1 บทนำ
ณ บ้านอัคราคินน์
"ฝนตกอีกแล้วเหรอเนี่ย"
"เฮ้อ ตั้งแต่เช้ายังไม่มีท่าทีจะหยุดเลย"
เนื่องด้วยวันนี้ฝนตกหนักตั้งแต่เช้า ทำให้หญิงสาวต้องวิตกกับการไปเรียน เนื่องจากเธอต้องไปรอรถเมล์ทุกครั้ง เมื่อกลับมาที่บ้านหลังนี้
"แล้วฝนตกหนักแบบนี้จะไปเรียนยังไงล่ะฟ้าใส"
"ก็คงต้องตากฝนไปจ้ะป้า" ดวงตากลมก็เหลือบมองท้องฟ้า ที่ตอนนี้ฝนตกอย่างหนักไม่มีท่าทีจะหยุด แต่ด้วยที่เธอมีเรียนตอน 9 โมงเช้า และวิชานี้ก็สำคัญ ทำให้ไม่อยากขาดเรียน
"ป้าว่าแบบนี้ไม่ดีนะ กว่าจะไปถึงป้ายรถเมล์ก็เปียกหมดพอดี"
"ก็ต้องเปียกนั่นแหละป้า เดี๋ยวหนูเอาชุดไปด้วยอีกชุด ไปถึงมหาลัยค่อยเปลี่ยนเอา"
"ป้าว่าไม่ดีมั้ง เดี๋ยวป้าไปขอนายน้อยให้หนูไปด้วยดีกว่า เพราะยังไงก็ไปเรียนที่เดียวกันอยู่แล้ว" ถึงแม้จะรู้สึกหนักอกหนักใจ แต่เพราะฝนฟ้าอากาศแบบนี้ ก็สงสารหลานสาว เลยคิดว่าตัวเองจะบากหน้าไปขออาศัย ลูกชายเจ้าของบ้านผู้มีพระคุณ ซึ่งก็เรียนที่เดียวกันกับหลานสาวตน ให้ได้ติดรถไปด้วยสักวัน
"ไม่เป็นไรจ้ะป้า อย่าไปรบกวนใครเลย" เธอตอบด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย เพราะรู้ดีว่าคนแบบเขาไม่ได้มีน้ำใจขนาดนั้น
"เห้อ ป้าก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน"
"ไม่เป็นไรจ้ะป้า ก็ตามที่หนูว่านั่นแหละ เปียกแค่นี้ไม่เป็นไรหรอก เปียกมา 3 ปีกว่าแล้ว ปีสุดท้ายเปียกอีกจะเป็นไรไป" หญิงสาวพูดพร้อมกับยิ้มออกมา อย่างสดใส แต่ดวงตาฉายไปด้วยความเศร้าหมอง บ่งบอกว่าเธอไม่มีความสุขเลยสักนิด
ฟ้าใส กัญจาวีร์ หญิงสาวแสนสวย ผู้เป็นหลานสาวของแม่บ้านคนเก่าคนแก่ของ บ้านอัคราคินน์ อย่าง ป้ามล
ตอนนั้นพ่อแม่ของกัญจาวีร์ ติดการพนันหนักมาก กู้เงินทุกที่จนโดนขู่ฆ่าไม่เว้นแต่ละวัน ทำให้ทั้งคู่ต่างหนีตาย และทิ้งลูกสาวเพียงคนเดียวไว้ลำพัง ทำให้เด็กสาวกลายเป็นเด็กกำพร้าไปโดยสิ้นเชิง และคนไม่มีที่ไปอย่างเธอ ก็ต้องไปขออาศัยญาติเพียงคนเดียวอย่างป้ามล พี่สาวของแม่อยู่ ตอนนั้นก็นึกไม่ออกเหมือนกัน ว่าชีวิตเธอจะไปทางไหนต่อ แต่ก็ยังโชคดี ที่ป้ามลยังพอช่วยเหลือ มารับเธอไปอยู่ด้วย และให้ที่พักพิงได้มาอาศัยอยู่ที่นี่ ตั้งแต่เธออายุ 16 ปี ด้วยความอุปถัมภ์จาก เจ้าสัวธวัช ผู้ร่ำรวยและมีอำนาจ เป็นคนส่งเธอได้ร่ำเรียนถึงมหาลัย
แต่ก็ไม่ใช่เพราะหวังดีหรืออะไร แต่ด้วยที่เจ้าสัวธวัชมีลูกชายที่เกเรมาก ทั้งยังไม่เอาไหนอีกต่างหาก การเรียนก็ไม่ดี เรียนแทบไม่จบมัธยม ถ้าไม่มีเส้นสายของตน
นายน์ กิติกร หนุ่มหล่อ ลูกชายคนเล็ก ที่เกเรไม่เอาไหน จนเกือบไม่จบมัธยม ขนาดที่ได้ร่ำเรียนโรงเรียนระดับอินเตอร์ แต่ชายหนุ่มผู้ไม่เอาไหน ก็ยังคงไม่สนใจการเรียน
จนผู้เป็นพ่อให้กัญจาวีร์ ที่ตอนนั้นเธอเรียนอยู่โรงเรียนรัฐแถวบ้าน เธอเรียนเก่งจนสอบได้ทุนเรียนมหาลัยชื่อดัง และได้เข้าคณะที่ใฝ่ฝัน แต่ทุกอย่างก็ต้องพังทะลายลง ด้วยความเห็นแก่ตัวของเจ้าสัวธวัช ที่สั่งให้เธอไปสละสิทธิ์ และส่งเธอเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันกับลูกชายตน และให้เข้าคณะวิศวกรรมศาสตร์ เพื่อจะได้ช่วยงานคนที่ไม่สนใจอะไรทุกอย่าง แบบไม่นึกถึงความรู้สึกหญิงสาว ที่สูญเสียชีวิตที่อยากใช้ไปเลยสักนิด
จนตอนนี้อยู่ปี 4 งานค่อนข้างจะเยอะ เลยอยากมีสมาธิมากกว่านี้ จึงขอคุณท่านเจ้าของบ้าน ย้ายออกไปอยู่หอพัก ถึงแม้จะได้รับคำพูดดูถูกจากคนที่ทุกคนเรียกว่านายน้อย แต่เธอก็พยายามทำเป็นไม่สนใจ
เกือบ 7 ปีแล้วที่รู้จักกันมา เธอรับรู้ได้ว่า เขามีแต่ความเกลียดชังให้เธอ ตั้งแต่วันแรกที่เธอก้าวขาเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังนี้ แม้จะอยู่แบบเจียมเนื้อเจียมตัวแค่ไหน ก็ไม่วายโดนรังเกียจอยู่ดี
ย้อนกลับไป 6 ปีที่แล้ว
"เด็กคนนี้เหรอมล ที่เล่าให้ฟัง"
"ค่ะ คุณท่าน ฟ้าใสสวัสดีคุณท่านสิ" หญิงวัยกลางคนก็รีบสะกิดหลานสาว วัย 16 ปี ที่จะเข้าเรียนชั้นมัธยมปีที่ 4 ตอนนี้เริ่มโตเป็นสาว สวยสะพรั่งจนใครเห็นก็ต้องชอบ
"สวัสดีค่ะคุณท่าน"
"หน้าตาสวยดีนะ"
"..." เธอก็เพียงแต่ก้มหน้า เมื่อได้รับสายตา ที่แสดงความพึงพอใจต่อเธอแบบนั้น
"หึ" แล้วก็เสียงหัวเราะในลำคอ ของเด็กผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้น ซึ่งดูก็รู้ว่าอายุน่าจะไล่เลี่ยกันกับเธอ แล้วก็มองมาที่เธอด้วยสายตาที่ไม่ชอบใจอยู่ตลอดเวลา
"นี่นนท์ ลูกชายคนโตของฉัน ส่วนนี่นายน์ ลูกชายคนเล็ก"
"เอ่อ... สวัสดีค่ะ" เธอก็เงยหน้าขึ้นไปสวัสดีคนทั้งสอง แต่ก็ได้รับเพียงรอยยิ้มของผู้เป็นลูกชายคนโตของเจ้าของบ้านส่งกลับมา แต่อีกคนมีแต่สีหน้าที่บึ้งตึง ทั้งยังมองเธอด้วยสายตาที่ไม่ชอบใจ
"เธออายุเท่าไหร่แล้วล่ะ"
"16 ค่ะ"
"อือ อายุเท่ากันกับเจ้านายน์เลย" เจ้าสัวธวัชก็หันไปพูดกับลูกชายคนเล็ก
"เสร็จแค่นี้ใช่ไหมครับป๊า ผมจะกลับไปเล่นเกมต่อแล้ว"
"อะไรกับเกมอีกแล้ว นี่ได้ยินว่าฟ้าใสเรียนเก่งมาก ถ้ามีเวลาป๊าจะให้ช่วยติวให้แกหน่อย"
"ไม่เอาครับป๊า ผมไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวาย" พูดจบคนที่ไม่ชอบวุ่นวายกับใคร ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นเกมต่อหน้าทุกคน อย่างไม่สนใจใครตามนิสัยของเขา
"แล้วจะเข้า ม. 4 แล้วเหรอฟ้าใส" เสียงเยือกเย็นของชินกรก็ดังขึ้น ซึ่งตอนนี้เขาอายุ 20 ปี แล้วก็ปฎิเสธไม่ได้ว่าเขาพึงพอใจ ผู้หญิงคนนี้ ที่โตมาก็คงจะสวยใช่เล่น
"ใช่ค่ะ"
"แล้วให้เรียนที่ไหนล่ะมล"
"โรงเรียนรัฐแถวนี้ค่ะ ใกล้บ้านด้วย ไปกลับสะดวก"
"ขนาดไม่ได้เรียนโรงเรียนดี ๆ ยังเรียนเก่งขนาดนี้ เกรดเฉลี่ย 4.00 นี่ก็ไม่ธรรมดาจริง ๆ" เจ้าสัวธวัช ก็พูดพร้อมยิ้มออกมาอย่างพอใจ ถึงแม้เขาจะรู้สึกเอ็นดูหญิงสาวตรงหน้า แต่ด้วยวิถีมาเฟีย ผลประโยชน์ต้องมาก่อน ถ้าจะเลี้ยงใครสักคนไว้ ก็ต้องแน่ใจว่าคนนั้นจะสร้างประโยชน์ให้ตนได้มากที่สุด และครั้งนี้ก็คงเช่นกัน
"ขอบคุณค่ะ" กัญจาวีร์ก็เงยหน้าขึ้นไปขอบคุณโดยทันที
"ถ้ามีอะไรไม่เข้าใจ ถามฉันได้ตลอดเลยนะ" ชินกรก็พูดขึ้นอีกครั้ง แต่ก็ยังมีสีหน้าที่เรียบเฉย
"ค่ะ" เธอก็ตอบรับอีกครั้งพร้อมกับก้มหน้าลง ก็ยอมรับเลยว่าไม่กล้าสบตากับชินกร เขาดูเป็นคนน่ากลัวและเยือกเย็น ยิ่งตอนพูดก็ยิ่งดูน่าเกรงขาม แม้จะอายุแค่ 20 ต้น ๆ แต่ก็เป็นคนดูมีอำนาจเกินกว่าจะเป็นแค่เด็กมหาลัยธรรมดา
นนท์ ชินกร ในวัย 20 ปี แต่ต้องดูแลรับผิดชอบอะไรหลายอย่าง เนื่องจากผู้เป็นพ่อปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก เขาเลยเป็นมาเฟียตั้งแต่อายุยังน้อย ธุรกิจขาวและเทา เขาเป็นคนรับรู้ด้วยทั้งหมด เพราะเจ้าสัวธวัช อยากสร้างความแข็งแกร่งให้เขาได้มากที่สุด เหมือนกับคู่แข่งของตนอย่าง เจ้าสัวดนัย ที่มีลูกชายอย่าง พีท ภควัต เป็นคนดูแลทั้งหมดเช่นกัน
ดวงตาคมของกิติกรก็เหลือบมอง ผู้หญิงตรงหน้าอยู่ตลอดเวลา แม้จะทำทีสนใจเล่นเกมในมือถือ แต่หูก็ได้ยินทุกอย่างในบทสนทนา เขาเห็นเธอเดินเข้ามาในบ้านตั้งแต่ เขานั่งรถมากับพี่ชาย ที่ดูก็รู้ว่าชินกรสนใจเธอ เพราะเอาแต่มองตั้งแต่เห็นครั้งแรก และตั้งหน้าตั้งตารอ ให้แม่บ้านอย่างป้ามลมาแนะนำให้รู้จัก
หลายวันต่อมา
ตุ๊บ
"ขะ...ขอโทษค่ะ" พอเดินออกมาจากประตู ก็ชนเข้ากับ ลูกชายคนเล็กของเจ้าของบ้านพอดี
"เธอเดินยังไงของเธอ ไม่มีตาหรือยังไง" น้ำเสียงปนดุก็พูดขึ้น พร้อมกับมองเธอด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ
"ขอโทษค่ะคุณ เอ่อ..."
"มีอะไรกัน" แล้วเสียงของชินกรก็ดังขึ้น
"ก็คนแถวนี้ เดินไม่ดูตาม้าตาเรือหนะสิเฮีย"
"แกเองหรือเปล่า"
"เฮีย" เขาก็พูดขึ้นด้วยความไม่พอใจ
"บ้านตั้งกว้าง เดินยังไงให้ได้ชนกัน"
"ขอโทษค่ะ ฟ้าใสเดินไม่ระวังเอง"
"แล้วนี่เธอจะไปไหน"
"กำลังจะไปทำความสะอาดห้องนั่งเล่นค่ะ"
"ไม่เป็นไร ไปหาอ่านหนังสือเถอะ เห็นว่าจะไปสอบเข้า ม. 4 แล้วไม่ใช่เหรอ"
"เอ่อ..."
"ไปเถอะ ฉันอนุญาติ"
"..."
"คะ...ค่ะ ถ้าอย่างนั้นฟ้าใสขอตัวก่อนนะคะ" เธอพูดอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว แล้วก็รีบออกจากตรงนั้นไปทันที
"เฮีย" เมื่อเธอเดินออกไปแล้ว เขาก็หัวฟัดหัวเหวี่ยงใส่พี่ชายทันที
"แล้วแกเป็นอะไรมากหรือเปล่า"
"ก็ไม่เป็น"
"แล้วจะหาเรื่องอะไรนักหนา"
"เฮีย!"
"อย่าเลอะเทอะให้มาก จะเล่นเกมก็ไปสิ จะรอให้ป๊าบ่นหรือไง"
"เฮียดูสนใจเด็กนั่นนะ" เพราะเขารู้ว่าพี่ชายเขาไม่ใช่คนแบบนี้ และก็เหมือนจะแสดงท่าทีออกมา ว่าสนใจยัยเด็กนั่นจะเต็มประดา จนเขาหรือแม้แต่พ่อของเขา ก็คงดูออกเช่นกัน
"อืม ก็น่าสนใจดีนะ ให้โตกว่านี้ก่อนค่อยว่ากัน" ชินกรยิ้มออกมาอย่างพอใจ พร้อมกับสายตาที่มองผู้หญิงที่เพิ่งเดินออกไป ด้วยความเสน่ห์หา
"..."
สวัสดีนักอ่านของ พิชา ทุกคนค่ะ ขอเปิดเรื่อง เล่ห์ร้าย (นาย) คนเลว อย่างเป็นทางการนะคะ เรื่องนี้เป็นคู่แยก คู่ตัวร้าย จากเรื่อง เลห์รัก (เพื่อน) วิศวะร้าย อยากให้ทุกคนได้อ่านคู่นี้เหมือนกันค่ะ
พระเอกเลวสมกับชื่อเรื่อง แต่นางเอกก็ไม่โง่นะคะ โบ้แบบหนัก ๆ เจ็บแบบสะใจ ใครชอบแนวนี้มาอ่านกัน ❤️