"ประจำเดือนขาดนานหรือยังคะคุณปิ่น?"
"ป้าเนียมกำลังคิดอะไรอยู่คะ ปิ่นแค่เหนื่อยเพราะช่วงนี้ปิ่นพักผ่อนน้อยและทานข้าวไม่ตรงเวลา ปิ่นขอตัวก่อนนะคะ"
มือเล็กแกะการเกาะกุมของป้าเนียมออกแล้วเดินไปลากกระเป๋ารีบออกจากบ้านหลังใหญ่ทันที หากช้ากว่านี้เธอคงเผยพิรุธจนป้าเนียมจับได้
"คุณปิ่นคะ ๆ"
ป้าเนียมพยายามจะวิ่งไล่ตามเธอให้ทัน แต่ด้วยหัวเข่าที่เริ่มเสื่อมไปตามวัย จึงทำได้เพียงเดินเร็วขึ้นกว่าปกติอีกนิด ซึ่งกว่าจะไปถึงประตูรั้ว ปิ่นมุกก็นั่งรถออกไปไกลแล้ว
ปิ่นมุกเหลียวหลังกลับไปมองเป็นครั้งสุดท้าย เพราะเธอกำลังจะไปเริ่มชีวิตใหม่ บ้านหลังนี้ เมืองนี้ ทุกคนที่นี่ จะกลายเป็นเพียงอดีตเท่านั้น
"ลาก่อน"
เขื่อนนั่งนิ่งเป็นหุ่นปั้นมองดูใบหย่าที่ปิ่นมุกตวัดลายเซ็นลงไปโดยไม่ลังเล ครั้งนี้เธอไม่มีความลังเลใด ๆ เหลืออีกเลย ก่อนหน้านี้เขาให้ทนายโทรตามเธออยู่หลายครั้ง แต่เธอก็ไม่ยอมรับสาย พอให้ทนายส่งข้อความไปก็ได้รับข้อความตอบกลับว่า
"ทราบแล้วค่ะ จะรีบไปภายในสองถึงสามวันนี้ ปิ่นจะแจ้งเวลาที่แน่นอนอีกครั้งนะคะ"
ในตอนแรกก็คิดว่าเธอคงซื้อเวลาเอาไว้ แต่พอเห็นจากสีหน้าและแววตาที่ว่างเปล่าถึงรู้ว่าเธอคงตัดสินใจมาแล้ว
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
"ครับ"
"ป้าขอเข้าไปหน่อยได้ไหมคะ"
"เข้ามาสิครับ"
"คุณเขื่อนคะ คือคุณปิ่น..."
"ป้าเลิกพูดถึงเธอเถอะครับ ผมกับเธอหย่ากันแล้วไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก"
เขาพูดจบก็ก้มหน้าทำงานต่อเป็นสัญญาณให้ป้าเนียมรู้ว่า "ห้ามรบกวน" อีก
ป้าเนียมจึงทำได้เพียงหยุดสิ่งที่อยากจะพูดไว้แล้วเดินออกจากห้องทำงานของเขาไปเงียบ ๆ
"ขอให้คุณหนูน้อยมีบุญได้กลับมาอยู่กับคุณพ่อนะคะ"
หญิงเกือบชรายกมือท่วมหัวแล้วเดินหายเข้าไปในห้องครัว พร้อมกับเก็บคำพูดทุกอย่างกลืนลงท้องไปไม่เอามาพูดอีก
เกือบเที่ยงคืนแล้ว เขื่อนยังคงนอนนิ่งอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ พลางนึกถึงแววตาของปิ่นมุกตอนนั่งเซ็นใบหย่าเมื่อตอนเช้า เธอคนนั้นดูเศร้าหมองและว่างเปล่า แต่ฉายแววเด็ดเดี่ยวในแววตาอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
"แล้วเธอจะไปอยู่ที่ไหนนะ กลับไปอยู่เกาะมันตราเหรอ ก็คงเป็นแบบนั้นแหละ อ่อนต่อโลกแบบนั้นจะไปอยู่ที่ไหนได้"
นั่นเป็นสิ่งที่เขาเฝ้าคิดวนเวียนไปมาไม่รู้กี่สิบกี่ร้อยรอบ แต่ก็คงไม่ลำบากอะไร เพราะเขาสั่งทนายโอนเงินก้อนใหญ่ให้กับเธอแล้ว ถ้าเธอไม่เอาไปหว่านเล่นเสียก่อนก็คงอยู่ได้แบบสบาย ๆ จนแก่
Rrrrr Rrrrr Rrrrr (เสียงข้อความ)
ชัญญา : วันนี้เราไม่ฉลองกันเหรอคะ ชัญโทรหาคุณตั้งหลายครั้งทำไมคุณไม่รับสายเลย
เขื่อนมองดูข้อความจากเด็กเอนฯ ที่สิปปกรหาให้เอาไว้แก้เหงาพลางถอนหายใจเบา ๆ ก็มีบ้างที่พูดคุยกัน แต่ครั้งนี้เขาเผลอเล่าเรื่องหย่าให้เธอฟัง เธอถึงได้ทำตัวน่ารำคาญแบบนี้ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็ดูน่ารักเจียมตัว น่ารำคาญแบบนี้ก็สลัดทิ้ง!
เขื่อน : วันนี้ผมงานยุ่งถ้าผมอยาก...เดี๋ยวผมโทรไป
ชัญญา : รอนะคะ
โทรศัพท์ราคาแพงถูกโยนลงข้าง ๆ ตัวอย่างเบื่อหน่าย ราคาของมันแพงหลักแสน แต่กลับไม่มีข้อความที่น่าอ่านเลยสักนิด ทำไมวันนี้มันดูหงุดหงิดและน่าเบื่อไปหมดนะ
หลังคาสกายไลต์ถูกเลื่อนเปิดช้า ๆ แม้บรรยากาศในกรุงเทพจะไม่เป็นใจกับการนอนดูดาว แต่เขาก็อยากเลื่อนเปิดออกให้ตัวเองรู้สึกหายใจโล่งขึ้นสักหน่อย หลังจากปิ่นมุกออกไปจากบ้านหลังนี้แล้วแทนที่เขาจะมีความสุขอย่างที่คิดเอาไว้
แต่กลับกลายเป็นความรู้สึกเบาโหวงบอกไม่ถูก ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดหรือเสียใจอะไรนะ แค่รู้สึกแปลก ๆ อาจจะเป็นเพราะว่าบ้านนี้มีสมาชิกลดลงหนึ่งคนก็ได้ หลังจากเหม่อมองท้องฟ้าที่มองไม่เห็นดาวในที่สุดเปลือกตาหนาค่อย ๆ ปิดลงอย่างไม่รู้ตัว
Rrrrr Rrrrr Rrrrr (เสียงข้อความ)
นาวินทร์ควานหาโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างเตียงด้วยความเคยชิน ทุก ๆ วันไม่ว่าเขาจะไปวางไว้ที่ไหนก็ช่าง ตื่นเช้ามามันจะวางอยู่ที่เดิมเสมอ ปิ่นมุกจะเอามันมาวางไว้ที่ขวามือของเขาเสมอ แต่ครั้งนี้ไม่... มันไม่อยู่ที่เดิม
ตุ้บ!!
"ตกเตียงได้ไงวะ"
เสียงบ่นออกมาอย่างหัวเสียพร้อมกับมองไปรอบ ๆ นี่มันไม่ใช่ห้องนอน แต่เขาหลับบนโซฟาตั้งแต่เมื่อคืน
"แล้วทำไมปิ่นไม่ปลุ...ก" เสียงตะโกนลั่นห้องแต่ก็สะดุดลงเพราะนึกบางอย่างได้
เจ้าของบ้านหลังใหญ่พยายามเรียบเรียงความคิดใหม่แล้วลุกขึ้นไปนั่งบนโซฟาแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เป็นข้อความจากทนายที่ส่งมา พอเหลือบดูเวลาตอนนี้เก้าโมงเช้าแล้ว
ทนายเอนก : ไม่สามารถโอนเงินให้คุณปิ่นมุกได้นะครับ เหมือนกับว่าบัญชีปลายทางถูกปิดไปแล้ว
ร่างใหญ่ถึงกับดีดตัวลุกขึ้นยืนทันที รีบคว้าโทรศัพท์มือถือมาเปิดแอปพลิเคชันธนาคารแล้วลองโอนออก และก็พบว่าไม่สามารถโอนได้ตามที่ทนายแจ้ง พอกดโทรหาเธอก็กลายเป็นฝากข้อความ
"เก่งแล้วใช่ไหมปิ่น"
เขาแค่นหัวเราะออกมาเบา ๆ พร้อมทั้งโยนโทรศัพท์ลงบนโซฟาอย่างไม่ไยดี ที่เขาคิดเรื่องเธอก็เพราะใบหน้าซีดเซียวและแววตาที่ว่างเปล่าคู่นั้นหรอก ถามว่าคิดเกินกว่านี้ไหม ตอบเลยว่า
"ไม่ ไม่มีทาง! ไม่มีทางที่จะคิดเกินเลยกับเด็กคนนั้นแน่นอน ที่ผ่านมาก็ไม่เคยคิดอะไรอยู่แล้ว"
พูดจบก็เดินออกจากห้องทำงานไปยังห้องนอนทันที เพราะวันนี้ 10.00 น. เขามีนัดประชุมออกแบบโครงการบ้านระดับไฮเอนด์ของ "ภูมิพัฒน์ ดีเวลลอปเมนต์" ซึ่งเป็นบริษัทลูกของมันตรากรุป โครงนี้เขาเป็นหัวหน้าโพรเจกต์จะให้มีความผิดพลาดไม่ได้
ในห้องน้ำ ไม่มีผ้าขนหนูวางที่เดิม ไม่มีแปรงสีฟันพร้อมยาสีฟัน ไม่มีก้านน้ำหอมที่เขาชอบ ปกติแม้ปิ่นมุกจะไม่อยู่หลายวันแต่ทุกอย่างจะถูกเตรียมไว้ตามจำนวนวันที่เธอไม่อยู่
ในห้องแต่งตัว ไม่มีชุดทำงานที่แขวนรอพร้อมสวมได้เลยไม่ต้องเลือกสีเนกไทให้เข้ากับเชิ้ตและสูทตัวนอก เพราะปกติจะมีคนเตรียมให้ คุณหนูร่างยักษ์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาแม่บ้านอย่างหัวเสีย
"ป้าเนียมมมม!"
"ขาคุณหนู"
เสียงตระหนกของแม่บ้านดังลอดโทรศัพท์เข้ามา หลังจากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงเดินอยู่ด้านนอก
"ป้าเข้าไปนะคะ"
แม่บ้านของคุณหนูร่างยักษ์ตกใจกับน้ำเสียงของคุณเขื่อน เพราะปกติเขาจะไม่หงุดหงิดตั้งแต่เช้าแบบนี้ ปกติจะแต่งตัวหล่อหอมสะอาดลงมาจิบกาแฟ ทานอาหารเช้าและออกไปทำงานอย่างอารมณ์ดี
"ป้าไม่เตรียมอะไรให้ผมเลย"
"แล้วป้าต้องเตรียมอะไรล่ะคะ"
"ก็ที่ปิ่นเขา..."
เสียงของเขาชะงักลงราวกับรู้ตัวว่าหลุดพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดออกไป แต่ไม่ทันที่จะถามอะไรเพิ่ม คุณหนูของป้าเนียมก็สะบัดหน้ากลับไปหาของต่ออย่างไม่สบอารมณ์
"วันนี้ผมมีประชุมสำคัญ แล้วเสื้อผ้าผมล่ะ"
"งั้น ๆ คุณหนูไปอาบน้ำก่อนนะคะ ป้าจะเตรียมให้"
เสียงปิดประตูห้องน้ำดัง ปัง! พยายามกลบความรู้สึกเบาโหวงลึกในใจของเขาที่มั่นใจว่าตัวเอง "ไม่มีทางคิดถึงเด็กคนนั้นแน่นอน" พร้อมทั้งตะโกนสวนออกไปเพื่อเน้นย้ำกับแม่บ้านที่ดูแลเขามาตั้งแต่เด็ก
"ผมยี่สิบหกปีแล้ว ผมไม่ใช่คุณหนูแล้ว"