สายฝนชุ่มฉ่ำ nc
โอบนทียกแก้วนมขึ้นเชิญชวนคนตัวเล็กในชุดคลุมซึ่งเพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ อีกฝ่ายยิ้มจางๆ ให้เขาโคลงศีรษะเป็นการตอบรับก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะเครื่องแป้ง ทาครีมบำรุงแล้วก็เปลี่ยนชุดนอน
ดวงตาคู่คมจดจ้องร่างอรชรไม่วางตายามที่เธอปลดชุดคลุมอาบน้ำออกจากตัวก่อนจะเปลี่ยนเป็นชุดนอนตัวยาว แม้จะเห็นเกือบทุกคืนแต่มันก็ยังเป็นที่พึงพอใจของเขาเสมอ
พอเรียบร้อยรริชาก็เดินมาหาเขา ด้วยรอยยิ้มสดใส
“ฝนตกตั้งแต่หัวค่ำ บรรยากาศน่านอนมากเลยว่าไหมครับ”
“น่านอนแล้วทำไมมานั่งเล่นตรงนี้ล่ะคะ”
“ออ ผมว่ามันหนาวไป รู้สึกอยากกินนมร้อนๆ นี่ถือขึ้นมาเผื่อริชาด้วย” สายตาหลุบมองแก้วนมอีกแก้ว คนตรงหน้ายิ้มให้เขาก่อนจะหยิบมันขึ้นมาถือไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง ราวกับต้องการวัดอุณหภูมิของมัน
“ร้อนไปไหมครับ”
“น่าจะพอดีค่ะ” เธอก้มลงไปจิบนมอุ่นที่สามีอุตส่าห์ถือขึ้นมาฝาก แล้วก็ดื่มจนหมดแก้ว
“อุ่นขึ้นจริงๆ ค่ะ”
“อากาศเย็นใช่ไหมครับ ริชาไม่ค่อยชอบอากาศหนาว” พอเขาถามเจ้าตัวก็ห่อไหล่ มองฝ่าความมืดผ่านกระจกบานใหญ่ที่มีหยดน้ำฝนเกาะให้ยิ่งมืดมัว พอๆ กับจิตใจเธอ ไม่รู้ว่าโอบนทีแค่อยากนั่งดื่มด่ำกับสายฝนที่เกาะกระจกใสในยามค่ำคืน หยอกล้อพูดคุยพอเป็นพิธีก่อนเข้านอน หรือเขามีเรื่องอะไรอยากพูดคุย
“ก็หนาวนิดหนึ่ง มันตกทั้งวันอย่างที่คุณโอบว่านั่นแหละค่ะ”
“คืนนี้ริชาเลยใส่ชุดนอนแบบแขนยาว” เขาเอ่ยเสียงแผ่ว ทำหน้าเหมือนผิดหวัง รริชาก้มหน้าซ่อนรอยยิ้ม คิดในใจว่าเธอใส่แบบไหนเขาก็ถอดได้อยู่ดี
เธอได้ยินเสียงลมหายใจที่หนักหน่วงหนึ่งทีหลังผ่านการเย้าหยอกกันไปมา รริชาเลยมั่นใจว่าโอบนทีน่าจะมีเรื่องอยากคุยกับเธอ และเรื่องที่เราจำเป็นต้องคุยกันในช่วงนี้ก็คงไม่พ้น...
“ริชาครับ เรื่องการหย่าของเราผมได้ใช้เวลาคิดมาสักระยะหนึ่ง วันนี้ผมไปดูคอนโด ผมคิดว่าริชาน่าจะเหมาะกับคอนโดมากกว่าบ้าน และคอนโดที่ผมดูมันก็โอเค มีระบบความปลอดภัยที่ไว้ใจได้ ผมให้คอนโดกับ ริชา เงินสดสิบล้าน รายเดือนเดือนละหนึ่งหมื่นบาท แล้วก็รถที่ริชาใช้อยู่ผมว่ามันนานแล้วผมอยากซื้อให้ใหม่ ริชาอยากได้อะไรเพิ่มไหมครับหรืออยากแก้ไขอะไรตรงไหนไหม”
รริชารู้สึกใจหาย ในค่ำคืนที่ฝนตกปรอยๆ ที่คุ้นเคยกับการนอนกอดก่ายกันและกันแต่เธอกับเขาต้องมาตกลงเรื่องการหย่า เธอทำได้แค่เก็บความรู้สึก ฝืนยิ้มให้สามีที่กำลังจะกลายเป็นอดีต
“ไม่แล้วค่ะ ริชาแล้วแต่คุณโอบ ที่ให้มามันก็เยอะมากแล้ว”
“ครับ รอให้ผมจัดการเรื่องคอนโดกับรถเรียบร้อย อาจจะไม่เกินสองสัปดาห์เราค่อยนัดวันหย่า”
เธอยิ้มจางๆ ให้เขา ฝืนกลืนก้อนความรู้สึกบางอย่างที่แน่นอก โอบนทียิ้มอบอุ่นให้เธอ ทุกอย่างมันดูปกติไม่เหมือนสามีภรรยาที่กำลังคุยเรื่องหย่าร้างกันเลยสักนิด
“อีกสองสัปดาห์...แต่คืนนี้ริชาจะยังเมตตาผมได้ไหมครับ” ออดอ้อนหากสุภาพ สิ่งที่เธอพลั้งเผลอและหลงใหลในตลอดระยะเวลาปีกว่าที่แต่งงานกัน หากก็ไม่สามารถแสดงความรู้สึกให้เขาได้ล่วงรู้ รริชายิ้มอ่อนหวาน มีจริตเย้ายวนเล็กๆ แบบที่ทำให้สามียิ้มกว้างขึ้น มือหนาค่อยๆ เก็บถ้วยนมใส่ถาด ร่างสูงลุกขึ้นและวางถาดบนเก้าอี้ตัวนั้นแทน ทุกการเคลื่อนไหวของเขาดูมั่นคง ไม่รีบร้อน แต่มันทำให้เธอหายใจไม่ทั่วท้องถึงสาเหตุที่เขาต้องเก็บโต๊ะ ใบหน้าหล่อเหลามีรอยยิ้มอบอุ่นแต่งแต้มจางๆ หากดวงตาเป็นประกายเย้ายวน
ร่างสูงโน้มตัวลงมาหา เชยคางให้เธอรับจูบของเขา ลึกซึ้งดื่มด่ำพอๆ กับสายฝนด้านนอก ก่อนจะอุ้มเธอขึ้นนั่งบนโต๊ะ ตัวเองนั่งเก้าอี้ตัวนั้นแทนเธอ ขยับเก้าอี้ให้ได้ตำแหน่งที่พอใจ
รริชาพยายามหายใจให้เป็นจังหวะ ข่มความตื่นเต้นหวามไหว เมื่อดูท่าแล้วเขาน่าจะใช้เวลากับเธอตรงนี้...ไม่มากก็น้อย
“เราควรปิดม่านไหมคะ”
เขายิ้มกว้างกับคำถามเธอ ส่ายหน้าแทนคำตอบ ก่อนจะดึงเธอเข้ามาให้ใกล้ตัวอีกหน่อย รวบเอวแล้วซุกหน้ากับหน้าท้องดอมดมสูดกลิ่นหอมผ่านเนื้อผ้า เสียงลมหายใจของเขาทำให้เธอยิ่งรู้สึกวูบไหวในอก
“มันไม่เป็นปัญหานี่ครับ ริชาก็รู้” ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาทำกับเธอตรงนี้ แต่มันก็อดตื่นเต้นไม่ได้ทุกครั้ง
“คืนนี้ฝนตกด้วย บรรยากาศข้างนอกกำลังดี ปิดม่านก็เสียดาย”
เขาดึงตัวออกจากเธอ เพียงเพื่อจับเข่าเธอแยกออกจากกันให้ตัวเองแทรกตรงกลางได้ ขยับเข้าไปชิด มือโอบกอดรอบเอว ซุกหน้ากับร่องอก เสื้อนอนที่แม้จะเป็นแขนยาวแบบที่เขาบ่นๆ แต่เนื้อผ้าก็บางเบา...และเธอไม่ได้ใส่ชั้นใน ให้ความรู้สึกเหมือนสัมผัสเนื้อแท้ ก่อนที่ใบหน้าคมจะจรดจมูกตรงผิวเนื้อเนินอก ไล้เลียเนื้ออ่อนสลับกับดูดกลืน สร้างอุณหภูมิอุ่นๆ ให้ร่างกายตอบรับอากาศหนาวเย็นจากสายฝนได้พอดิบพอดี
เขาโน้มใบหน้าเธอลงมาจูบอีกครั้ง อ่อนหวานหากก็ดูดดื่มเร่าร้อน มือข้างหนึ่งละจากแผ่นหลังลูบไล้เรียวขาผ่านกระโปรงชุดนอนที่เลิกขึ้นสูงในท่วงท่านั่งของเธอ ยกขาข้างนั้นวางบนพนักเก้าอี้ ถอนจูบ มองสบตาด้วยดวงตาที่เหมือนคลื่นในทะเลลึก เหมือนนิ่งสงบแต่พร้อมที่จะก่อพายุสวาทกลางอกเธอ
เขาก้มลงจูบเข่า สายตาเงยสบเย้ายวนให้รริชาเผลอเกร็งท้องด้วยด้วยความวูบวาบในนั้น...ไม่เคยชินได้สักทีกับความอ้อยอิ่งของสามี ทะเลที่สงบหากพร้อมจะคลั่งในอีกไม่กี่วินาทีต่อมา
มือทั้งสองข้างม้วนชายชุดนอนเธอขึ้นสูง
“ริชาขยับตัวนิดหนึ่ง” สั่งเสียงนุ่ม รริชาต้องข่มความอายยกตัวขึ้นให้เขารั้งชุดนอนเธอไปกองเหนือสะโพกในที่สุด
“ถือไว้ให้หน่อยครับ” อดที่จะค้อนให้ไม่ได้ แม้จะเป็นภาพเดิมๆ แต่สามีเธอก็ขยันหามุกมาให้เธอขวยเขิน รอยยิ้มมุมปากที่เหมือนขำเธอยิ่งทำให้รู้สึกว่าจริงๆ แล้วเขาน่าหมั่นไส้พอสมควร แต่แม้จะเคืองแค่ไหนก็ยอมถือชายชุดนอนไว้ กำมันแน่นตอนที่ใบหน้าคมซุกตรงกลางตัว วางขาทั้งสองข้างพาดบ่า ยันตัวเองด้วยมือเพียงข้างเดียว
“อื้อ คุณโอบคะ” พอเขาปรนเปรอจนถึงจุดที่ความซ่านไหวครอบคลุมความรู้สึกนึกคิดก็ปล่อยมือจากชายเสื้อ ค้ำพื้นด้วยมือทั้งสองข้าง แหงนหน้าครวญครางแข่งกับสายฝนภายนอก จะปล่อยมือจากพื้นโต๊ะก็ตอนที่ใช้กดศีรษะเขาให้แนบชิดสนิทสนม
รรชิหาหอบหายใจเฮือกหนึ่งเมื่อเขาลุกออกจากเธอตอนที่อารมณ์กำลังต้องการการปลดปล่อย สายตาปรือปรอยประท้วง เว้าวอน และรู้ว่าเขาจะให้สิ่งที่เธอต้องการได้แค่ไหน
“คนดี รอผมก่อน” มือข้างหนึ่งลูบแก้มอย่างปลอบโยน อีกข้างดึงกางเกงนอนตัวเองลง ก่อนจะดึงเธอเข้ามาหาให้ได้ตำแหน่งที่เขาจะครอบครองเธอได้ ความรู้สึกเต็มแน่นและซ่านเสียวในกายทำให้รริชาสูดปากครางหนึ่งที เป็นภาพที่เย้ายวนในสายตาคนมอง เธอพยายามเก็บอาการเสมอ และเขาชอบเวลาที่เธอเก็บมันไม่อยู่
“ริชาจำได้ไหมว่าตอนแรกโต๊ะไม่ใช่ตัวนี้”
“จ จำได้ค่ะ อื้อ” ตอบเสียงกระเส่าเมื่อเขาเคลื่อนไหวคลึงเคล้าเนิบนาบเหมือนกลั่นแกล้งกัน
“เปลี่ยนตัวที่สามแล้ว รู้สึกว่าตัวนี้พอดี” เขากระแทกเข้ามาลึกจนเธอหวีดร้องหนึ่งที แล้วบดอัดทรงพลังเปลี่ยนฝนตกฉ่ำๆ ให้หลายเป็นพายุฝนที่โหมกระหน่ำในความรู้สึก
“อื้อ” เธอได้แต่ครวญครางร่ำร้อง เขาทำให้เธอหลงใหลในบทรักของเขาได้เสมอ ทุกอย่างมันปกติเหมือนทุกคืนเกือบจะลืมไปแล้วว่าเรากำลังคุยเรื่องการหย่ากันไปเมื่อครู่
“ริชาชอบบรรยากาศตอนฝนตกไหม”
“อื้อ ช ชอบค่ะ”
“แต่ตอนนี้ริชาไม่ได้มองหน้าต่างเลย” แหงล่ะ เธอเอาแต่แหงนหน้าคร่ำครวญ
“มาครับ” เขาผละออก จับมือเธอลงจากโต๊ะไปที่กระจกหน้าต่างบานใหญ่ พลิกให้เธอยืนแนบกับกระจกราวกับจะให้เธอมองสายฝนยามค่ำคืนเต็มที่
“ถือไว้ให้หน่อยครับ” เขาม้วนชายกระโปรงให้เธอถือไว้อีกแล้ว อยากจะค้อนให้แต่ก็ทำได้แค่ร้องเมื่อเขาครอบครองเธออย่างลึกซึ้งจากด้านหลัง รริชามองฝ่าสายฝนในความมืดที่แม้จะอยู่ใกล้แค่นี้แต่เธอก็ตาพร่าไปหมด สมองรับรู้แค่บทรักของสามีที่กำลังจะกลายเป็นอดีต
คงเพราะการแต่งงานที่ไม่ได้มีความรู้สึกมาเกี่ยวข้อง การใช้ชีวิตครอบครัวที่ก็ไม่เคยมีอะไรเปลี่ยนแปลงความรู้สึก...ของเขา คงมีเพียงเธอที่ถลำลึก จนถึงวันที่ทุกอย่างมันกำลังจบลง เธอกับเขาก็ยังทำทุกอย่างให้เหมือนไม่มีอะไรเปลี่ยนไป...หรือบางทีมันอาจไม่มีอะไรเกิดขึ้นตั้งแต่แรกต่างหาก