“เก่งมาก” ยืนมองมันกินข้าวอยู่ชั่วอึดใจก็ไปล้างมือและทอดไข่ดาวให้เขา ส่วนโอบนทีก็จัดโต๊ะรอเรียบร้อยแล้ว เหลือแค่ไข่ดาวของเธอ ซึ่งก็รอแค่แป๊บเดียว
“ไข่ดาวกรอบๆ ค่ะ” โอบนทีชอบกินไข่ดาวแบบยางมะตูมแต่ไข่ขาวกรอบๆ ซึ่งรริชาก็จัดให้ตรงใจเสมอ
“ขอบคุณครับ กินข้าวกันเถอะ” เขาดูหิวเหมือนกัน และเป็นคนตักกุ้งใส่จานให้เธอก่อน รริชายิ้มและเอ่ยขอบคุณเขาเบาๆ กำลังคิดว่าควรตักคืนให้หรือเปล่า...พอจะคิดว่าไม่ควรอีกฝ่ายก็เหมือนรอ เลยต้องตักให้...เขายิ้มพอใจทีเดียว
“ขอบคุณครับ” จะว่าไปตอนแต่งงานกันก็แทบจะไม่เคยทำอะไรแบบนี้ ตั้งแต่เข้าครัวด้วยกันเพราะปกติรริชาเข้าครัวพร้อมแม่บ้าน บนโต๊ะอาหารก็ไม่มีหรอกตักอาหารให้กัน ยกเว้นว่าเขาพาเธอไปรับประทานข้าวนอกบ้านและแนะนำเมนูให้เธอ...ทำไมบรรยากาศตอนนี้เหมือนเธอกับเขายังเป็นสามีภรรยากันอยู่เลย
โอบนทีมีรอยยิ้มตลอดเวลาบนโต๊ะอาหาร เขาดูมีความสุขกับการกิน และเพิ่มข้าวถึงสามจานจนเอามือลูบท้องตัวเอง
“อยากกินอีกนะครับ แต่ท้องมันไม่ไหว ริชาทำกับข้าวอร่อย” เขาก็ชมเธอตลอด แต่เมื่อก่อนก็ไม่ได้กินขนาดนี้ รู้สึกเหมือนตั้งใจจะเอาใจเธออย่างไรก็ไม่รู้
“แบบนี้ครั้งหน้ามากินข้าวกับริชาได้อีกไหมครับ ออตโต้มันก็น่าจะคิดถึงริชา” เขาพูดด้วยท่าทีผ่อนคลายหากคล้ายมีความออดอ้อนในนั้น หัวใจเธอไหววูบแต่ต้องประคับประคองให้อยู่ ยิ้มจางๆ ให้เขาตอบให้เป็นธรรมชาติที่สุด
“ได้สิคะ” เขาคงไม่มาอีกหรอก...แต่เอาจริงๆ ก็เริ่มไม่แน่ใจ
โอบนทีช่วยเธอล้างจานและเก็บครัว ส่วนออตโต้ก็เริ่มนอนเล่นและหลับเป็นครั้งคราว เหมือนมันจะเริ่มคุ้นเคยกับห้องเธอ
“ไอ้ลูกหมากินแล้วก็นอน” โอบนทีบ่นออตโต้ด้วยความเอ็นดู
“อาจจะได้เวลานอนแล้วมั้งคะ”
“ครับ ดึกแล้ว แต่ฝนยังไม่หยุดตกเลย” มันซาช่วงที่เธอกับเขากินข้าวแล้วก็ตกหนักลงมาอีก โอบนทีบอกเธอเสียงอ่อนแล้วก็เอามือลูบหัวเจ้าออตโต้ที่ตอนนี้ตื่นขึ้นมาแต่ก็นั่งง่วงซึมตามนิสัย ช่างดูน่าสงสารไปด้วยกันทั้งคนทั้งหมา
“รอฝนซาอีกสักหน่อยค่อยกลับแล้วกันนะคะ”
ทั้งคู่เลยนั่งเล่นในห้องนั่งเล่น เปิดทีวีดูพลางๆ โดยมีเจ้าออตโต้นอนเบียดขาเธออยู่ใต้โซฟา ทำเป็นอยากอยู่ใกล้ตลอด ทีอยู่บ้านนะชอบเดินหนี
“ริชาอยู่ห้องนี้มาเดือนกว่าแล้วเป็นยังไงบ้างครับ ห้องโอเคไหม”
“โอเคมากเลยค่ะ ขอบคุณคุณโอบมากนะคะที่เลือกห้องนี้ให้” พอพูดไปก็สะดุด เมื่อรู้สึกว่าเขาเลือกห้องให้สำหรับการหย่าจากเธอ...แต่ตอนนี้ก็นั่งอยู่ด้วยกัน เหมือนกับว่าไม่ได้หย่าขาด ใจเธอกำลังคิดอะไรมากมายเต็มไปหมด ทำไมโอบนทีถึงมาอยู่ตรงนี้ เพราะสงสารเจ้าออตโต้แค่นั้นเหรอ
“ริชาสบายดีนะครับ”
“ค่ะ คุณโอบล่ะคะ”
“ก็เรื่อยๆ ครับ อยู่คนเดียวก็เหงาๆ หน่อย”
ใจเธอหล่นวูบกับน้ำเสียงที่เหมือนตั้งใจจะทำให้หงอยเป็นเจ้าออตโต้ รริชาไม่กล้าจะเงยหน้ามองเขาเลย มือเล่นขนเจ้าออตโต้แก้อาการวางมือวางสีหน้าไม่ถูก
“ว้า ฝนหยุดตกแล้ว แย่จังออตโต้แกต้องกลับแล้วละ” นี่อีก มาทำเป็นเหมือนเสียดายที่ต้องกลับบ้าน แล้วก็มองเธอแบบนั้นต้องการให้เธอบอกว่าไม่ต้องกลับอย่างนั้นเหรอ บ้าน่า รริชาต้องห้ามตัวเองไม่ให้หลุดปากพูดออกไป ได้แต่ยิ้มจางๆ ให้เขา
“ปะ ออตโต้ ได้เวลากลับบ้านแล้ว ลุกๆ” เขาสะกิดหมา หยิบสายจูงมาต่อที่ปอกคอ เจ้าหมาก็ลุกปุบปับเหมือนรู้ตัวว่าต้องไปแล้ว
“แล้วค่อยมาหาใหม่นะออตโต้” ทางนี้ก็ใจหายเหมือนกัน ยิ่งเจ้าลูกหมาทำหน้าหงอยครางหงิงๆ เหมือนพูดคุยรู้เรื่องก็ยิ่งสงสาร
“หงิงๆ”
“ปะ เดี๋ยวไปส่ง”
“ริชาไม่ต้องลงไปส่งนะครับ ดึกแล้ว” เขาบอกตอนที่เธอไปส่งเขาที่ประตู รริชามองหน้าเขา เกิดความรู้สึกกระวนกระวายใจขึ้นมากับสิ่งที่เธอตั้งใจที่จะบอก...แต่ใจก็เต้นรัว ไม่รู้ว่าควรบอกหรือเปล่า เธอยังไม่ทันเตรียมใจเขาก็โผล่มาหา รริชาได้แต่ยิ้มจางๆ ให้เขาอย่างคิดไม่ตก ก่อนจะย่อตัวลงลูบหัวเจ้าออตโต้
“กลับบ้านดีๆ นะ อย่าดื้อล่ะ” กอดมันหนึ่งทีอย่างอดไม่อยู่ ขนนุ่มๆ ทำให้รู้สึกอยากฟัดแรงๆ หมาขี้หวงตัวก็ยอมให้เธอกอด เหมือนจะกอดกลับด้วย...ทำเอาน้ำตาซึมเลยทีเดียว
“เดี๋ยวพามันมาหาใหม่นะครับ หรือว่างๆ ริชาก็ไปเล่นกับมันที่บ้านก็ได้”
“ค่ะ” เธอตอบรับด้วยรอยยิ้ม ตัดใจปล่อยเจ้าออตโต้ ลุกขึ้นยืนส่งเขาและเจ้าหมาจนโอบนทีจูงเจ้าออตโต้ออกไป ปิดประตูให้ บานประตูที่ปิดกั้นยิ่งทำให้รู้สึกวูบโหวงในอก...คิดถึงคน คิดถึงหมา ไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกไหม แล้วก็ลูก...
รริชายกมือลูบท้องแบนๆ ของตัวเอง จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ได้บอกพ่อของเขา...แต่เอาเถอะ หวังว่าเธอจะทำใจได้แล้วหาโอกาสเหมาะๆ บอกเขาได้ในวันหนึ่ง
รริชาหมุนตัวกลับเข้าห้อง รู้สึกว่ากลิ่นของเขายังอบอวล ภาพที่เขาและเธอใช้เวลาด้วยกันในช่วงสั้นๆ ผุดเข้ามาในหัว เห็นทุกภาพทุกมุมที่เราอยู่ด้วยกัน มันคุ้นเคย...เหมือนตอนที่ยังเป็นสามีภรรยา อดที่จะหวนนึกถึงไม่ได้