หลิวซูมี่
คุณเคยประกาศขายสินค้าสักชิ้นไหม ?
หลิวซูมี่ นักการตลาดวัย 24 ปี ทำอาชีพนี้มาตั้งแต่เกิดจากท้องแม่ เมื่อก่อนพอตื่นเช้ามา เธอต้องช่วยคุณยายปั้นแป้งหมั่นโถวตั้งแต่ฟ้ายังไม่ทันสาง โตขึ้นมาหน่อยเข้าโรงเรียนก็ผันตัวมาเป็นแม่ค้าหมั่นโถวตัวน้อย ๆ จากยอดขายวันละ 10 ลูก ก็เพิ่มมากขึ้นเป็นวันละ 15-20 ลูก ยอดสูงสุด
ในวัยมัธยมคือวันละ 200 ลูก ในตอนนั้นเธอแทบจะต้องใช้รถเข็นขน
หมั่นโถวไปโรงเรียน !
ต่อมาเมื่อเข้ามหาวิทยาลัย เธอเกิดความเกียจคร้าน ทำไมยังจะต้องเหนื่อยเป็นแม่ค้าอีก ในเมื่อเธอสามารถจับอะไรก็เป็นเงินเป็นทอง อย่าว่าแต่หมั่นโถว พี่ป้าน้าอาร้านรวงในตลาดต่างยอมรับในความสามารถ
ของเธอ ไม่ว่าจะร้านเล็กร้านใหญ่ เมื่อขายไม่ดีก็มาขอให้เธอช่วย
คิดแผนการตลาดและโปรโมชั่นให้ทั้งนั้น
ดังนั้นหลิวซูมี่ในวัย 19 ปี นักศึกษาวิชาการตลาดปี 2 ของมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ด้วยคะแนนสอบเกาเข่าท้อประดับประเทศ 610 คะแนน จึงลงโฆษณาออนไลน์เพื่อรับปรึกษาปัญหาธุรกิจโดยเฉพาะ จากโปรไฟล์
ของเธอในตอนนั้นแล้ว ผู้คนล้วนหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลัง เด็กน้อยที่เพียงแค่เรียนดีอย่างเธอเนี่ยเหรอ ? จะเป็นที่ปรึกษาการตลาดของบริษัทในปักกิ่ง
ที่เป็นเขตเศรษฐกิจอันดับต้น ๆ ของโลก แต่ทว่ากลับมีบริษัทเล็ก ๆ ใกล้เจ๊งเต็มทีแห่งหนึ่งหลงกลคำโฆษณาชวนเชื่อเข้ามา
หลิวซูมี่พิสูจน์ตัวเอง เวลาเพียง 3 ปี เธอพลิกวิกฤตของบริษัทเล็ก ๆ นั้น ให้เติบโตจนเป็นแนวหน้าของของปักกิ่งได้ ความสามารถของเธอเป็นที่ประจักษ์ มีบริษัทชั้นนำมากมายมาทาบทามเธอตั้งแต่ยังเรียนไม่ทันจบ รายได้เป็นกอบเป็นกำ จนครอบครัวสามารถซื้อบ้านหลังใหม่ใจกลางเมืองด้วยเงินสด มีกิจการใหญ่ ๆ เซ็นสัญญาให้เธอดูแลการตลาดให้กว่า
10 บริษัท ชีวิตในแต่ละวันนั่งเฝ้าอยู่แต่หน้าจอคอมพิวเตอร์ คอยตรวจสอบยอดการเติบโตและเฟ้นหาเทคนิคการขายเพื่อให้บรรลุเป้ากำไรของ
แต่ละบริษัทไม่ให้ต่ำกว่า 10-30 ล้านหยวนต่อเดือน
ทำไปทำมาทำไมมันเหนื่อยกว่าตอนเป็นแม่ค้าอีกนะเนี่ย...ตอนนั้นลำบากสุดก็แค่แบกหมั่นโถวไปขาย แต่ตอนนี้สมองของเธอมองอะไรก็เป็นตัวเลขไปทั้งหมด และในบ่ายวันหนึ่งหลังจากวุ่นวายจากการโทรตามจี้ยอดขายจากบรรดาผู้จัดการสาขาเพื่อประเมินแผนการตลาดช่วงกลางเดือน หัวของเธอก็กลายเป็นภาพสีดำมืดตลอดกาล
หลิวซูมี่สิ้นชื่อ...
ตายเพราะทำงานถวายชีวิตให้แผนการตลาดอันยอดเยี่ยม
สุดยอดไปเลย...
" หลิวซูมี่ "
เสียงกระซิบจากที่ไกล ๆ กำลังเรียกหญิงสาวให้รู้สึกตัว ซูมี่นอนขบคิดว่าเธอก็ตายไปแล้วนี่..ทำไมยังได้ยินเสียงแม่เรียกอีก ยังจำได้ว่า
ภาพสุดท้ายคือเธอล้มตึงหัวฟาดพื้น ชักดิ้นชักงออยู่ไม่ถึงนาทีก็ขาดใจ หรือที่นี่คือปรโลก? บางทีแม่อาจจะไหว้หมั่นโถวส่งมาให้
" แม่จ๋า..."
" หลิวซูมี่ ! "
" ทำไม่แม่จะต้องเสียงดัง...หา..."
ร่างเล็กสะดุ้งลุกขึ้นจากกองผ้าห่มนุ่ม ผ้าฝ้ายสีสันสดใสแบบนี้ไม่คุ้นตาเอามาก ๆ ในเมื่อบ้านหลังละเกือบร้อยล้านหยวนของเธอจ้างสถาปนิกออกแบบคุมโทนตั้งแต่ของใช้เล็ก ๆ ยันเฟอร์นิเจอร์ให้เข้าสีเข้าชุดเป็นอย่างดี
" ทำไมข้าจะเสียงดังไม่ได้เจ้าลูกคนนี้ ! "
"..."
" เป็นสตรีแบบใดกันถึงตื่นเอายามซื่อเช่นนี้ พวกเจ้าไม่ดูแลคุณหนูหรือ ? "
" คุณหนู..."
ซูมี่เบิกตามองสองสาวน้อยวัยไม่น่าถึง 12 ปี ที่ยืนค้อมคำนับให้ช้า ๆ
อยู่ที่ข้างเตียง รอบตัวของเธอขณะนี้ล้วนแปลกประหลาด แม่ที่เคยเท้าเอววีนตอนที่เธอทำงานจนกินข้าวไม่เป็นเวลา กลับกลายเป็นแม่ที่ดูยิ้มแย้มแจ่มใส ขนาดเสียงดังใส่เธอแล้วยังยืนยิ้มใจดีได้อีก นี่มันผิดปกติไปมาก
" รีบไปแต่งตัวเร็วเข้า องค์หญิงลี่อินมีพระประสงค์ให้เข้าเฝ้าไม่ใช่หรือ "
" หา..."
" ยังหาอะไรอยู่อีก ? วันนี้เจ้าจะเริ่มเป็นหงเหนียน (แม่สื่อ) เต็มตัวแล้วนะ "
"..."
" อย่างที่แม่เฝ้าถ่ายทอดความรู้ให้เจ้ามาตลอด การเป็นหงเหนียนไม่ใช่เพียงหาหนทางแนะนำให้พวกเขาได้รู้จักกันเท่านั้น "
"..."
" แต่ต้องตรวจสอบโหงวเฮ้ง นิสัยใจคอ ชาติกำเนิดของพวกเขาให้ได้รักกันสมพงศ์ราบรื่นด้วย ดังนั้นไม่ว่าองค์หญิงลี่อินจะมอบหมายให้เจ้าเป็นแม่สื่อให้ใคร จงจำข้อนี้ให้ขึ้นใจ "
หลิวซูมี่อ้าปากค้าง....
คุณเคยประกาศขายสินค้าสักชิ้นไหม ?
แล้วถ้าสินค้าชิ้นนั้นเป็นคนคนหนึ่งล่ะ ?