bc

เฮีย...ไหนว่าไม่ชอบเด็ก

book_age18+
249
FOLLOW
1.4K
READ
family
HE
age gap
fated
opposites attract
friends to lovers
kickass heroine
boss
heir/heiress
drama
sweet
bxg
lighthearted
kicking
brilliant
highschool
office/work place
childhood crush
secrets
like
intro-logo
Blurb

ธุรกิจครอบครัวมีปัญหาเลยต้องย้ายกลับขอนแก่นไปเริ่มต้นใหม่ รับตำแหน่งผู้ช่วยบริษัทที่พ่อเธอเคยเป็นส่วนหนึ่งของการก่อตั้ง แต่แยกออกไปทำส่วนตัวเมื่อสิบกว่าปีก่อน..

ทำให้ต้องเจอกับเขา พี่ชายปลอมๆ ที่เคยหลบหน้าเพราะความงี่เง่าเอาแต่ใจในตอนเด็ก

เขาปฏิเสธตอนเธอขอเป็นแฟน ด้วยเหตุผลว่า ไม่ชอบเด็กและเป็นพี่น้องแบบนี้ดีอยู่แล้ว

เราสองคนเคยสนิทกัน รู้จักกันตั้งแต่เกิด ชีวิตเธอที่เคยมีแต่เขา

ทว่าวันนึงเธอเลือกที่จะหายไปเหลือไว้เพียงความทรงจำเท่านั้น

แต่การกลับมาครั้งนี้บอกใจตัวเองแล้วว่าไม่เอาอะไรอีก

ส่วนเขาน่ะเหรอ กลับมาก็ดี.. เขาจะได้สั่งสอนเธอบ้าง ว่าผลของการกระทำเป็นยังไง!

-------------------------------------------

อย่าทำแบบนี้ถ้าไม่ชอบกัน!!

"เฮียสิงห์พูดอะไรระวังปากหน่อยนะคะ ที่พราวไม่ตอบกลับเฮีย บางทีก็ยังนึกถึงความรู้สึกดีๆ เก่าๆ ที่ยังมีให้กันอยู่ค่ะ"

"ความรู้สึกเก่าๆ ที่ว่านี่หมายถึงยังไง?"

"พราวว่าเฮียเมาแล้วค่ะ เรารีบกลับกันดีกว่า"

"เมาก็ส่วนเมา แต่ตอนนี้อยากรู้ว่าความรู้สึกดีๆ ที่ว่ามันเป็นยังไง"

อื้ออออออ!!!

#แนววิศวะ #พระเอกเป็นผู้รับเหมางานโยธา #นางเอกที่บ้านทำธุรกิจแบบเดียวกันแต่ล้ม

#ตอนเด็กเติบโตมาด้วยกัน #ความสัมพันธ์ที่กลัวใจตั้วเองทั้งคู่..

--ดราม่านิดหน่อยค่ะ เน้นทำงานสนุกสนาน คลั่งรัก สุดท้ายแล้วรักกันดีมากก--

-- มีฉาก NC 18+ นะคะ

chap-preview
Free preview
ตอนที่ 1 ย้ายกลับบ้านเรา
“มึงจะให้กูพูดยังไง มึงถึงจะยอมให้กูช่วยมึงไอ้ชัย..” “กูขอบคุณมึงมากเพื่อน แต่กูไม่ได้จนตรอกขนาดนั้น เดี๋ยวรอกูขายบ้านขายที่ได้ ก็น่าจะโปะกันพอดี” แม้ว่าปากจะปฏิเสธด้วยความจริงใจ ทว่าภายในกลับร้อนรุ่มมากกว่าอะไรดี... คนฟังได้แต่ถอนหายใจออกมา ต่อให้จะยัดเยียดความช่วยเหลือมากเท่าไหร่ แต่คนตรงหน้าก็ไม่ยอมรับไว้ และไม่มีทาง สำหรับคนที่ล้มในวัยอายุเท่านี้ เป็นธรรมดาที่จะต้องเครียด ในขณะเดียวกันนนทชัยเองก็เข้าใจสัจธรรมของชีวิต... ว่าคนเรามีขึ้นมีลง ยังดีที่เขาพอจะมีทรัพย์สินช่วงระหว่างทางที่คอยเก็บเกี่ยวไว้บ้าง ก็น่าจะช่วยทำให้ทุกอย่างดีขึ้นได้ในเร็ววัน “มึงก็เอาไปก่อน แล้วค่อยเอามาคืน.. เพราะบริษัทกูตอนนี้ส่วนหนึ่งมันก็เริ่มต้นมาจากมึง.. แต่มึงแยกออกไปโดยยอมไม่เอาอะไรด้วยซ้ำ เพราะอย่างนี้ มึงจะให้กูทนดูครอบครัวมึงล้ม แล้วครอบครัวกูสบายได้ยังไง” คนอีกฝั่งเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักขึ้น อภิสิทธิ์รู้ดีว่านนทชัยเพื่อนของเขา เป็นพวกดื้อรั้น ใจแข็ง ไม่เคยขอความช่วยเหลือจากใคร แม้กระทั่งเจอเหตุการณ์ใหญ่ในชีวิต แต่ก็ไม่เคยปริปากเอ่ยออกมาสักคำ ย้อนไปเมื่อเหตุการณ์สมัยมัธยมที่นนทชัย ขับรถมอไซต์ล้มแหกโค้ง ตัวเขายังลุกเดินกลับบ้านได้ปกติ ไม่บอกอะไรกับใคร ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทว่าพอเขารู้เรื่องก็รีบไปตามที่บ้าน คะยั้นคะยอให้ไปโรงพยาบาล สุดท้ายหมอรับจบ ด้วยการเย็บแผลเกือบยี่สิบเข็ม... “มึงก็รู้ว่ากูเป็นคนยังไง ตอนนี้กูยังรับมือได้ แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆ กูให้มึงช่วยแน่นอน..” เหตุผลที่นนทชัยไม่อยากรับความช่วยเหลือจากอภิสิทธิ์ เป็นเพราะว่าเขาไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณใคร จริงอยู่ที่บอกว่าเขาคือส่วนหนึ่งของบริษัทอภิสิทธิ์ในเมื่อก่อน ทว่าตอนนี้มันไม่ใช่ และตัวเขาเองก็แยกออกไปทำส่วนตัวได้กว่าสิบปีแล้ว... และอีกเหตุผลที่เขาไม่อยากให้เพื่อนยื่นมือเข้ามาช่วย เพราะหากเป็นเช่นนั้น บริษัทของอภิสิทธิ์เอง ก็จะขาดสภาพคล่องเหมือนกัน มันไม่ใช่แค่หนึ่งหรือสองล้าน แต่มันคือราคาหลักสิบล้านที่เขาต้องจ่าย... “อืม ถ้ามึงเห็นว่าอย่างนั้น ก็สุดแล้วแต่มึงเถอะ” คนพูดได้แต่ทำสีหน้าลำบากใจ...มาถึงตรงนี้เขาจะทำอะไรได้ ยัดเยียดไปมีแต่จะทำให้อึดอัดใจกันเสียเปล่า ก่อนจะหาเรื่องอื่นมาเปลี่ยนประเด็นแทน “แล้วมึงจะกลับกรุงเทพวันไหน?” “อาจจะอีกสองสามวัน..กูกับพรจะกลับไปเคลียร์เอกสารที่กรุงเทพ จะให้ลูกอยู่ที่ขอนแก่นไปก่อน” “ถ้างั้นระหว่างนี้ ให้หนูพราวมาช่วยงานที่บริษัทกูแล้วกัน ไอ้สิงห์มันขาดคนช่วยพอดี เด็กมันคุ้นเคยกันพี่มันจะได้สอนน้อง ไหนๆ มึงจะย้ายกลับมาทำที่นี่ ลูกมันจะได้คอยปูทางไว้ให้ ลูกค้ากูเองก็เยอะ มันจะได้มีคอนเนคชั่น” อภิสิทธิ์ยื่นข้อเสนอให้เพื่อน อย่างน้อยถ้าไม่รับเป็นเงิน ก็รับเป็นความช่วยเหลือที่จะคอยดูแลลูกสาวคนเดียวของเพื่อนรักให้ และอีกอย่างจะได้ช่วยเพื่อนวางรากฐานธุรกิจที่จะมาเริ่มต้นใหม่ที่นี่ เพื่อนยังไงก็คือเพื่อน ถามว่าทำไมเขาถึงพยายามช่วยนนทชัยในหลายๆ อย่าง ต่อให้เจ้าตัวจะไม่ได้ร้องขอ ก็เพราะพวกเขาเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยอนุบาล เรียนด้วยกันจนถึงมหา’ลัย จบคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาโยธาเหมือนกัน หลังจากนั้นพวกเขาก็ไปทำงานบริษัทอยู่สองสามปี และกลับมาเปิดบริษัทรับเหมาด้านโยธาเป็นของตัวเอง ในตอนนั้นธุรกิจกำลังไปได้ดีทีเดียว ทั้งสองเป็นหุ้นส่วนกัน แต่พรพรรณ ภรรยาของนนทชัย ซึ่งเป็นคนกรุงเทพ แม่ของเธอป่วย ทำให้ต้องตัดสินใจย้ายกลับไปที่กรุงเทพ นนทชัยเองก็ปล่อยเมียไปคนเดียวไม่ได้ เลยตัดสินใจแยกตัวออกไปทำส่วนตัวของตัวเองด้วยที่นั่น “เอางั้นก็ได้.. ฝากมึงด้วยแล้วกัน ขอบคุณมาก เดี๋ยวกูคุยกับลูกเอง” เขาเองก็สบายใจไปเปลาะหนึ่ง ที่อย่างน้อยมีคนช่วยเป็นหูเป็นตาดูแลลูกให้เขา แม้พราวนภาจะไม่เด็กแล้ว แต่ก็รักและหวงเหมือนเดิม ทำไงได้ลูกสาวสวยด้วยไม่หวงได้ไง “แล้วนี่ สิงห์ไปไหน ทำไมพักหลังๆ มาบ้านมึง ไม่เคยได้เจอ..” “อย่าว่าแต่มึงไม่เจอมัน มันเป็นลูกกูแท้ๆ กูยังหาตัวมันยาก.. มันบ้า มันอินดี้ ย้ายออกไปสร้างบ้านอยู่เส้นรอบเมืองคนเดียวนู้น จะเข้ามาหากูแค่ตอนมีปัญหาเท่านั้นแหละกับคิดถึงแม่มัน ฮ่าๆ” อภิสิทธิ์ว่าพลางยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม ไอ้ลูกคนนี้เอาการเอางานแต่ไม่เอาสังคม เขายังสงสัยอยู่ทุกวันนี้ว่ามันแอบไปสร้างบ้าน มั่วสุมอยู่คนเดียวทำห่าอะไร “ก็อินดี้ได้พ่อมันแหละ ฮ่าๆ สมัยมึงหนุ่มๆ ตอนเพ็ญงอนมึงหนีกลับไปเชียงใหม่ มึงก็เอาแต่เมาเหล้าทุกวัน กูต้องได้ไปตามเก็บศพมึงตลอด พูดแล้วก็ขำ ..” “พอเลย มึงก็ใช่ย่อย…” อภิสิทธิ์กล่าวตัดบทเพื่อนรักบ้าง หลังจากนั้นทั้งสองก็คุยสัพเพเหระต่อ ตามประสาเพื่อนสนิท บ้างก็คุยเรื่องธุรกิจ เอาเข้าจริงตอนนี้ นนทชัยไม่ค่อยน่าเป็นห่วงเท่าไหร่แล้ว และเขาเชื่อว่าเพื่อนของเขารับมือกับปัญหาได้แน่นอน ตอนนี้แค่วางแผนเริ่มต้นใหม่เท่านั้นพอ บ้านของพราวนภา “อ้าวป๊า กลับมาแล้วเหรอคะ? เมาไหมคะเนี่ย” พราวนภาลุกขึ้นจากโซฟา เข้าไปพยุงพ่อที่กำลังเปิดประตูเข้าบ้านมา “ไม่เมาๆ กินนิดเดียว ตามประสาคนแก่” นนทชัยกล่าวกับลูกสาว ทว่ากลิ่นละมุดนี่หึ่งมาเชียว “โหย ขนาดนี้นะป๊า แล้วใครมาส่ง อย่าบอกนะว่าขับกลับเอง อันตรายมาก ทำไมไม่บอกหนูไปรับ..” ดีเอ็นเอขี้บ่นนี่มันถ่ายทอดทางพันธุกรรมใช่ไหม “ป๊าเอารถจอดไว้ที่บ้านลุงสิทธิ์ มันให้ลูกน้องมันมาส่ง… แล้วนี่แม่ไปไหน?” “แม่เข้าไปนอนแล้วค่ะ จัดของจนเหนื่อยมาทั้งวัน.. หนูนั่งดูทีวีรอป๊า อีกสักพักจะไปนอนแล้วเหมือนกัน” เธอเองก็เริ่มจะล้า เพราะหลายวันที่ผ่านมาต้องคอยเก็บของต่างๆ พอวันนี้ก็ต้องตื่นแต่เช้า เดินทางจากกรุงเทพมาขอนแก่นก็ร่วมห้าชั่วโมงได้ กว่าจะย้ายของลงเข้าบ้าน เก็บของต่างๆอีก ก็ใช้เวลาไปเกือบทั้งวัน นี่ก็ยังต้องจัดการอีกเป็นกอง แม่เหนื่อยมาก! “เออ ป๊าคุยกับลุงสิทธิ์แล้ว เดี๋ยวให้พราวไปช่วยงานที่บริษัทนะ จะได้ช่วยหาคอนเนคชั่น เรียนรู้งาน วางระบบของบริษัทใหม่เราที่นี่” ว่าพลางเดินมานั่งที่โซฟา “ป๊ากับแม่โอเคไหมคะ? เคลียร์ที่กรุงเทพไหวไหม..จริงๆ ให้หนูกลับไปจัดการให้ดีกว่า แล้วเรื่องที่นี่ค่อยว่ากันอีกทีก็ได้ค่ะ” พราวนภาเองก็เป็นห่วงพ่อกับแม่ ด้วยความที่เธอเข้ามาช่วยงานที่บ้านได้สองปีหลังจากเรียนจบ ซึ่งตอนนั้นบริษัทก็เริ่มขาดสภาพคล่องแล้ว พยายามหมุนทุกทาง แต่ครั้งนี้คงต้องยอมรับว่าเราล้มจริงๆ และเธอไม่อยากให้พ่อแม่แบกรับไว้แค่สองคน “สบายอยู่แล้ว ทำตามแผนของป๊าก็พอ..” เขาเองก็เชื่อใจลูกสาวนะ แต่หลายๆอย่าง ให้เขาจัดการดีกว่า เพราะเธอก็พึ่งจะเข้ามาช่วยงานได้ไม่นาน ยังรู้เบื้องลึกเบื้องหลังไม่มาก หากจะปล่อยให้ลูกทำเอง คิดว่าคงหนักเกินไป “งั้นพรุ่งนี้เข้าไปหาลุงสิทธิ์นะเดี๋ยวป๊าไปส่ง ตามนี้.. ป๊าขอตัวไปอาบน้ำนอนล่ะ” นนทชัยพูดจบก็ตัดบทแล้วลุกเดิน ก่อนจะขึ้นไปยังชั้นสองของตัวบ้าน ปล่อยให้ลูกสาวขบคิดอะไรกับตัวเองอยู่สักพัก เรื่องที่เธอต้องไปทำงานบริษัทของอภิสิทธิ์มันคงไม่มีปัญหา และเป็นการดีด้วยซ้ำที่จะได้เรียนรู้ตลาดของภาคอีสาน...แต่ประเด็นอยู่ที่ว่าเธอมีเรื่องหนักใจอย่างอื่นให้ต้องคิด กับเขาคนนั้นที่เป็นลูกชายของอภิสิทธิ์ คนที่เธอพยายามหลบหน้ามาโดยตลอดสิบปี ไม่ติดต่อ ไม่คุย ไม่ทัก จนกระทั่งตัดทุกช่องทางโซเซียลมีเดียทั้งหมด และคล้ายว่าครั้งนี้มันถึงเวลาที่เธอไม่สามารถปฏิเสธทุกอย่างได้อีกต่อไป ในเมื่อทุกอย่างเดินทางมาถึงตรงนี้ และเพื่อความสบายใจของครอบครัว และการเดินหน้าต่อทางธุรกิจ เธอจึงไม่มีทางเลือก สุดแล้วแต่จะปล่อยให้มันเป็นไป ทำหน้าที่ได้เพียงบอกใจตัวเองว่า อย่า คิด มาก เพราะเขาคนนั้นคงไม่ได้คิดเรื่องนั้นแล้วเหมือนกัน ใช่หรือเปล่า?

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
18.7K
bc

หัวใจซ่อนรัก(เฮียเดย์)

read
48.0K
bc

เมียลับอุ้มรัก

read
82.6K
bc

หัวใจที่โหยหา

read
1K
bc

ร่านรัก จักรพรรดินี

read
1.8K
bc

Passionate Love รักสุดใจนายขี้อ่อย 20+

read
33.8K
bc

รอยแค้นแห่งรัก

read
55.4K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook