บทนำ
ณ แคว้นเพ่ย:แคว้นที่มีความเชื่อเรื่องดวงชะตามาตั้งแต่สมัยฮ่องเต้หลากหลายรุ่นจวบจนปัจจุบัน
“ตามที่หม่อมฉันตรวจดูเวลาตกฟากของพระองค์ สตรีที่จะขึ้นมาเป็นฮองเฮาของแคว้นเรานั้นจะเป็นสตรีที่มีใบหน้างดงามล่มเมืองแต่ลักษณะนิสัยของนาง..ราวกับบุรุษ หากให้หม่อมฉันกล่าวตามตรงก็คือ ‘เป็นสตรีแต่มิเหมือนสตรี’” แม่หมอผู้หยั่งรู้มองเจ้าเหนือหัวของแคว้นผู้มีพระชนมายุย่างเข้ายี่สิบห้าชันษาในอีกห้าเดือนข้างหน้า “ตามคำทำนายที่หม่อมฉันเคยกล่าวไว้เมื่อพระองค์ขึ้นครองราษฎ์เมื่อห้าปีก่อน หากพระองค์มีพระชนมายุครบยี่สิบห้าชันษาเมื่อใดเคราะห์กรรมอันหนักหน่วงจากชาติที่แล้วจะวนเวียนมาครบรอบทันที วิธีแก้ไขนั้นก็คือพระองค์ต้องตามหาสตรีที่นางนี้ให้พบ สตรีที่มีดวงชะตาแข็งแกร่งเฉกเช่นบุรุษ มาเสริมดวงชะตาของพระองค์ให้หลีกพ้นจากเคราะห์ร้ายและแต่งตั้งนางขึ้นมานั่งบนบัลลังค์ทองเคียงคู่กับพระองค์”
“มิใช่ว่าข้าจะมิอยากพบ แต่หลายปีมานี้ตั้งแต่ข้าขึ้นครองราษฎ์แทนเสด็จพ่อ ไม่ว่าข้าจะส่งเงาของข้าไปตามหาสตรีที่ว่านี้จากที่ใดก็มิเคยพบเจอ” ฮ่องเต้เพ่ยหานหรงบุรุษผู้มีใบหน้าหล่อเหลาดุจดังเทพเซียนมีสีหน้าหนักใจ ทุกวันนี้พระองค์ทรงปกครองแว่นแคว้นมาด้วยความสงบสุขร่มเย็นอยู่เสมอ ข้างกายมีเพียงสนมสองนางที่คอยสับเปลี่ยนหมุนเวียนผ่อนคลายความกำหนัดแต่สิ่งที่ขาดไปนั้นคือฮองเฮารักคู่บัลลังก์..ตำแหน่งที่ว่างไว้ให้สตรีในคำทำนาย ไม่ว่าสตรีนางนั้นจะเป็นบุตรสาวบ้านใดก็ตาม
แม่หมอวัยชรามองผู้สูงศักดิ์อย่างห่วงใย ที่นางเดินทางมาขอเข้าเฝ้าในวันนี้เพราะมีข่าวดีมาแจ้งให้แก่พระองค์ได้ทราบ ข่าวดีที่เกิดขึ้นจากฝันพยากรณ์ “นางกำลังจะมาแล้วเพคะ ที่เหลือคงจะขึ้นอยู่กับพระองค์แล้วว่าจะหานางพบหรือไม่?”
“นางจะมา?” ความปิติยินดีฉายชัดบนพระพักตร์หล่อเหลา
“เพคะ..แต่จะมาในรูปแบบใดหม่อมฉันก็มิอาจรู้ได้” ในฝันนั้นนางมองเห็นสตรีใบหน้างดงามถือกระบี่กระโดดไปมาตามหลังคาบ้านเรือนยามค่ำคืน สตรีนางนั้นพร่ำพูดถ้อยคำที่นางไม่เข้าใจหรืออาจจะเป็นเพราะนางได้ยินไม่ชัด จะมาดีหรือมาร้ายซึ่งเรื่องนี้นางมิได้บอกกล่าวแก่ฮ่องเต้ “สิ่งสำคัญที่หม่อมฉันเคยกล่าวไว้เมื่อห้าปีที่แล้ว วันนี้หม่อมฉันก็จะขอกล่าวเช่นเดิม ‘ขอให้พระองค์ใช้พระทัยตัดสินเท่านั้น’ เพคะ”
“ข้าจะจำเอาไว้”