INTRO
เสียงเบสจากลำโพงดังจนพื้นสั่น น้ำแข็งในแก้วเหล้าตรงหน้าเด้งกระทบกันกรุ๊งกริ๊งเป็นจังหวะเดียวกับเพลงที่เปิดวนไม่รู้จบ
วันนี้ผับเล็ก ๆ แถวย่านมหา’ลัยถูกจับจองเป็นโซนมุมในสุด แสงไฟนีออนสีม่วงอมชมพูสะท้อนกับบอลลูนรูปตัวเอ็มที่เพื่อน ๆ เป่าให้ จนรู้กันทั้งร้านว่านี่คือปาร์ตี้วันเกิดของใคร
“แฮปปี้เบิร์ธเดย์ยัยมายด์ดดด!”
เสียงหวีดของพลอยกับจีนดังกลบเพลงจนคนโต๊ะข้าง ๆ ยังหันมามอง ทั้งสองสาวกระดกแก้วโซดาผสมเหล้าราคานักศึกษาแล้วหันมาหัวเราะใส่กัน
มายด์ยืนอยู่กลางโต๊ะในชุดเดรสเกาะอกสั้นเกินเข่าไปเยอะ ทรงรัดรูปสีดำกลิตเตอร์ที่ทำให้ผิวเธอดูขาวจัดขึ้นไปอีก สายเดรสบางจนเหมือนพร้อมจะขาดทุกเมื่อ ผมลอนคลายถูกรวบเฉียง เปิดต้นคอขาว ๆ ที่มีสร้อยเส้นเล็กห้อยอยู่
“กูบอกแล้วใช่ไหมว่าวันนี้จะเป็นยัยมายด์คนสวยเวอร์ชั่นแซ่บๆ จะออกโล่ง” ไอ้เพชร หนึ่งในเพื่อนชายในกลุ่มยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายวิดีโอไม่หยุด
“มึงเลิกถ่ายแล้วแดกเหล้าต่อไปเลยไอ้เพชร” เบส อีกคนที่ผมสีดำยาวประบ่าผูกครึ่งหัว ดึงแก้ววิสกี้มาจากมือเพชรแล้วชนแก้วกับมายด์เสียงดัง
“วันนี้กูมอมเหล้ามึงแน่ ยัยคนสวย วันเกิดทั้งที” เบสพูดยิ้ม ๆ แต่ตามีแววล้อ
“อย่าเมาจนต้องหิ้วกูกลับนะเว้ย กูใส่เดรสสั้นอยู่” มายด์เอ่ยแซว เสียงหัวเราะรอบโต๊ะดังตามมา
“เอ้า ๆ ให้เจ้าของวันเกิดพูดอะไรหน่อยดิ” ปอนด์ เพื่อนผู้ชายอีกคนที่ใส่เสื้อเชิ้ตขาวแขนยาวพับขึ้นถึงศอก เคาะแก้วเรียกความสนใจ
สายตาทั้งโต๊ะหันมาหามายด์เป็นจุดเดียว ยกเว้นคนเดียวที่ยังนั่งเอนหลังพิงพนัก เกี่ยวแก้วเหล้าช้า ๆ นิ้วเรียวยาวหมุนแก้ววน ๆ เหมือนไม่ได้อยู่ในงานนี้ด้วยซ้ำ
ไนท์
ผู้ชายที่นั่งมุมสุดโต๊ะ ใส่เสื้อเชิ้ตดำตัวเรียบ กางเกงสแลคเข้ารูป หน้าตาดีแบบที่ไม่ต้องทำอะไร แค่นั่งเฉย ๆ ผู้หญิงหลายโต๊ะก็แอบมอง แต่เสือกทำหน้าตึงตลอดเวลา เหมือนโลกนี้หมดอะไรตายยากอย่างไรอย่างนั้น
มายด์เหลือบตาไปมองแวบหนึ่ง ก่อนฝืนยิ้มกลับมาที่เพื่อน ๆ
“จะพูดอะไรอ่ะ ก็… ขอบคุณที่มานะทุกคน”
“หือออ แค่นี้?” เพชรถาม ทำเสียงลากยาว
“เออ แค่นี้แหละ”
“งั้นเดี๋ยวกูพูดแทน” เพชรยืนขึ้น ยกแก้วเหนือหัว ทำทีเหมือนกำลังจะกล่าวสุนทรพจน์
“วันนี้เป็นวันเกิดไอ้มายด์ เพื่อนกู สาวสวยประจำกลุ่มที่โสดมานานเกินไปละ–”
“ไอ้เพชร!” มายด์รีบเอื้อมมือไปตีแขนทันที แก้มแดงไม่รู้เพราะเหล้าหรือเพราะคำพูดมันกันแน่
จีนหัวเราะคิก “ก็พูดความจริงอะ เนอะพลอย”
พลอยพยักหน้าหงึก ๆ “ใช่ นางโสดและรวย และนมใหญ่มาก”
“จีน! พลอย!”
เสียงมายด์สูงขึ้น เพื่อนสาวสองคนก็ยิ่งหัวเราะกันหนักเข้าไปอีก
ปอนด์ยักคิ้ว “ขอให้ปีนี้มึงเลิกเป็นแม่พระ เลิกสายติสท์นิสัยโคตรคนแก่ แล้วลองทำอะไรบ้า ๆ ดูบ้าง”
“บ้าอะไรของมึง” มายด์หัวเราะ แต่ก็แอบคิดในใจว่า… บางทีคำอวยพรนี้ก็แทงใจอยู่นิด ๆ
เบสยกแก้วขึ้นบ้าง “กูขอให้มึงเลิกทำหน้าเหมือนแบกโลกเวลาอยู่กับพวกกู แล้วก็อย่าเครียดเรื่องเรียนมาก เอาแค่จบไปพร้อมกันก็พอละ”
“โอเค กูจะพยายามละกันนะ” มายด์ยิ้ม จับแก้วของตัวเองชนกับแก้วเพื่อนทีละคน
เหลือคนสุดท้ายที่ยังไม่ได้พูดอะไร
สายตาทุกคู่อ้อมไปหาชายหนุ่มปลายโต๊ะโดยอัตโนมัติ
ไนท์เงยหน้าขึ้นช้า ๆ ดวงตาคมใต้แสงไฟมืด ๆ ทำให้สีหน้าของเขาดูยิ่งเย็นกว่าเดิม มือใหญ่เลื่อนแก้วขึ้นมาเล็กน้อย ริมฝีปากขยับน้อยจนแทบไม่ได้ออกแรง
“แฮปปี้เบิร์ธเดย์”
แค่นั้น
ไม่มีคำอวยพรยาว ๆ ไม่มีมุกตลก ไม่มีคำด่ากึ่งรักแบบเพื่อนสนิทในกลุ่มคนอื่น ๆ
เสียงเพลงดังกลบช่องว่างแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นชั่วขณะ มายด์แอบชะงัก แต่ก็ยิ้มบาง ๆ กลับไปเหมือนไม่ได้คิดอะไร
“เออ ขอบใจ”
เพชรหันไปแซว “กูว่าถ้ามึงพูดยาวกว่านี้โลกแตกแน่เลยไอ้ไนท์”
ไนท์เหลือบตามองนิดเดียว ก่อนหันกลับไปจิบเหล้าเงียบ ๆ
เขาไม่ได้ตอบอะไร แต่ความเย็นชาที่แผ่ออกมาทำให้บรรยากาศโต๊ะเหมือนถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งชัดเจน
มายด์สูดลมหายใจลึก พยายามไม่ไปสนใจคนประเภทอารมณ์ยากเข้าใจ เธอหันไปหัวเราะเล่นกับเพื่อนคนอื่นต่อ ทำเหมือนผู้ชายข้าง ๆ ไม่ได้สำคัญอะไร
ผ่านไปอีกหลายแก้ว เพลงก็เริ่มหนักขึ้น แสงไฟวูบวาบจนเริ่มแสบตา
“กูไปเข้าห้องน้ำแป๊บ” มายด์ตะโกนบอกเพื่อนเหนือเสียงเพลง คล้องกระเป๋าใบเล็กเข้ากับไหล่
พลอยรีบลุกขึ้นตาม “เดี๋ยวไปด้วย”
แต่จีนดึงแขนไว้ “มึงนั่งไปก่อน กูอยากถ่ายรีล แดกก่อน ๆ เดี๋ยวไปทีหลัง”
มายด์โบกมือ “ไม่เป็นไร เดี๋ยวกูไปเอง ใครเข้ามาจีบก็ช่วยเช็กหน้าด้วยนะ ไม่เอาคนหน้าเหมือนพ่อเลี้ยงกูอะ”
เสียงหัวเราะระเบิดขึ้นรอบโต๊ะอีกครั้ง แล้วเธอก็หมุนตัวเดินออกจากโซนที่คนแน่น ๆ
ขณะที่เธอเดินผ่านหน้าไนท์ เขาไม่ได้แม้แต่จะเงยหน้ามอง
เหมือนเธอเป็นแค่ธาตุอากาศอะไรบางอย่างผ่านมาแล้วก็ผ่านไป
**
โถงทางเดินไปห้องน้ำเป็นมุมที่ค่อนข้างมืดและเงียบกว่าหน้าเวที กลิ่นน้ำหอมปนควันบุหรี่และกลิ่นฟอกพื้นทำให้หัวหมุนเล็กน้อย
มายด์มองเงาตัวเองในกระจกห้องน้ำ แก้มแดงจัด ดวงตาเป็นประกายจากแอลกอฮอล์และความสนุก ผมลอนหลุดออกมานิด ๆ ตรงกรอบหน้า เธอยกมือจัดสายเดรสที่ดันเลื่อนลงมาต่ำขึ้นนิด แล้วทาลิปกลอสเพิ่มบาง ๆ
“สวยใช้ได้” เธอบ่นกับตัวเองเบา ๆ
ไม่รู้เพราะอะไร วันนี้เธอถึงอยากลองแต่งตัวแรงกว่าที่เคย
อาจเพราะเพื่อนยุ
อาจเพราะตัวเองก็อยากลองเป็นคนที่ไม่ต้องคิดเยอะ อยากลองออกนอกกรอบดูบ้าง
หรืออาจเพราะ… อยากให้ใครบางคนมองบ้าง
คิดได้แค่นั้น เธอก็รีบส่ายหัวไล่ความคิดโง่ ๆ ออกไป
“บ้าสิ แกจะสนใจมันทำไม”