ตอนที่ 7 บังคับ

1351 คำ
“ว่าไงล่ะพริ้งพราว” ทันทีที่ร่างสูงของคู่กรณีหันหน้ามาหาเธอ แม้ในห้องจะมีเพียงแค่แสงไฟริบหรี่ ทว่าเธอกลับเห็นใบหน้าคมเข้มนั้นชัดเจน และจำได้ขึ้นใจเลยว่าเขาคือคนเดียวกันกับที่เจอในห้องน้ำผับเมื่อคืนนี้ ร่างเล็กยืนตัวแข็งทื่อในหัวคิดไปต่าง ๆ นานา ยังคงสับสนกับสถานการณ์ตรงหน้าไม่เลิก เพราะมัวแต่ใจลอยซึ่งกว่าจะรู้ตัว ทายาทมาเฟียก็ย่างกรายเข้าหาประชิดตัว เรียกสติของพริ้งให้ตื่นจากภวังค์ทันที “ทำอะไรของคุณ” “คิดว่าฉันจับตัวเธอมาทำไมล่ะ คงไม่คิดจะมานอนถ่างขาให้ฉันเอา....” เพี๊ยะ!! “มีสิทธิ์อะไรมาดูถูกคนอื่น ตัวเองสูงส่งนักหรือไงห้ะ!” “หึ” ใบหน้าอันหล่อเหลาหันไปตามแรงกระทบจากฝ่ามือเล็กแต่พริกขี้หนูจนเลือดซิบมุมปาก นิ้วเรียวยกขึ้นเช็ดหยดเลือดออกก่อนจะแสยะยิ้มมองไปยังคนพยศด้วยแววตาวาวโรจน์ “เฮียทัพให้ผมจัดการเลยไหมครับ” “ไม่ต้อง ส่งแก้วนั้นมา” ลูกน้องมือขวาเป็นห่วงเจ้านายที่ถูกมือเล็ก ๆ ของพริ้งฟาดเข้าหน้าแบบไม่ยั้งแรง หมายจะเข้าช่วยแต่กองทัพกลับยกมือห้ามไว้เสียก่อน หมับ “ปล่อยฉันนะ ไอ้คนโรคจิต ปล่อยฉัน” “เก่งนักใช่ไหม” ปึก “อึก” ฝ่ามือหนากระชากข้อแขนของคนอวดเก่งจนเธอต้องนิ่วหน้าเพราะความเจ็บจากแรงบีบรัดเริ่มเล่นงาน หนำซ้ำยังถูกเหวี่ยงลงเตียงขนาดคิงไซส์แม้จะนุ่มมากเพียงใดแต่ด้วยแรงที่ไม่ถนอมก็ทำเอาพริ้งจุกอยู่ไม่น้อย พริ้งนอนขดตัวพลางกุมหน้าท้องด้วยความทรมาน แต่คนถูกความอาฆาตแค้นครอบงำเช่นกองทัพกลับไม่แม้แต่จะสงสารหรือเห็นใจเลยสักนิด กองทัพย่างสามขุนเข้าหาพริ้งแล้วหยุดยืนอยู่ข้างเตียง ก่อนที่เขาจะรับแก้วบรรจุน้ำส้มเพียงครึ่งมาจากไท แล้วจัดการบีบคางมนอย่างแรงเพื่อบังคับให้เธออ้าปาก “กินเข้าไป!” “ถุย” เพี๊ยะ “ฮึก” เสียงสะอื้นทั้งน้ำตาดังขึ้นพร้อมกับมือบางกอบกุมแก้มเนียนใส ที่ตอนนี้ขึ้นสีแดงช้ำเป็นปื้นตามรอยนิ้วมือของคนใจเหี้ยม เนื่องจากโดนหยามด้วยการถ่มน้ำลายใส่หน้า ยิ่งปลุกความโกรธเกรี้ยวจากกองทัพให้ลุกโชนหนักกว่าเดิม ซึ่งไททนดูสถานการณ์รุนแรงตรงหน้าไม่ไหว เตรียมจะเข้าไปห้ามเจ้านายที่สติหลุดเผลอทำร้ายผู้หญิงทั้งที่เขาไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน “ออกไป ไม่ต้องยุ่ง” “ครับเฮียทัพ” ด้วยหน้าที่ตำแหน่งและถูกปลูกฝังให้เคารพต่อการตัดสินใจของหัวหน้า ไทจึงไม่สามารถคัดค้านหรือออกความเห็นนอกกรอบได้ สิ่งเดียวที่ทำได้คือเชื่อฟังและทำตามคำสั่งเขาเท่านั้น หลังจากประตูห้องถูกปิดลงกองทัพจึงหันกลับมาลงมือกับคนตัวเล็กซึ่งหัวแข็งกว่าที่เขาคิดไว้เยอะ ก่อนจะกรอกน้ำส้มผสมยาบางอย่างลงอุ้งปากเล็ก บังคับให้เธอฝืนกลืนกินด้วยความขมขื่นจนหยดน้ำส้มเลอะเปรอะเปื้อนเสื้อนักศึกษาเป็นวงกว้าง หยาดน้ำตาร่วงรินด้วยความเจ็บปวดร่างกายที่เริ่มบวมช้ำไปทั้งตัวไม่ต่างจากจิตใจที่อ่อนแอลงเรื่อย ๆ หากต้องยอมเสียศักดิ์ศรีเพื่อขอความเห็นใจจากคนใจร้ายเธอก็ยอม…. เธอรีบตะเกียกตะกายดันตัวลุกขึ้นนั่งชิดหัวเตียง พร้อมกับมือบางที่สั่นเทาทั้งสองข้างค่อย ๆ ยกขึ้นประนมอ้อนวอนร้องขอในสิ่งที่อยู่รู้อยู่แก่ใจว่าเป็นไปไม่ได้ “อย่าทำอะไรพริ้งเลยพริ้งยอมแล้ว ฮึก” “แค่นี้ยอมแล้วหรอ แล้วมันจะสนุกได้ไงล่ะ” “พริ้งไปทำอะไรให้คุณ ทำไมต้องทำถึงขนาดนี้ด้วย” “ชื่อเสียงเงินทองที่เธอได้มานั่นไง ฉันจะทวงทุกอย่างคืนมาให้หมด” ถ้อยคำประกาศิตตวาดลั่นใส่หน้าคนตัวเล็กที่หวาดกลัวจนเนื้อตัวสั่น แต่คนที่ผ่านผู้หญิงมานักต่อนักอย่างกองทัพ ไม่คิดหลงกลกับลูกไม้ตื้น ๆ ของผู้หญิงร้อยเหลี่ยมมารยาเช่นเธอแน่นอน กองทัพเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์เครื่องเก่าที่วางอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียง ก่อนจะยื่นให้พริ้งที่มองเขาด้วยความสงสัย “โทรหาทางบ้านซะคงรู้ว่าต้องทำยังไง อย่าคิดเล่นตุกติกเพราะลูกกระสุนของฉันมันไม่มีตา” สิ้นเสียงขู่เข็ญกระบอกปืนที่ซ่อนไว้ใต้หมอนใบใหญ่ก็ถูกคว้าออกมา ก่อนจะชักปืนแล้วจ่อเข้าหน้าผากมนพร้อมกับมองจ้องด้วยสายตาเกรี้ยวกราด หากเธอคิดไม่ซื่อเขาก็พร้อมจะลั่นไกโดยไม่ลังเล และมันก็ได้ผลเพราะยังไงแล้วทุกคนย่อมรักตัวกลัวตายไม่ต่างจากเธอ ดวงตากลมโตเหลือบมองกองทัพซึ่งเขาก็จับตาดูเธออย่างไม่ไว้ใจก่อนจะเลือกโทรหาผู้เป็นแม่ซึ่งรอไม่นานปลายสายก็กดรับ “แม่” (พริ้งหรอลูก หนูอยู่ไหนแล้วใช้เบอร์ใครโทรมา พี่วากับมะปรางมารอนานแล้วนะ) “เอ่อ...พอดีหนูติดธุระด่วนคงไปไม่ได้แล้วนะคะแม่” (ธุระอะไรสำคัญขนาดนั้นเลยหรอลูก) “นิดหน่อยค่ะ คืนนี้หนูอาจจะค้างข้างนอกแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ” ตุ๊ด ตุ๊ด ตุ๊ด เป็นกองทัพที่กระชากโทรศัพท์ออกจากหู ก่อนจะถือวิสาสะกดวางสายหลังจากพอใจกับคำพูดของพริ้งที่ยอมเชื่อฟัง ซึ่งเขาก็ยอมลดปืนลงเช่นเดียวกัน “ฉลาดหนิ” “...” “หึ เริ่มออกฤทธิ์แล้วสินะ” เขาแสยะยิ้มออกมาอย่างโรคจิตพร้อมด้วยสายตาคมกริบดุดันไล่มองเรือนร่างอันสมส่วนกำลังบิดเร่าไปมาจนเหงื่อแตกพลั่ก เพราะยาปลุกเซ็กส์ขั้นรุนแรงที่เขาผสมกับน้ำส้มให้เธอดื่มกำลังจะเริ่มทำงาน “คะ...คุณเอาอะไรให้ฉันกิน” “เดี๋ยวก็รู้” พรึ่บ “จะไปไหน” “ขอฉันอาบน้ำหน่อยได้ไหม ร้อน” “ไม่ได้ ถ้าฉันไม่อนุญาตเธอก็ไม่มีสิทธิ์ทำอะไรทั้งนั้น อย่าลืมว่าเธอจะมีชีวิตอยู่ต่อหรือไม่ฉันต่างหากที่เป็นคนกำหนด” เพราะเหงื่อเริ่มไหลโซมกายจนกระสับกระส่ายอยู่ไม่สุข อยากอาบน้ำเพื่อระงับความร้อนรุ่มในร่างที่กำลังก่อตัวอย่างไม่รู้สาเหตุ แต่กลับโดนเจ้าของห้องขัดขวางเอาไว้จนเธอเริ่มทนไม่ไหว “คะ..คุณทัพ พริ้งขอดื่มน้ำหน่อย” “อยากได้น้ำแบบไหนล่ะ หื้ม” “ขอเย็น ๆ พริ้งไม่ไหวแล้ว” เป็นเพราะฤทธิ์ยาจึงทำให้น้ำเสียงฟังดูยั่วยวนอย่างรื่นหูเป็นที่พอใจจนเขาต้องกระตุกยิ้มมุมปาก ซึ่งกองทัพก็ใช่ว่าจะเป็นคนใจจืดใจดำยอมเดินไปหยิบน้ำออกจากตู้เย็น ก่อนจะทำทียื่นให้คนตัวเล็กที่รีบคว้าแต่กลับไม่ไวเท่าเขาที่ยกขวดน้ำขึ้นเหนือหัว จงใจยั่วอารมณ์อยากของเธอให้ลุกโชน “ขะ..ขอ” “ใจเย็น คิดว่าฉันจะใจดีขนาดนั้นเลยหรือไง” “ต้องการอะไร” “หึ ฉลาดมาก” ดวงตาสั่นระริกมองไปยังขวดน้ำที่อยู่ในมือของกองทัพพลางกลืนน้ำลายอึกใหญ่ด้วยความกระหาย ริมฝีปากที่ก่อนหน้านี้ดูอวบอิ่มกลับแปรเปลี่ยนเป็นซีดเผือด ภายในกายเร่าร้อนจนแทบแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ เรียวขาขาวเนียนที่โผล่พ้นกระโปรงสั้นเพียงคืบบิดเกร็งอย่างทรมาน เพราะอารมณ์ที่ถูกกระตุ้นด้วยวิธีสกปรกแล่นลิ่วลงกลางกายสาวจนชื้นแฉะไปด้วยน้ำหวาน กองทัพกระตุกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะเปิดฝาขวดแล้วเทน้ำเย็นที่เป็นความหวังของคนคอแห้งราดใส่กางเกงสแล็คราคาแพง จนเนื้อผ้าตรงกลางเป้าเปียกลู่แนบไปกับเนื้อกายที่ปูดนูนขึ้นให้เห็นอย่างเด่นชัด “ถ้าหิวมากก็มากิน”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม