Chapter 12 ความเจ็บปวด

1083 Words
เสียงถามขรึมดุนั่นทำให้รัชนินท์คลี่ยิ้มกว้าง เดินเข้าเบียดตัวลงนั่งข้างๆ ร่างหนาเท่านั้นไม่พอเธอยังสอดมือเข้าโอบกอดตัวเขาแน่นตาปรายมองบนโต๊ะกระจกใสมีกระป๋องเบียร์ที่เปิดไปแล้วสามกระป๋อง พี่ชายของเธอ สามสี่เดือนจะแวะมาหาสักครั้ง แต่เชื่อเถอะว่า เธอไม่เคยคลาดสายตาจากเขาหรอกตลอดหกปีมานี้ “ทรายไปฟิตเนสข้างล่างนี่เอง แล้วพี่ล่ะ ดื่มแต่เช้า” ปฏิพัทธ์กำผมหางม้าเล่น เลื่อนมือขึ้นมาลูบศีรษะเล็กไปมาด้วยความรักใคร่เอ็นดู “แค่นิดหน่อยไม่เมาหรอก” “ขืนเมา ไปหาแม่ แม่คงไม่สบายใจนะคะ” “พูดมาก ไปอาบน้ำได้แล้ว เหม็นเหงื่อยังจะมานั่งเบียด” “พูดเหมือนพี่อาบน้ำ ทรายรู้นะว่าพี่ยังไม่อาบ ไม่ใช่ว่าเพิ่งกลับจากไปค้างกับผู้หญิงก่อนมาหาน้องนี่น่ะ” ปฏิพัทธ์เคาะหัวเล็กไปหนึ่งที ดันคนตัวเปียกเหงื่อออกห่าง รัชนินท์ยิ้มทะเล้น รีบผละไปก่อนจะถูกเขกหัวอีกรอบ คนเป็นพี่มองแล้วส่ายหน้า อายุยี่สิบแปดแล้ว น้องสาวของเขาก็ยังขี้อ้อนเหมือนเดิม วันนี้เป็นวันครบรอบวันตายของแม่ เขากับน้องสาวถือเอาวันนี้ของทุกปีทำบุญให้พ่อและแม่ โดยการเลี้ยงเพลพระ ก่อนกลับก็จะไปไหว้ท่านทั้งสองด้วยกัน ตาคมทอดจับกระป๋องเบียร์ คำพูดของน้องสะกิดใจ เขาทำให้แม่ต้องเสียใจก็เพราะเหล้าและคบคนเลวเป็นเพื่อน ไอ้เพื่อนเฮงซวยนั่น! เพราะเขาเชื่อใจมัน เห็นมันเป็นเพื่อน แต่มันกลับหักหลังเขา ใส่ร้ายเขาจนหมดอนาคตโดยที่เขาตอบโต้มันไม่ได้ นักศึกษาจนๆ คนธรรมดา มีหรือจะสู้อำนาจและอิทธิพลของนักการเมืองที่กำลังมาแรงตอนนั้นได้ เขาสู้มันไม่ได้ ต้องหมดอนาคต เรียนไม่จบ ถูกสังคมตราหน้า และหมดอิสรภาพแม่เสียใจตรอมใจ ที่สุดก็ป่วยและจากเขาไปโดยที่เขาไม่ได้แม้แต่จะร่วมงานศพด้วยซ้ำ มือหนากำเข้าหากัน นั่นทำให้กระป๋องเบียร์เย็นเฉียบบุบบี้ น้ำเย็นเฉียบพุ่งล้นรดฝ่ามือ เรียกสติให้กลับคืน ร่างสูงผุดลุกขึ้นจากโซฟา ก้าวเนิบนาบไปยังห้องนอนอีกห้อง จัดการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าบ้าง ทว่า... น้ำเย็นๆ กลับไม่ทำให้เขาหายหงุดหงิด ปากได้รูปเม้ม กรามขบกันดังกรอด ความเจ็บแค้นนี้ กี่ปีเขาก็ไม่มีวันลืม! รูปถ่ายที่ติดหน้าเจดีย์บรรจุกระดูกซีดหมองไปตามกาลเวลา หากใบหน้าของทั้งสองยังประทับในความทรงจำของเขาอย่างแจ่มชัด โดยเฉพาะตอนที่ท่านร้องไห้ขณะคุยกับเขาผ่านลูกกรงเหล็ก ปฏิพัทธ์กดกลั้นก้อนจุกแข็งให้ไหลลงไปแน่นที่กลางโพรงอก “คิดถึงพ่อกับแม่เนอะพี่” รัชนินท์เปรยเสียงเศร้า มือใหญ่ยกขึ้นมาโอบไหล่บีบเบาๆ กี่ปีที่มาที่นี่มันก็ทำให้เธอคิดถึงตอนที่พวกท่านยังอยู่เสมอ แม้เมื่อพ่อจากไปก็ยังมีแม่คอยดูแลปลอบใจ ครั้นแม่เสียไป เธอเคว้ง... พี่ชายคนเดียวก็ยังอยู่ในคุก ญาติพี่น้องมีก็เหมือนไม่มีเพราะไม่ติดต่อกันนานแล้ว ครอบครัวเธอจนจึงไม่มีญาติคนไหนอยากคบค้าด้วย ตอนนั้นเธอเรียนปีสี่เทอมสอง และถือเป็นความโชคดีที่ยังมีเพื่อนๆ คอยช่วยเหลืออยู่เคียงข้างไม่รังเกียจ “น้อง...” มือที่บีบไหล่เบาๆ ทำให้ใจที่เริ่มเศร้าเพราะนึกถึงอดีตคลายออก พี่ชายชอบเรียกเธอแบบนี้ “ตอนนี้พวกท่านคงกำลังมองเราอยู่พี่ว่าไหม” “อืม” “พ่อจ๋าแม่จ๋า ไม่ต้องห่วงทรายกับพี่ธามแล้วนะ” ปฏิพัทธ์นั่งเงียบๆ หากในใจนั้นเขาสัญญากับพ่อแม่อย่างที่บอกพวกท่านทุกปี ‘ผมจะดูแลน้องให้ดี’ หลังเลี้ยงเพลพระ ขากลับปฏิพัทธ์พาน้องสาวแวะร้านอาหารแถวนั้นก่อนกลับ “อยากไปไหนต่อไหม” “พี่ธามล่ะ คราวนี้มากี่วัน” “สองสามวัน” “ทรายไม่อยากไปไหนหรอก อยากนอนมากกว่า นานๆ จะได้หยุดงานสักที” เธอตอบพี่ชายยิ้มๆ เธอเป็นผู้ช่วยเชฟในโรงแรมใหญ่แห่งหนึ่ง สวัสดิการดี รายได้โอเค “มาช่วยงานพี่ก็จบ จะทำให้เหนื่อยทำไมมากมาย” “ไม่เอาหรอก ทรายอยากทำงานธรรมดาๆ ทรายฝันไว้ว่าสักวันจะเปิดร้านอาหารเป็นของตัวเองแหละ” น้องปฏิเสธทันที รัชนินท์รู้ว่าเขาทำงานอะไรประเภทไหน แรกๆ เธอขอให้เลิกทำด้วยซ้ำ แต่ด้วยสัญญาใจและอะไรหลายอย่าง เมื่อก้าวเข้ามาจุดนี้แล้ว เขาก็ต้องทำมันต่อไป ผลจากความมุมานะ เขาสามารถพิสูจน์ตัวเองจนก้าวขึ้นมาอยู่แถวหน้าได้ในทุกวันนี้ คำตอบของน้องกลับทำให้นึกถึงสาวน้อยอีกคน คนที่อยากมีชีวิตธรรมดาแต่เข้าไปทำงานที่ที่ไม่ธรรมดา ช่างย้อนแย้งสวนทางกันสิ้นดี “พี่จะค้างกับทรายเปล่า” “ไม่ล่ะ” ปกติแล้ว เวลามาหาน้อง เขาจะนอนที่คอนโดของเธอ แรกๆ เพื่อนข้างห้องคิดว่าเขาเป็นแฟนเธอด้วยซ้ำ “ปกติไม่ถาม หรือว่าแอบซุกหนุ่มไว้” “หึ!” รัชนินท์ตวัดตาค้อน ทำเสียงขึ้นจมูก “อยากซุกเหมือนกัน แต่ยังไม่เคยเห็นมีหนุ่มคนไหนเล็ดลอดสายตาพี่ธามได้สักคน” ปฏิพัทธ์หัวเราะในลำคอ ยื่นมือไปยีผมของน้องสาวให้เธอโวยวายมาอีก “พี่อยากให้เราเจอคนดีจริงๆ” “โอ๊ย แบบนั้นทรายไม่ต้องจองตั้งแต่ตกท้องแม่ออกมาร้องอุแว้ๆ เหรอพี่” “ปาก” เอ็ดแล้วส่ายหน้าให้ ใช่ว่าไม่มีหนุ่มๆ มาติดพัน น้องสาวเขาสวย แต่เธอช่างเลือกพอดู และคนที่ไม่ไหวจริงๆ เขาก็ช่วยเขี่ยออกให้แค่นั้น เขาเชื่อว่า โลกใบนี้ใช่จะมีแต่คนเลว ดูอย่าง... ปฏิพัทธ์ชะงัก เมื่อหวนคิดไปถึงสาวน้อยคนนั้นอีกแล้ว เพิ่งเจอกันไม่กี่ชั่วโมง เขามั่นใจอะไรนักว่าเธอขาวบริสุทธิ์ ถึงคิดแบบนั้น ตาคมยังเหลือบดูเวลาบนข้อมือ ป่านนี้เธอคงเข้างานแล้ว ว่าแต่เธอเลือกจะหยุดหรือทำงานนั่นต่อไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD