มัดมือชก

1852 คำ
ธันวา... หลังจากที่สงครามของเราสองคนสงบลง ผมก็ขับรถกลับคอนโดโดยมีคนขี้เมานอนหลับอยู่บนรถ ครั้งแรกที่เจอเธอในผับผมก็คิดอยู่ตั้งนานว่าใคร ที่ไหนได้น้องสาวไอ้คนที่แย่งน้ำแข็งไปจากผมนี่เอง "นี่เธอตื่นได้แล้ว" ผมเขย่าแขนคนที่หลับอยู่เพื่อปลุกให้ตื่น "หื่อออกไปอย่ามายุ่ง! คนจะนอน รำคาญ!" อ้าวคนเขาอุตส่าห์ปลุก "ถึงคอนโดเธอแล้ว" ผมเขย่าคนที่หลับอยู่อีกครั้งเพราะถึงที่พักของเธอแล้ว ถ้าถามว่าทำไมผมถึงรู้น่ะเหรอ? ก็ยัยนี่เช็คอินไว้ทุกที่ที่ตัวเองไปและที่อยู่ของตัวเองเต็มโซเชียลไปหมดน่ะสิ "อย่ามามั่ว นายไม่รู้จักคอนโดฉัน" เสียงเหมือนคนละเมอพูดเอื่อย ๆ ก่อนจะหลับต่ออย่างสบายใจโดยไม่สนใจผมที่กำลังนั่งถอนหายใจอยู่เพราะความหงุดหงิด "ปลุกแล้วไม่ตื่น พรุ่งนี้ค่อยไปฟื้นที่บ้านพี่นะน้อง" ".........." เวลาต่อมา... ตายแล้ว! ตาธันนี่แกไปฉุดลูกใครมาห๊ะ!" เสียงแม่บังเกิดเกล้าที่นั่งดูซีรีส์เกาหลีเวลาตีสามกว่า ๆ ทำหน้าทำตาตกใจเมื่อผมอุ้มใครบางคนพาดไหล่เข้าไปในบ้าน ซึ่งต้องผ่านห้องนั่งเล่นที่แม่นั่งอยู่ "ไม่ได้ฉุดครับแม่ แต่ผมเห็นเขาหลับอยู่เลยเอากลับมาบ้านด้วย" ผมยิ้มกวน ๆ วอนถูกตีหัวให้แม่ก่อนจะเดินเลยแม่ตรงไปยังบันไดของบ้าน "เลิกได้ก็เลิกนะตาธัน ไอ้นิสัยหลอกฟันคนอื่นเนี่ย" แม่พูดด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย ซึ่งจริง ๆ แล้วมันก็เป็นนิสัยของผมเองแหละ น้อยคนนักที่จะรู้เพราะผมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีเอาไว้เยอะ ทุกคนเลยไม่เคยเห็นอะไรแย่ ๆ ของผม "โธ่แม่ นี่น่ะลูกสะใภ้แม่เลยนะผมเอามาฝากแม่โดยเฉพาะ ถ้าแม่ไม่เชื่อแม่ก็ลองกลับไปคิดทบทวนดูว่าผมเคยพาใครที่ไหนมาบ้านเรามั้ย" "นี่แกพูดจริงเหรอ!" "จริงครับแม่ นี่แหละลูกสะใภ้แม่ตัวจริงเสียงจริงเลย" "ตายแล้วไหน ๆ แม่ขอดูหน้าหน่อย" แม่พูดพลางลุกจากโซฟาแล้วเดินวนไปมา จับ ๆ ลูบ ๆ คลำ ๆ ใบหน้าและท่อนแขนของคนที่ผมอุ้มพาดไหล่ไว้ด้วยความตื่นเต้น เห็นเป็นหมาหรือไงมาลูบมาคลำอยู่ได้แม่นะแม่ "เป็นไงครับ ถูกใจแม่มั้ย" ผมถามยิ้ม ๆ เมื่อเห็นแม่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้คนที่หลับไม่ได้สติอยู่ "หืม ถูกใจมากเลยล่ะตาธัน เอางี้แกรีบ ๆ เอาไปเก็บในห้องแกเร็ว ๆ เดี๋ยวแม่จะไปหาชุดมาเปลี่ยนให้ ท่าทางคงดื่มกันมาเยอะสิท่ากลิ่นเหล้าจากแกแล้วก็แม่หนูนี่คลุ้งเชียว" แม่พูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นก่อนจะดันหลังผมให้แบกคนที่หลับอยู่ขึ้นไปชั้นบน แล้วตัวเองก็รีบเดินไปปิดทีวีก่อนจะลุกลี้ลุกลนเดินขึ้นไปชั้นบนพร้อมผม ฟาเรนท์... แสงแดดยามเช้าที่เล็ดลอดผ่านผ้าม่านส่องเข้ามาในห้อง ฉันรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเวลานี้ก็น่าจะเกือบ ๆ บ่ายโมงได้เพราะดูจากนาฬิกาที่ตั้งอยู่บนหัวเตียง แต่...เดี๋ยวนะนี่มันไม่ใช่ห้องฉัน! "ไอ้หมอโรคจิต! ไอ้ธันวาไอ้บ้า!" ฉันโวยวายเสียงดังเพื่อให้คนที่พาฉันมาที่นี่ได้ยิน "ว่าไงสาวน้อยตื่นสายนะเราอะ" เสียงของคนที่เปิดประตูห้องพร้อมกับถือถาดอาหารเข้ามาพูดขึ้น "นี่ ทำไมนายไม่ไปส่งฉันที่คอนโดห๊ะ" ฉันก้าวสามขุมไปหาคนที่ยืนทำหน้ากวนโอ๊ยอยู่ก่อนจะวางถาดอาหารลง "ไปแล้ว แต่ไม่ลงเองก็เลยพามาที่นี่" พูดได้หน้าตาเฉยมาก "แล้วทำไมนายไม่ปลุกฉัน!" "ปลุกแล้วแต่เธอไม่ตื่นเองช่วยไม่ได้" "นี่! " "แหกปากอีกทีฉันจะเอาลิ้นฉันอุดปากเธอซะ" ฉันหุบปากแทบไม่ทันก่อนจะกรีดร้องในใจมองแผ่นหลังของไอ้หมอบ้านั่นเดินออกไป นี่ฉันยังไม่ได้สะสางเรื่องที่เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ฉันเลยนะ เดินหนีไปซะแล้ว แล้วเมื่อคืนเขาทำอะไรฉันบ้าง โอ๊ยให้ตายสิฟาเอ๊ยไม่น่าหลงกลเลย "ทำไมนายไม่ออกไปจากหัวฉันสักทีนะ" ฉันสบถกับตัวเองเมื่ออาบน้ำเรียบร้อยแล้ว ก็ภาพเมื่อคืนของฉันกับนายนั่นยังติดตาฉันอยู่เลย ให้ตายเถอะไม่เสียตัวก็เหมือนเสียตัวนั่นแหละ หมดกัน! "โธ่โว้ย!" "อาบน้ำ กินข้าวเสร็จแล้วก็ลงไปข้างล่างได้แล้ว" เสียงของคนที่ฉันไม่อยากเจอหน้าพูดขึ้นพลางเดินเข้ามาหาฉันที่นั่งอยู่ปลายเตียง "ฉันจะกลับบ้าน" ฉันหันไปบอกคนที่นั่งลงข้างฉัน "เดี๋ยวไปส่ง แต่ต้องอยู่กินมื้อเย็นด้วยกันก่อน" "นี่! นายจะทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรนายต้องการอะไร" ฉันชักจะเหลืออดกับเขาแล้วนะ "ก็บอกไปแล้วว่าชอบ พูดไปแล้วว่าจะจีบ แล้วเมื่อคืนก็เป็นแฟนกันแล้วด้วยอย่าลืมสิ" ".........." "ลงไปข้างล่างได้แล้ว แม่ทำขนมไว้รอ" เขาพูดก่อนจะลุกขึ้นแล้วดึงแขนฉันให้ลุกตาม "นายว่าไงนะ" แม่เหรอ? "บอกว่าแม่ทำขนมไว้รอเธอ" "แม่?" ฉันมองหน้าเขาอย่างอึ้ง ๆ นี่ฉันต้องลงไปเจอแม่เขาเหรอ? แล้วก็ต้องกินมื้อเย็นด้วยกันอีก? อย่าบอกนะว่าเมื่อคืนท่านเห็นสภาพของฉันแล้วน่ะ "ใช่แม่ฉันเอง ท่านตื่นเต้นมากเลยนะที่ได้เธอมาเป็นลูกสะใภ้น่ะ" รอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั่นมัน... "นี่นายบ้าไปแล้วหรอ!" "หรือว่าเมื่อคืนยังทำให้เธอเป็นสะใภ้แม่ฉันไม่ได้ งั้นฉันทำมากกว่าเมื่อคืนดีมั้ย? เธอจะได้เป็นสะใภ้แม่ฉัรอย่างสมบูรณ์แบบไง" ".........." "ว่าไงล่ะ ทำเลยมั้ยห้องพร้อมเตียงพร้อม อาบน้ำแล้วด้วย" "มะไม่!" "งั้นก็ลงไปหาแม่ฉัน อย่าเรื่องมาก" ".........." หายไปนานเพราะงานยุ่งมาก ตอนนี้กลับมาแล้วจ้า ฟาเรนท์... "อ้าวหนู ตื่นแล้วเหรอจ๊ะ" เสียงหญิงวัยกลางคนหน้าตาสะสวยท่าทางใจดี ทักทายฉันขึ้นพร้อมกับส่งยิ้มหวานมาให้ขณะที่ฉันกำลังเดินตามใครบางคนลงไปชั้นล่าง "เอ่อค่ะตื่นแล้ว สวัสดีค่ะ" ฉันยกมือไหว้หญิงวัยกลางคนตรงหน้าแบบที่คิดว่าสวยงามและเรียบร้อยที่สุดเท่าที่เคยทำมา อาการเกร็งแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนทำให้ฉันเริ่มทำตัวไม่ถูก ทำไมตอนนี้รู้สึกเหมือนมาเจอแม่สามีเลยนะ "พาน้องมานั่งข้าง ๆ แม่สิตาธัน แล้วก็เดินไปหยิบขนมมาให้น้องด้วยล่ะ" หญิงวัยกลางคนหันไปบอกลูกชาย ก่อนจะหันมาส่งยิ้มหวานมาให้ฉันอีกครั้ง "ถ้าเธอบอกแม่ว่าเราไม่ได้เป็นแฟนกัน หรือพูดอะไรไม่ดีกับแม่ฉันรวมถึงพูดเรื่องแย่ ๆ ของฉันให้แม่ฟัง ฉันจะบอกพี่ชายเธอเรื่องของเรา" มือใหญ่กระตุกมือฉันให้เดินตามเขาไปก่อนจะกระซิบกระซาบข้างหูฉัน ฉันได้แต่กลืนน้ำลายลงคอเฮือกใหญ่และฝืนยิ้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไอ้หมอบ้านี่มันขู่ฉัน! "ชื่ออะไรจ๊ะหนู" คนตรงหน้่าถามอย่างเป็นมิตรขณะที่ฉันนั่งลงตรงโซฟาฝั่งตรงข้าม "หนูชื่อฟาเรนท์ค่ะ" ฉันตอบยิ้ม ๆ "เป็นแฟนตาธันเหรอลูก คบกันนานแล้วเหรอทำไมแม่ไม่เห็นรู้เลย" "เอ่อค่ะ ก็คบกันได้สักพักแล้วค่ะ" "แล้วหนูเรียนที่ไหนจ๊ะ เรียนคณะอะไร" "เรียนวิศวะค่ะ" "หืม จริงเหรอจ๊ะ" "ค่ะ เอ่อคุณน้าคะพอดีหนูต้องกลับบ้านแล้วค่ะ นี่ก็บ่ายแล้ว วันนี้หนูมีสอบฝึกสัมภาษณ์งานช่วงเย็นด้วยค่ะ คงไม่สะดวกอยู่ที่นี่นาน" ฉันตอบคำถามเสร็จก็รีบตัดบททันที เพราะคิดว่าไม่ควรอยู่ที่นี่นานเกินไปอีกทั้งต้องใช้โอกาสนี้หนีไอ้หมอบ้านั่น แล้ววันนี้ก็เป็นวันแรกที่เริ่มสอบด้วย ดีหน่อยที่อาจารย์ให้สอบหลายวันเลยไม่ซีเรียสเท่าไหร่ "เดี๋ยวไปส่ง แต่ต้องชิมนี่ก่อน" ยังไม่ทันที่ใครจะพูดอะไร เสียงทุ้มของคนที่เดินถือถาดขนมไทยเข้ามาก็ทำให้ฉันแทบสะดุ้ง ไม่คิดว่าจะมาเร็วขนาดนี้ "อ้าวตาธันมาพอดีเลย นี่แม่ทำเองเลยนะ หนูฟาเรนท์ลองชิมดูสิลูก" ถ้าฉันจะบอกว่าไม่ชอบของหวานจะผิดมั้ย "ชิมสิ อร่อยนะ" เสียงของคนที่นั่งลงข้างฉันพูดขึ้นเชิงบังคับ ทำให้ฉันที่ไม่กล้าปฏิเสธรีบตักขนมเม็ดกลม ๆ สีเหลืองเข้าปากอย่างรวดเร็ว "เป็นไงจ๊ะ อร่อยมั้ย" คุณน้าถาม "อร่อยค่ะคุณน้า อร่อยมากเลย" ฉันตอบพลางกลั้นใจกลืนขนมหวานลงคอ "ถ้าอร่อยก็กินเยอะ ๆ สิ กินหมดแล้วจะไปส่ง" ว่าไงนะ? เสียงของคนข้าง ๆ ทำให้ฉันหันไปมองหน้าเขาด้วยท่าทีงุนงง แต่ก็ไม่กล้าเถียงอะไรเมื่อเห็นรอยยิ้มของผู้ใหญ่ตรงหน้ามองมาอย่างมีความหวัง "ต่อไปนี้หนูฟาเรนท์เรียกแม่ว่าแม่ดีกว่านะ ไหน ๆ ก็เป็นแฟนตาธันแล้วแม่ไม่อยากให้เรียกอะไรที่ดูห่างเหินกันน่ะ" "ค่ะแม่" "งั้นเดี๋ยวแม่ไปห่อขนมในครัวให้หนูดีกว่าจะได้เอากลับไปกินที่บ้านด้วย ส่วนในถาดนี้เราสองคนจัดการให้แม่ทีนะ เดี๋ยวแม่มา" คุณแม่พูดอย่างอารมณ์ดีก่อนจะเดินเข้าไปในครัว ทิ้งให้ฉันนั่งอยู่กับไอ้คนใจร้ายที่บังคับให้ฉันกินของหวานอยู่ตรงนี้ "รีบ ๆ กินเข้าไปสิ หรืออยากอยู่ต่อก็ได้นะฉันไม่ว่า" คนข้าง ๆ พูดพลางขยับถาดขนมไทยเข้ามาใกล้ฉัน "แล้วนายทำไมไม่กินล่ะ แม่ก็บอกอยู่ว่าให้ช่วยกันจัดการ" ฉันประท้วงเมื่อคนข้าง ๆ ไม่ได้สนใจขนมไทยสีเหลืองในถาดนี้เลยสักนิด เอาแต่บังคับให้ฉันกินคนเดียวอยู่ได้ "ฉันไม่ชอบของหวาน เธอกิน ๆ ไปเหอะ" "ฉันก็ไม่ชอบเหมือนกันนะ ทำไมต้องให้ฉันกินด้วยล่ะ" ฉันรีบบอก "แล้วเมื่อคืนตอนอยู่ในรถ ก็ไม่เห็นว่าเธอจะไม่ชอบนี่ ทำไมยังกินมันได้ล่ะ" ".........."
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม