พยัคฆ์ขาวตัวแม่นั่งลงสูดดมกลิ่นกายจากสตรีตัวบางและปล่อยให้นางลูบขนนุ่มนิ่มของตัวเอง ลูกพยัคฆ์สองตัววิ่งเล่นไปรอบๆวนไปวนมา ภาพสตรีผู้งดงามในชุดสีดำยืนลูบเสือขาวช่างดูเข้ากันในทุกความรู้สึก เจ้าเฟิ่งเซียนยิ้มพร้อมกล่าวคำ “เจ้าชื่อว่าอาเจินดีหรือไม่?” พวงหางใหญ่สะบัดไปมา ใบหน้านิ่งของพยัคฆ์ตัวแม่แลดูอ่อนโยนขึ้นมากกว่าห้าส่วนในยามปกติ ทหารทุกนายพากันนั่งมองสตรีงดงามเล่นกับเสือร้ายอย่างเพลินตาร่วมหนึ่งเค่อก่อนที่บุตรีของชินอ๋องและจวิ้นอ๋องจะหันใบหน้างดงามนั้นมาทางทหารยามที่เฝ้ากรงขังไม้ “เปิดประตู..ข้าจะเข้าไปหาอาเจิน” ทหารยามมีสีหน้าตกใจหันซ้ายหันขวา ขึ้นชื่อว่าสัตว์หน้าขนมิมีผู้ใดเชื่อใจได้เพราะมิอาจจะรู้ว่ามันจะอาละวาดเมื่อใดกันแน่ ยิ่งตอนที่ได้เสือขาวตัวนี้มาครั้งแรกมันกัดทหารไปสองคนอีกทั้งยังไม่เคยสงบนิ่งเฉยได้นานเลยนอกจากเวลากินอิ่มและนอนหลับ “พยัคฆ์ตัวนี้ชื่อว่าเถาฮวาพะยะค่ะ และข้า

