หงเหนียน

1396 Words
รถม้าของคุณหนูตระกูลหลิวจอดลงที่ข้างศาลาริมสระบัว ใกล้พระตำหนักฤดูร้อนขององค์หญิงลี่อินองค์หญิงใหญ่แห่งวังหลวงแคว้นฉิน หลิวซูมี่ปีนลงจากรถม้าอย่างเงอะ ๆ เงิ่น ๆ โดยมีสองสาวใช้ตัวน้อยช่วยประคอง ในโลกเก่าเธอเป็นหญิงสาววัยยี่สิบสี่ปี แต่ที่นี่เธอเป็นคุณหนูหลิววัยแรกรุ่นเพียงสิบแปดปี อีกทั้งยังเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวของเสนาบดีกรมโยธา (กังปู้) และทางฝ่ายมารดาเป็นตระกูลที่สืบทอดการเป็น หงเหนียนมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ดังนั้นลูกค้าคนสำคัญจึงมักเป็นบุตรสาว บุตรชาย ขุนนางชั้นผู้ใหญ่ทั้งสิ้น จะผิดพลาดแม้แต่น้อยไม่ได้ เพราะไม่ใช่เพียงแค่การหาคู่ครองที่ฐานะเหมาะสมเท่านั้น ผลประโยชน์ก็ต้องเหมาะสมเช่นกัน... " เชิญคุณหนูหลิว องค์หญิงทรงประทับรอท่านอยู่ด้านในเจ้าค่ะ " หลิวซูมี่สูดลมหายใจลึก ๆ เข้าอกหนึ่งครั้ง ก่อนจะถอนหายใจแรง ๆ อีกหนึ่งทีเพื่อเรียกความมั่นใจ ในชีวิตนี้เธอพบปะลูกค้ามาก็มาก ไม่เคยมีใครปฏิเสธแผนการตลาดและจุดขายอันยอดเยี่ยมของเธอได้ ก็แค่ต้อง รับฟังลูกค้าให้มาก และจึงวิเคราะห์อย่างรวดเร็วว่าพวกเขาต้องการอะไรก็เท่านั้น " หลิวซูมี่ถวายบังคมองค์หญิงลี่อิน " ร่างบางย่อเข่าอย่างนอบน้อมอย่างที่เคยเห็นจากในซี่รี่ส์หลังข่าว ก่อนสบเข้า กับดวงตาเรียบนิ่งดุจเจ้าหญิงน้ำแข็งขององค์หญิงตัวจริงเสียงจริงตรงหน้า พร้อมด้วยส่งรอยยิ้มนักธุกิจอีกนิดพอเป็นพิธี " ไม่ต้องมากความ นั่งลงเถิด " " ขอบพระทัยเพคะ ไม่ทราบว่าทรงมีสิ่งใดให้หม่อมฉันรับใช้ " รอยยิ้มน้อย ๆ ยังคงประดับบนใบหน้าของซูมี่ในขณะที่สบตากับองค์หญิงลี่อิน นี่เป็นอีกหนึ่งเทคนิคการพบปะลูกค้าของเธอ การสบตาผู้พูดและยิ้มรับฟังปัญหาหนักอกหนักใจของพวกเขา ช่วยให้พวกเขาไว้วางใจและคายข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการวางแผนของเธอได้มากที่สุด " เซียนอ๋อง..." " .... " " พระพันปีทรงเป็นกังวลนักที่เหอซั่วชินหวังยังไม่ทรงคิดจะอภิเษกสมรส ปีนี้เขาอายุย่างเข้ายี่สิบเอ็ดปีแล้ว วัน ๆ ยังวุ่นวายอยู่กับการเลี้ยงเหยี่ยว " อ่อ...ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ ตำแหน่งเหอซั่วชินหวังนับเป็นรองก็แค่หวงตี้และองค์ชายรัชทายาท หากเขายังไม่รีบมีบุตรสืบสกุล ภายภาคหน้าหากเกิดเหตุการณ์ให้ต้องขึ้นครองราชย์ เขาจะมีทายาทไม่ทันใช้เอาน่ะสิ ! " ท่านอ๋องไม่สนใจสตรีคนใดเลยหรือเพคะ เขาไม่มีแฟน..เอ่อ..สตรีในดวงใจเลยหรือเพคะ " " ตั้งแต่เข้าวัยหนุ่มมา นอกจากพวกนางสนมอุ่นเตียงที่นาน ๆ ครั้งจะเรียกหา เขาก็ไม่ได้สนใจสตรีใดเลย " หลิวซูมี่พยักหน้าเบา ๆ อย่างน้อยเขายังเรียกหานางสนมอยู่บ้าง แปลว่าก็ไม่ได้เป็นผู้ชายตายด้านซะทีเดียว แต่อาจจะมีนิสัยสันโดดหรือ ยังไม่พร้อมมีครอบครัว ดูจากองค์หญิงลี่อินพี่สาวของเขาที่มีบุคคลิกนิ่งขรึมยิ้มยาก ก็คงพอเดาถึงน้องชายได้ " เช่นนั้น..องค์หญิงมีคุณหนูตระกูลใดที่อยากแนะนำให้ท่านอ๋องหรือไม่เพคะ หม่อมฉันจะได้หาทางให้พวกเขาได้รู้จักกัน " หญิงสาวชิงถามความต้องการของลูกค้าก่อนเป็นอันดับแรก ที่นี่เธอ ตื่นขึ้นมาโดยไม่ได้รู้จักใครเลยสักคน อยู่ดี ๆ จะทะเล่อทะล่าไปแนะนำใครได้ สู้ยิงคำถามให้ลูกค้าเผยไต๋ออกมาซะยังดีกว่า " เขาไม่มีท่าทีใด ๆ กับใครเลย แต่ข้าอยากให้เขาได้ใกล้ชิดกับ ลู่หลานเฟิน นางเป็นหลานสาวของพระสนมเอกกุ้ยเฟย " " ... " " ภายภาคหน้าเมื่อองค์ชายรัชทายาทขึ้นครองราชย์ พวกเขาจะได้แน่นแฟ้นกันมากขึ้น " อ่อ...ได้ยินมาว่าองค์หญิงใหญ่ลี่อินและเซียนอ๋องซึ่งเป็นพี่น้องกันนั้น เป็นโอรสและธิดาของฮองเฮา แต่เนื่องด้วยหวงตี้ทรงโปรดปรานพระสนมเอกกุ้ยเฟยมากกว่า โอรสของกุ้ยเฟยจึงได้รับแต่งตั้งเป็นองค์ชายรัชทายาท อีกทั้งยังเก่งกาจสมกับตำแหน่งที่ได้รับเสียด้วย องค์หญิงลี่อินที่มีน้องชายเลี้ยงเหยี่ยวไปวัน ๆ คงกำลังมองหาเกราะที่มั่นคงให้ตัวเองและน้องชายในภายภาคหน้า " หม่อมฉันเข้าใจแล้วเพคะ เช่นนั้นขอเวลาให้หม่อมฉันได้ตรวจโหงวเฮ้งของทั้งสอง และดวงความสมพงศ์ รวมถึงนิสัยใจคอให้ถ้วนถี่ " " ... " " หากพวกเขาเหมาะสมกันดั่งกิ่งทองใบหยก รับรองว่าอยู่กันยืดยาว ลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมืองเพคะ " ใบหน้านิ่งสวยขององค์หญิงลี่อินเผยรอยยิ้มอ่อนโยนเป็นครั้งแรก ดวงตาคู่งามเป็นประกายเล็กน้อย หลิวซูมี่หัวใจพองโต อาการแบบนี้แปลว่าลูกค้ารายนี้ตกถังแป้งหมั่นโถวของเธอเข้าแล้ว หลังจากนี้ค่อยไปต่อสู้กับท่านอ๋องผู้เลี้ยงเหยี่ยวให้เขารีบมีเมียไว ๆ เสียที เธอจะได้ปิดการขายและรับเงินเป็นกอบเป็นกำตามที่ท่านแม่ได้ตกลงกับองค์หญิงลี่อินไว้ " เช่นนั้นก็ฝากคุณหนูหลิวดูแลด้วย " หลิวซูมี่ยืนค้อมกายส่งองค์หญิงลี่อินอยู่หน้าศาลาสระบัวพร้อมด้วยสาวใช้ เมื่อเห็นว่าองค์หญิงและนางกำนัลเดินจากไปจนลับตาแล้ว จึงผ่อนคลายใบหน้าและรอยยิ้มธุรกิจลง หลังจากตกลงกันได้แล้วว่าจะให้เซียนอ๋องได้ทำความรู้จักกับลู่หลานเฟิน เธอก็ได้รับข้อมูลของทั้งสองคน มาคร่าว ๆ ทางฝั่งเซียนอ๋องนั้นเขาไม่ชอบการเรียนตำราใด ๆ เลยแม้แต่นิด แต่ถูกบังคับให้เข้าเรียนรู้ทุกวิชาทั้งบู๋และบุ๋น เมื่อศึกษาจนครบทุกกระบวนการแล้วจึงประท้วงด้วยการเก็บตัวอยู่แต่ในตำหนัก ไม่ทำงานทำการ และไม่คิดจะแต่งงานมีลูกเมียด้วย แค่ได้ฟังหลิวซูมี่ก็หัวจะปวด ในขณะที่ลู่หลานเฟินหลานสาวของพระชายาเอกกุ้ยเฟย ผู้ถูกรับเข้ามาอุปการะในวังหลวง เรียนรู้วิชาการงานใน วังหลังจนเพรียบพร้อม มีความงามเป็นที่เลื่องลือ อีกทั้งยังอุปนิสัยอ่อนหวาน คิดแล้วก็ช่างน่าสงสาร แม่สาวน้อยคนนั้นจะต้องมาเจอกับเซียนอ๋องไม่เป็นผู้เป็นคนนั่นจริง ๆ เหรอเนี่ย แต่ในเมื่อมันเป็นความต้องการของลูกค้า ถึงจะต้องชักแม่น้ำทั้งห้า หลิวซูมี่ก็คงต้องช่วยให้พวกเขาตกหลุมรักกันแบบราบรื่นจนได้ " รีบกลับกันเถอะเจ้าค่ะคุณหนู " หญิงสาวพยักหน้าเมื่อแหงนมองท้องฟ้ายามเย็นเริ่มทอแสงสีส้มอ่อน เธอยังไม่คุ้นชินกับโลกใบใหม่นี้นัก ในใจนึกอยากกลับบ้านไปเจอหน้าแม่เต็มแก่แล้ว แต่ยังไม่ทันก้าวเท้าขึ้นรถม้า เสียงแหลมเล็กดังกังวานก้องไปทั่วบริเวณก็สร้างความขนหัวลุกอย่างประหลาด ดวงตาของหญิงสาว เบิกกว้าง อ้าปากค้างด้วยความตกตะลึงเมื่อเหยี่ยวขาวตัวเท่าไก่ บินโฉบลงมาเกาะลงบนศรีษะ ใช้กรงเล็บแหลมจิกผมเธอยึดไว้ราวกับไม่ต้องการให้ขยับ " ว้าย ! คุณหนูเจ้าคะ ! " " ใครก็ได้ไล่มันออกไปที ! " หลิวซูมี่ตัวสั่น เธอได้แต่ยืนอยู่กับที่พยามใช้สองมือปัดไล่เหยี่ยวตัวใหญ่ที่เกาะอยู่บนหัว แต่กลับถูกจงอยปากคมของมันจิกมือเล็กสู้กลับ สองสาวใช้ที่พยามจะเข้ามาช่วยก็ถูกเสียงแสบหูร้องขู่ ยิ่งซูมี่กรีดร้องไอ้นกขนขาวบนศรีษะยิ่งส่งเสียงแหลมแข่ง ชุลมุนวุ่นวายจนทหารหลายสิบนายต้องวิ่งเข้ามารุมช่วย นี่คงไม่ใช่เหยี่ยวเลี้ยงของเซียนอ๋องคนนั้นหรอกนะ ! หนอย...คอยดูเถิด ! พรุ่งนี้เธอจะทำการตลาดโดยเร่งด่วน ป่าวประกาศไปทั่วเมืองว่ากินเหยี่ยวตุ๋นโสมแล้วจะอายุยืนยาว เอาให้ชาวบ้านพากันออกล่าเหยี่ยวขึ้นภัตตาคารเป็นเมนูเด็ดไปเลย !
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD