bc

ห้องเช่านี้มีผีอยู่

book_age18+
393
FOLLOW
2.5K
READ
HE
stepfather
love at the first sight
like
intro-logo
Blurb

หลังจากที่เรียนจบได้สามเดือนโชคดีที่ญาดาได้งานพนักงานบริษัทเล็กๆ ที่เธอเคยฝึกงานที่นี่ตอนเป็นนักศึกษา เพราะอย่างนั้นการใช้ชีวีตของญาดาก็ดูเหมือนจะง่ายดายมากกว่าที่คิด แต่ตอนนี้เธอแบกรับภาระค่าใช้จ่ายจากค่าหอเดิมไม่ไหว เนื่องจากที่หอเดิมอยู่ไกลจากที่ทำงานมากๆ ก็เลยคิดว่าจะย้ายบ้านไปที่อยู่ใกล้ที่ทำงาน และค่าเช่าถูกลงกว่าเดิมสักนิด

“ที่นี่โอเคนะญาดา แกว่าไงอ่ะ”

ญาดาพยักหน้าเบาๆ เธอค่อนข้างชอบที่อยู่ใหม่มากทีเดียว เป็นบ้านหลังเล็กที่ค่าเช่าถูกมากจนน่าตกใจ

“เราว่าที่นี่ดีเลยพราว ราคาโดนใจแล้วก็อยู่ใกล้ที่ทำงานมากๆ ด้วย”

เธอสามารถเดินไปทำงานได้เลยด้วยซ้ำ และเมื่อคุณป้าเจ้าของบ้านมาเปิดบ้านหลังนี้เพื่อให้ญาดาเข้าไปสำรวจด้านใน เธอก็ยิ่งถูกใจเข้าไปใหญ่

เปิดประตูเข้าไปเป็นห้องนั่งเล่นขนาดเล็กถัดจากห้องนั้นเป็นห้องนอนและมีห้องครัว รวมไปถึงมีห้องน้ำเล็กๆ พอเหมาะในตัว

“ค่ามัดจำเท่าไหร่คะคุณป้า หนูตกลงอยู่ที่นี่เลย”

คุณป้าเจ้าของบ้านส่งยิ้มแห้งๆ ให้กับญาดา

“เรื่องค่ามัดจำป้าไม่เก็บหรอกนะหนู ป้าเก็บแค่ค่าเช่าเดือนนี้ก็พอ”

ญาดามองหน้ากับพราวมุก เพราะว่าคุณป้าใจดีมากๆ ไม่เก็บค่ามัดจำได้ไงก่อน ไม่กลัวว่าเธอจะย้ายหนีออกไปรึไงกัน!

“อ่า..แบบนั้นหนูจ่ายค่าเช่าเดือนนี้เลยก็ได้ค่ะ”

“ได้เลย ป้าอยากให้หนูอยู่บ้านนี้นานๆ เลยนะ”

ญาดาส่งยิ้มให้กับคุณป้าอีกครั้งพร้อมกับทำสัญญาการเช่าบ้าน เธอจ่ายเงินให้คุณป้าเรียบร้อยและมารู้ว่าคุณป้าคนนั้นมีชื่อว่าคุณป้าต้องตา หลังจากนั้นพราวมุกก็มาช่วยญาดาย้ายข้าวของอันน้อยนิดของญาดามาที่บ้านหลังใหม่ของเธอ

“ขอบใจมากนะพราว เดี๋ยวเงินเดือนออกเราไปเลี้ยงชาบูแกนะ”

พราวมุกขนลังกระดาษลงจากหลังรถยนต์

“ไม่เป็นไรเว้ย ตอนเราย้ายบ้านแกก็ไปช่วยนี่”

ญาดายกมือขึ้นมาก่อนจะกอดเพื่อนคนสนิทอย่างพราวมุกเอาไว้แน่น โชคดีที่คุณป้าต้องตาไม่ได้เก็บค่ามัดจำ ก็เลยทำให้ญาดาพอมีเงินเหลืออยู่นิดหน่อย

เธอพึ่งเรียนจบและการปรับตัวจากนักศึกษามาเป็นวัยทำงานมันไม่ง่ายเลยสักนิด

หลังจากช่วยกันขนของเข้ามาพราวมุกก็ต้องกลับแล้ว เพราะพราวมุกทำงานเป็นพีอาร์ร้านเหล้าเป็นอาชีพเสริม ตัวญาดาเองก็อยากจะไปทำงานกับพราวมุกเหมือนกันติดอยู่ที่เธอไม่ใช่คนพูดเก่ง ญาดาชอบอยู่เงียบๆ คนเดียวมากกว่า

“แม่จ๋า..หนูย้ายบ้านเสร็จแล้วนะ วันนี้แม่กินข้าวรึยัง?”

มุมปากของญาดาหยักยิ้มขึ้นมาเมื่อเธอพิมพ์ข้อความส่งไปหาแม่ ก่อนที่เธอจะวางโทรศัพท์เอาไว้แล้วจัดการจัดของให้เข้าที่เข้าทาง

แน่นอนว่าสายมูแบบเธอไม่ลืมที่จะจุดธูปไหว้เจ้าที่เจ้าทางในการเข้ามาอยู่บ้านหลังใหม่

“ทางเจ้าที่เจ้าทาง เจ้าบ้านเจ้าเรือน ลูกมาขออยู่อาศัยในบ้านหลังนี้..”

“เพล้ง!!”

แก้วน้ำที่เธอตั้งเอาไว้บนโต๊ะร่วงหล่นลงมาแตกกระจายอยู่บนพื้น ญาดาขมวดคิ้วเล็กน้อยพร้อมกับปักธูปลงบนกระถางธูป เธอเดินไปเก็บเศษแก้วที่กระจายอยู่ที่พื้นด้วยอารมณ์หงุดหงิดเล็กน้อย

นี่เธอวางแก้วไม่รู้จักดูเลยงั้นเรอะ! มันถึงได้ตกหล่นลงแบบนี้แบบนี้น่ะ วันๆ พันกว่าเรื่องและเก้าร้อยเรื่องคือโมโหตัวเองเพราะส่วนใหญ่อยู่คนเดียว

เมื่อเก็บเศษแก้วพร้อมกับกวาดถูบ้านใหม่ ญาดาก็นั่งมองบ้านใหม่ในสภาพสะอาดเอี่ยมอ่องด้วยความอารมณ์ดี เธอเปิดเพลงเบาๆ พร้อมกับนอนหลับตาลงช้าๆ

การย้ายบ้านนี่..เหนื่อยเหมือนกันแฮะ เพราะงั้นอย่าสรรหาทำบ่อย

ญาดาหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้กว่าที่เธอจะรู้สึกตัวอีกทีก็เป็นช่วงเย็นแล้ว ฟ้าที่ด้านนอกเริ่มมืดและเพราะเธอหลับไปจึงไม่ได้ทันเปิดไฟเอาไว้

“...ตึ่ก!..ตึ่ก!”

เสียงฝีเท้าก้าวเดินไปมาในบ้านของเธอ และเพราะมันมืดจนแสงไฟทางจากด้านนอกส่งเข้ามาไม่เห็นทำให้ญาดาค่อยๆเอื้อมมือไปคว้าขวดน้ำหวานที่เป็นขวดแก้วขึ้นมา

ขโมยงั้นเรอะ! เธอเองก็กำลังถังแตกอยู่เหมือนกันจะมาขโมยอะไรก่อน แกขึ้นบ้านผิดแล้วไอ้ขโมยดวงซวยเพราะว่าญาดาในตอนมอปลายเธอเคยเรียนเทควันโด้นะเว้ย

เมื่อฟังจนมั่นใจว่าฝีเท้านั้นกำลังเดินมาทางที่เธอกำลังนอนอยู่ ญาดาก็ยิ่งกำขวดน้ำหวานในมือแน่น

มาสิ..เดินมาใกล้ๆ อีกสักหน่อย แม่จะฟาดให้น็อคไปเลย

ญาดายกขวดน้ำหวานเตรียมหวดและในจังหวะนั้นเอง ไฟที่กำลังปิดอยู่ก็เปิดสว่างทั่วบ้าน และในห้องของเธอก็ไม่พบใครเลยสักคนเดียว..

“.....”

ญาดาเบนสายตามองไปรอบๆ ไม่มีใครอยู่ในบ้านของเธอเลย แต่ทว่าสิ่งที่ญาดารู้สึกว่ามันค่อนข้างสะดุดตา คือรอยแป้งเย็นที่เธอพึ่งจะทาหลังอาบน้ำและมันเลอะอยู่บนพื้น

บนรอยแป้งนั้นมันคือรอยเท้าขนาดใหญ่..ใหญ่มากกว่ารอยเท้าขนาดสามสิบเจ็ดของเธอไปมากทีเดียว

บอกความรู้สึกตอนนี้ไม่ถูกเหมือนกัน เธอเดินไปเปิดประตูห้องนอน ห้องน้ำและไปตรวจดูประตูบ้านก็พบว่าตัวเองล็อคทั้งลูกบิดและลงกลอนเอาไว้อีกรอบด้วย หน้าต่างก็มีมุ้งลวด ยุงสักตัวยังเข้ามาไม่ได้อย่าว่าแต่โจรเลย

ในเมื่อไม่ใช่โจร..เช่นนั้นในห้องเช่าที่พึ่งจะย้ายเข้ามาใหม่นี้ยังมีอะไรที่สามารถเคลื่อนตัวไปมาแล้วทิ้งรอยเท้าเอาไว้ได้อีกล่ะ นอกจาก...ผีน่ะ

เธอถอนหายใจอย่างโล่งอก เพราะอย่างน้อยหากไม่ใช่โจรก็หมายถึงว่าไม่ต้องมีการต่อสู้ในห้องนี้และน้ำหวานที่เหลืออยู่ครึ่งขวดนี้ก็ไม่ต้องเอาไว้ฟาดใคร

ญาดาสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อเรียกสติของตัวเองกลับมา เธอจ่ายค่าเช่าไปแล้วทำให้เงินที่เหลือมันไม่พอให้เธอย้ายออกไปจากที่นี่แล้วไปเช่าที่อื่น อีกทั้งเธอชอบที่นี่มากพอสมควรเพราะมันใกล้ที่ทำงาน

หรือว่าเธอกำลังคิดมาก..ไปเอง อาจจะไม่ใช่อย่างที่คิดก็ได้

“นี่..ถ้าเป็นผีจริงๆ ขอมาหากันในสภาพดีๆ ได้ไหม คือ..มาแบบสภาพที่พอคุยกันได้น่ะ ฉันไม่มีเงินพอที่จะไปเช่าห้องใหม่ในเดือนนี้แล้ว เพราะอย่างนั้นหากว่าอยากจะได้อะไรหรือว่าอยากจะตกลงอะไรก็ออกมาคุยกันดีกว่านะ..”

เธอพูดออกไปโดยไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่าจะมีอีกฝ่ายที่ฟังเธออยู่รึเปล่า เพียงแต่ญาดาต้องการความแน่ใจว่าเราจะอยู่ร่วมกันอย่างสันติได้ เธอไม่ได้กลัวผีเลยนะ เพราะอย่างน้อยวิญญาณหรืออะไรพวกนั้นก็เคยเป็นคนมากก่อน

“นี่เธอ..มองเห็นเรางั้นเหรอ?”

เสียงที่ดังออกมาจากห้องนอนทำให้ขนแขนของญาดาลุกพรวดพราดขึ้นมาแบบห้ามไม่ได้

ไม่กลัวก็จ

chap-preview
Free preview
1.มาคุยกันในสภาพดีๆหน่อยได้ไหม
หลังจากที่เรียนจบได้สามเดือนโชคดีที่ญาดาได้งานพนักงานบริษัทเล็กๆ ที่เธอเคยฝึกงานที่นี่ตอนเป็นนักศึกษา เพราะอย่างนั้นการใช้ชีวีตของญาดาก็ดูเหมือนจะง่ายดายมากกว่าที่คิด แต่ตอนนี้เธอแบกรับภาระค่าใช้จ่ายจากค่าหอเดิมไม่ไหว เนื่องจากที่หอเดิมอยู่ไกลจากที่ทำงานมากๆ ก็เลยคิดว่าจะย้ายบ้านไปที่อยู่ใกล้ที่ทำงาน และค่าเช่าถูกลงกว่าเดิมสักนิด “ที่นี่โอเคนะญาดา แกว่าไงอ่ะ” ญาดาพยักหน้าเบาๆ เธอค่อนข้างชอบที่อยู่ใหม่มากทีเดียว เป็นบ้านหลังเล็กที่ค่าเช่าถูกมากจนน่าตกใจ “เราว่าที่นี่ดีเลยพราว ราคาโดนใจแล้วก็อยู่ใกล้ที่ทำงานมากๆ ด้วย” เธอสามารถเดินไปทำงานได้เลยด้วยซ้ำ และเมื่อคุณป้าเจ้าของบ้านมาเปิดบ้านหลังนี้เพื่อให้ญาดาเข้าไปสำรวจด้านใน เธอก็ยิ่งถูกใจเข้าไปใหญ่ เปิดประตูเข้าไปเป็นห้องนั่งเล่นขนาดเล็กถัดจากห้องนั้นเป็นห้องนอนและมีห้องครัว รวมไปถึงมีห้องน้ำเล็กๆ พอเหมาะในตัว “ค่ามัดจำเท่าไหร่คะคุณป้า หนูตกลงอยู่ที่นี่เลย” คุณป้าเจ้าของบ้านส่งยิ้มแห้งๆ ให้กับญาดา “เรื่องค่ามัดจำป้าไม่เก็บหรอกนะหนู ป้าเก็บแค่ค่าเช่าเดือนนี้ก็พอ” ญาดามองหน้ากับพราวมุก เพราะว่าคุณป้าใจดีมากๆ ไม่เก็บค่ามัดจำได้ไงก่อน ไม่กลัวว่าเธอจะย้ายหนีออกไปรึไงกัน! “อ่า..แบบนั้นหนูจ่ายค่าเช่าเดือนนี้เลยก็ได้ค่ะ” “ได้เลย ป้าอยากให้หนูอยู่บ้านนี้นานๆ เลยนะ” ญาดาส่งยิ้มให้กับคุณป้าอีกครั้งพร้อมกับทำสัญญาการเช่าบ้าน เธอจ่ายเงินให้คุณป้าเรียบร้อยและมารู้ว่าคุณป้าคนนั้นมีชื่อว่าคุณป้าต้องตา หลังจากนั้นพราวมุกก็มาช่วยญาดาย้ายข้าวของอันน้อยนิดของญาดามาที่บ้านหลังใหม่ของเธอ “ขอบใจมากนะพราว เดี๋ยวเงินเดือนออกเราไปเลี้ยงชาบูแกนะ” พราวมุกขนลังกระดาษลงจากหลังรถยนต์ “ไม่เป็นไรเว้ย ตอนเราย้ายบ้านแกก็ไปช่วยนี่” ญาดายกมือขึ้นมาก่อนจะกอดเพื่อนคนสนิทอย่างพราวมุกเอาไว้แน่น โชคดีที่คุณป้าต้องตาไม่ได้เก็บค่ามัดจำ ก็เลยทำให้ญาดาพอมีเงินเหลืออยู่นิดหน่อย เธอพึ่งเรียนจบและการปรับตัวจากนักศึกษามาเป็นวัยทำงานมันไม่ง่ายเลยสักนิด หลังจากช่วยกันขนของเข้ามาพราวมุกก็ต้องกลับแล้ว เพราะพราวมุกทำงานเป็นพีอาร์ร้านเหล้าเป็นอาชีพเสริม ตัวญาดาเองก็อยากจะไปทำงานกับพราวมุกเหมือนกันติดอยู่ที่เธอไม่ใช่คนพูดเก่ง ญาดาชอบอยู่เงียบๆ คนเดียวมากกว่า “แม่จ๋า..หนูย้ายบ้านเสร็จแล้วนะ วันนี้แม่กินข้าวรึยัง?” มุมปากของญาดาหยักยิ้มขึ้นมาเมื่อเธอพิมพ์ข้อความส่งไปหาแม่ ก่อนที่เธอจะวางโทรศัพท์เอาไว้แล้วจัดการจัดของให้เข้าที่เข้าทาง แน่นอนว่าสายมูแบบเธอไม่ลืมที่จะจุดธูปไหว้เจ้าที่เจ้าทางในการเข้ามาอยู่บ้านหลังใหม่ “ทางเจ้าที่เจ้าทาง เจ้าบ้านเจ้าเรือน ลูกมาขออยู่อาศัยในบ้านหลังนี้..” “เพล้ง!!” แก้วน้ำที่เธอตั้งเอาไว้บนโต๊ะร่วงหล่นลงมาแตกกระจายอยู่บนพื้น ญาดาขมวดคิ้วเล็กน้อยพร้อมกับปักธูปลงบนกระถางธูป เธอเดินไปเก็บเศษแก้วที่กระจายอยู่ที่พื้นด้วยอารมณ์หงุดหงิดเล็กน้อย นี่เธอวางแก้วไม่รู้จักดูเลยงั้นเรอะ! มันถึงได้ตกหล่นลงแบบนี้แบบนี้น่ะ วันๆ พันกว่าเรื่องและเก้าร้อยเรื่องคือโมโหตัวเองเพราะส่วนใหญ่อยู่คนเดียว เมื่อเก็บเศษแก้วพร้อมกับกวาดถูบ้านใหม่ ญาดาก็นั่งมองบ้านใหม่ในสภาพสะอาดเอี่ยมอ่องด้วยความอารมณ์ดี เธอเปิดเพลงเบาๆ พร้อมกับนอนหลับตาลงช้าๆ การย้ายบ้านนี่..เหนื่อยเหมือนกันแฮะ เพราะงั้นอย่าสรรหาทำบ่อย ญาดาหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้กว่าที่เธอจะรู้สึกตัวอีกทีก็เป็นช่วงเย็นแล้ว ฟ้าที่ด้านนอกเริ่มมืดและเพราะเธอหลับไปจึงไม่ได้ทันเปิดไฟเอาไว้ “...ตึ่ก!..ตึ่ก!” เสียงฝีเท้าก้าวเดินไปมาในบ้านของเธอ และเพราะมันมืดจนแสงไฟทางจากด้านนอกส่งเข้ามาไม่เห็นทำให้ญาดาค่อยๆเอื้อมมือไปคว้าขวดน้ำหวานที่เป็นขวดแก้วขึ้นมา ขโมยงั้นเรอะ! เธอเองก็กำลังถังแตกอยู่เหมือนกันจะมาขโมยอะไรก่อน แกขึ้นบ้านผิดแล้วไอ้ขโมยดวงซวยเพราะว่าญาดาในตอนมอปลายเธอเคยเรียนเทควันโด้นะเว้ย เมื่อฟังจนมั่นใจว่าฝีเท้านั้นกำลังเดินมาทางที่เธอกำลังนอนอยู่ ญาดาก็ยิ่งกำขวดน้ำหวานในมือแน่น มาสิ..เดินมาใกล้ๆ อีกสักหน่อย แม่จะฟาดให้น็อคไปเลย ญาดายกขวดน้ำหวานเตรียมหวดและในจังหวะนั้นเอง ไฟที่กำลังปิดอยู่ก็เปิดสว่างทั่วบ้าน และในห้องของเธอก็ไม่พบใครเลยสักคนเดียว.. “.....” ญาดาเบนสายตามองไปรอบๆ ไม่มีใครอยู่ในบ้านของเธอเลย แต่ทว่าสิ่งที่ญาดารู้สึกว่ามันค่อนข้างสะดุดตา คือรอยแป้งเย็นที่เธอพึ่งจะทาหลังอาบน้ำและมันเลอะอยู่บนพื้น บนรอยแป้งนั้นมันคือรอยเท้าขนาดใหญ่..ใหญ่มากกว่ารอยเท้าขนาดสามสิบเจ็ดของเธอไปมากทีเดียว บอกความรู้สึกตอนนี้ไม่ถูกเหมือนกัน เธอเดินไปเปิดประตูห้องนอน ห้องน้ำและไปตรวจดูประตูบ้านก็พบว่าตัวเองล็อคทั้งลูกบิดและลงกลอนเอาไว้อีกรอบด้วย หน้าต่างก็มีมุ้งลวด ยุงสักตัวยังเข้ามาไม่ได้อย่าว่าแต่โจรเลย ในเมื่อไม่ใช่โจร..เช่นนั้นในห้องเช่าที่พึ่งจะย้ายเข้ามาใหม่นี้ยังมีอะไรที่สามารถเคลื่อนตัวไปมาแล้วทิ้งรอยเท้าเอาไว้ได้อีกล่ะ นอกจาก...ผีน่ะ เธอถอนหายใจอย่างโล่งอก เพราะอย่างน้อยหากไม่ใช่โจรก็หมายถึงว่าไม่ต้องมีการต่อสู้ในห้องนี้และน้ำหวานที่เหลืออยู่ครึ่งขวดนี้ก็ไม่ต้องเอาไว้ฟาดใคร ญาดาสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อเรียกสติของตัวเองกลับมา เธอจ่ายค่าเช่าไปแล้วทำให้เงินที่เหลือมันไม่พอให้เธอย้ายออกไปจากที่นี่แล้วไปเช่าที่อื่น อีกทั้งเธอชอบที่นี่มากพอสมควรเพราะมันใกล้ที่ทำงาน หรือว่าเธอกำลังคิดมาก..ไปเอง อาจจะไม่ใช่อย่างที่คิดก็ได้ “นี่..ถ้าเป็นผีจริงๆ ขอมาหากันในสภาพดีๆ ได้ไหม คือ..มาแบบสภาพที่พอคุยกันได้น่ะ ฉันไม่มีเงินพอที่จะไปเช่าห้องใหม่ในเดือนนี้แล้ว เพราะอย่างนั้นหากว่าอยากจะได้อะไรหรือว่าอยากจะตกลงอะไรก็ออกมาคุยกันดีกว่านะ..” เธอพูดออกไปโดยไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่าจะมีอีกฝ่ายที่ฟังเธออยู่รึเปล่า เพียงแต่ญาดาต้องการความแน่ใจว่าเราจะอยู่ร่วมกันอย่างสันติได้ เธอไม่ได้กลัวผีเลยนะ เพราะอย่างน้อยวิญญาณหรืออะไรพวกนั้นก็เคยเป็นคนมากก่อน “นี่เธอ..มองเห็นเรางั้นเหรอ?” เสียงที่ดังออกมาจากห้องนอนทำให้ขนแขนของญาดาลุกพรวดพราดขึ้นมาแบบห้ามไม่ได้ ไม่กลัวก็จริงแต่มันทำใจกับเรื่องแบบนี้ได้ง่ายๆ ที่ไหนกันล่ะโว้ย!! “ยังไม่เห็น..แต่เราได้ยินนายนะ ขอย้ำอีกครั้งหากจะคุยกันช่วยออกมาคุยในสภาพดีๆ ..ได้ไหม?”

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

ฮูหยินกลับมาเถิดข้าไล่พวกนางไปหมดแล้ว

read
10.4K
bc

รอยรักคนใจร้าย

read
10.1K
bc

เกิดใหม่พร้อมกับมิติฟาร์มส่วนตัว

read
5.2K
bc

พิษรักซาตาน

read
5.4K
bc

ข้านี่แหล่ะ ฮูหยินของท่านแม่ทัพ

read
3.8K
bc

ทาสรักของจอมมาร

read
1.1K
bc

เกิดใหม่ทั้งที ดันกลายเป็นพี่สาวเจ้าแฝด

read
5.3K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook