวมันไม่ให้ไง
"ขอกันง่ายๆ แบบนี้เลยเหรอ" พี่เกียร์หรี่ตาถามฉัน แล้วทำถ้าคิดอะไรในใจ มันคิดอะไรของมันวะ
"ก็พี่ไม่ได้อยู่แล้ว ตอนนี้ไอเรียนหนักมากเลย ไอขอนะคะ" ฉันทำหน้าเศร้าเล่าความเท็จทันที เรื่องจริงๆ ก็คือ ฉันอยากได้ความเป็นส่วนตัว ไปไหนทำอะไรจะได้ไม่ต้องมีคนคอยจับตาดู ฉันอยากจะตะโกนบอกป๊ะป๋ากับมามี้ของฉันว่า...ฉันโตแล้วนะ แต่ฉันก็ทำได้แค่คิดในใจเท่านั้นเพราะรู้ว่าพวกท่านเป็นห่วง
"ถามป๊ะป๋ากับมามี้ก่อนไหม ลูกสาวคนเดียวซะด้วย" พูดแบบนี้แสดงว่าให้แล้วใช่ป่ะ ฉันยิ้มกับคำพูดของพี่เกียร์ แต่ก็จริงอย่างที่พี่เกียร์พูด แล้วป๊ะป๋ากับมามี้จะให้ไปเหรอ ฉันเริ่มไม่แน่ใจ
"แต่ไอโตแล้วนะคะ พี่เกียร์พูดแบบนี้แสดงว่าให้คอนโดไอแล้วใช่ไหมคะ" พี่เกียร์ส่งยิ้มมา
“เย้!! ขอบคุณนะคะ พี่เกียร์ว่ามามี้จะไม่ให้ไอไปเหรอ” ฉันทำหน้ายู่ๆ
“พี่ว่าไม่ให้” ไม่ให้กำลังใจกันเล๊ยยยย
“ถ้างั้นพี่เกียร์ก็ช่วยน้องพูดหน่อยนะ ไออยากลองไปใช้ชีวิตดู ทุกคนจะได้รู้ว่าไอโตแล้ว” ฉันรีบขอร้องให้พี่เกียร์ไปช่วยพูดอีกเสียง เผื่อป๊ะป๋ากับมามี้อาจจะยอมก็ได้
“โตแต่ตัวล่ะสิไม่ว่า” ดูสิขนาดพี่ชายของฉันมันยังบอกว่าฉันยังไม่โตเลย อะไรกันฉันน่ะคับซีนะยะจะบอกให้ ชิ!
“พี่เกียร์นี่น้องนะ ไม่คิดจะให้กำลังใจกันหน่อยเหรอ” ฉันพูดพร้อมกับทำหน้างอนๆ ใส่พี่ชายของฉัน แต่ก็ไม่ได้จริงจังนัก
“อยากรู้ก็ลงไปถามสิ” ตอนนี้ฉันกับพี่เกียร์ยืนคุยกันอยู่ที่ชั้นบนของบ้าน ฉันก็เลยพยักหน้างึกๆ ชวนพี่เกียร์ให้ลงไปด้วยกัน จะได้ช่วยฉันพูดไง แล้วฉันก็เดินนำพี่เกียร์เดินเข้าไปหาป๊ะป๋ากับมามี้ ตอนนี้ท่านทั้งสองกำลังนั่งเล่นกันอยู่ที่ห้องนั่งเล่นชั้นล่างของบ้าน
“ป๊ะป๋า มามี้ ขาาาา คือ...” ฉันเริ่มรู้สึกไม่ค่อยกล้าที่จะพูดเท่าไหร่ เพราะปกติมามี้ก็ไม่ค่อยปล่อยฉันออกไปไหนอยู่แล้ว ส่วนป๊ะป๋าไม่เท่าไหร่ พี่ชายของฉันทั้งสองคนได้ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศกัน พี่เกียร์เรียนจบพึ่งกลับมาได้ไม่นานมานี้เอง ส่วนพี่ชายอีกคนยังอยู่ที่เยอรมัน ส่วนฉันเรียนที่เมืองไทย เป็นเพราะมามี้ขอป๊ะป๋าเอาไว้ มามี้บอกว่าเป็นห่วง ฉันเป็นลูกผู้หญิง แงๆๆ อยากจะร้องไห้ แต่ก็เอาเถอะ เรียนในเมืองไทยไม่ว่า แต่ขออิสระบ้างก็แล้วกัน
“คือน้องมาขอคอนโดผม ผมไม่ได้อยู่แล้ว จะขายก็เสียดาย เข้าไปอยู่ยังไม่ถึงเดือนเลย ผมก็เลยคิดว่าจะให้น้องครับ ป๊ะป๋ากับมามี้จะว่ายังไงครับ ถ้าน้องจะขอออกไปอยู่ที่คอนโดคนเดียว” พี่เกียร์คงเห็นว่าฉันอ้ำอึ้ง พี่เกียร์ก็เลยช่วยพูดให้
"มามี้ไม่ให้ไปค่ะ" แงๆๆ ไม่นะ ฉันรีบสะกิดพี่เกียร์ทันที ช่วยพูดหน่อยตอนนี้ปากของฉันมันอ้าไม่ออกแล้ว ส่วนป๊ะป๋านั่งดูอะไรสักอย่างในจอมือถือจอใหญ่ แบบไม่สนใจแค่ชำเลืองมองมาที่ฉันหน่อยเดียวแล้วก็หันกลับไปสนใจมือถือในมือต่อ
“มามี้ครับ ผมว่าน้องก็โตแล้ว มามี้น่าจะปล่อยน้องไปใช้ชีวิตเองบ้างนะครับ” พี่เกียร์พูดไปฉันก็พยักหน้างึกๆ ตามไปด้วย เพราะฉันเห็นด้วยกับสิ่งที่พี่เกียร์พูดเป็นที่สุด
"มามี้ขาาา ไอโตแล้วนะคะ" ฉันพูดเสียงอ่อย แล้วหันไปหาป๊ะป๋าให้ท่านช่วยพูดกับมามี้อีกเสียง
"ป๊ะป๋า..." ป๊ะป๋ามองลอดแว่นมองมาที่ฉันแล้วพูดว่า...
"ป๊ะป๋ายังไงก็ได้ แต่มามี้เขาเป็นห่วงลูก คุยกันเองก็แล้วกันนะ" แงๆๆ
"มามี้ขาาาาา" ฉันก็เลยหันมาหามามี้ใหม่ แล้วอยู่ๆ คุณพ่อคุณแม่ของพี่แพร พี่สะใภ้ฉันเองท่านก็เดินเข้ามาพอดี สงสัยจะมาเยี่ยมหาหลาน นั่นก็คือน้ำฟ้า หลานสาวของฉันเองลูกสาวพี่เกียร์กับพี่แพร
"อยู่กันพร้อมหน้าเลย สวัสดีครับ" คุณนิวัฒน์ คุณพ่อของพี่แพร เอ่ยทักทายป๊ะป๋ากับมามี้ของฉัน พวกท่านทั้งสองจะพากันมาหาหลานสาวกันเป็นประจำ บางครั้งก็ให้คนขับรถที่บ้านพามา แต่วันนี้ไม่ใช่ วันนี้เป็นพี่ชายของพี่แพร
ชื่ออะไรน้าาาา อ๋อ...แกชื่อพี่เก้า หน้าหวานอย่างกับผู้หญิงไม่รู้มีแฟนหรือยัง ตัวสู๊งสูง ขาย๊าวยาว ตัวข๊าวขาว นี่ขนาดทำหน้านิ่งๆ นะ ยังหล่อเป็นบ้า ถ้ายิ้มจะหล่อขนาดไหนวะนี่ ฉันไม่เคยคุยกับเขาเพราะอายุของเราต่างกัน ฉันเป็นเด็ก ส่วนเขาโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ฉันชอบแอบมองหน้าสวยๆ ของพี่เก้าบ่อยๆ