ความเดิม- "คงไม่มั๊ง อย่าปอดแหกไปเลย" เปรมมนัสตัดบทแล้วก้มหน้าก้มตาหั่นวัตถุดิบอย่างชำนิชำนาญ
…………………………………………….
สองหนุ่มสองแรงแข็งขันช่วยกันรังสรรเมนูหน้าตาดีรสชาติกลาง ๆ สำหรับทุกคนแล้วทยอยยกมาที่โต๊ะอาหาร และเป็นจังหวะเดียวกันที่กานต์บุรุษพี่ใหญ่ของบ้านขับรถเข้ามาในบ้านพอดิบพอดี ชายหนุ่มลงจากรถ และทักทายสาว ๆ แล้วตรงเข้าไปในครัวทันที
"สวัสดีครับ วันนี้ผมซื้ออาหารมาด้วยครับ ต้องอุ่นก่อนมั๊ย แต่ก็ยังร้อนอยู่นะ" กานต์บุรุษเอ่ยยิ้ม ๆ พร้อมกับโชว์ถุงอาหารสำเร็จรูปเด่นหรา
"สวัสดีครับคุณเอ อุ่นสักหน่อยก็ดีนะครับ ยิ่งเป็นเมนูเนื้อสัตว์ด้วยแล้ว ผมว่าควรอุ่นครับ" ปกรร์เอ่ยยิ้ม ๆ จนตาเป็นสระอิ
"มาครับ เดี๋ยวผมจัดการให้" เปรมมนัสเอ่ยยิ้ม ๆ และหันไปสบตากับพี่ชายของสาวเจ้าเพียงครู่
"โอเคเลยครับ ขอบคุณมาก/มีอะไรให้ผมช่วยมั๊ยครับ แต่ดูตรงนี้น่าจะคับแคบไปเลย" กานต์บุรุษพูดกลั้วหัวเราะ
"ไม่มีแล้วครับ สบายมาก เชิญคุณเอไปคุยกับสาว ๆ ที่หน้าบ้านดีกว่าครับเดี๋ยวเสร็จแล้วพวกผมจะยกไป" ปกรณ์บอกราบเรียบ
"เอางั้นเหรอครับ นี่ถ้าพวกคุณไม่มาก็เป็นผมล่ะครับเป็นคนทำหน้าที่นี้ แต่ยัยกุ้งแห้งก็จะต้องแขวนกระเพาะรอค่ำมืดหน่อย ก็พี่ชายเป็นลูกจ้างเค้านี่เน๊าะ กว่าจะปลีกตัวออกมาได้ ไม่ห้าโมงล้อห้ามหมุน ไหนจะต้องฝ่ารถติดอิก หึหึ" กานต์บุรุษบ่นไปเรื่อยไม่จริงจัง
"ให้ผมมาทำอาหารให้น้องทานทุกวันซิครับ" เปรมมนัสแกล้งหยั่งเชิงทีเล่นทีจริง
"หูย……จะเป็นการรบกวนท่านผู้บริหารน่ะซิครับ เกรงใจ" กานต์บุรุษปฏิเสธแบบอ้อม ๆ
"ผมเต็มใจนะครับ ถ้าคุณเออนุญาตให้โอกาสผมได้ทำหน้าที่นี้" เปรมมนัสรุกหนักขึ้น
"เอ่อ กับข้าวเต็มโต๊ะเลย ให้ผมช่วยยกไปที่โต๊ะอาหารนะครับ จะได้ไปเรียกสาว ๆ ที่หน้าบ้านด้วย" ว่าแล้วคุณพี่ชายก็กระวีกระวาดยกอาหารแล้วเดินออกจากครัวไปทันที
ด้านปกรณ์ที่เฝ้าสังเกตการณ์อยู่ถึงกับส่ายหน้าดิก
"นายเจองานหยาบแล้วหละ นายนัท ดูท่าพี่ชายจะไม่ยอมง่าย ๆ หรอก"
"มันต้องมีทางซิว๊ะ ฉั๊นพอจะนึกอะไรออกแล้ว นายจำวันที่เราไปกินมื้อกลางวันที่ร้านเฮียต่อได้หรือเปล่า" เปรมมนัสเอ่ยขึ้นแล้วหันไปสบตากับเพื่อนรักเพียงครู่แล้วยิ้มเจ้าเล่ห์
"นายอย่าบอกนะว่านายจะคุยวันนี้" ปกรณ์เอ่ยขึ้นอย่างนึกหวั่นใจ ถ้าสองคนเกิดไม่ยอมลดลาวาศอกให้กันอะไรจะเกิดขึ้นในวันนี้ คิดแล้วก็ได้แต่ปลงและยอมรับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้
"อือ.." เปรมมนัสตอบสั้น ๆ แต่ได้ใจความทำเอาคนฟังถึงกับอึ้งคล้ายอยู่ในภาวะสุญญากาศ
ตัดมาที่กานต์บุรุษที่ยกอาหารมาวางที่โต๊ะอาหารและเห็นสองสาวกำลังนั่งก้มหน้าไถโทรศัพท์กันนึกเอ็นดูและคิดไปถึงใครบางคน
"สาว ๆ มาทานข้าวได้แล้วค่า..อาหารเสร็จแล้ว น้องบีพาเพื่อนมานั่งได้แล้วค่ะ เร็วเข้า" กานต์บุรุษเอ่ยเรียกน้องสาวอย่างเผลอตัว
"ค่ามาแล้วค่า ไปเร็วน้องเอ๋ยไปทานข้าวกัน" กานต์ธิดารับคำพี่ชายและกระตุ้นเตือนเพื่อนสาวแล้วพากันไปที่โต๊ะอาหารอย่างเร่งรีบอยู่ในที
อีกด้านสองหนุ่มที่เดินมาจากในครัวอย่างพอดิบพอดีได้ยินเสียงพี่ใหญ่ของบ้านเรียกสาว ๆ มากินอาหารพอดีได้แต่หันมาสบตากันอย่างรู้ความนัย
เมื่ออาหารพร้อมทุกคนจึงนั่งล้อมวงรับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย โดยเฉพาะกานต์ธิดาที่ดูจะเจริญอาหารกว่าทุกวันเพราะอาหารทุกอย่างถูกปากเธอทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเมนูที่ทำกันในวันนี้และเมนูที่พี่ชายเธอซื้อมาก็เป็นเมนูที่เธอชื่นชอบทั้งหมด
"กินเยอะ ๆ น๊ายัยกุ้งแห้งนี่พี่กายเค้าเลือกให้เราด้วยตัวเองเลยนะเนี่ย" กานต์บุรุษพูดยิ้ม ๆ
"……" กานต์ธิดาหยุดเคี้ยวอาหารแล้วหันไปจ้องหน้าพี่ชายนิ่งอยู่พักหนึ่งสังเกตเห็นแววตาเป็นประกายของพี่ชายเมื่อพูดถึงชื่อ ๆ นั้น
"เอ่อ…อ้อ..เพื่อนที่ทำทำงานของพี่น่ะ พอดีพี่เคยบ่นให้เพื่อน ๆ ที่ที่ทำงานฟังอยู่เรื่อย ๆ ว่าเรากินยาก ไอ้นู่นไม่ได้ ไอ้นี่ไม่ได้จนเกิดความจำ พอถูกหวยก็รวมตังค์กันซื้อของกินให้พี่เอามาฝากน้องน่ะ ไอ้ที่มาช้าก็เพราะการนี้แหละ" กานต์บุรุษแถไปเรื่อย
ด้านเปรมมนัสรีบหันไปสบตากับเพื่อนรักทันที ส่วนอีกคนได้แต่พยักหน้าให้อย่างรู้กัน
หลังจากรับประทานมื้อเย็นเสร็จสองสาวอาสาเก็บถ้วยชามล้าง และเก็บกวาดโต๊ะอาหารอีกตามเคย ส่วนหนุ่มได้ออกมานั่งคุยกันที่ห้องนั่งเล่นที่ห่างจากห้องครัวพอประมาณและค่อนข้างเก็บเสียง
"คุณเอครับ ผมจะไม่อ้อมค้อมนะครับ ผมรักน้องบีครับ ในฐานะพี่ชายคุณเอจะว่ายังไงครับ" เปรมมนัสกล่าวขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยหลังจากมานั่งที่ห้องนี้ได้ไม่นาน
"คุณมั่นใจแล้วเหรอครับว่ารักน้องสาวของผม" กานต์บุรุษเอ่ยขึ้นบ้าง
"ผมอายุ 37 ย่าง 38 ปีแล้วนะครับ เคยผ่านเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ มาแล้ว และผมมั่นใจว่านี่คือความรักถึงจะยังไม่ได้บอกน้องก็ตามที"
"คุณกำลังจะบอกว่านั่นคือ love at first sight* อะไรทำนองนั้นหรือครับ?" กานต์บุรุษเอ่ยต่อพร้อมกับเลิกคิ้วสูง
"ใช่ครับ แต่ไม่ใช่แค่นั้น มันมากกว่านั้น นับวันยิ่งรู้สึกว่าใช่" เปรมมนัสกล่าวยิ้ม ๆ
"แล้วผมจะเชื่อคุณได้ยังไงว่าคุณพูดจริง" กานต์บุรุษถามต่อ
"ขอโอกาสให้ผมได้คบกับน้องนะครับ และนั่นเป็นการเปิดโอกาสให้ตัวคุณเองด้วย ความอดทนของคนเรามีจำกัดนะครับ"
_____________________
love at first sight* รักแรกพบ