บทที่ 3 พบหน้า 1

1832 คำ
๓ พบหน้า ในที่สุด เวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง คนงานมารอรับภัทร อย่างพร้อมเพียง ครอบครัวของฉัตรวิไลอยู่ในงานเรียบร้อย ฉัตรเพชรอยู่ในชุดลำลองสบายๆ กึ่งเป็นทางการ แต่ก็ดูดีจนวิชาดาเพื่อนสนิทของปัญชิตาและสาวๆ ในงานยังต้องแอบมองตาม ส่วนฉัตรตะวันอยู่ในชุดเดรสสั้นคลุมเข่าสีชมพูจางสวยเป็นพิเศษ ปัญชิตาและวิชาดาเองก็อยู่ในชุดน่ารักแอบเปรี้ยวนิดๆ โดยเฉพาะปัญชิตา ใบหน้าหวานแต่งไว้อ่อนๆ นั้นงดงามไร้ที่ติผมยาวสลวยราวใยไหมเคลียไหล่มนที่โผล่พ้นจากเดรสสีเปลือกมะนาวคล้องไหล่ อวดสัดส่วนเต็มตึงด้วยผ้าลูกไม้ลวดลายสวยงามตั้งแต่ช่วงใต้ฐานอกจนถึงเอวคอด ส่วนตัวกระโปรงจับจีบยาวเหนือเข่าเล็กน้อย อวดปลีน่องเรียวงดงามไปจนปลายเท้าที่หายลับไปในคัทชู สีของชุดยิ่งขับผิวเนียนให้ดูขาวผ่องมากยิ่งขึ้น ใครก็ตามที่ได้เห็นเป็นต้องมองอย่างซ้ำ ตะลึงในความสดสวย น่ารักขนาดประกวดนางงามได้สบาย แม้แต่คุณอุ่นเรือนเองที่คิดว่าคุ้นชินตาดีอยู่แล้ว ก็ยังต้องมองตามด้วยความชื่นชม โดยเฉพาะฉัตรเพชร เขาแทบถอนสายตาไปจากหล่อนไม่ได้ในตอนแรกด้วยความชื่นชม ทว่าเวลานี้ความรู้สึกนั้นกลับถูกแทนที่ด้วยความไม่พอใจขึ้นมาดื้อๆ เพราะไม่ว่าหญิงสาวจะเดินไปทางไหน ก็มักจะมีแต่สายตาของบรรดาหนุ่มๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเพื่อนเก่าของภัทรมองตามแทบไม่ว่างตา บ้างก็เข้ามาแนะนำตัวกับหญิงสาว ทำให้เขาร้อนใจจนต้องคอยไปยืนคุมเชิงอยู่ไม่ห่างจากหล่อนนัก.. ร่างเล็กไปหยุดที่กลุ่มของฉัตรตะวัน พลางยิ้มเขินเมื่อถูกอีกฝ่ายชื่นชม “วันนี้น้องปัญสวยมากเลยนะจ๊ะ พี่เห็นตอนแรกยังตะลึงเลย” พูดจบก็หัวเราะเบาๆ เมื่อคนถูกชมหน้าแดงลามลงไปจนถึงใบหู “จริงๆ นะ ดูสิ หนุ่มๆ มอตามกันตาเยิ้มทั้งงานแล้วมั้ง โดยเฉพาะพี่เพชร” ฉัตรตะวันก้มกระซิบยิ้มๆ ทำให้ปัญชิตาต้องหันไปมองคนที่ยืนอยู่ด้านหลังทันที “บ้าน่าพี่ตะวัน พี่เพชรนะเหรอจะเห็นว่าน้องปัญสวย ไม่มีทาง” หญิงสาวปฏิเสธอย่างไม่เห็นด้วย แต่ก็ไม่วายปรายตาไปยังฉัตรเพชรที่มองมายังหล่อนและฉัตรตะวันอย่างไม่แน่ใจนัก นัยน์ตาคมของเขาคล้ายจะบอกอะไรบางอย่างแก่หล่อน ที่สำคัญมักเจือแววหวานแปลกๆ เมื่อได้สบตากันโดยบังเอิญ หญิงสาวเมินหน้ากลับ เริ่มไม่แน่ใจบางอย่างจากแววตาของเขา... ขณะที่ปัญชิตาเริ่มสับสน ความคิดของหล่อนต้องสะดุดและถูกลืมเมื่อวิชาดาเอ่ยถามขึ้น... “นี่ปัญ เมื่อไรพี่ภัทรจะมาถึงเสียทีล่ะ” วิชาดาถามพลางชะเง้อมองไปทางหน้าบ้านอย่างรอคอย “เดี๋ยวก็มาน่า... เห็นเมื่อกี้คุณป้าบอกว่าพี่ภัทรโทร.มาบอกว่าใกล้ถึงแล้ว” ปัญชิตาบอกกับเพื่อนรักด้วยท่าทางใจเย็นทั้งที่ความเป็นจริงนั้นตรงกันข้ามเลยทีเดียว หล่อนทั้งตื่นเต้นและดีใจ ที่จะได้เจอหน้าพี่ชายเสียที... ขณะที่ทั้งสองสาวกำลังรอคอยเวลาสำคัญ ก็มีชายหนุ่มหน้าตาดีเดินตรงเข้ามายังทั้งสอง แล้วแนะนำตัวเองอย่างสุภาพ “สวัสดีครับ พี่ชื่อคุณากรเป็น เพื่อนของนายภัทรนะครับไม่ทราบว่าน้องสองคนชื่ออะไรครับ” คำแนะนำตัวของชายหนุ่มหน้าตาดี ทำให้ปัญชิตาและวิชาดาต่างหันมาสบตากันแวบหนึ่ง “ฉันชื่อปัญชิตาค่ะ ส่วนคนนี้เป็นเพื่อนของฉัน ชื่อวิชาดาค่ะ” หญิงสาวยิ้มให้เขานิดหนึ่งหลังแนะนำตัว เกิดความรู้สึกไม่ไว้ใจคนตรงหน้าขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ ส่วนผู้มาใหม่ยิ้มพอใจ พลางเอ่ยถาม “แล้วคุณปัญชิตาเป็นอะไรกับนายภัทรหรือครับ หรือว่ามากับคุณพ่อคุณแม่” คุณากรถาม พลางใช้สายตาโลมเลียกวาดมองไปทั่วร่างบอบบางของปัญชิตา ทำให้หญิงสาวหน้าร้อนวูบด้วยความโกรธ ทว่ายังไม่ทันที่ปัญชิตาจะเดินหนีคนหยาบคายตรงหน้า ฉัตรเพชรที่คอยจับตามองอยู่แล้วก็เดินเข้ามาพร้อมกับชิงตอบคำถามนั้นเสียเอง... “คนที่คุณกำลังพูดด้วยเธอเป็นน้องสาวคุณภัทรและเป็นหลานสาวของคุณอุ่นเรือนครับ แล้วคุณ…” ชายแปลกหน้าเลิกคิ้วขึ้น เมื่อรู้ว่าคนที่เขาหมายตาอยู่นั้นไม่อาจทำเล่นๆ ได้ ก่อนหันมามองฉัตรเพชรด้วยความรู้สึกไม่พอใจ “คุณากรครับ แล้วคุณล่ะครับ เป็นเพื่อนของนายภัทรหรือเปล่า” คุณากรถามหยั่งเชิง ฉัตรเพชรยิ้มให้อย่างยียวนก่อนตอบ “ผมเป็นเพื่อนบ้านน่ะครับ แต่เป็นเพื่อนบ้านที่เป็นน้องชายของคู่หมั้นพี่ภัทรครับ ไม่ทราบว่าคุณต้องการอะไรหรือเปล่า ถ้าต้องการอะไรเพิ่มเติมบอกผมได้นะครับ” คำตอบของฉัตรเพชรทำให้คนที่คิดว่าเหนือกว่าหน้าตึงซึ่งขณะนั้นเอง เวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง รถจิ๊ปคันหรูที่คุณอุ่นเรือนส่งไปรับบุตรชายเคลื่อนตัวเข้ามาจอด... ทั้งคุณอุ่นเรือน ปัญชิตาและคนอื่นๆ ต่างรู้สึกดีใจและตื่นเต้นที่จะได้พบหน้าภัทร เมื่อประตูรถเปิดออกร่างสูงสง่าของชายหนุ่มที่ทุกคนต่างรอคอยก็ก้าวออกมาจากรถด้วยบุคลิกที่แสดงถึงความมั่นคงเด็ดขาดและงามสง่าจับตาคนมองนัก เช่นเดียวกับคู่หมั้นสาวสวยที่ดึงดูดสายตาหลายคู่ให้หันมองด้วยความชื่นชมก้าวตามออกมายืนเคียงข้างชายหนุ่ม... ภัทรก้าวไปหยุดตรงหน้าคุณอุ่นเรือนซึ่งส่งยิ้มมาให้เขาพร้อมดวงตาที่คลอไปด้วยหยาดน้ำใสๆ ทันใดนั้น ภัทรทรุดตัวย่อเข่าลงกับพื้นและก้มลงกราบแทบเท้าของผู้เป็นมารดา ทำให้ความพยายามที่จะกลั้นน้ำตาเอาไว้ต้องพังทลาย น้ำตาไหลพรากเพราะความตื้นตันใจยิ่ง เป็นภาพที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ที่มาร่วมงาน ต่างน้ำตาซึมไปตามๆ กัน คุณอุ่นเรือนทรุดตัวลงแล้วลูบศีรษะเขาอย่างรักใคร่ ดึงตัวบุตรชายให้ลุกขึ้นแล้วสวมกอดไว้อย่างแนบแน่น ให้สมกับความคิดถึงที่สะสมมาช้านาน “ผมคิดถึงแม่เหลือเกินครับ ผมกลับมาแล้ว และจะไม่ไปไหนอีก” ภัทรกล่าวพลางกระชับอ้อมแขนกอดมารดา ถ่ายทอดความรู้สึกที่ลูกชายคนหนึ่งพึงมีต่อมารดา ให้ท่านได้รับรู้ผ่านอ้อมกอดกว้าง ว่าเขารักและคิดถึงท่านมากเพียงใด “แม่ก็คิดถึงลูกมาก ดีใจเหลือเกินที่ลูกกลับมาอยู่บ้านเราเสียที” คุณอุ่นเรือนกล่าวพลางดันตัวเขาออก นัยน์ตากวาดมองไปทั่วร่างกายอันเต็มไปด้วยความสมบูรณ์ แข็งแกร่งแสดงถึงความเป็นบุรุษรูปงามของบุตรชายด้วยความปลาบปลื้มและชื่นชม... “ลูกแม่หล่อขึ้นมาก” คำชมของมารดาทำให้ภัทรถึงกับหัวเราะเบาๆ เพราะท่านเล่นชมเขาต่อหน้าธารกำนันเลยทีเดียว หลังจากนั้น เขาก็เข้าไปทำความเคารพญาติผู้ใหญ่ที่ต่างมารอต้อนรับ สักพักจึงขอตัวขึ้นไปพักผ่อน เพียงครู่จึงออกมาพบและทักทายกับแขกเหรื่อ ก่อนถูกเพื่อนสมัยเรียนลากตัวเข้ากลุ่ม ตามประสาที่ไม่พบเจอกันนาน จนลืมไปว่ามีใครอีกคนที่สำคัญต่อเขาไม่แพ้มารดา และกำลังมองตามด้วยสายตาตัดพ้อ น้อยใจ ไม่ว่าเขาจะเคลื่อนตัวไปทางไหนก็ตาม... ส่วนฉัตรวิไลมองตามร่างคนรักด้วยใบหน้าเบิกบาน เมื่อเห็นว่าน้องชาย น้องสาวและปัญชิตาอยู่อยู่อีกด้านจึงรีบก้าวเข้าไปสมทบ “แหม มาหลบอยู่ตรงนี้นี่เอง พี่หาตั้งนาน” ฉัตรวิไลทักทายด้วยรอยยิ้มสดใส “สวัสดีค่ะพี่วิว นี่เพื่อนน้องปัญ ชื่อวิชาดาค่ะ” ฉัตรวิไลรับไหว้เพื่อนสนิทของปัญชิตาพร้อมส่งยิ้มให้อย่างเป็นกันเอง “สวัสดีจ้ะ” “วันนี้พิ่วิวสวยจังค่ะ” ปัญชิตากล่าวชมอย่างจริงใจ อีกฝ่ายจึงหัวเราะเบาๆ กับคำชมของสาวน้อย “แหมขอบใจจ๊ะ แต่เล่นชมซึ่งหน้าแบบนี้พี่ก็เขินแย่ น้องปัญเองก็สวยมากรู้ตัวไหม พี่เห็นครั้งแรกยังแทบจำไม่ได้” อีกฝ่ายเอ่ยชมด้วยความจริงใจ เพราะไม่อาจปฏิเสธได้ว่านับวัน ปัญชิตาก็ยิ่งฉายแววความงามมากขึ้นทุกที “แหม ก็เลยกลายเป็นว่ามาชมกันเองซะแล้ว” ปัญชิตาตอบกลัวหัวเราะ นึกเขินเช่นกัน ฉัตรตะวันยืนข้างๆ จึงแกล้งกระเซ้าทั้งสองยิ้มๆ ว่า “นั่นสิคะ ชมกันเองอยู่ได้ เห็นไหมเนี่ยว่ายังมีคนสวยอีกคนหนึ่งยืนอยู่ตรงนี้” ฉัตรตะวันหันมายิ้มให้กับวิชาดา ทำให้ชายหนุ่มอีกคนที่ยืนฟังอยู่ข้างกันสายหน้ายิ้มๆ “เอาล่ะๆ รู้แล้วว่าสวยๆ กันทั้งนั้น ว่าแต่ตอนนี้ใครอยากกินอะไรกันบ้างเอ่ย” ฉัตรเพชรถาม แต่สายตากลับหรุบมองเพียงปัญชิตาเท่านั้น ทำให้สองสาวที่คอยสังเกตอยู่แล้วหันมามองหน้าแล้วยิ้มให้กันอย่างรู้ทัน ฉัตรวิไลนั้นรู้มานานแล้วว่าน้องชายของตนคิดอย่างไรกับสาวน้อยตรงหน้า พลันใบหน้างามก็ลอบยิ้มเจ้าเล่ห์ “แหม... น้องชายสุดหล่อของพี่จะบริการหรือจ๊ะ ว่าแต่ทำไมมองแต่น้องปัญคนเดียวล่ะ พี่กับยัยตะวันก็ยืนอยู่ตรงนี้ มองกันมั่งเถอะ แล้วอาหารน่ะอยู่ด้านโน้นไม่ได้อยู่ที่หน้าน้องปัญสักหน่อย” พอสิ้นเสียงหวานๆ ชายหนุ่มเพียงคนเดียวหันไปถลึงตาใส่พี่สาวที่แกล้งกระเซ้าทันที “แล้วพี่สาวจะดื่มอะไรดีขอรับ” ฉัตรเพชรกัดฟันถามพี่สาว พลางชำเรืองมองไปทางปัญชิตาอีกคราว จึงเห็นอีกฝ่ายกำลังมองไปอีกทางหนึ่งโดยไม่ได้สนใจพวกเขาที่กำลังกระเซ้าเย้าแหย่เลยสักนิด ท่าทางของหล่อนทำให้เขาแปลกใจ และเกือบสาวเท้าเข้าไปหาถ้าไม่ได้ยินเสียงของสาวๆ ซะก่อน “ของตะวันขอเป็นฟรุตพันซ์ สีอะไรก็ได้ค่ะ พี่วิวกับน้องวิล่ะคะ” ฉัตรตะวันหันไปถามสองสาว “วิขอพันซ์แอปเปิ้ล ค่ะ” “ส่วนของพี่ขอเป็นกีวีมาร์การิต้าจ้า” เมื่อสามสาวสั่งเสร็จเขาก็หันกลับไปยังปัญชิตา แล้วแกล้งกระแอมกระไอ ทำให้หญิงสาวหันกลับมา พลางยิ้มเจื่อนๆ “อะไรเหรอคะพี่เพชร” “น้องปัญอยากได้เครื่องดื่มอะไรไหม พี่จะไปเอาให้” ฉัตรเพชรเอ่ยถาม สาวน้อยย่นคิ้ว ทำท่าคิดนิดหนึ่งก่อนตอบ “อืม ขอบคุณค่ะ แต่เดี๋ยวน้องปัญไปด้วยดีกว่า ขี้เกียจยืนเฉยๆ” พูดจบก็หันไปบอกกับวิชาดา แล้วเดินตามชายหนุ่มออกไป
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม