ลิขิตแห่งฟ้า...#5

1232 Words
“ไม่เป็นไรนะ พี่อยู่ตรงนี้ ไม่ต้องกลัว” เสียงพี่ตรีดังขึ้นมาเป็นระยะ เขานั่งอยู่ข้างเตียงนอนพร้อมกุมมือของฉันเอาไว้ มีหมอและพยาบาลที่กำลังทำแผลให้ฉันอยู่ไม่นาน บาดแผลก็ถูกเย็บจนเสร็จเรียบร้อย “ขอโทษค่ะ ใช่ญาติคุณลินดาไหมคะ” “มีอะไรหรือเปล่าคะ” “คือ…. ตอนนี้คนไข้กำลังจะกระโดดตึกค่ะ!! เธออยู่บนดาดฟ้าของตึกค่ะ” ฉันได้ยินเพียงเท่านั้น แทบล้มทั้งยืน ไม่รู้มันเกิดอะไรขึ้น ทำไม่ลินดาต้องคิดสั้นถึงเพียงนี้ ฉันและพี่ตรีรีบเดินไปยังที่เกิดเหตุตอนนี้ฉันลืมความเจ็บปวดของบาดแผลไปสิ้น จิตใจจดจ่ออยู่กับลินดาเพียงคนเดียว บนดาดฟ้าบนชั้นหกของตึกผู้ป่วยนอก ถูกจัดเอาไว้เป็นสวนคล้ายเอาไว้พักผ่อนหย่อนใจของผู้ป่วยที่นี่ ฉันมองหาลินดา แล้วก็เจอ เธอกำลังยืนอยู่บนเก้าอี้ตัวหนึ่ง มือเกาะราวระเบียงเหล็ก ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา “ดา ไม่นะ ดา มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมต้องทำแบบนี้” ฉันพูดออกมาพร้อมร้องไห้ ลินดาก็เหมือนน้องสาวของฉัน ถึงเราจะต่างสายเลือด แต่ฉันก็รักเธอเหมือนน้องแท้ ๆ ที่คลานตามกันมา สองเท้ารีบเดินเข้าไปใกล้ โดยไม่ได้มองด้วยซ้ำว่าตอนนี้มีเลือดไหลออกมาจากบาดแผล “พี่เป้ย อย่าห้ามดาเลยค่ะ ดาไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้ว ตอนนี้ดาไม่เหลือใครแล้ว ให้ดาไปอยู่กับแม่บนสวรรค์เถอะนะคะ” “ดา” เสียงเรียกของพี่ตรีดังขึ้น ลินดาหันมองมาด้วยสายตาตัดพ้อ “ลงมาคุยกันก่อน อย่าทำแบบนี้” เขาจ้องมองไปที่ลินดาด้วยสายตาแน่นิ่ง ฉันไม่เคยเห็นสีหน้าหรือแววตาแบบนี้ของเขามาก่อน “ไม่ดาไม่มีอะไรจะคุยกับพี่ ในเมื่อสิ่งที่ดาขอ พี่ให้ดาไม่ได้ แล้วดาจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ยังไงกัน” ลินดายืนร้องไห้พร่ำเพ้อ ปานใจจะขาดดิ้น พี่ชายของฉันเดินเข้ามาพยุงฉันเอาไว้พร้อมพูดเกลี้ยกล่อมให้ลินดายอมลงมาจากที่ตรงนั้น แต่มันก็ไม่เป็นผล “ออกไป อย่าเข้ามา!! ดาตายไป พี่จะรู้สึกผิดสักนิดไหม ดาอยากให้พี่รู้สึกผิดไปตลอดชีวิตของพี่” ลินดาหันหน้ามองมาทางตรีภพ เป่าเป้ยและอาหยางต่างมองไปที่เขาเพียงคนเดียวอย่างมึนงง ในใจมันเต็มไปด้วยคำถาม สามีป้ายแดงกับน้องสาวต่างแม่ของฉัน เขามีเรื่องอะไรกัน ฉันยังมีรู้เรื่องอะไรที่ไม่รู้อีกใช่ไหม ฉันได้แต่จ้องมองไปทางพี่ตรี “ได้ พี่ตกลง ดาลงมาเถอะ” ตรีภพตอบตกลง แต่ลินดาส่ายหน้าไปมาพร้อมร้องไห้ “ต้องการอะไรอีก พี่รับปากเธอแล้วดา ลงมา!! ” เขากดเสียงต่ำ ใส่หญิงสาวที่ยืนอยู่บนเก้าอี้ สองมือกำราวระเบียงเอาไว้แน่น “ดาไม่เชื่อ พี่บอกความจริงกับพี่เป้ยสิ บอกเลยตอนนี้” เสียงของลินดาดังขึ้นปนเสียงสะอื้นไห้ ตอนนี้ผู้คนเริ่มทยอยมามุงดูเหตุการณ์กันมากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมตำรวจก็เข้ามาในพื้นที่ ตรีภพถอนหายใจ ก่อนมองมาที่หญิงสาวที่เขาแต่งงานด้วย ความรู้สึกหลากหลายวิ่งเข้ามาภายในใจ ความอึดอัดเริ่มกดดัน สุดท้ายเขาก็ต้องบอกความจริงกับเป่าเป้ย ไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้ “เป้ย” เสียงพี่ตรีดังขึ้น เขาเดินเข้ามาใกล้ฉันก่อนกุมมือของฉันเอาไว้ ไม่ยอมปล่อย “พี่ขอโทษ พี่ทำดาท้อง!!” สิ้นคำพูดของพี่ตรี ฉันนิ่งไป ช็อกมาก!! เหมือนมีฟ้าผ่าลงมากลางหัวใจ ใครก็ได้ช่วยฉันที มันคือความฝันใช่ไหม นี่ไม่ใช่ความจริง ฉันได้ยินเสียงอีกทีก็ตอน ที่พี่ชายของฉันปล่อยหมัดใส่หน้าของพี่ตรี หลายครั้ง โดยที่เขาไม่ลุกขึ้นมาสู้ แต่ลินดากลับรีบวิ่งเข้ามาห้ามพี่หยางเอาไว้ “อย่าค่ะพี่หยาง ดาขอ ให้อภัยเราสองคนเถอะค่ะ ดากับพี่ตรีคบกันมานานหลายปีแล้ว ดาผิดเองที่หักห้ามใจตัวเองไม่ได้ แต่ตอนนี้ดาไม่อยากปล่อยมือจากพี่ตรีจริงๆ พี่เป้ยดา ขอโทษ” เธอพูดพร้อมร้องไห้ออกมาฟูมฟายและยกมือไว้ขอโทษอยู่แบบนั้น เมื่อทุกคนเห็นว่าลินดาไม่คิดจะฆ่าตัวตายแล้ว และมองดูว่ามันเป็นเรื่องของครอบครัวจึงได้แยกย้ายกันไป “ให้อภัยหรอ แกเป็นน้องพวกเรานะดา แล้วไอ้ตรีมันคือผัวเป้ย รู้ไหมว่าทำแบบนี้เป้ยจะเสียใจมากแค่ไหน ทำแบบนี้ได้ยังไง” ฉันที่ดึงสติตัวเองกลับมารีบเดินเข้าไปดึงพี่หยางออกห่างจากคนทั้งสอง ภาพของเขาสองคนเริ่มทำให้สติของฉันกลับมามองเห็นความเป็นจริงอีกครั้ง เจ็บ!! มันเจ็บจนพูดอะไรไม่ออก ไม่รู้ต้องหาคำไหนมาปลอบโยนหัวใจที่กำลังเจ็บปวดและร่ำร้องด้วยความเสียใจตอนนี้ดี “มึงต้องเคลียร์ทุกอย่างให้จบ กูไม่มีทางให้เป้ยกลับไปหามึงอีก มึงมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย แค่ซื่อสัตย์ยังทำไม่ได้ อย่าคิดว่ากูจะยกน้องสาวให้มึงเป็นครั้งที่สอง” ตอนนี้ฉันร้องไห้ไม่แม้แต่จะมองใบหน้าของคนทั้งสอง ต้องทำอะไรต่อไปดี งานแต่งงานตอนกลางวัน มันเป็นเพียงความฝันอย่างนั้นหรือไง ทุกอย่างที่ฉันรับรู้ความรู้สึกที่มีให้กับพี่ตรี มันเป็นของจริงทั้งนั้น เขาละ เขาทำทุกอย่างจากใจจริงหรือเปล่า แค่คิดว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา ฉันมันโง่เหมือนควายใช่ไหม “คุณค่ะ ยังไม่ได้จ่ายค่ารักษาพยาบาลเลยค่ะ รบกวนที่ห้องการเงินด้วยนะคะ” ทันทีที่ฉันและพี่ชายมาถึงด้านล่างของตึก พยาบาลที่เคาน์เตอร์ก็เรียกให้หยุด “รอพี่ตรงหนี้ เดี๋ยวพี่มา อย่าไปไหน เราจะกลับบ้านกัน เป้ยมีพี่และพ่อ อย่าร้องคนดีของพี่” พี่ชายกอดฉันแนบอก ฉันยิ่งร้องไห้นักมากขึ้น “เดี๋ยวพี่มา” พี่หยางเดินตามพยาบาลสาวไปที่ห้องการเงิน เพื่อชำระค่ารักษาพยาบาล ตอนนี้ฉันคิดอะไรไม่ออก ฉันไม่อยากมีลมหายใจอยู่ต่อด้วยซ้ำ สายตาของฉันมองเห็นกุญแจรถยนต์ของพี่ชาย ไม่รู้ตอนนั้นคิดอะไรอยู่ ฉันหยิบมันขึ้นมาแล้วเดินไปที่รถ ลืมความเจ็บปวดที่เท้า ฉันขับรถออกไปทั้งสภาพเท้าเจ็บ ฉันเหยียบมันลงบนคันเร่ง แต่ความเจ็บที่มี มันเทียบไม่ได้กับความเจ็บปวดที่ได้รับทางใจสักนิดเดียว เสียงเบรกรถดังกระหึ่มขึ้นตรงกลางสี่แยกไฟแดง ฉันตอนนี้ ที่เริ่มมีสติจากที่ร้องไห้ตลอดทางที่ขับรถมา แสงไฟจากรถสิบล้อตรงหน้า สาดส่องเข้ามาในดวงตาและนั้นมันก็เป็นสิ่งสุดท้ายที่จำได้ ก่อนที่ทุกอย่างจะดับมืดไป….. ******** ขอบคุณที่ติดตามนะคะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD