bc

หวนรักท่านประธานเจ้าเล่ห์

book_age16+
445
FOLLOW
1K
READ
family
HE
sweet
mystery
like
intro-logo
Blurb

ธาริกาหลงรักรุ่นพี่คนหนึ่งแต่เขาดันแอบชอบพี่สาวต่างสายเลือดของเธอเข้าอย่างจัง งานนี้แค่ได้เป็นเพียงแม่สื่อให้เขาเธอก็ยินดี ขอแค่เธอได้มีโอกาสพูดคุยกับเขาบ้าง แต่ใครจะคิดว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นเรื่องที่ทำให้เธอต้องแตกหักกับครอบครัวและความจริงบ้างอย่างที่ถูกเก็บซ่อนไว้หลายปีก็ถูกเปิดเผย ชายหนุ่มได้รับรู้ความจริงว่าจริงๆแล้วคนที่เขาชอบคือใครก็ในวันที่สายไป

chap-preview
Free preview
บทที่ 1 บทนำ
วันนี้วันที่หนึ่งฤกษ์งามยามดีที่ธาริกาจะได้เข้ามาทำงานที่สาขาใหญ่ของบริษัทสื่อยักษ์ใหญ่ของเมืองไทย เธอคิดว่าเธออาจจะมีโอกาสได้เจอดาราหรือนางแบบดังๆบ้างก็ได้ เธอจะขอลายเซ็นพวกเขาไปอวดคนเป็นแม่ที่อยู่ที่ต่างจังหวัด แม่ของเธอติดละครมากแน่นอนว่าท่านอินเข้าไปในทุกบทบาท ก่อนจะออกเดินทางท่านเตรียมอาหารมาให้เธอหลายอย่างวันนี้เธอประหยัดไปได้ถึงมื้อเย็นเชียวล่ะ “สวัสดีค่ะแผนกการตลาดไปทางไหนหรอคะ” “ขึ้นลิฟท์ไปชั้นสามได้เลยค่ะน้องว่าแต่พี่ไม่คุ้นหน้าเราเลยนะ” “พอดีเพิ่งย้ายมาใหม่ค่ะ” “อย่าบอกนะว่าน้องคือหัวหน้าแผนกการตลาดคนใหม่” “ใช่แล้วค่ะ หนูชื่อธาริกาค่ะเรียกแค่ธิชาก็ได้ค่ะ พี่ชื่ออะไรคะ” “พี่ชื่อเนญ่าจ้ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะจ๊ะ” “เช่นกันค่ะพี่เนญ่า ยังไงธิชาขอตัวก่อนนะคะ” เธอรู้สึกได้เลยว่าพี่เนญ่าคนนี้อัธยาศัยดีมาก แน่ละสิพี่เขาเป็นประชาสัมพันธ์นี่หน่าก็ต้องยิ้มแย้มยินดีต้อนรับทุกคนที่เข้ามาในบริษัทอยู่แล้ว “จ้ะรีบไปเถอะทุกคนน่าจะรอธิชาอยู่” “ค่ะ” เธอมองดูนาฬิกาแล้วก็ต้องรีบเพราะอีกไม่กี่นาทีก็จะสายเสียแล้ว ทุกคนในแผนกไม่รู้ว่าหัวหน้าคนใหม่จะเป็นอย่างไรจะดุเหมือนคนเก่าไหม พวกเขาได้แต่รู้สึกกังวล “อะ เอ่อ...สวัสดีค่ะทุกคน ดิฉันธาริกาจะมารับตำแหน่งหัวหน้าแผนกการตลาดคนใหม่ค่ะ” ธาริกาทำตัวไม่ถูกเมื่อทุกคนมายืนต้อนรับเรียงหน้ากระดาน เธอได้แต่เกริ่นแนะนำตัวเอง ส่วนพนักงานในแผนกก็งงเช่นกันเพราะไม่คิดว่าหัวหน้าคนใหม่จะอายุน้อยแบบนี้ “สวัสดีค่ะคุณธาริกา” “สวัสดีครับคุณธาริกา” “เรียกแค่ธิชาก็พอแล้วค่ะทุกคน เรียกเต็มยศขนาดนั้นธิชาเขินแย่” คำตอบของหญิงสาวทำให้ทุกคนรู้สึกผ่อนคลายลงมาก หญิงสาวมีท่าทีอ่อนหวานเป็นกันเองกับทุกคน “คุณธิชาน่ารักจังเลยค่ะเป็นกันเองกับพวกเรามากเลย” “แล้วทำไมธิชาจะเป็นกันเองไม่ได้ละคะหรือว่าหัวหน้าคนเก่าค่อนข้างดุคะ” “ใช่เลยค่ะ” พนักงานคนหนึ่งตอบกลับเสียงเบา “ธิชามาทำงานที่นี่แล้วทุกคนจะไม่กดดันแน่นอนค่ะ ธิชาอยากให้เราทำงานกันเป็นครอบครัวมากกว่าเจ้านายลูกน้องนะคะ” จบประโยคของหญิงสาวทุกคนก็ยิ้มออกมาเต็มใบหน้า “หนูชื่อน้ำฟ้านะคะพี่ธิชา” “หนูชื่อนาราค่ะ ฝากตัวด้วยนะคะคุณหัวหน้า” “พี่ชื่ออนงค์จ้ะ ส่วนนี่เอกภพน้องชายพี่เอง” “ว้าว ทำงานเป็นครอบครัวจริงๆค่ะ” หญิงสาวตอบกลับยิ้มๆ “ห้องของน้องธิชาอยู่ทางนี้จ้ะเดี๋ยวพี่พาไป” “ขอบคุณค่ะ” เธอเดินตามอนงค์ไปจนถึงห้องทำงานส่วนตัว “ถึงแล้วค่ะ” “ห้องกว้างจังเลยค่ะนั่งคนเดียวเหงาแน่ๆค่ะ” “ไม่ดีหรอคะ เจ้านายคนเก่าของพี่น่ะเขาอยากเป็นส่วนตัวสุดๆ” อนงค์บอกกับหญิงสาวน้ำเสียงจริงจัง เจ้านายเก่าไม่เคยมาคุยทีเล่นทีจริง เขาอยากให้ทุกคนแบ่งเส้นชัดเจนว่านี่คือเจ้านายนี่คือลูกน้อง “ไม่ดีค่ะอยากมีเพื่อนพูดคุยมากกว่า เอาไว้ธิชาจะออกไปกวนพี่ๆแล้วกันนะคะ” “ยินดีเลยค่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วพี่ออกไปทำงานก่อนนะคะ” “ค่ะ” เมื่ออนงค์เดินออกไปแล้วเธอจึงตั้งหน้าตั้งตาจัดห้องของตัวเอง “น้องธิชาคะท่านประธานเชิญค่ะ” “ค่ะพี่อนงค์” หญิงสาวพร้อมเสมอสำหรับการแนะนำตัวเอง เธอเดินออกไปอย่างสง่าผ่าเผย “ผมเอาใจช่วยนะครับคุณธิชา” “ท่านประธานดุมากเลยหรอคะ” “ไม่เชิงดุครับแต่เอ่อ...คุณธิชาไปเจอเองดีกว่าครับ” “โอเคค่ะ ธิชาสู้ไม่ถอยอยู่แล้ว” ธิชาส่งยิ้มทักทายให้กับผู้คนที่ได้เดินสวนกัน เธอได้ยินพวกเขาพูดคุยถึงเรื่องเธอแน่นอนว่าคนที่ย้ายมาใหม่มักจะเป็นที่สนใจของคนอื่นอยู่แล้ว “ขออนุญาตค่ะท่านประธาน” หลังจากเคาะประตู เธอก็เปิดเข้ามาทันที ตอนนี้เขานั่งหันหลังให้เธอ “สวัสดีค่ะดิฉันชื่อธาริกา ผกาเวช ชื่อเล่นธิชาค่ะ มาทำหน้าที่หัวหน้าแผนกการตลาดวันนี้เป็นวันแรกค่ะ” ชายหนุ่มค่อยๆหมุนเก้าอี้กลับมาหาลูกน้องสาวที่กำลังแนะนำตนเองให้เขาได้รู้จัก เมื่อมองชัดๆว่าท่านประธานหน้าตาเป็นอย่างไรแล้วหญิงสาวก็ต้องหุบยิ้มฉับเพราะเขาคือบุคคลในอดีตที่เธอไม่อยากจะนึกถึงสักวินาทีนี่เอง “พี่ดีใจนะครับที่เราได้มีโอกาสเจอกันอีกครั้ง เราสองคนไม่ได้เจอกันเลยนะครับตั้งแต่วันนั้น” เขารู้สึกหัวใจมันพองโตก็ตอนได้สบสายตากับหญิงสาวนี่แหละ เธอโตเป็นสาวเต็มวัยสวยมากๆในสายตาของเขาและสายตาของหนุ่มๆคนอื่นเช่นกัน “ขอโทษนะคะท่านประธานคงจำคนผิดแล้ว” เธอจำเขาได้ในทันทีแต่แสร้งทำเป็นไม่รู้จักเพราะไม่อยากให้เขาพูดถึงเรื่องในอดีตให้มันทิ่มแทงใจ แผลเก่ากำลังจะหายเธอไม่อยากจะกรีดซ้ำรอยเดิม “ไม่ผิดตัวแน่นอนครับ” เขาตอบกลับด้วยรอยยิ้มแสนเจ้าเล่ห์ “ท่านประธานเรียกดิฉันมามีอะไรหรือเปล่าคะ” “ห่างเหินจังเลยนะครับ พี่แค่อยากถามว่าธิชามีอะไรขาดเหลือบอกพี่ได้นะครับ พี่ยินดีช่วยธิชาทุกอย่างเลย” “ดิฉันคงไม่ต้องรบกวนท่านประทานหรอกนะคะเพราะว่าพี่ๆน้องๆที่แผนกก็ช่วยเหลือดิฉันได้” คำก็พี่สองคำก็พี่ เขามีสิทธิ์อะไรมาพูดเหมือนกับว่าสนิทสนมกับเธอขนาดนี้กันเล่า “นั่งก่อนสิครับ” “ท่านประธานมีอะไรอีกหรือเปล่าคะถ้าไม่มีธิชาขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ” “ก็ได้ครับ วันนี้พี่ให้ธิชากลับไปจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนก็ได้ครับ” “ขอตัวค่ะ” เธอหมุนตัวเดินออกมาทันที เมื่อประตูห้องปิดลงใจของเธอก็เต้นระรัว เมื่อสักครู่เธอพยายามเก็บอาการเอาไว้จนมันเกือบจะเปิดเผยว่าในใจเธอยังมีเขาอยู่เต็มพื้นที่ของหัวใจ เธอไม่เคยลืมเขาได้เลยแม้ว่าจะพยายามสักแค่ไหนก็ตาม ด้านชายหนุ่มยิ้มขำกับการกระทำของหญิงสาว เขาคิดว่าเธอคงพยายามอย่างหนักที่จะพูดคุยกับเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉยทั้งที่ในใจอาจจะอยากพูดจิกกัดเขาก็ได้ เขาดีใจมากที่จะได้มีโอกาสแก้ไขเรื่องราวในอดีตที่เคยทำไม่ดีกับเธอเอาไว้ ทันทีที่เขารู้ว่าหัวหน้าการตลาดคนใหม่เป็นใครเขาก็ตั้งหน้าตั้งตารอเธอมาทำงานทุกวัน วันนี้เขาตื่นนอนแต่เช้าจนคนเป็นแม่ยังแอบสงสัยว่าวันนี้ที่บริษัทมีอะไรด่วนหรือไม่ลูกชายของนางถึงได้ดูกระตือรือร้นอยากจะมาทำงาน “เป็นยังไงบ้างคะน้องธิชา” “ทุกอย่างก็เรียบร้อยดีนะคะ ธิชาแนะนำตัวเสร็จก็ออกมาเลยค่ะ” “แปลกจัง” “แปลกยังไงหรอคะ” “ก็ปกติแล้วเวลามีสาวๆสวยๆแบบน้องธิชาเนี่ยท่านประธานไม่เคยปล่อยตัวออกมาง่ายๆเลยนะสิคะ” “ว่าไงนะคะ” “ตามนั้นเลยค่ะ” “หึ ธิชาคงไม่อยู่ในสายตาเขามั้งคะ” เขาคงจะสวมบทบาทคลาสโนว่าจนเต็มรูปแบบเลยสินะ ใครๆถึงได้บอกเป็นเสียงเดียวกันแบบนี้ ปัจจุบันเธอก็ยังไม่เข้าตาของเขาสินะ พอเธอมาคิดๆดูก็จี๊ดๆในใจดีเหมือนกัน “วันนี้เห็นว่าจะมีสัมภาษณ์พิเศษคุณสายไหมด้วยนะคะ” “จริงหรอคะป้าของธิชาชอบคุณสายไหมมากเลยค่ะ” “คุณธิชาไปถ่ายรูปกับคุณสายไหมสิคะ” “ไปได้หรอคะ” “ได้สิคะ” “งั้นธิชาคงต้องรบกวนพี่อนงค์พาธิชาไปหน่อยนะคะ” “ได้เลยค่ะ” สายไหมคือนักแสดงสาวที่กำลังเป็นที่โด่งดังจากละครเรื่องปมรักแรงแค้นที่ป้าขจีของเธอกำลังติดงอมแงม ละครออนแอตอนแรกก็กวาดเรตติ้งไปได้สูงมาก หญิงสาวมีผิวขาวรูปร่างสูงโปร่งใบหน้ามีเอกลักษณ์เป็นของตนเองไม่เหมือนนางเอกคนอื่นที่อาจจะทำศัลยกรรมมาทำให้หน้าตาคล้ายๆกันไปหมด “ขออนุญาตค่ะพี่แพง” “ว่าไงจ้ะอนงค์” “อนงค์พาคุณธิชาเขามาถ่ายรูปกับคุณสายไหมค่ะ” “สวัสดีค่ะพี่แพง ธิชาเพิ่งมาทำงานวันนี้วันแรกค่ะ” “ขอให้สนุกกับการทำงานนะจ๊ะน้องธิชา พี่ได้ข่าวว่าการตลาดเครียดพอตัวเลยนะ” “เรื่องงานธิชาสู้ไม่ถอยแน่นอนค่ะ” “คุณสายไหมมาพอดีเลยค่ะ คุณสายไหมคะน้องธิชาอยากจะขอถ่ายรูปด้วยค่ะ” “เชิญเลยค่ะว่าแต่คุณธิชาคือคนพิเศษใช่ไหมคะถึงได้เข้ามาในนี่ได้” “หัวหน้าแผนกการตลาดคนใหม่ของบริษัทค่ะคุณสายไหม” “อยากนี้นี่เอง ท่าทางคุณธิชาอ่อนกว่าสายไหมอีกนะคะ” “ธิชาอายุ 25 ค่ะ” “เห็นไหมจริงๆด้วยค่ะ สายไหมอายุ 28 แล้วค่ะ” “ขออนุญาตเรียกว่าพี่สายไหมได้ไหมคะ” “ยินดีค่ะ” “ป้าของธิชาปลื้มพี่สายไหมมากเลยค่ะ” “จริงหรอคะดีใจจัง” “พี่สายไหมน่ารักอย่างนี้นี่เองคุณป้าของธิชาถึงได้ปลื้มขนาดนี้” “ชมเกินไปแล้วค่ะ” “ไม่เกินไปจริงๆค่ะ” หลังจากถ่ายภาพกันแล้วหญิงสาวก็ขอตัวไปทำงานต่อ ส่วนธาริกานั้นก็รีบส่งรูปภาพไปอวดคนเป็นป้าทันที ท่านอิจฉาเธอมากที่มีโอกาสได้เจอดาราในดวงใจตัวเป็นๆ แถมยังได้พูดคุยกันเป็นส่วนตัวอีกด้วย “ต้นน้ำคะสายไหมถ่ายงานเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ วันนี้สายไหมหิวจังเลยอยากทานไอศกรีมจังเลยค่ะ” หญิงสาวขยับเข้ามาใกล้ชายหนุ่มจากนั้นก็ออดอ้อนให้เขาพาไปทานไอศกรีมของโปรด “วันนี้ผมต้องขอโทษด้วยนะครับพอดีผมมีนัดแล้ว” ชายหนุ่มบอกปัดอย่างพยายามรักษามารยาท “นี่ล้อเล่นสายไหมหรือเปล่าคะ” “ไม่ได้ล้อเล่นครับ วันนี้มีธุระจริงๆครับ” เขาส่ายหัวไปมาเบาๆ ท่าทางจริงจังจนหญิงสาวไม่กล้าที่จะตอแยต่อ “เฮ้อ ก็ได้ค่ะงั้นวันนี้สายไหมขอตัวกลับก่อนแล้วกันนะคะ เสียดายเวลาที่เราจะได้อยู่ด้วยกันจังเลยค่ะ สายไหมค่อนข้างงานยุ่งนะคะพอมีเวลาก็อยากจะมาอยู่ด้วย ฟอด” เธอขยับเข้าไปใกล้ขโมยหอมแก้มของชายหนุ่ม “…” “คิกๆ บ๊ายบายค่ะ” ชายหนุ่มเริ่มรู้สึกหนักใจไม่น้อยกับการกระทำของหญิงสาว เขาเคยบอกเธอไปหลายครั้งแล้วว่าเขาคิดกับเธอแค่เพื่อนเท่านั้นแต่เป็นหญิงสาวก็คิดเกินเลยกับเขาตลอด วันนี้เขาเลือกที่จะโกหกเพราะต้องการรักษาระยะห่างกับเธอเพราะเขาไม่อยากให้ใครบางคนเข้าใจเขาผิด ด้านธาริกาพอถึงเวลาเลิกงานหญิงสาวก็ตั้งใจจะตรงกลับคอนโดทันทีแต่เจ้ารถกระป๋องของเธอมันดันมาเสียอยู่หน้าบริษัท “ลูกนะลูกมาเสียอะไรตอนนี้เนี่ย” เธอรู้สึกหัวเสียไม่น้อยเพราะเวลานี้เธอควรจะได้กลับไปนอนตีพุงอยู่บนเตียงกว้างแล้ว “รถเป็นอะไรไปครับ มีอะไรให้พี่ช่วยไหม” ชายหนุ่มจับสังเกตมาสักระยะพอมั่นใจว่าหญิงสาวกำลังมีปัญหาแน่ๆจึงขับรถเข้ามาใกล้ “ไม่เป็นไรค่ะท่านประธาน” “อย่าเกรงใจกันเลยนะครับ คุณอเนกครับผมฝากจัดการเรื่องรถของคุณธาริกาด้วยนะครับ ยังไงถ้าเรียบร้อยแล้วก็ขับมาส่งที่บริษัทได้เลยครับ” “ได้เลยครับท่านประธาน ผมจะจัดการทุกอย่างให้นะครับคุณ...เอ่อ...” “ธิชาค่ะ เรียกธิชาดีกว่าค่ะ พอดีธิชาเพิ่งย้ายมาทำงานที่นี่รถของธิชาก็งอแงซะแล้ว วันนี้คงต้องรบกวนคุณเอนกหน่อยนะคะ” เธอบอกออกไปอย่างเกรงใจ “ยินดีครับ ช่วยอะไรได้ก็ควรช่วยเหลือกันสิครับถึงจะถูก” “ขอบคุณอีกครั้งนะคะ” “จบเรื่องแล้วให้พี่ไปส่งนะครับ” “ธิชาไปรถประจำทางได้ค่ะ” เธอบอกเขาออกไปพร้อมเชิดหน้าขึ้นน้อยๆอย่างคนถือดี “มาเถอะครับหรือว่ารังเกียจกัน” ชายหนุ่มถามออกไปตรงๆ เธอจึงไม่กล้าที่จะปฏิเสธ “ก็ได้ค่ะ”ใจจริงหญิงสาวอยากจะปฏิเสธแต่ก็กลัวเอนกสงสัยและเอาไปพูดคุยต่อจึงได้ยอมให้เขาไปส่งตามมารยาทแต่โดยดี “ธิชาพักอยู่ที่ไหนครับ” เขาถือโอกาสนี้สืบหาที่อยู่ของหญิงสาวทันที “อยู่ที่คอนโดกลางเมืองสุขุมวิทค่ะ” พอรู้ว่าเธอพักอยู่ที่ไหนก็ค่อยสบายใจหน่อยเพราะที่นั่นระบบรักษาความปลอดภัยค่อนข้างดี “โอเคครับ” หลังจากนั้นก็ไม่มีใครพูดคุยอะไรกันอีกจนมาถึงหน้าคอนโด หญิงสาวปลดล็อคเตรียมเปิดประตูลงไปแต่เขารั้งข้อมือเธอเอาไว้เสียก่อน “เดี๋ยวสิครับ” ชายหนุ่มรีบรั้งแขนเธอเอาไว้ หญิงสาวไม่พอใจเอามากๆ “ปล่อยค่ะ คุณไม่มีสิทธิ์มาแตะต้องตัวของฉัน” หญิงสาวแสดงออกชัดเจนว่าไม่ชอบให้เข้าถึงเนื้อถึงตัวเธอแบบนั้น “พี่ขอโทษครับ” ชายหนุ่มรีบกล่าวคำขอโทษ เขาแสนเสียดายแต่ก็ต้องยอมปล่อยมือของหญิงสาวเพราะกลัวเธอจะโกรธไปมากกว่านี้ เขารอจนกระทั่งเธอเข้าไปด้านในถึงจะยอมขับรถออกไป หลังจากส่งหญิงสาวถึงที่พักเรียบร้อยเขาก็ตรงกลับบ้านทันที เมื่อรถจอดสนิทเขาก็เห็นว่าคนเป็นแม่มายืนรออยู่ก่อนแล้ว “คิดถึงคุณแม่จังเลยครับ” “ไม่ต้องมาตีเนียนเลยนะตาต้นน้ำ” คนเป็นแม่ตอบกลับน้ำเสียงไม่พอใจ “ก็ผมไม่อยากไปดูตัวแล้วนี่ครับ” เขารู้อยู่แล้วล่ะว่าที่ท่านมายืนรอก็เพราะเขาเบี้ยวนัดไม่ยอมไปดูตัวตามที่ท่านต้องการ ฝ่ายนั้นคงจะมาโวยวายกับท่านแน่ๆ เขาเคยไปดูตัวหลายครั้งแต่ก็ไม่เคยสนใจใครเลย ยิ่งตอนนี้เขามีโอกาสได้กลับมาเจอธาริกาอีกครั้งเขาจะไม่ปล่อยผ่านไปแน่ “ที่แม่ต้องทำแบบนั้นก็เพราะว่าลูกไม่จริงจังกับใครสักทีไงล่ะลูก” “คุณแม่รอหน่อยได้ไหมครับคนที่อยู่ในดวงใจของผมกลับมาแล้ว” เขาบอกคนเป็นแม่ออกไปตรงๆเพราะเขานั้นดีใจมากที่ได้มีโอกาสพบเธออีกครั้ง มันเป็นอะไรที่ทำให้หัวใจของเขามีแรงกระตุ้น “อะไรนะลูก ลูกพูดจริงหรอ” “จริงสิครับ เธอมาอยู่ใกล้ผมแค่ปลายจมูกเท่านั้นเองนะครับ” “แม่เชื่อได้ใช่ไหมว่าสิ่งที่ลูกพูดคือเรื่องจริง” มารดาของชายหนุ่มถามย้ำอีกครั้งเพื่อความมั่นใจเพราะเอไม่อยากหวังลมๆแล้งๆอีกต่อไปแล้ว “เรื่องจริงสิครับ ผมไม่ได้โกหกคุณแม่แน่นอนครับ” เขาตอบกลับเสียงดังฟังชัด “ลูกต้องพาแม่ไปเจอเธอ” พอลูกชายหัวแก้วหัวแหวนมาให้ความหวังคนเป็นแม่แบบนี้มีหรือที่เธอไม่อยากจะพบเจอเด็กสาวคนที่ครองหัวใจของลูกชายของเธอมาตลอดหลายปี “ผมพาไปไม่ได้ครับแต่แม่ไปเจอเธอเองได้ครับ” ชายหนุ่มเปิดช่องว่างให้มารดาเต็มที่ เขาอยากให้ท่านเอ็นดูเธอด้วยสายตาของท่านเอง “ยังไงล่ะลูก” คนเป็นแม่ถามกลับงงๆ “เธอเพิ่งย้ายมาเป็นหัวหน้าแผนกการตลาดคนใหม่ครับ” เขาตอบกลับยิ้มๆ “หืม ใช้ได้เลยเดี๋ยวแม่จะไปแอบสืบเองก็ได้เชื่อสิแปบเดียวแม่ก็รู้ว่าเป็นใคร” คนเป็นแม่ตอบกลับด้วยความมั่นใจ ยิ่งเป็นคนในองค์กรแล้วมีหรือจะซ่อนตัวจากเธอได้ ไม่มีทางซะหรอก “ครับผม วันนี้ผมขอไปพักก่อนนะครับเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว” ชายหนุ่มส่ายหัวไปมาเบาๆเพื่อไล่เรื่องราวต่างๆและความเหนื่อยล้าที่มีอยู่ให้หายไป “ไปเถอะๆแม่ก็จะออกไปธุระกับพ่อเขาเหมือนกัน” “คร๊าบ รักแม่นะครับ” เขาขยับเข้าไปสวมกอดคนเป็นแม่อย่างออดอ้อน ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนเขาก็จะขออ้อนคนเป็นแม่แบบนี้ต่อไป ลองถ้าพ่อเขามาเห็นสิเป็นต้องบ่นที่เขามาวุ่นวายกับภรรยาคนสวยของตน “เจ้าลูกคนนี้นี่โตขนาดนี้ยังจะอ้อนแม่เหมือนเป็นเด็กๆไปได้” คนเป็นแม่บอกออกไปยิ้มๆแม้ลูกชายจะโตแค่ไหนเธอก็ยังเห็นเขาเป็นเด็กอยู่ดีในสายตาเธอ เธอรักลูกคนนี้มากและพร้อมจะรักคนที่ลูกของเธอรักด้วยถ้าสาวคนนั้นก็ตรงใจเธอน่ะนะ หลังจากที่ลูกชายคนเดียวของตนบอกว่าผู้หญิงที่ชอบมาทำงานที่บริษัทแถมยังได้ตำแหน่งหัวหน้าซะด้วยแสดงว่าเด็กคนนี้ต้องมีอะไรดีแน่ๆ นางจึงอยากจะเข้าไปดูสักหน่อยว่าหน้าตาเป็นอย่างไรรวมถึงนิสัยใจคอด้วย “ขอคาปูชิโน่แก้วนึงจ้ะ” “รอสักครู่นะคะ” “ระวังค่ะ” เสียงตะโกนของหญิงสาวเรียกความสนใจจากผู้คนรอบข้างได้เป็นอย่างดี เธอขยับเข้าไปจับตัวหนูน้อยได้ทันเวลาก่อนที่จะเกิดเรื่องร้ายๆขึ้น “น้องป่านลูก” “ไม่เป็นอะไรแล้วนะคะ” สาวน้อยในอ้อมกอดพยักหน้าหงึกๆ “ขอบคุณนะคะลูกสาวของดิฉันซนจนเกือบจะได้เรื่องเลยค่ะ” สาวน้อยหน้าตาน่ารักราวกับตุ๊กตาเกือบจะถูกประตูหนีบเพราะจะวิ่งตามคนที่ซื้อของเรียบร้อยแล้วออกไปด้านนอก “ธิชาเข้าใจค่ะเด็กวัยนี้กำลังซนฝากคุณแม่ดูแลใกล้ชิดอีกหน่อยนะคะ” “ค่ะๆ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ” สองแม่ลูกจูงมือกันเดินออกไปแล้วแต่หญิงสาวก็ยังยืนมองจนทั้งสองลับสายตาไปจากนั้นก็เดินกลับเขาบริษัทไปตามปกติ มารดาของชายหนุ่มแอบชื่นชมผู้หญิงคนนั้นอยู่ในใจ “ได้แล้วค่ะคุณลูกค้า” มารดาของชายหนุ่มรับเครื่องดื่มมาแล้วเดินออกจากร้านทันที เมื่อเดินมาถึงแผนกการตลาดเธอก็พยายามสอดส่ายสายตาไปมาทั่วๆอยากจะรู้ว่าใครกันคือคนในดวงใจของลูกชาย และดูเหมือนว่าจะเป็นผู้หญิงคนนั้น คนที่เพิ่งเจอกันที่ร้านกาแฟเมื่อสักครู่นี่เอง ตอนนี้หญิงสาวกำลังพูดอะไรบางอย่างกับพนักงานคนอื่นๆซึ่งทุกคนนั้นดูตั้งใจฟังในสิ่งที่หญิงสาวกำลังพูดมากๆจนน่าทึ่ง เรื่องการทำงานเธอคงต้องยอมรับเลยว่าผู้หญิงคนนี้เก่งมากไม่อย่างนั้นคงไม่ได้ก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้าแผนกทั้งที่อายุยังน้อยอย่างนี้แน่นอน “ไปไหนมาครับ” คนเป็นภรรยาอารมณ์ดีเป็นพิเศษจนน่าสงสัยว่าไปไหนมากันแน่ “ไปแอบดูว่าที่ลูกสะใภ้มาค่ะ” มารดาของชายหนุ่มตอบกลับยิ้มๆ “ว่าไงนะครับ ลูกสะใภ้หรอครับ” ลูกสะใภ้ที่ภรรยาว่าจะใช่คนที่ตั้งใจนัดดูตัวให้ลูกชายหรือเปล่าก็ไม่รู้ “ใช่ค่ะแถมคนนี้น้องไม่ได้บังคับลูกชายของคุณพี่ด้วยนะคะ” มารดาของชายหนุ่มตอบกลับยิ้มๆ “แปลก” “ตอนแรกน้องก็คิดแบบนั้นค่ะแต่พอได้เจอตัวจริงแล้วปลื้มมาก แอบกระซิบนิดนึงก็ได้ค่ะว่าเป็นคนในบริษัทเรานี่เอง ดูท่าทางทำงานเก่งมาก” “จริงหรอครับบอกชื่อผมบ้างเผื่อผมรู้จัก” “ธาริกา ผกาเวชค่ะ” “ชื่อไม่คุ้นเลยครับ” “แน่สิคะสาวสวยคนนี้เพิ่งจะย้ายมาใหม่” “แผนกอะไรล่ะครับ” “หนูคนนี้ย้ายมาเป็นหัวหน้าคนใหม่ของแผนกการตลาดค่ะ” “ไม่ธรรมดาจริงๆด้วยแสดงว่าลูกชายของเราก็ตาถึงเหมือนกันนะเนี่ย” “คิกๆ จริงที่สุดเลยค่ะ” ในทุกๆวันธาริกาทำงานด้วยความตั้งใจจนทุกคนในทีมอดจะชื่นชมหญิงสาวไม่ได้ เธอเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับคนอื่นๆในแผนกแถมยังไม่เคยแบ่งชนชั้นหรือต้องให้ทุกคนให้ความเคารพตนจนเกินขอบเขต เธอน่ารักและเป็นกันเองกับลูกน้องสม่ำเสมอ “วันนี้ทุกคนพร้อมไหมคะเพราะพวกเราต้องไปนำเสนอแผนของเราให้ท่านประธานใหญ่ได้ฟัง” แม้เธอจะแอบตื่นเต้นอยู่นิดๆแต่ไม่อาจแสดงความรู้สึกออกมาได้เพราะกลัวจะทำให้คนอื่นรู้สึกตามเธอไปด้วย “พร้อมค่ะ” “มีน้องธิชาทั้งคนพวกเราสู้ตายค่ะ” หัวหน้าทีมเก่งขนาดนี้คนในทีมก็สู้ไม่ถอยแน่นอน “พี่ก็สู้ตายเหมือนกันค่ะ” “ธิชาขอบคุณทุกคนมากเลยนะคะที่ตั้งใจทำงาน ธิชาเชื่อว่าแผนนี้ต้องผ่านการอนุมัติแน่นอนและที่สำคัญคือธิชาจะขอโบนัสเพิ่มให้ทุกคนค่ะ” “เย้” ทุกคนร้องออกมาด้วยความดีใจ เธอเข้าใจหัวอกมนุษย์เงินเดือนมากๆ โบนัสก็เป็นเหมือนแรงใจให้ทุกคนมีพลังขับเคลื่อนทำงานต่อไปได้อย่างแข็งขัน ธาริกาและลูกน้องอีกสองคนเดินทางมาที่ห้องประชุมใหญ่ก่อนเวลา วันนี้ออกจะเป็นการเป็นงานเสียหน่อยเธอจึงแต่งตัวดูเรียบร้อยกว่าปกติ เมื่อคนอื่นๆทยอยเดินเข้ามาด้านในเธอก็ยกมือไหว้ทำความเคารพทุกคน เธอยิ้มแย้มสดใสแต่ก็ต้องหุบยิ้มฉับเมื่อไปสบตากับคนเจ้าเล่ห์ที่เธอไม่อยากเจอหน้า “สวัสดีค่ะท่านประธาน” “หนูใช่ไหมที่เพิ่งย้ายมาใหม่” ท่านประธานใหญ่ถามกลับอย่างเป็นกันเอง “ใช่แล้วค่ะ ดิฉันชื่อธาริกา ผกาเวชค่ะ มาทำหน้าที่หัวหน้าแผนกการตลาดคนใหม่ของที่นี่ค่ะ” “ดีๆ ผมขอให้การงานราบรื่นแล้วกันนะ” บิดาของชายหนุ่มแอบพิจารณาหญิงสาวตรงหน้าแล้วก็คิดตรงกันกับภรรยาว่าลูกสะใภ้คนนี้ผ่านแน่นอน “ขอบพระคุณค่ะ” หลังจากทักทายกันแล้วหญิงสาวก็เริ่มนำเสนอแผนงานที่ได้นำมาเสนอ หน้าที่ของเธอคือต้องมองภาพรวมเป้าหมายของการทำการตลาดของบริษัท เธอเก็บข้อมูลเรื่องสถานการณ์ของธุรกิจในปัจจุบันเปรียบเทียบกับสถานการณ์ของเศรษฐกิจและคู่แข่งควบคู่กันไป แม้บริษัทจะมีคู่แข่งไม่มากนักแต่ก็ถือว่ามีผลโดยตรงกับผลประกอบการหากอีกฝ่ายมีกลยุทธ์ที่เหนือกว่า นอกจากนี้เธอยังต้องรายงานด้วยว่าธุรกิจกำลังอยู่จุดไหน กำลังจะทำอะไรต่อ (what) เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใด (who) จะเข้าหากลุ่มเป้าหมายได้ที่ไหน (where) ธุรกิจจะทำอย่างไรให้เพื่อกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายลงมือทำอะไรบางอย่าง หรือตัดสินใจซื้อ (How) ธุรกิจจะรู้ได้อย่างไรว่าแผนการประสบความสำเร็จ (How measure) หลังจากนำเสนอเรียบร้อยเธอก็ได้รับเสียงปรบมือกลับมา หญิงสาวอธิบายทุกอย่างได้อย่างละเอียดและมีเหตุมีผลจนไม่ต้องถามอะไรต่อเลยก็ได้เพราะทุกอย่างมันชัดเจนอยู่แล้ว “มีท่านใดอยากจะสอบถามอะไรเพิ่มไหมคะ” “เตรียมตัวนำเสนอกี่วันครับ” “สามวันค่ะ” เธอตอบกลับยิ้มๆ “ในเมื่อคุณทุ่มเทให้ทีมขนาดนี้ผมอยากจะเลี้ยงข้าวคุณสักมื้อได้ไหมครับ” ต้นน้ำรีบเอ่ยขอโอกาสทันที “อะ เอ่อ...” เธออยากจะปฏิเสธออกไปแต่ก็ไม่มีความกล้าพอ ทุกสายตากำลังจับจ้องมาที่เธอ “ไม่ใช่แค่คุณคนเดียวหรอกครับทุกคนในทีมคุณด้วย” เขารู้ว่าเธอลำบากใจจึงเอ่ยชวนคนอื่นๆไปด้วย “เป็นเกียรติอย่างยิ่งเลยค่ะ” เธอรู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมากและอย่างน้อยทุกคนก็ได้ทานอาหารอร่อยๆไปพร้อมกันกับเธอ ทุกคนดีใจมากที่ได้มีโอกาสร่วมรับประทานอาหารมื้อพิเศษกับท่านประธานสุดหล่ออย่างต้นน้ำ ร้านอาหารที่ชายหนุ่มเลือกอยู่ไม่ไกลจากบริษัทมากนัก ทุกคนดูตื่นเต้นกันมากเพราะนานๆทีจะได้ออกมาทานอาหารพร้อมหน้าพร้อมกันอย่างนี้ หญิงสาวต้องนั่งรับประทานข้างๆชายหนุ่มอย่างห้ามไม่ได้เพราะคนอื่นๆจับจองที่นั่งกันหมดแล้วซึ่งเหลือแค่ที่นั่งข้างชายหนุ่มเท่านั้น แน่นอนล่ะว่าใครจะอยากนั่งข้างท่านประธานกันล่ะคงจะทำตัวไม่ถูกกันแน่ๆ ทุกคนชมไม่หยุดปากว่าอาหารอร่อยมากและรู้สึกโชคดีที่ได้มาทานข้าวกับท่านประธานในดวงใจของสาวๆ “ขอบคุณท่านประธานมากๆเลยนะคะที่พาพวกเรามาเลี้ยงอาหาร อาหารอร่อยหมดทุกอย่างเลยค่ะ” อาหารที่นี่มีแต่ของขึ้นชื่อแน่นอนว่าราคาก็ต้องไม่ธรรมดา “ผมดีใจที่ทุกคนชอบครับ” เขาตอบกลับยิ้มๆ จากนั้นทุกคนก็กลับไปสนใจของอร่อยตรงหน้าจนไม่ได้สนใจท่านประธานสุดหล่ออีก พอได้จังหวะเขาก็หันมาถามคนข้างกายเพราะดูเหมือนว่าเธอจะไม่ค่อยเจริญอาหารเท่าไรถ้าเทียบกับคนอื่นๆที่ดูตั้งหน้าตั้งตาทานมาก “ทุกคนบอกว่าอาหารอร่อยมากน้องธิชาไม่อร่อยหรอครับ” “อาหารอร่อยมากค่ะแต่บรรยากาศไม่ค่อยดี” เธอตอบกลับหน้างอเพราะตลอดเวลาเขาพยายามขยับเข้ามาใกล้จนสองร่างแทบจะสิงกันอยู่แล้ว “ต่างจากพี่นะครับพี่เจริญอาหารมากเลย ดูสิครับนี่พี่เติมจานที่สองแล้วนะ” เขาตอบกลับสายตาเป็นประกาย ดูน่าหมั่นไส้มากๆ เธอไม่เข้าใจว่าเขากำลังต้องการอะไรกันแน่ “หึ” เธอสะบัดหน้าหนีก้มหน้าก้มตาทานอาหารต่อ “ท่านประธานดูสนิทกับน้องธิชาจังเลยค่ะ ไม่รู้จะเสียมารยาทไหมถ้าอนงค์จะถามว่ารู้จักกันมาก่อนไหมน่ะค่ะ” บอกเลยว่าคนอื่นไม่สนใจแต่อนงค์สนใจความสัมพันธ์ระหว่างเจ้านายสาวกับท่านประธานมากๆ “ผมยินดีตอบทุกอย่างครับเพราะผมไม่มีอะไรต้องปิดบังอยู่แล้วนี่ครับ ความจริงผมกับธิชารู้จักกันมาก่อนจริงๆครับ ผมเป็นรุ่นพี่ของธิชา แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยนะครับเรื่องที่น้องธิชาย้ายมาทำงานที่นี่ผมไม่รู้เรื่องเลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาทำงานที่บริษัทของผมจนได้มาเจอกันอีกครั้งหนึ่ง” “อย่างนี้นี่เองพรหมลิขิตชัดๆ อิจฉาน้องธิชาจังเลยค่ะมีท่านประธานคอยตักอาหารให้อยู่ตลอด” “สลับที่กับธิชาก็ได้นะคะพี่อนงค์ ธิชายินดีมาก” “แหะๆ ไม่ดีกว่าค่ะเชิญน้องธิชาตามสบายเลยค่ะ” พอถูกลูกน้องปฏิเสธหญิงสาวก็หน้างอยิ่งกว่าเดิม ไม่รู้ทำไมอนงค์ต้องถามเพื่อเปิดโอกาสให้เขาได้ใกล้ชิดเธอมากกว่าเดิมด้วยก็ไม่รู้ เมื่อทำอะไรไม่ได้ก็ขอตัวกลับก่อนน่าจะดีที่สุด “ธิชาอิ่มแล้วค่ะ ธิชาขอกลับไปทำงานก่อนนะคะ ขอตัวค่ะ” “น้องธิชา น้องธิชาคะ โถว่พี่ยังอยากจะทานต่ออีกสักหน่อย อนงค์เองก็ขอตัวก่อนนะคะ” แม้อนงค์จะแสนเสียดายแค่ไหนแต่ก็ต้องลุกตามเจ้านายสาวไป วันนี้มีประชุมเกือบทั้งวันเจ้าลูกชายเวลานี้ก็ยังไม่กลับบ้านไม่รู้ว่าไปไหนต่อ พอเธอเห็นคนเป็นสามีเดินเข้ามาในห้องรับแขกจึงรีบถามไถ่ทันทีเพราะรอลุ้นมากๆว่าผู้เป็นสามีจะปลื้มว่าที่ลูกสะใภ้เหมือนกันหรือเปล่า “ลูกไปไหนคะคุณพี่” “พาพนักงานไปเลี้ยงอาหารน่ะ” “แปลกจัง ว่าแต่เจอหนูธิชาหรือยังคะเป็นไงบ้างคะ” มารดาของชายหนุ่มถามสามีน้ำเสียงตื่นเต้น เธอชอบว่าที่ลูกสะใภ้คนนี้มากแต่ไม่รู้ว่าคนเป็นสามีจะคิดเห็นอย่างไรไม่รู้สินะ “เจอแล้วล่ะ ลูกชายของคุณน่ะอยากชวนสาวไปทานข้าวแต่กลัวสาวไม่ยอมไปด้วยถึงได้เป็นป๋าเลี้ยงพนักงานทุกคนในแผนกไปเลย”คนเป็นพ่อบอกออกไปยิ้มๆเขาจับทางลูกชายของตัวเองได้ “ฮ่าๆ มันก็ต้องทุ่มแบบนี้แหละค่ะ” หล่อนเราะออกมาเบาๆ นี่สินะลูกชายของนางชอบใครก็พุ่งเข้าใส่ “ว่าแต่ผมอยากรู้เรื่องราวของลูกเหมือนกันนะว่าทำไมหนูธิชาถึงได้มึนตึงเจ้าลูกชายเราขนาดนั้น” “อยากรู้ก็ถามเลยสิคะเดินมานู้นแล้ว” ชายหนุ่มกลับมาถึงบ้านก็โดนคนเป็นแม่ซักฟอกทันที ทั้งบิดามารดาอยากจะรู้เรื่องราวของเขากันทั้งคู่

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

ชะตาต้องรัก

read
2.2K
bc

มัดใจ'รุ่นพี่วิศวะตัวร้าย

read
4.6K
bc

บอสคนนี้เป็นของเธอนะ

read
1.8K
bc

ใต้ปีกเจ้าพ่อ

read
1.6K
bc

รักนอกพันธสัญญา

read
2.5K
bc

หัวใจของยมฑูตอบอุ่นมากนะ : Grim Reaper and The Warm Heart

read
1K
bc

แค้นรักวายุภักษ์

read
1.1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook