X-Metallica ตื๊อรักนายหน้านิ่ง | 2

1819 Words
หลังจากวันนั้นที่ฉันได้เจอและตกหลุมรักพี่เอ็กซ์คิว ฉันก็คอยแวะเวียนเข้าออกบ้านเขาเป็นว่าเล่น ช่วงแรก ๆ เขาก็กลับมาบ้านบ่อยนะ แต่หลัง ๆ มาไม่ค่อยกลับ เห็นป้าไหมบอกว่าเขาเรียนหนักขึ้นเลยไม่ค่อยว่างกลับมาบ้าน ทำให้ฉันไม่ได้เจอเขามาเกือบหลายเดือนแล้ว ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้เจอเขาที่บ้าน แต่ฉันก็คอยติดตามข่าวสารของเขาจากทางเพจเฟสบุ๊กต่าง ๆ เพราะเขาน่ะฮอตมาก ถือว่าเป็นคนดังของมหา’ลัยเลยแหละ แก๊งของเขาก็มีแต่คนหล่อ ทำให้มีแฟนเพจของพวกเขาเต็มไปหมด และอีกช่องทางหนึ่งที่สามารถติดตามเขาได้คืออินสตาแกรมที่ร้างมานานนับทศวรรษ เพราะเขาไม่อัปเดตอะไรเลยสักนิด ฉันก็สงสัยอยู่นะว่าเขาจะมีไว้ทำไมในเมื่อไม่ค่อยเคลื่อนไหวอะไร หรือว่ามีไว้ส่องเพื่อนอย่างเดียว? วันนี้คือวันแรกของการเปิดเรียนในชีวิตมหา’ลัยของฉัน และแน่นอนว่าฉันเลือกเรียนคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัย ZX คณะเดียวกับพี่เอ็กซ์คิว พี่ชายข้างบ้านที่ฉันแอบรัก ฮ่า ๆๆๆ หลายคนอาจจะคิดว่าฉันตามเขามาเรียนที่นี่ใช่ไหม ฉันขอตอบตรงนี้ตามความจริงเลยนะว่า...ใช่!!! ที่จริงฉันเรียนสายวิทย์-คณิตมาค่ะ แต่ก็เลือกเรียนคณะมนุษย์ฯ งงไหมละคะ ตอนแรกพ่อแม่ฉันก็ไม่ยอมให้เรียนหรอก แต่ฉันมันดื้อด้านและดื้อดึงที่จะเรียนไง โดยใช้เหตุผลล้านแปดมาอ้าง โดยเหตุผลหลัก ๆ ก็อ้างว่าชอบนั่นแหละ พ่อแม่ฉันก็เลยยอมจำนน แต่เอาจริง ๆ ฉันก็ชอบพวกภาษานะ ไม่ได้คิดจะตามเขามาเรียนเพราะเห็นเขาเรียนคณะนี้อย่างเดียวนะจะบอกให้ พอมาถึงคณะฉันก็สาดส่องมองหาพี่ชายข้างบ้านที่ไม่ได้เจอมานานหลายเดือนทันที เผื่อว่าเขาจะมารับน้องใหม่ด้วย ฉันกะจะเซอร์ไพรส์ให้เขาช็อกสักหน่อยที่เห็นฉันมาเรียนคณะเดียวกับเขา เพราะเขาไม่รู้หรอกค่ะว่าฉันจะมาเรียนที่นี่ แถมฉันยังไปขอร้องป้าไหมว่าไม่ให้บอกเขาและแอบขอเบอร์เขามาจากป้าไหมด้วย ฉันพยายามใช้สายตานกเหยี่ยวของฉันมองไปรอบ ๆ แล้ว แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของเขาเลยค่ะ หรือว่าเพราะเขาเป็นคนดังเลยไม่อยากทำกิจกรรม! “อีพิ้งค์” เสียงคุ้นเคยดังขึ้นข้างหลัง ทำให้ฉันต้องหยุดมองหาพี่เอ็กซ์คิวแล้วหันไปมองตามต้นเสียงแทน “อ้าวอีแหวนมึงมาแล้วเหรอ” ‘แหวน’ เป็นเพื่อนสนิทฉันตั้งแต่มอต้นค่ะ แต่พอขึ้นมอปลาย นางก็เลือกเรียนสายศิลป์-ภาษา ซึ่งมันคนละสายกับฉัน แต่ฉันก็ยังสนิทกับนางเหมือนเดิมนะ ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย ๆ และฉันก็ไม่ได้เจอนางมานานแล้วตั้งแต่ที่ฉันย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ แต่ก็ดีเลยที่นางเลือกมาเรียนคณะเดียวกันกับฉัน ฉันจะได้มีเพื่อนที่รู้จักมาเรียนด้วย จะได้ไม่ต้องเสียเวลาหาเพื่อนใหม่ให้ยาก “มาเช้าจังมึง” แหวนเอ่ยถามฉันด้วยความแปลกใจปนประชด “แน่นอนย่ะ” ฉันตอบมันไปด้วยความมั่นหน้า เอาจริงตอนสมัยเรียนมัธยมฯ ปกตินี่ฉันไปโรงเรียนสายเกือบจะทุกวันเลยนะ เพราะฉันน่ะชอบแวะกินข้าวต้มร้านโปรดหน้าโรงเรียนทุกวันก่อนไปเรียน ซึ่งวันนี้เป็นวันแรกที่เปิดเทอมมหา’ลัย ฉันจะทำแบบตอนเรียนมัธยมฯ ไม่ได้ ก็เลยต้องรีบมาเร็วสักหน่อย มาสายวันแรกมันคงไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ “มาเช้าเพราะตื่นเต้นที่เปิดเรียนหรือเพราะจะได้เจอพี่ชายข้างบ้านน้า~” แหวนเอ่ยแซวฉันขึ้น มันรู้ค่ะว่าฉันชอบพี่เอ็กซ์คิว เพราะฉันพูดกรอกหูมันทุกครั้งที่เราโทรคุยกัน “แน่นอนว่า…กูตื่นเต้นที่จะได้เจอพี่เขา555” ฉันตอบมันไปแบบอารมณ์ดีและมีความสุข แค่คิดว่าจะได้เห็นใบหน้าของพี่เอ็กซ์คิวฉันก็ตื่นเต้นจนหัวใจเต้นแรงแล้ว “กูกะแล้ว อีบ้าผู้ชาย!” “กูบ้าผู้ชายจริง แต่บ้าแค่คนเดียวนะ ฮิ ๆ” “มึงนี่แม่งสุดจริง ผู้ชายมาตามจีบเยอะแยะเสือกไปชอบผู้ชายเย็นชาหน้านิ่งที่โคตรหล่อ” “ก็กูตกหลุมรักเขาแบบโงหัวไม่ขึ้นไปแล้วอ่ะ จะให้ทำไงได้ และกูจะต้องทำให้เขายอมมาเป็นแฟนกูให้ได้!” ฉันพูดอย่างมาดมั่น ฉันตั้งปณิธานนี้ในใจอย่างแน่วแน่มาตั้งแต่วันแรกที่รู้ตัวว่าชอบเขาแล้วค่ะ “กูว่ามึงน่ากลัวแล้วพิ้งค์” แหวนพูดอย่างเอือมระอา “มึงก็พูดไป คิก ๆ” ฉันเอามือปิดปากหัวเราะอย่างภาคภูมิใจในความมั่นหน้าของตัวเอง “อีดอก มึงช่วยหวานแหววให้เหมือนชื่อหน่อยเถอะ กูขอร้อง” “กูก็ออกจะหวานแหวว เรียบร้อยดั่งผ้าพับไว้” “กูให้มึงพูดอีกที!” “น้อง ๆ เฟรชชีรีบเข้าห้องประชุมนะคะ ใกล้จะเริ่มปฐมนิเทศแล้ว” ฉันที่กำลังเม้าท์มอยกับแหวนอย่างเมามัน แต่ก็ถูกพี่ ๆ ขัดจังหวะด้วยการเรียกให้รีบเข้าห้องประชุม พวกฉันเลยต้องหยุดเม้าท์แล้วเปลี่ยนเป็นรีบวิ่งเข้าห้องประชุมแทน “นั่งไหนดีมึง?” แหวนถามฉันขึ้นเมื่อเราเข้ามาในห้องประชุมแล้ว ในขณะที่ฉันกำลังมองหาที่นั่งสำหรับสองคนอยู่ สายตาของฉันก็ไปสะดุดเข้ากับผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนพิงผนังอยู่ริมห้อง มองแค่ปราดเดียวฉันก็จำได้ทันทีว่าเขาคือใคร เพราะเขาคือผู้ชายที่ฉันอยากเจอมากที่สุดและลงทุนมาเรียนที่นี่เพื่อเขา ‘พี่เอ็กซ์คิว’ การที่ไม่ได้เจอเขามานานหลายเดือน พอได้มาเจอเขาอีกครั้งในวันนี้ก็ทำให้หัวใจของฉันเต้นแรงเหมือนวันแรกที่ได้เจอเขาเลยค่ะ เขาหล่อเหมือนเดิม เผลอ ๆ หล่อขึ้นกว่าเดิมซะอีก หน้านิ่ง ๆ บวกกับแววตาเย็นชากึ่งดุหน่อย ๆ ยิ่งได้มองก็ยิ่งหลงเสน่ห์เข้าไปทุกที อ๊ายยย ฉันอยากได้เขา! (เดี๋ยว ๆ ใจเย็น ๆ) “อีพิ้งค์ตกลงมึงจะนั่งไหน?” แหวนถามฉันขึ้นเมื่อเห็นฉันไม่ตอบและเอาแต่ยืนมองพี่เอ็กซ์คิวตาไม่กะพริบ “ตรงนั้น!” ฉันตอบมันพลางชี้ไปตรงที่นั่งว่างที่ใกล้กับพี่เอ็กซ์คิวที่สุด เพราะฉันกะจะให้เขาได้เห็นฉันแบบใกล้ ๆ น่ะสิ บอกแหวนเสร็จฉันก็รีบเดินนำมาจนเกือบจะใกล้ที่นั่งที่ว่างนั้น พี่เอ็กซ์คิวยังไม่เห็นฉันหรอกค่ะ เพราะเขาเอาแต่ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์มือถือและก็มัวคุยกับเพื่อนอยู่ ไม่สนใจใครเลย “เดี๋ยวอีพิ้งค์!” จู่ ๆ แหวนก็จับแขนฉันไว้ให้หยุดชะงัก “อะไร!?” ฉันหันไปถามมันแบบหงุดหงิด อีกนิดเดียวก็จะถึงที่นั่งแล้วเชียว คอยดูนะถ้ามีคนมาแย่งที่นั่งนั้นไป ฉันจะฆ่ามันให้ตายเลย “นั่นพี่เอ็กซ์คิวที่มึงชอบเหรอวะ?” แหวนที่น่าจะเห็นและจำได้ว่าคือพี่เอ็กซ์คิวถามฉันขึ้น “เออใช่” “หล่อเหมือนในรูปเลยว่ะ” แน่นอนค่ะ เขาหล่อที่สุด อันนี้ฉันรู้ดี ฮ่า ๆ “ใช่มะ แต่ตอนนี้มึงรีบพากูไปนั่งที่นั่งตรงนั้นก่อน เดี๋ยวก็โดนคนอื่นแย่งไปซะก่อนหรอก!” “เออ ๆ” มันยอมเลิกคุยกับฉัน แล้วเราก็รีบสาวเท้าไปยังที่นั่งตรงนั้นทันทีเหมือนกลัวคนแย่ง พอมาถึงฉันก็เลือกนั่งริมสุด เพราะเขาจะได้เห็นหน้าฉันแบบชัด ๆ พอนั่งลงฉันก็ได้ยินเสียงรอบข้างที่เอาแต่ซุบซิบและชมว่าเขาหล่อไปหมดไม่ขาดปาก จนฉันเริ่มจะหมั่นไส้ ฉันล่ะอยากจะตะโกนให้ดังลั่นห้องไปเลยว่าเขาคือของฉัน ใครก็ห้ามมองหรือห้ามยุ่งกับเขาเด็ดขาด! แต่ฉันคงทำแบบนั้นไม่ได้หรอกค่ะ ใครมันจะไปห้ามได้เล่า ไม่ได้มีสิทธิ์ในตัวเขามากขนาดนั้น แถมเขาก็เล่นหล่อซะขนาดนั้น ใคร ๆ ก็อยากมอง ใคร ๆ ก็ชอบ เฮ้อ~ เขาไม่มองมาทางฉันเลยสักนิด เอาจริงเขาไม่มองไปทางไหนเลยต่างหาก เอาแต่มองจ้องแค่หน้าจอโทรศัพท์มือถือกับมองหน้าเพื่อนเขาที่ยืนอยู่ข้างกัน ปิ๊ง! อยู่ ๆ ฉันก็คิดวิธีที่จะทำให้เขามองเห็นฉันได้แล้วค่ะ หึ ๆ คิดได้ดังนั้นฉันก็รีบล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าผ้าของตัวเอง แล้วกดโทรออกหาเขาจากเบอร์ที่ไปเนียนขอมาจากป้าไหม ฉันยกโทรศัพท์มือถือแนบหูรอให้เขากดรับสาย โดยที่สายตาก็มองจ้องไปที่เขาอย่างไม่วางตาเพื่อรอดูปฏิกิริยาของเขา ไม่นานเขาก็กดรับสาย เพราะฉันเลือกที่จะโทรไปตอนที่เขาจ้องมองโทรศัพท์มือถืออยู่พอดีน่ะสิ […ฮัลโหล นี่ใครครับ?] เขากดรับสายและพูดกรอกเสียงมาแบบมีมารยาท เขาไม่รู้หรอกค่ะว่านี้คือเบอร์ของฉัน “หันมามองทางขวามือ” ฉันตอบเขาไป และเขาพอได้ยินที่ฉันบอกไปแบบนั้นก็ทำคิ้วขมวดยุ่งแบบสงสัย แล้วค่อย ๆ หันมามองทางซ้ายมือที่ฉันนั่งอยู่ พอเขาหันมาทางฉัน ๆ ก็โบกมือไปมาให้เขาเห็น พอเขาเห็นว่าเป็นฉันก็ทำสีหน้าตะลึงปนช็อกนิด ๆ ทันที “เซอร์ไพรส์~ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะพี่เอ็กซ์คิว” พอฉันพูดไปแบบนั้นเขาก็ยิ่งทำหน้าช็อกมากขึ้นไปกว่าเดิมอีก “ยัยแกงเขียวหวาน!” เขาพูดออกมาเบา ๆ แต่ฉันได้ยินชัดเต็มรูหู! แงงงงง นี่เขายังไม่เลิกเรียกฉันว่ายัยแกงเขียวหวานอีกเหรอเนี่ย! เพราะตั้งแต่วันที่ฉันทำแกงเขียวหวานหกใส่เสื้อของเขาวันนั้น เวลาเขาเจอหน้าฉันเขาก็จะเรียกฉันว่ายัยแกงเขียวหวานตลอด ไม่เคยเรียกชื่อฉันเลยสักครั้ง ฮืออออ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD