bc

เสน่หาแสนร้าย แนวคลั่งรัก (ภาคต่อตรวนรักร้าย)​

book_age16+
207
FOLLOW
1K
READ
billionaire
HE
friends to lovers
heir/heiress
sweet
bxg
brilliant
campus
friends with benefits
like
intro-logo
Blurb

"มองพี่แบบนี้อยากตายรึไง"

"เอาสิคะ ลงมือเลย ฆ่าลูกปลาให้ตายไปเลย"

"ปากดีแบบนี้ พี่จะยกซดให้ดิ้น"

เขาเข่นเสียงขู่ฆ่า สองแขนยกขึ้นถอดเสื้อยืดเนื้อนุ่มออกจากร่างแล้วโยนมันไปอย่างไร้ทิศทาง

++++++

'เวรกรรมอะไรของมึงวะไอ้แสน จะครางกันอีกนานมั้ยเนี่ย...'

ในห้องที่อยู่ติดกัน พัทธดนย์นอนพลิกกายไปมาอย่างกระสับกระส่าย เขายกหมอนมาปิดหูเมื่อเสียงครางกระเส่าดังเล็ดลอดมาถึงห้องของตน พยายามจะไม่สนใจฟังหากแต่คนในห้องข้าง ๆ กลับยิ่งเร่งเสียงหนักขึ้น ทั้งกระชากผ้าห่มคลุมโปง หากแต่ก็ไม่ได้ช่วยกลบเสียงกระเส่าราวคนเคี้ยวพริกแสนเผ็ดร้อนได้เลย

"ตาย ตาย มึงตายแน่ไอ้แสน"

ชายหนุ่มผ่อนลมหายใจ ผงกหัวขึ้นมองหลาน ๆ ที่นอนคั่นตรงกลางระหว่างเขากับเปมนีย์ เด็ก ๆ หลับกันไปหมดแล้ว เขามองเลยไปยังคุณอาของหลานที่นอนตะแคงหันหน้าไปอีกมุม หล่อนนอนนิ่งคล้ายกำลังหลับสนิทเช่นเดียวกัน คงจะมีแต่เขาที่นอนงุ่นง่านฟุ้งซ่านจากเสียงรบกวนของน้องเขยและน้องสาว คิดคาดโทษไปถึงคนสองคนในห้องนั้น ช่างไม่เห็นใจเขาบ้างเลย

"พิมพ์จ๋า...แรงอีก...ซี๊ดดดด...อา"

"รำคาญชิบหาย...ไอ้ติณห์...มรึง..."

คนฟุ้งซ่านเข่นเสียงรอดไรฟันอย่างหงุดหงิด เขาพลิกซ้ายพลิกขวาเพราะอารมณ์งุ่นง่าน โดยไม่รู้เลยว่าเปมนีย์นั้นหาได้นอนหลับอย่างที่เขาเข้าใจ หล่อนเองก็ได้ยินทุกอย่างเต็มสองหู ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าข้างห้องเขาทำอะไรกัน หล่อนนอนเกร็งกลั้นหายใจไม่กล้าขยับกายเพราะอายพัทธดนย์ สองมือนุ่มกำผ้าห่มจนชื้นเหงื่อ จะเปลี่ยนท่าพลิกนอนหงายก็ไม่กล้า ได้แต่นอนนิ่งทนฟังเขาพรอดรักกันในคืนฝนพรำ

"เมียจ๋าอย่าหยุด...ผัวจะเสร็จแล้ว...โอ้วววว"

"ทนไม่ไหวแล้วโว้ย!"

พัทธดนย์กัดฟันกรอดเข่นเสียงเบา ๆ มือใหญ่กระชากผ้าห่มออกจากร่างแล้วลุกพรวดขึ้นนั่งเมื่อเสียงครางนั้นแทบทะลุฝาผนังมากระแทกหู ขณะที่เปมนีย์นอนเอามืออุดหู สัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนรุ่มของตัวเอง พวงแก้มสาวแดงซ่านเมื่อคิดไปว่าพัทธดนย์เองก็คงได้ยินเหมือนกับที่ตนได้ยิน

ชายหนุ่มคลานอย่างเงียบเชียบผ่านไปทางปลายเท้าของหลานทั้งสามที่หลับสนิท จนมาหยุดอยู่ตรงปลายเท้าเปมนีย์ ค่อย ๆ แทรกตัวไปตรงช่องว่างของระหว่างหล่อนกับหลาน การที่มีอะไรมายุกยิก ๆ อยู่ตรงด้านหลังทำให้เปมนีย์เอี้ยวหน้ามอง...เมื่อเห็นเงาตะคุ่ม ๆ ท่าทางไม่น่าไว้วางใจ หล่อนทำท่าจะส่งเสียง

"ชู่วววว"

มือใหญ่ยื่นไปปิดปากหล่อนเอาไว้ พร้อมกับใช้แขนล็อกร่างนุ่มไม่ให้ดิ้น ยื่นหน้าเข้าไปกระซิบกระซาบชิดใบหูคนในวงแขน

"อย่าเสียงดัง เดี๋ยวหลานตื่น"

เปมนีย์รั้งมือแกร่งออกจากปากเพื่อจะพูด พร้อมกับที่เขาเอาขาขึ้นมาก่ายหล่อนเอาไว้

"ทำบ้าอะไรของพี่น่ะ อย่ารุ่มร่ามจะได้มั้ยคะ"

หล่อนกระซิบกระซาบ ใจคิดไม่ดีแล้ว เมื่อรู้สึกได้ถึงบางอย่างที่แข็ง ๆ ดันอยู่ตรงบั้นท้าย ซ้ำยังส่ายไปมาแล้วออกแรงกดจนมันจะมุดหายเข้าไปในเนื้อนุ่มอยู่แล้ว

"พี่แสน! เอาไอ้นั่นออกไปเดี๋ยวนี้"

"พี่อยาก นอนไม่หลับ อยากปล่อยน้ำ"

"อยากก็ไปเอาออกในห้องน้ำไป เห็นมั้ยหลานนอนกันเป็นแพ"

"ไม่เอา มันไม่มันส์"

"แล้วเมื่อก่อนพี่ใช้ชีวิตอยู่มายังไง"

"พี่ก็จินตนาการถึงเธอไปด้วย ชักไปด้วย แล้วตอนนี้ก็ได้เธอมาเป็นเมียแล้ว จะทำเองให้เมื่อยมือทำไม"

เสียงกระซิบกระซาบโต้กันไปมา หล่อนถลึงตามองท่ามกลางความมืด เหนื่อยใจกับความหน้าด้านของเขา พูดมาแต่ละคำไม่มีอาย ยิ่งได้สัมผัสก็ยิ่งได้รู้ว่าเขาหน้ามึนตัวพ่อ มึนยังไงให้ได้เมีย เขาน่าจะไปเขียนหนังสือขายท่าจะขายดี

chap-preview
Free preview
Chapter 1 บทนำ
Chapter 1 บทนำ ลือวิเศษกุลฟู้ด… บรรยากาศภายในห้องทำงานของซีอีโอนั้นเงียบลงไปเมื่อการประชุมจบลง ตรงโต๊ะประชุมที่มีเฉพาะระดับผู้บริหารนั่งล้อมรอบ พัทธดนย์ปรายตามองหน้าทีละคนเพื่อรอฟังว่าจะมีใครโต้แย้งอะไรออกมาอีก พัทธดนย์มองไปยังปฏิพัทธ์ ชายหนุ่มผู้ที่เกือบจะได้ขึ้นมานั่งตำแหน่งที่เขาครอบครองในปัจจุบัน อีกฝ่ายมองกลับมาด้วยสีหน้าราบเรียบ ก่อนส่ายหัวเล็กน้อย และทุกคนในห้องนี้ก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีก คนที่นั่งอยู่หัวโต๊ะจึงคิดว่าควรปิดประชุมอันแสนเคร่งเครียดได้แล้ว “ถ้าอย่างนั้น ผมขอปิดประชุมแต่เพียงเท่านี้” ปฎิพัทธ์ลุกขึ้นก่อนใคร จากนั้นคนที่เหลือก็ลุกตามแล้วทยอยเดินออกไปจากห้อง คงเหลือแต่เปมนีย์ที่ยังคงนั่งเฉย ดูเหมือนหล่อนจะไม่สนใจความเป็นไปรอบกายเลยด้วยซ้ำ เมื่อตาเอาแต่สนใจคลิปในไอแพด มันถูกส่งมาจากเชียงใหม่จนรู้สึกคิดถึงพี่ชาย หล่อนเหม่อจนพัทธดนย์ต้องเอาปากกาเคาะกับโต๊ะเพื่อให้หล่อนเงยหน้าขึ้นมามอง ยัง ยัง หล่อนยังจะไม่รู้ตัว เขาเคาะถี่ขึ้นก็แล้ว หากแต่หล่อนยังคงเฉย แววตาเข้มหรี่มองกรอบหน้ารูปไข่ที่มีแว่นสายตาสวมทับ นาน ๆ ทีจะเห็นหล่อนใส่แว่น มันดูขัด ๆ กับบุคลิกของหล่อนอย่างสิ้นเชิง “อะแฮ่ม!” “อุ๊ย!” เสียงกระแอมดัง ๆ ดึงเปมนีย์ขึ้นมาจากห้วงภวังค์ ก่อนจะมองไปยังคนที่ลุกขึ้นจากเก้าอี้ ร่างสูงเดินอ้อมโต๊ะมาทางที่หล่อนนั่ง หญิงสาวรีบปิดไอแพดหนีราวเด็กกำลังแอบทำความผิดแล้วกลัวถูกจับได้ พัทธดนย์เดินมาหยุดยืนอยู่ข้างหลัง เขาโน้มตัวไปข้างหน้าแล้วเอามือยันไว้กับโต๊ะ กักอีกฝ่ายเอาไว้ด้วยสองแขนแข็งแรง จนเปมนีย์ต้องทำตัวหดลีบเล็กจิ๋ว รู้สึกว่ากำลังตกอยู่ในอันตรายจากซาตานร้ายที่สยายปีกห่มคลุมร่างตนเอาไว้ จะลุกหนีก็ลำบาก เพราะเขายืนบังเก้าอี้ที่หล่อนนั่งจนขยับไปไหนไม่ได้ “เธอแอบดูซีรีส์เวลาประชุมงั้นเหรอ” “ปะ เปล่านะคะ ลูกปลาคุยกับลูกค้าอยู่” หล่อนเงยหน้าขึ้นไปสบตากับแววตาเข้มที่มองมาอย่างจับผิด จนได้กลิ่นหอมเย็นสดชื่นที่ลอยระรินอยู่เหนือใบหน้า เผลอสูดดมกลิ่นกายของเขาเข้าไปแบบไม่ตั้งใจ ให้ตายสิ หล่อนไม่ชอบแววตาเข้มที่มองมาแบบนั้น ทำเป็นอ่อยหวังว่าหล่อนจะตกลงไปในหลุมพราง ไม่มีทางเสียหรอก หญิงสาวคิดอย่างมั่นใจ “เธอชอบดูแนวไหนกันล่ะ เผื่อเราจะชอบเหมือน ๆ กัน” “คงไม่เหมือนกันหรอกค่ะ เพราะที่พี่แสนชอบดูคงไม่ใช่หนังรักธรรมดาแน่ ๆ” “ไม่ ๆ พี่ชอบหนังรัก โดยเฉพาะหนังสงคราม…สงครามรักน่ะ สู้กันดุเดือดเลือดพล่านจนตายกันไปข้าง ร้องลั่นเพราะโดนฆ่า หนังแบบนี้แหละโคตรมันส์ เธอควรสรรหาดูเพื่อผ่อนคลายความเครียด” “หึ เก็บไว้ดูคนเดียวเถอะค่ะ” หล่อนถลึงตามอง เพราะรู้ว่าเขาหมายถึงอะไร ความหื่นของเขามันปกปิดไว้ไม่มิด มักจะแสดงออกทางสายตาให้หล่อนเห็นเวลาอยู่เพียงลำพังสองคน หากแต่ต่อหน้าคนอื่นหรือบิดาของหล่อน เขาดูเป็นคนดีน่าเชื่อถือขึ้นมาทันทีทันใด ไม่มีใครรู้หรอกว่า วัน ๆ หล่อนต้องเผชิญกับอะไรบ้าง โดยเฉพาะมนุษย์ผู้ชายตรงหน้า แล้วนี่ก็เป็นอีกวันที่ต้องรับมือกับผู้ชายที่บิดาเอ็นดูจนอยากได้ไปเป็นลูกเขย ไม่ถามหล่อนบ้างเลยว่าอยากได้สามีแปลกประหลาดแบบนี้หรือไม่ “ไปดูเน็ตฟลิ๊กซ์บ้านพี่ไหม บ้านพี่มีโรงหนังส่วนตัวด้วยนะ” “ไม่!” “แต่บ้านพี่มีแมวให้เล่นนะ” “พี่แสน! ยังจะมัวล้อเล่น นี่มันเวลางานนะคะ” หล่อนตัดบท พยายามดึงแขนเขาออกไปให้พ้นทาง หากแต่มันไม่ง่าย เพราะแรงช้างม้านั้นยังคงกักหล่อนเอาไว้ไม่ยอมปล่อยไปง่าย ๆ “ปล่อยค่ะ ลูกปลาจะกลับห้องแล้ว มีงานต้องทำอีกมาก” “ก็กลับไปสิครับ พี่ผูกขาเธอไว้เหรอ” เขาหัวเราะเบา ๆ ราวได้ฟังเรื่องตลก ในขณะที่เปมนีย์พยายามแกะสองมือแกร่งนั้นออกจากโต๊ะ หากแต่ก็เหนียวเหมือนตุ๊กแก จนหล่อนอ่อนใจพ่นลมออกจากปาก เมื่อไม่มีทางเลือกจึงไถลตัวลงจากเก้าอี้แล้วมุดไปใต้โต๊ะ คลานข้ามไปอีกฝั่ง แล้วโผล่หน้าขึ้นมา ยิ้มให้เขาอย่างผู้ชนะเมื่อหลุดพ้นมาจากพันธนาการนั้นได้ “อยากจะยืนอยู่อย่างนั้นก็ช่าง ลูกปลาไปล่ะ” ในขณะที่พัทธดนย์ยืนมองด้วยความอึ้งตะลึง เมื่อไม่คิดว่าหล่อนจะทำแบบนั้น เขามองคนที่ขยับจับกระโปรงที่ร่นขึ้นสูงให้กลับลงไปคลุมขาอ่อนเอาไว้ ก่อนที่หล่อนจะเดินสับขาอ้อมโต๊ะเข้ามาคว้าไอแพดของตนไปกอดเอาไว้ คลี่ยิ้มยั่วมาให้เพื่อตอกย้ำว่าในที่สุดเขาก็ทำอะไรหล่อนไม่ได้ หล่อนขยับแว่นให้เข้าที่ ทำท่าจะเดินหนีออกไป หากแต่ลึก ๆ ก็เหมือนมีอะไรมาสะกิดใจ หล่อนยืนนิ่ง มองไปรอบ ๆ ห้องแล้วถอนหายใจออกมา “คิดถึงพี่ติณห์นะคะ…ห้องนี้…เคยเป็นของเขา…” เหมือนเข็มนับพันทิ่มแทงใจคนฟัง พัทธดนย์ถอนหายใจแรง มองหน้าคนที่หันกลับมาเผชิญหน้า แววตาสองคู่สบประสานคล้ายเข้าใจในความรู้สึกของกันและกัน “เธอก็รู้…เขาไม่กลับมา…ต่อให้พี่จะพูดกี่ครั้งว่ายอมขายหุ้นคืนให้ แต่เขาไม่มาเดินในเส้นทางนี้อีกแล้ว” เปมนีย์กลืนก้อนบางอย่างที่แล่นมาจุกอก เงยหน้าขึ้นแล้วกระพริบตาถี่ ๆ หล่อนไม่อยากร้องไห้อวดสายตาคนตรงหน้า เพราะทุกครั้งที่เข้ามาในห้องนี้ หล่อนคอยแต่จะคิดถึงพี่ชาย แต่ความจริงแล้วเขากำลังมีความสุขกับชีวิตใหม่ เมื่อมีเวลาก็มักจะบินไปหากันอยู่เป็นประจำ “ฝากด้วยนะคะ อนาคตบริษัทอยู่ในมือพี่แสน อย่าทำให้คุณพ่อต้องผิดหวังนะคะ” “จริง ๆ มันควรเป็นของเธอลูกปลา พี่เคยคุยเรื่องนี้กับคุณอาไปแล้ว” “ลูกปลายังไม่พร้อมค่ะ และไม่คิดว่าตัวเองจะสู้รบปรบมือกับใครไหว คงต้องให้พี่แสนช่วยเพราะคนที่นี่น่ากลัวเหลือเกิน ลูกปลารู้ ทุกวันนี้มีแต่คนคอยแต่จะเลื่อยขาเก้าอี้ของพี่ อย่าทำพลาดเหมือนพี่ติณห์นะคะ ไม่งั้นพี่จะจมดินทันที” หล่อนคลี่ยิ้มมาให้ก่อนจะเดินยักย้ายส่ายสะโพกออกไปจากห้อง ท่ามกลางแววตาเข้มที่มองตามจนกระทั่งประตูห้องทำงานปิดสนิท ชายหนุ่มเดินไปหย่อนกายนั่งลงบนเก้าอี้ตรงโต๊ะทำงาน เอนหลังพิงแล้วหมุนคลึงปลายนิ้วเข้ากับขมับราวความเครียดกำลังถาโถมเข้ามา ใช่แล้ว เขาเครียดเพราะต้องต่อสู้เพื่อความอยู่รอด จากพวกเขี้ยวลากดินที่เดินกันเกลื่อนบริษัท หนึ่งในนั้นก็คือปฏิพัทธ์ คนที่ชวดตำแหน่งซีอีโอเพียงเพราะการเข้ามาของเขา… ++++++ บนถนนที่มืดมิดเพราะเป็นคืนจันทร์อับแสง ตลอดสองฟากข้างคือผืนป่ารกทึบที่ทอดยาวไปตามแนวโค้งของถนนที่หาจุดสิ้นสุดไม่เจอ เสียงฝีเท้าดังเร็ว ๆ มาตามทางที่ไร้ซึ่งแสงไฟสาดส่อง หล่อนหันซ้ายหันขวาพลางหายใจด้วยความเหนื่อยหอบ และแสงไฟจากหน้ารถที่แลเห็นอยู่ไกล ๆ ก็ทำให้ต้องเร่งฝีเท้าเร็วขึ้น หากแต่ตอนนี้หล่อนไม่ไหวแล้ว ร่างกายหมดแรงที่จะวิ่งต่อไป ขาแข็งก้าวไม่ออกจนต้องหยุดอยู่กับที่ มันสั่นพรึ่บพรั่บจนแทบทรงตัวไม่ได้ หล่อนเหลียวไปมองหลังอีกครั้ง แววตาคู่สวยตื่นตระหนกเบิกกว้างเมื่อไฟหน้ารถใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ เมื่อไม่มีทางเลือกจึงสูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอด ก่อนจะกระโดดหายเข้าไปในป่ารกทึบข้างทาง และเพราะความมืดที่ทำให้มองไม่เห็นสิ่งใด หล่อนไม่รู้เลยว่าที่กระโดดหลบเข้ามานั้นมันคือทางลาดชัน ร่างเล็กเสียหลักล้มลงแล้วกลิ้งหลุน ๆ ไปตามความลาดเอียงที่ไม่รู้ว่าจะไปจบลงที่ตรงไหน “กรี๊ดดด!” หล่อนกรีดร้องเพราะความตกใจและหวาดกลัวสุดขีด จนกระทั่งรู้สึกว่าร่างกายกระแทกเข้ากับอะไรสักอย่างจนเจ็บจุก แสบไปทั้งแขนและขาจากการถูกขีดข่วนตอนกลิ้งตกลงมา ท่ามกลางความมืดมิด หล่อนนอนนิ่งลืมตาโพลงมองท้องฟ้าที่ถูกขวางกั้นด้วยเรือนยอดไม้ดำทะมึน น้ำตาไหลรินเมื่อไม่มีแม้เรี่ยวแรงที่จะลุกขึ้นนั่ง จำต้องนอนนิ่งอยู่อย่างนั้นอย่างคนน้อมรับความตายที่กำลังคลืบคลานเข้ามาใกล้ ได้แต่ภาวนา หากยังไม่ถึงที่ตายก็ขอให้ใครสักคนผ่านมาเจอก่อนที่หล่อนจะสิ้นลมหายใจอย่างเดียวดายในป่าแห่งนี้

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
10.9K
bc

สะใภ้ขัดดอก

read
32.1K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
2.2K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
5.4K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
3.9K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook