bc

คนเถื่อนที่รักเธอ

book_age18+
170
FOLLOW
1K
READ
others
dark
bitch
drama
twisted
no-couple
small town
intersex
surrender
addiction
like
intro-logo
Blurb

“คุณกลับมาแล้วจริงๆ”

น้ำเสียงของโซเฟียบ่งบอกถึงความดีใจที่มิอาจประมาณ สองมือน้อยๆลูบสัมผัสไปทั่วใบหน้าชื้นเหงื่อของคนมาไกล เดลระดมจูบไซ้ ไล่เรื่อยจากลำคอขึ้นมาถึงท้ายทอย กระหยิ่มใจในอาการตอบสนองของเธอ รีบเบียดกายกำยำเข้าหาบั้นท้ายกลมกลึง บดคลึงจนโซเฟียรู้สึกได้ในความเครียดเขม็งของเขา

“คิดถึงเหลือเกิน” เดลละล่ำละลักไปตามอารมณ์ปรารถนา จ้วงจูบไม่ยั้ง ใช้ทั้งจมูกและปากตักตวงไปตามเนื้อตัวของโซเฟีย กอดจูบผู้หญิงตรงหน้าด้วยความกระหาย ชดเชยให้กับช่วงเวลาที่ห่างเหินกันนาน

เดลหายหน้าไปนานกว่าสามเดือน เขาเพิ่งเสร็จจากงานรับจ้างต้อนฝูงวัวหลายพันตัว เพื่อข้ามไปส่งให้กับฟาร์มปศุสัตว์แห่งหนึ่งซึ่งอยู่อีกรัฐ แต่ละวันของชีวิตต้องผ่านไปพร้อมกับงานกลางแจ้ง นอนกลางดินกินกลางทราย ค่ำไหนนอนนั่น ทุกที่คือบ้าน เผชิญชะตาท่ามกลางผืนแผ่นดินราบโล่ง แล้ง ร้อน ราวกับทะเลทราย แต่พอตกดึกก็หนาวร้าวเข้าไปถึงกระดูก ชีวิตแทบไม่เคยอยู่ติดกับที่ แรมรอนเหมือนคนที่ถูกสาปให้ชีพจรลงเท้ามาโดยตลอด

chap-preview
Free preview
ตอนที่ 1
  รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ใกล้ค่ำ ที่ฟาร์มปศุสัตว์แห่งหนึ่ง ใกล้กับเมืองเล็กๆที่ซ่อนตัวเงียบเชียบอยู่ในหุบเขาคิมเบอร์เลย์* พระอาทิตย์ดวงกลมโต ลอยเรี่ยต่ำเกือบแตะเส้นแนวขอบฟ้า ระบายสีส้มอมแดง ฝากลำแสงสุดท้ายของวันเอาไว้ก่อนจะลาลับ แลเห็นเป็นประกายแฉกฉาย แตกเป็นริ้วรายคลี่ล้อมดวงอาทิตย์และหมู่เมฆรายรอบ ที่เบื้องทิศตะวันตก มีภาพของฝูงนกในบรรยากาศย้อนแสง กำลังพากันบินกลับรัง แลเห็นเป็นกลุ่มสีดำรางๆ เขยื้อนขยับตามกันมาเป็นเส้นสาย เบื้องล่างมีทุ่งข้าวสาลีสีทองอร่าม เป็นความงดงามที่แฝงอยู่ในบรรยากาศอันแร้นแค้นและแห้งแล้งของพลบค่ำใกล้ฟาร์มแห่งหนึ่ง ภาพที่เห็นตรงหน้านั้นงดงามราวกับภาพวาดสีน้ำมันบนผืนผ้าใบของจิตรกรผู้ตั้งใจบรรจงสร้างสรรค์ด้วยปลายพู่กันอย่างสุดฝีมือ แลออกไปยังประตูที่จะผ่านเข้าไปในฟาร์ม ได้ยินเสียงกรุบกรับจากฝีเท้าม้าซึ่งกำลังควบเข้ามาด้วยพละกำลังความเร็วสูง ใกล้เข้ามาทุกขณะ แลเห็นฝุ่นสีจางคลุ้งกระจาย ตลบไล่หลังม้ามาแต่ไกล ท่วงท่าของม้ายังดูแข็งแกร่ง ทรงพลัง แม้จะเหนื่อยล้า กระหายทั้งหญ้าและน้ำ พอๆกับร่างสูงใหญ่ของชายที่คร่อมควบอยู่บนหลังของมัน ดวงตาของเขายังคงฉายประกายแกร่งกร้าว แม้จะเหนื่อยล้ากับการรอนแรมฝ่าไอระอุร้อนของเปลวแดดในแถบถิ่นทุรกันดารมาด้วยระยะทางไกลแสนไกล ยืนยันด้วยสายเหงื่อที่แฉะชื้นไปทั่วแผงอกและหลังไหล่ บ้างไหลเรี่ยอยู่ข้างขมับที่แลเห็นเส้นเลือดสีเขียวกระตุกตุบไปตามจังหวะชีพจรและเลือดร้อนในกายที่สูบฉีดแรงขึ้นทุกขณะ เมื่อสายตาแลเห็นเงารางๆของโรงเรือนอันเป็นจุดหมายปลายทางเบื้องหน้า จุดหมายซึ่งชายผู้อยู่บนหลังม้าอาวรณ์ถวิลถึงมันอยู่ตลอดเวลาที่ต้องห่างไกล ---- เทือกเขาคิมเบอร์เลย์* อยู่ในเขตที่ราบสูงภาคตะวันตกของออสเตรเลีย (Western Plateau) ซึ่งมีพื้นที่มากกว่าครึ่งทวีป ประกอบด้วยที่ราบชายฝั่งแคบๆ และที่ราบสูงเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้ยังมีภูมิประเทศที่เป็นเขตทะเลทรายกระจายอยู่หลายแห่ง เช่น ทะเลทรายเกรตแซนดี  ทะเลทรายกิบสัน ทะเลทรายเกรตวิกตอเรีย ---- ม้าค่อยๆชะลอความเร็ว ในช่วงที่มันวิ่งผ่านทางดินอันแห้งแล้งเข้ามาภายในอาณาบริเวณฟาร์ม ซึ่งสภาพของมันเมื่อแลดูด้วยสายตาจากภายนอก น่าจะเรียกว่าเป็นฟาร์มร้างมากกว่าจะมีผู้คนอยู่อาศัย แต่ควันไฟสีขาวจางที่ลอยเป็นสายรางๆขึ้นมาจากท้ายฟาร์ม ก็ยืนยันว่ายังมีคนอาศัยอยู่ที่ฟาร์มร้างแห่งนี้อย่างแน่นนอน ยิ่งเข้ามาใกล้ ความคิดถึงและห่วงใยของชายผู้อยู่บนหลังม้ายิ่งทวีคูณรุนแรงขึ้นทุกขณะจิต เร็วเท่าความคิด เขากระตุกบังเ**ยนชะลอม้า มันตอบรับด้วยการลดฝีเท้าแล้ววิ่งเหยาะๆเลาะลัดเนินหญ้าเข้ามาจนใกล้จะถึงตัวบ้าน วิ่งผ่านกังหันลมสูงตระหง่าน ใบพัดของมันซึ่งแลดูเหมือนแขนของคนที่เหยียดจนสุดช่วงแขน หมุนอย่างอ่อนล้า อ้อยอิ่ง เหนื่อยหน่ายในวันเวลาที่ไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อใด ชายผู้อยู่บนหลังม้ากวาดสายตาสำรวจความยากแค้นเบื้องหน้า ท่ามกลางทิวทุ่งสีน้ำตาลแล้ง มองเห็นพุ่มไม้ไร้ใบ ยืนต้นตายอยู่ระหว่างสองฝากของแนวถนน ไม่อาจทนกับความร้อนแล้ง พุ่มพงวัชพืชเตี้ยๆค้อมกิ่งร่วงลู่ลงสู่พื้น ยอมจำนนต่อโชคชะตา หรือไม่ก็โค้งคำนับให้กับการมาของเขา ใบไม้กรอบแห้ง กรังเกรอะไปด้วยฝุ่นลูกรังสีแดง สายลมแล้งที่พัดกรรโชกมาช่วงหนึ่ง ปลิดใบไม้ปลิวคว้างต่อหน้าต่อตา ร่วงหล่นลงทับถมที่โคนต้น แลเห็นใบสีน้ำตาลกรอบแห้งเกลื่อนกระจายอยู่ใต้ลำต้นสูงใหญ่ที่แทบไม่หลงเหลือใบเอาไว้เป็นอนุสรณ์           ชายร่างสูงใหญ่ คร่อมขี่อยู่บนหลังม้า ทอดสายตามองดูสภาพของฟาร์มด้วยความรู้สึกสะท้อนสะเทือนใจ แลเห็นฟ่อนฟางอัดก้อน ซึ่งครั้งหนึ่งมีไว้สำหรับเลี้ยงวัวและม้า วันนี้มันกลับถูกทิ้งเอาไว้ให้ผุสลายไปตามเวลา แลเห็นเห็ด รา เกลื่อนกระจายไปทั่วก้อนฟางที่วางกองทับถม ใกล้ๆกับซากไม้ประตูเก่าผุ บางส่วนพังพาดไปกับแนวรั้วไม้ซึ่งหักกอง ถมทับกันอยู่สองข้างทาง             สภาพของฟาร์มโดยรวมเกือบจะร้าง สะท้อนถึงสถานภาพอันคลอนแคลนของผู้เป็นเจ้าของฟาร์ม ซึ่งชีวิตความเป็นอยู่นับวันยิ่งตกต่ำย่ำแย่ ไม่ว่าจะกวาดสายตาไปทางไหน นอกจากความแร้นแค้น ก็แลไม่เห็นความน่าอภิรมย์ใดๆหลงเหลืออยู่ที่ฟาร์มแห่งนี้ ยังมองไม่เห็นสัญญาณของความเปลี่ยนแปลงใดๆที่บ่งบอกว่าสถานภาพของฟาร์มแห่งนี้กำลังจะดีขึ้น เพราะทุกวันนี้ เจ้าของฟาร์มก็ยากจนถึงกับต้องอาศัยเผือก มัน เป็นอาหารให้กับตัวเองและลูกสาวประทังชีวิต ภายหลังจากที่สามีสาบสูญไปเกือบสองปี ‘ถ้าไม่ใช่เพราะความสำมะเลเทเมา จนกลายเป็นผีพนันของผู้ชายชื่อคีธ ซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัว…ชีวิตของลูกเมียก็คงไม่ตกอยู่ในสภาพแร้นแค้นแสนลำเค็ญอย่างที่เป็นอยู่’ ชายผู้อยู่บนหลังม้าอดไม่ได้ที่จะนึกย้อนไปถึงอดีต           เมื่อม้าวิ่งเหยาะมาหยุดที่หน้าบ้าน เด็กสาวคนหนึ่งซึ่งกำลังง่วนอยู่กับการกวาดใบไม้แห้งอยู่ข้างเนินดินเตี้ยๆ กลอกดวงตาใสๆ มองตามม้าด้วยความตื่นเต้นดีใจ กระทั่งชายวัยกลางคนเผยใบหน้าที่ซ่อนอยู่ภายใต้หมวกปีกสีน้ำตาล สวมทับอยู่บนศีรษะ ยื่นใบหน้าคมคร้าม รกครึ้มไปด้วยหนวดเคราออกมาทักทายเด็กหญิงด้วยรอยยิ้มเต็มดวงหน้า           “ว่ายังไงจ๊ะแม่สาวน้อย” เสียงทุ้มนุ่มของชายผู้อยู่บนหลังม้า เป็นฝ่ายทักทายขึ้นมาก่อน เด็กสาวยิ้มร่า ตาโตขึ้นทันทีเพราะจดจำกังวานเสียงนั้นได้           “ลุงเดลมา...ลุงเดลๆๆ” เสียงน้อยๆแผดลั่นออกมาด้วยตื่นเต้นดีใจ แววตาคู่นั้นช่างดูไร้เดียงสา ความตื่นเต้นดีใจที่ไม่อาจปิดซ่อน ทำให้เด็กหญิงกระโดดโลดเต้นด้วยความลืมตัว           ทันทีที่เดลกระโดดลงจากหลังม้า เด็กหญิงในวัย 13 ขวบก็รี่ถลาเข้าไปสวมกอดเขาในทีนที         “สวัสดีซาบรีน่า...นางฟ้าตัวน้อยๆของลุง” ผู้ชายที่ชื่อเดลกล่าวพร้อมกับสวมกอดร่างน้อยๆเอาไว้ในอ้อมแขน มือใหญ่ขยี้เบาๆตรงกลางกระหม่อมน้อยๆของเด็กหญิงด้วยความเอ็นดู ค่อยๆลูบไล้เรือนผมสีทองสลวยละเอียดนุ่มราวกับแพรไหมด้วยความรักใคร่        “ลุงเดลหายไปไหนเสียนานคะ?” ซาบรีน่าถามด้วยความแปลกใจ ร่างน้อยๆช้อนสายตา แหงนใบหน้าขึ้นมองร่างสูงใหญ่ของเขา เดลไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับฟาร์มแห่งนี้ เขาเคยแวะเวียนมาหลายครั้ง เด็กหญิงยังคงจดจำการมาครั้งสุดท้ายของเขาได้ ไม่เคยลืม ทว่านั่นก็นานมากแล้ว           “ลุงต้องไปทำงานไกลถึงดาร์วิน* ถ้าลุงว่างเมื่อไร ลุงสัญญาว่าจะแวะมาหา” ชายวัยกลางคนกล่าว ยืนยันและให้สัญญาด้วยน้ำเสียงอบอุ่น จากนั้นก็ละสายตาจากใบหน้าน้อยๆ มองไปยังบ้านไม้เก่าคร่ำ สงบอยู่ในความสลัวเลือนของรัตติกาลที่กำลังคลี่คลุมลงมาช้าๆ แม้สภาพของบ้านที่เห็นจะเก่ามาก ทว่าสภาพซึ่งทรุดโทรมของมันก็ไม่ได้ขัดแย้งกับสภาพโดยรวมของฟาร์มที่ถูกทิ้งร้าง ทุกๆอย่างที่นี่ล้วนถูกทิ้งร้าง...รวมถึงชีวิตของสองแม่ลูกที่ยังต้องอาศัยฟาร์มแห่งนี้เป็นที่ซุกหัวนอน -----ดาร์วิน (Darwin)* คือเมืองหลวงที่อยู่ในนอร์เทิร์นเทอร์ริทอรี (Northern Territory) ซึ่งเป็นดินแดนที่อยู่ทางตอนเหนือและตอนกลางของออสเตรเลีย เนื้อที่ส่วนใหญ่แห้งแล้ง มีพื้นที่เกษตรกรรมเพียงร้อยละ 10 ภูมิอากาศไม่เหมาะแก่การเพาะปลูก แต่เป็นแหล่งผลิตเหล้าไวน์ชั้นเยี่ยม -------

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
2.1K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
4.7K
bc

สะใภ้ขัดดอก

read
31.6K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
10.7K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
3.6K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook