Intro บังเอิญมองเธอผ่านมุมนี้
บังเอิญ
หากความรักเป็นเรื่องบังเอิญ เขาคนนั้นคงเป็นความรักของฉันแน่นอน
เราบังเอิญเจอกันที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง กลิ่นหอมของกาแฟพันธุ์ไทยจากดอยแถวภาคเหนือ ช่างละมุนนุ่มนวล แต่ก็ขมปร่าในเวลาเดียวกัน ฉันเห็นผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่บริเวณโต๊ะโซฟาด้านในสุดของร้าน บนโต๊ะกระจกใสมีแก้วกาแฟเซรามิกสีชา วางอยู่ด้านหน้าพร้อมควันร้อนลอยออกจากถ้วยใบนั้น ชายคนนั้นมักจะมานั่งในร้านแห่งนี้ตั้งแต่เวลาเที่ยงวันเป็นต้นไป ยาวจนไปถึงสามโมงเย็น...
ฉันเห็นเขา นั่งอยู่มุมเดิม และสั่งเมนูเดิมซ้ำๆ ทุกวัน
แต่ทำไมฉันถึงไม่รู้สึกเบื่อหน่ายกับใบหน้าที่เคร่งเครียดของเขากันนะ ไหนจะท่ายกมือเท้าคาง หรือไม่ก็กุมขมับแบบนั้นอีก เขาน่ามองจนฉันไม่อาจละสายตาออกไปจากใบหน้านั้นได้เลย
“เค้กช็อกโก้มินต์ได้แล้วครับ” ชายร่างเล็กสวมเสื้อโปโลสีครีม บนอกด้านซ้ายของเสื้อมีรอยปักสีน้ำตาลซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของร้านกาแฟแห่งนี้ ฉันยิ้มรับและหยิบสมุดบันทึกการทำงานออกจากโต๊ะ ก่อนจานเค้กจะถูกวางลงอย่างระมัดระวัง ใบหน้าของเด็กหนุ่มคนนี้ ดูก็รู้ว่าเขาคงเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยสักแห่ง ที่ออกมาทำงานพาร์ทไทม์ หารายได้พิเศษระหว่างเรียน
“ขอบคุณค่ะ” คำพูดนี้มันเป็นคำพูดติดปากของฉัน เวลาได้อาหารสักจานจากเด็กเสิร์ฟในร้าน หรือพนักงานคิดเงินหน้าเคาน์เตอร์ เด็กหนุ่มยิ้มรับและเดินถอยหลังเพียงสองก้าว ก้มหัวเล็กน้อยอย่างนอบน้อมก่อนเดินจากไป
เหลือเวลาอีกสิบนาที เวลาแห่งความสุขของฉันมันกำลังจะหมดลงแล้วสินะ ฉันรีบตักเนื้อเค้กกินให้มันหมดก่อนจะถึงเวลาทำงาน ขณะที่ดวงตาของฉันก็จ้องมองแต่ชายคนนั้นที่ไม่แสดงท่าทีทุกข์ร้อนกับเวลาแต่อย่างใด เขายังคงนั่งทำงานเรื่อยๆ จิบกาแฟ จ้องมองหน้าจอแมคบุ๊กและไถนิ้วไปบนแผ่นสัมผัสสี่เหลี่ยมเล็กๆ บนแป้นพิมพ์
มันเป็นเรื่องบังเอิญหรือพรหมลิขิตก็ไม่รู้ ที่ฉันได้มาเจอเขาในร้านกาแฟแห่งนี้
มองเขาจากมุมนี้ มุมที่สามองศา