1 บทที่ 1(1)

1150 Words
1 ปีผ่านไป... ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ภาพของสุนัขที่กำลังวิ่งเล่นภายในสวนสาธารณะทำให้เพชรลดารีบคว้าดินสอและสมุดวาดภาพคู่ใจของตนออกมาจากกระเป๋าทันที หญิงสาวมองภาพตรงหน้าด้วยรอยยิ้มก่อนจะลงมือวาดเพื่อเก็บความทรงจำตรงหน้านี้ไว้ เธอไม่ชอบถ่ายรูป... เพราะสำหรับเธอแล้วสิ่งเหล่านั้นมันฉาบฉวยเกินไป การได้ลงมือวาดโดยใส่ความรู้สึกของตนเองลงไปด้วยคือ สิ่งที่สะท้อนความจำได้ดีกว่า จำ...ได้ว่าเคยเกิดขึ้นที่ไหน และจำ...ได้ว่าเธอรู้สึกกับเหตุการณ์เหล่านั้นอย่างไร กว่าหญิงสาวจะวาดภาพในมือเสร็จเจ้าสุนัขตัวนั้นก็กลับไปกับเจ้าของนานแล้ว เธอวาดภาพต่อโดยอาศัยความทรงจำเข้าช่วยจนเมื่อเวลาล่วงเลยทำให้ท้องฟ้าเริ่มหม่นแสงพร้อมกับท้องของเธอที่เริ่มประท้วงออกมา จิตรกรสาวสมัครเล่นจึงตัดสินใจเก็บอุปกรณ์และสมุดวาดภาพลงในกระเป๋าก่อนจะลุกขึ้นเพื่อเดินกลับไปยังบ้านพักของเธอ ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ถึงเป้าหมายและหญิงสาวก็นิ่วหน้าออกมาอย่างเบื่อหน่ายเมื่อเห็นว่ากล่องขนมจากร้านที่เธอมีโอกาสไปเมื่ออาทิตย์ก่อนแขวนคู่กับดอกกุหลาบช่อใหญ่แบบที่เธอเคยเห็นประจำในช่วงนี้ เธอรู้ดีว่ามันถูกส่งมาจากใคร แต่มือบางก็ยังคงเอื้อมไปหยิบการ์ดใบน้อยที่แขวนอยู่ตรงช่อดอกไม้ออกมาอ่านเพื่อความแน่ใจของตน ‘พี่รู้มาว่าขนมร้านนี้เป็นร้านใหม่ที่เพชรชอบ กินให้อร่อยนะ...เอกภพ’ หญิงสาวกลอกตาไปมาอย่างระอากับชายหนุ่มที่ถูกเธอบอกปัดไปหลายครั้งแต่ก็ยังคงตามตื๊อเธอไม่เลิกตั้งแต่วันที่ได้พบกันโดยบังเอิญในร้านเพชรของเธอ สำหรับคนที่ถูกเอาใจมาทั้งชีวิตแล้ว นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทำให้เธอตื่นเต้นแถมยังสร้างความรำคาญให้แก่เธอด้วยซ้ำ ความลุ่มหลงที่ฉาบฉวย...เธอเคยเจอมานักต่อนักแล้ว เพชรลดาเอาของทั้งหมดทิ้งลงถังขยะหน้าบ้าน เธอรู้ว่าชายหนุ่มจะต้องเห็นเพราะเขาคงอยู่แถวนี้ แต่เธอคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่ดีเพราะมันอาจจะทำให้เขาคิดได้และเลิกวุ่นวายกับเธอเสียที เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้คนที่กำลังหงุดหงิดเปลี่ยนเป็นยิ้มกว้างเมื่อเห็นชื่อบนหน้าจอก่อนจะกดรับพร้อมๆ กับเปิดประตูเข้าไปในบ้านพักของตน “เป็นยังไงบ้างเพชร วันนี้ไม่เห็นโทรมาหาพี่เลยนะ แม่พี่บ่นหาใหญ่” เสียงอบอุ่นของพชรที่ดังมาตามสายทำให้หญิงสาวรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาเมื่อสัมผัสได้ถึงความรักและความห่วงใยของเขา “ขอโทษทีค่ะพี่พัช พอดีเพชรเดินเล่นเพลินไปหน่อย ฝากความคิดถึงให้น้าแววด้วยนะคะ” หญิงสาวเอ่ยไปถึงแวววัลย์ แม่ของพชร แม่นมที่เลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่แม่ของเธอเสียชีวิตลงเมื่อตอนเธออายุได้สองปี “แล้วนี่กินข้าวหรือยัง อากาศที่นั่นเย็นมากไหม” “ก็เริ่มเย็นๆ แล้วล่ะค่ะพี่พัช แต่ก็ไม่มากตามประสาเมืองนี้ ส่วนเรื่องข้าวเพชรกำลังจะลงมือทำค่ะ” “ถ้าอย่างนั้นพี่ไม่กวนแล้วดีกว่าเพชรจะได้กินข้าวไวๆ ดูแลตัวเองด้วยนะเพชร ถ้าเพชรไม่สบายขึ้นมาคนที่หูชาจะเป็นพี่นะ” หญิงสาวหัวเราะเมื่อได้ยินประโยคนี้จากปากพี่ชายที่ไม่ได้เกินจริงไปสักนิด แวววัลย์รักและห่วงใยในตัวเธอมาก จึงฝากฝังให้พชรรักและดูแลเธอราวกับน้องสาวแท้ๆ ชายหนุ่มจึงมักจะโดนแวววัลย์คาดโทษแทนตัวเธอที่ไม่เคยถูกแวววัลย์ต่อว่าเลยสักนิดแม้ในตอนที่เธอทำผิดก็ตาม “ค่ะ เพชรสัญญาว่าจะดูแลตัวเองให้ดี พี่พัชจะได้ไม่ต้องหูชาบ่อยๆ พี่พัชก็ดูแลตัวเองดีๆ นะคะ บายค่ะ” หญิงสาวตัดสายก่อนจะตรงไปยังห้องครัวเมื่อท้องเริ่มประท้วงหนัก แล้วเริ่มลงมือทำอาหารพร้อมกับฮัมเพลงไปด้วยอย่างอารมณ์ดี อีกด้านที่เมืองไทย พชรลงมือทำงานต่อทันทีหลังจากหมดความกังวลเรื่องเพชรลดา ชายหนุ่มเคร่งเครียดกับงานตรงหน้าจนเมื่อมีเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น เขาจึงเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะต้องประหลาดใจเมื่อเห็นว่าเป็นมารดาของตนเมื่อเวลานี้เลยเวลาเข้านอนของอีกฝ่ายมานานแล้ว “คุณหนูโทรมาหรือยังลูก” แวววัลย์ถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง ชายหนุ่มจึงยิ้มรับเพื่อให้มารดาคลายกังวล “ผมโทรไปหาน้องแล้วครับแม่ แต่ที่ไม่ได้บอกเพราะเห็นว่าดึกแล้วเลยคิดว่าแม่คงนอนแล้วน่ะครับ” “แม่ไม่หลับง่ายๆ หรอก ถ้าไม่ได้ข่าวของคุณหนูน่ะ” แวววัลย์เอ่ยถึงสาเหตุ พชรเลยบอกเล่าบทสนทนาที่เพิ่งจบไปอย่างเข้าใจความกังวลของมารดาของเขา สิ่งที่มารดาของเขารู้สึกต่อเพชรลดานั้นมากกว่าความรักและผูกพัน แต่ยังเปี่ยมไปด้วยความเทิดทูนในฐานะลูกสาวของผู้มีพระคุณที่ดูแลพวกเขามาเป็นอย่างดีเกินกว่าที่ควรจะได้รับตั้งแต่บิดาของเขาที่เป็นเลขาคนสนิทเสียไป “แล้วลูกล่ะพัช ดึกดื่นค่อนคืนแล้วยังไม่ง่วงเหรอลูก” “ผมอยากเคลียร์งานให้เสร็จก่อนครับแม่ งานนี้งานสำคัญด้วยเลยอยากทำให้เรียบร้อยที่สุด” “พัชขยันก็ดีแล้วล่ะลูก คุณภาคแกจะได้เบาใจ ลูกชายแกพึ่งได้เสียที่ไหน” พอพูดถึงลูกชายของภาคภูมิ หุ้นส่วนและเพื่อนสนิทของเจ้านายแวววัลย์ก็อดทำเสียงเหน็บแนมใส่ไม่ได้ เมื่อยังคงมีเรื่องค้างคาใจที่ทำให้เธอไม่ชอบชายหนุ่มคนนั้นทั้งๆ ที่ครั้งหนึ่งเคยเอ็นดูหนักหนา “อัศเพิ่งกลับมาได้ไม่นานเลยยังต้องเรียนรู้อีกบ้างน่ะครับแม่ แต่อีกไม่นานก็คงจะเก่งไม่แพ้ลุงภาค เจ้าคนนี้มันหัวไว” “เหอะ จะกลับมาทำไมก็ไม่รู้ เพราะเขา คุณหนูถึงได้ไป” “เพชรมีงานที่ลอนดอนที่ต้องไปจัดการครับแม่ ไม่เกี่ยวกับอัศหรอก” “ช่างเถอะ ถ้าอย่างนั้นแม่เข้านอนก่อนนะลูก" พชรตอบรับแล้วมองตามมารดาจนพ้นประตูห้องไป ชายหนุ่มจึงก้มหน้าทำงานพร้อมหยิบเอกสารเล่มแล้วเล่มเล่าขึ้นมาอ่านอย่างไม่ยอมให้ทั้งสมองและหัวใจได้หยุดพักจนเปิดโอกาสให้เรื่องราวของใครบางคนที่ถูกซ่อนไว้แทรกซึมขึ้นมาจนสร้างความรู้สึกปั่นป่วนให้แก่ตัวเขา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD