CHAPTER 04
หลังจากที่ธาราแกล้งฉันจนพอใจฉันก็เหมือนค่อย ๆ ภาพตัด
ที่ยืนเถียงคือการฝืนร่างกายอยู่สักพักใหญ่เพราะหลังจากนั้นฉันก็ฟุบหลับบนแผงอกแกร่งแล้วจากนั้นสติทุกอย่างก็หายไปเลย
เช้าวันถัดมา
ฉันขยับตัวเมื่อร่างกายรู้สึกตื่นตัวขึ้นมา
ไออุ่นเล็ก ๆ ห้อมล้อมฉันเอาไว้แล้วฉันก็โอบกอดเข้าหามันราวกับโหยหากัน
"อื้อ~"
พลันเมื่อรู้สึกอิ่มตัวจึงค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาช้า ๆ
สิ่งแรกที่เห็นคือแผงอกแกร่งที่ตัวเองซุกอยู่ และท่อนแขนแกร่งที่กอดฉันเอาไว้แน่น
"เฮือก.."
จะตกใจแรงก็กลัวคนในอ้อมอกตกใจฉันจึงรีบยกมือขึ้นมาปิดปาก และวินาทีต่อมาจึงค่อย ๆ ขยับตัวออกไปช้า ๆ อย่างใจเย็น
ฉันอยากหยุมหัวตัวเอง มานอนกับไอธาราบนเตียงของไอ้ชายได้ยังไง!
ที่สำคัญคือกอดกันกลมเลย!
ไม่ได้การแล้ว! ฉันต้องลงจากเตียงไปก่อนที่ไอ้ธาราจะตื่น
"ฮะ เฮือก.. นะ นี่! ตกใจหมด!"
พอจะผละออกจากอ้อมกอดนั้นได้ฉันกลับสะดุ้งเมื่อเผลอไปสบตากับคนที่เคยนอนหลับตาสนิทตอนนี้กลับลืมตาขึ้นมามองหน้ากันเสียได้
บ้าจริง! หนีไม่ทัน!
"ตื่นแล้ว?"
เสียงทักทายนั้นแหบแห้ง ท่าทางงัวเงียของไอ้ธาราทำเอาผิวแก้มฉันร้อนผ่าว
ฉันพยายามบอกกับตัวเองให้ใจเย็น ๆ อย่าตื่นตูมหรือวู่วาม
"ทำอะไรของนาย ฉันไปอยู่บนเตียงกับนายได้ยังไง!"
เมื่อมีช่องโหว่ฉันจึงทำทีเป็นโมโหกลบเกลื่อนทันที
"เธอจำไม่ได้?"
นี้แหละประโยคที่รอคอย
"ไม่ ฉันจำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น เวลาเมาฉันชอบภาพตัด"
ฉันตอบไปด้วยความหนักแน่นและนั่นทำให้ธาราที่งัวเงียลืมตาขึ้นมามองหน้ากันทันที
"เหรอ"
คำพูดสั้น ๆ กับท่าทีเอื่อยเฉื่อยกลับมาอีกครั้ง
ไอ้ธาราลุกขึ้นนั่ง มันมองหน้าฉันด้วยสายตากล่าวโทษที่เห็นได้ชัดผ่านสายตา
"ใช่"
อย่ามาคาดหวังว่าฉันจะตอบว่าตัวเองจำได้เพราะมันไม่มีทางเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ยิ่งกับไอ้ธาราแล้วเหมือนเป็นสิ่งต้องห้ามกันเลย
"เราเอากันแล้ว"
จู่ ๆ ไอ้ธาราที่ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก็โพล่งคำพูดออกมาจนฉันตกใจรีบวิ่งลงจากเตียงเพื่อไปทุบเข้ากลางหลังมันแบบไม่ออมแรง
"ไม่จริง! อย่ามาโกหก"
"หึ.."
พอฉันเถียงธาราก็หันมามองหน้ากัน มุมปากยกขึ้นสูงอย่างเจ้าเล่ห์
นี้ฉันพลาดตรงไหนมั้ยวะ ธารามันทำเหมือนตัวเองชนะอะ
"นายยิ้มอะไรเล่า อย่ามากวนตีน"
ธารากวาดสายตามองสำรวจใบหน้าฉัน เรียวนิ้วร้อนผ่าวจิ้มบนหน้าผากฉันสองจึก
"หน้าตาตอนพึ่งตื่นของเธอ ดูขี้เหร่ดี"
เหี้ย..
อย่างเจ็บ..
ฉันชะงัก อ้าปากค้างกลางอากาศแล้วปั้นหน้าบึ้งใส่ผู้ชายตรงหน้า
"นายก็เหมือนกันนั่นแหละ"
"แต่เมื่อคืนตอนที่เธอโดนจูบมันก็ดูน่าตื่นใจดี"
ฉันกำลังจะเดินออกจากห้องแต่จู่ ๆ มันก็เอ่ยประโยคนี้ขึ้นมาทำเอาฉันหันกลับไปหามันแทบไม่ทัน
"ละ เลิก ปั่นประสาทฉันนะ จูบบ้าจูบบออะไรจำไม่เห็นได้อย่ามาโกหก ถอยไปเลย!"
เสียงฉันตะกุกตะกักและไม่รู้ว่าสายตาตัวเองเลิ่กลักแค่ไหนรู้แต่ว่าตอนนี้สิ่งต้องทำคือการวิ่งออกจากห้องไป
รีบมากไปจนไม่ได้ยินประโยคที่ธารากล่าวทิ้งท้ายเอาไว้
"เดี๋ยวทำให้รู้เอง"
ฉันจะจูบกับใครก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่กับธาราที่ดูเหมือนศัตรูกันแบบนี้สิ!
หลายชั่วโมงต่อมา
วันนี้โชคดีที่เรามีเรียนกันตอนบ่าย และโชคดีที่รถฉันซ่อมเสร็จแล้วฉันเลยขับรถไปมอเองแม้ตอนนี้ใกล้จะสายเต็มแก่แล้วก็ตาม
"ฉิบหาย! สองนาที"
ฉันวิ่งมาถึงอาคารที่ตัวเองมีเรียน ยกมือถือขึ้นมาดูนาฬิกาก็รีบส่าวเท้าวิ่งอย่างรวดเร็วเพราะคลาสนี้เป็นของอาจารย์ที่ดุมาก สายนาทีเดียวล็อกห้องขังลืมเลยจ้า ฮือออ
ตึก ตึก ตึก
ไม่น่าคึกใส่ส้นสูงเลย พอวิ่งเร็วข้อเท้าปวดลามมาถึงหน้าขาเลย
พลั่ก..
ฉันผลักประตูเข้ามาในห้องนักศึกษาทุกคนก็ต่างพาหันมามองหน้ากัน วันนี้เราเรียนรวมกับนักศึกษาเอกอื่นด้วย รวมถึงอาจารย์รัตนาที่มองมาด้วยแววตาดุดันจนฉันเกือบหายใจไม่ออก
"เธอคนสุดท้าย ปิดประตูซะ"
"คะ ค่ะ.."
เหมือนตัวเองโชคดีแต่สายตาที่คาดโทษว่าฉันเป็นคนสุดท้ายก็น่ากลัวไม่เบา
ฉันเดินมาหาที่นั่งใกล้กับเพื่อนตัวเองแต่ทว่ากลับไม่มีที่ว่างเลยสักโต๊ะเลยต้องเดินไปเรื่อย ๆ จนเจอที่ว่างสุดท้ายที่เหลือไว้อยู่
อาจารย์รัตนาแกถือ ถ้ายังมีที่ว่างต้องนั่งให้เต็ม ห้ามไปนั่งข้างหลังทั้งที่ยังมีที่ว่างข้างหน้า
แต่ประเด็นคือที่ว่างแถวสุดท้ายดันเป็นธาราน่ะสิ ฉันเกือบช็อก! อยากหยุมหัวตัวเอง ฮือออ
"รออะไรอยู่นักศึกษา มาสายแล้วอย่ามัวโอ้เอ้"
เพราะฉันเอาแต่ยืนมองเหมือนขัดใจเลยโดนด่าฉ่ำ ๆ ไปหนึ่งกรุบ
"ขอโทษค่ะ"
ฉันหันไปขอโทษอาจารย์แต่ดูเหมือนไอ้ธาราจะชอบใจ
เวรเถอะ! มันหัวเราะเบา ๆ ในคอด้วย
ฉันรีบนั่งลงไปข้าง ๆ มัน หันไปเจอหน้ากวนตีนของมันก็ยื่นขาออกไปเตะหน้าแข้งไอ้ธาราทันที
"ขำอะไร"
น้ำเสียงที่ถามมันฟังดูเอาเรื่องพอสมควรแล้วไอ้ธาก็หันมามองหน้าด้วยความเนือยที่ฉันอยากตบให้มีชีวิตชีชาขึ้นอีกทีสองที
"เปล่า"
"ตอแหล!"
ฉันกัดฟันด่ามันเพราะถ้าปล่อยให้ด่าเต็มเสียงอาจารย์ต้องได้ยินแน่ ๆ
"ไม่เคยตอแหล"
ธาราเท้าคางมองหน้ากัน มันขยับปลายเท้ามาสะกิดนิ้วเท้าฉันเบา ๆ
"อะไรเล่า เจ็บนะ"
ฉันมุ่นคิ้ว คนยิ่งเจ็บข้อเท้าอยู่
"แค่นี้ เจ็บ?"
พอถูกถามก็บึนปากแล้วมองหน้ามันด้วยสายตางุ่นง่าน
"เจ็บ"
ตอบสั้น ๆ ก็หันหน้าหนีมันไปจ้องโปรเจ็กเตอร์ตรงหน้าทันที
นั่งได้ไม่ถึงสองนาทีก็รู้สึกปวดข้อเท้า ปวดหน่วงจนน้ำตาแทบเล็ด
"ถอดรองเท้าออก"
เหมือนธาราจะรู้ถึงเหตุผลที่ฉันบอกว่าเจ็บ มันออกคำสั่งด้วยเสียงที่เข้มขึ้นกว่าปกติ
ฉันหันไปมองหน้ามันแล้วส่ายหน้าปฏิเสธไป
"ไม่"
ความเงียบจากคนตรงหน้าแผ่ให้เห็นไอของความไม่พอใจบางอย่าง
ไม่ประเจิดประเจ่อหรือแสดงออกมาแบบชัดเจนแต่กลับทำให้รู้สึกขนลุกได้
"ธา!"
ฉันสะดุ้งจนเผลอถอยหนี
ธาราย่อตัวลง แล้วคว้าข้อเท้าฉันไว้
ฉันเลิกลั่กมองธาราสลับกับอาจารย์รัตนาที่นั่งสอนงานในจอ โชคดีที่เราอยู่ข้างหลังเลยไม่ค่อยเป็นที่สนใจสักเท่าไหร่
"นิ่ง ๆ"
มันปราบฉันเสียงแข็งแล้วไม่รู้ทำไมฉันกลับรู้สึกว่าต้องเชื่อฟังดื้อ ๆ ขึ้นมา
ธาราถอดรองเท้าส้นสูงของฉันออกไป พอถอดออกจึงเห็นว่าส้นเท้าและข้อเท้าแดงมาก และแดงทั้งสองข้างเลยด้วย
"เจ็บมั้ย?"
ธารานวดข้อเท้าฉันเบา ๆ แค่โดนนวดก็ปวดจนอยากขยับเท้าหนี
"เจ็บ"
"ไปหาหมอ"
"ไม่เอา ต้องเรียนให้เสร็จก่อน"
พอค้านธาราก็สบถสักคำในคอฉันได้ยินไม่ชัดนัก จนเขาชำเลืองสายตาขึ้นมามองหน้ากันฉันถึงรู้ว่าเขาไม่ค่อยโอเคมากนัก
"บางอย่างมันรอไม่ได้นะปั้นแป้ง"
เขาเน้นย้ำเต็มเสียง จากเดิมทีที่นั่งอยู่ก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
"อาจารย์ครับ ขออนุญาตออกก่อนครับเพื่อนผมบาดเจ็บ"
เขาหิ้วรองเท้าส้นสูงฉันมาถือเอาไว้แล้วจับจ้องไปที่อาจารย์เพื่อรอฟังคำตอบ
"ธารา! ทำบ้าอะไรของนายเนี่ย"
ฉันอยากจะร้องไห้ ทั้งห้องหันมามองเราสองคนเป็นตาเดียวรวมถึงไอ้ชาย ไอ้ชินและเบลล์ที่เลิกคิ้วขึ้นราวกับกำลังตั้งคำถามกันผ่านสายตา
"เป็นอะไร"
เสียงดุดังแผดผ่านไมค์ สายตาดุร้ายจ้องมาเหมือนเตรียมลงทัณฑ์ถ้าเหตุผลของธาราไม่ดีพอ
"ข้อเท้าแพลงครับ"
ในห้องเรียนเหมือนจะเงียบไม่ชั่วอึดใจ ฉันถึงกับก้มหน้าหลบหลีกสายตาทุกคน
"เชิญค่ะ แล้วให้เพื่อนจดโน้ตให้แล้วกัน"
"ขอบคุณครับ"
ใครจะคิดว่าอาจารย์รัตนาจะยอม ฉันอึ้งจนเงยหน้าไปสบตาอาจารย์ด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ
"เฮ้ย ๆ ธารา ไม่ต้องเดินเองได้"
ธาราตวัดฉันขึ้นมาอุ้มในท่าเจ้าสาว ฉันดิ้นจะลงแต่มันก็เดินออกไปทางประตูหลัง
ฉันซี๊ดปากเพื่อดิ้นแรงจนข้อเท้าปวด ธาราหยุดเดินแล้วจ้องหน้าฉันเหมือนผู้ใหญ่ดุเด็ก
"แค่นี้ยังเจ็บ จะเอาปัญญาที่ไหนไปเดิน"
ไอ้นี่! ปากแซ่บ!
"อย่ามาดูถูกความสามารถกันนะ!!"
หงุดหงิดจนต้องทุบอกแกร่งตรงหน้าให้หายงุ่นง่าน
"ดื้อด้าน"
"ธารา!"
ด่าฉันไม่พัก
ตอนเงียบก็นึกว่าอมเหรียญเอาไว้ พอพูดก็ปากแซ่บจนฉันแทบร้องขอชีวิต ฮืออ
Talk
ทรงนี้กวนตีนอ้อนเก่งนะบอกก่อน
1 เม้น 1 กลจ ค่ะ