ตอนที่ 6

1211 Words
วันนี้เจาจื่อจิ้งไปเรือนจี๋ฟางมารอบหนึ่ง โดนฝูมู่เสวี่ยชี้หน้าไล่คน นางตามมาเรือนชิงฟงอ้างว่าเยี่ยมคนกลับไล่เขาไปชงชา คราวนี้อยากรู้นักว่าคุณหนูใหญ่จะก่อเรื่องอะไรอีก “คุณชายเจารีบร้อนไปที่ใดเจ้าคะ มีเรื่องอะไรหรือ?” “คุณหนูรอง” “ทางนี้ตรงไปเรือนจี๋ฟาง คุณชายเจาตั้งใจไปเยี่ยมพี่ใหญ่ใช่หรือไม่เจ้าคะ” “ข้าตั้งใจไปเยี่ยมคุณหนูใหญ่ คุณหนูรองไปเรือนจี๋ฟางเช่นกันหรือ” “ไม่ปิดบังคุณชาย เมื่อกลางวันชิวถงไปที่เรือนท่านแม่ นางหลุดปากบอกว่าใบหน้าพี่ใหญ่มีรอยแผล ข้าตั้งใจมาเยี่ยมนางหากบาดแผลทิ้งรอยไว้เกรงว่าพี่ใหญ่จะเป็นกังวล” เป็นกังวลอะไรกัน? ยามไปหาเรื่องผู้อื่นถึงเรือนชิงฟงไม่เห็นว่าฝูมู่เสวี่ยจะเดือดร้อนอันใด พูดกันตามจริง รอยแดงใต้ตาบนใบหน้าคุณหนูใหญ่ดูน่าเป็นกังวลไม่น้อย เจ้าตัวกลับยังเดินเพ่นพ่านไปมาได้ “คุณหนูรองมีใจเช่นนี้ คุณหนูใหญ่ต้องดีใจแน่” “คราวก่อนพี่ใหญ่ก่อเรื่องเช่นนั้น ในใจนางจะต้องรู้สึกไม่ดีอยู่เป็นแน่ ข้ากับพี่ใหญ่เกิดวันเดือนปีเดียวกัน เหตุใดข้าจะไม่เข้าใจความตั้งใจของนาง อันที่จริงพี่ใหญ่ไม่ได้รังเกียจท่าน แต่นางไม่อยากใช้สัญญาปากเปล่าผูกมัดคุณชายเจาต่างหาก” “แค่คุณหนูรองคิดเช่นนี้ ผู้แซ่เจาก็ดีใจแล้ว” ใบหน้างดงามสดกระจ่างไร้ตำหนิส่งยิ้มมาให้ ช่างแตกต่างกับใบหน้าเย็นชาจ้องหาเรื่องผู้อื่นของฝูมู่เสวี่ยลิบลับ ชั่วขณะนั้นเจาจื่อจิ้งคิดว่าหากรอยแดงใต้ตาของฝูมู่เสวี่ยคงอยู่ตลอดไปคงดียิ่ง อย่างน้อยนางจะได้มีข้อแตกต่าง ไม่ได้มีใบหน้าเหมือนฝูหว่านอิงไปเสียทุกอย่างเช่นนั้น “ที่ข้าพูดกับคุณชาย ไม่ได้มีเจตนาให้ท่านเห็นพี่ใหญ่เป็นคนแปลกประหลาด ที่จริงแล้วพี่ใหญ่จิตใจอ่อนไหว พอมีคนทำให้นางไม่พอใจก็จะเก็บเงียบไม่พูด นานวันเข้าทำให้ผู้อื่นเข้าใจพี่ใหญ่ผิดไปทั้งนั้น” “อ้อ” เจาจื่อจิ้งขานรับในลำคอ “ตอนนี้คุณชายเจากับพี่ใหญ่เป็นคู่หมั้นกันแล้ว วันข้างหน้าพวกท่านยังต้องเดินเคียงข้างกันตราบจนผมหงอกขาว หากคุณชายยอมเข้าใจพี่ใหญ่มากหน่อย ข้าเชื่อว่านางต้องยอมรับท่านได้แน่เจ้าค่ะ” พูดอ้อมไปอ้อมมาอยู่นาน ท้ายที่สุดแล้วฝูหว่านอิงเพียงต้องการให้คู่หมั้นพี่สาวใจกว้างสักหน่อย อย่าได้ถือสาการกระทำไร้เหตุผลของฝูมู่เสวี่ย เรื่องเดียวที่คุณหนูรองฝูไม่มีวันเข้าใจ ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตามแต่ อนาคตภายภาคหน้าของเจาจื่อจิ้งไม่มีทางมีสตรีอย่างฝูมู่เสวี่ยเดินเคียงข้าง “คุณหนูรอง คุณชายเจา พวกท่านมาได้อย่างไรเจ้าคะ” “ชิวถงเจ้าไปบอกพี่ใหญ่ที ข้ากับคุณชายเจามาเยี่ยมพี่ใหญ่” “..เอ่อ....ได้เจ้าค่ะข้าจะไปบอกคุณหนูเดี๋ยวนี้” เจ้าของเรือจี๋ฟางปล่อยให้ผู้มาเยือนยืนรออยู่สองอึดใจ ยามที่ชิวถงเดินหน้าเจื่อนกลับออกมา สีหน้าฝูหว่านอิงยังคงมีรอยยิ้มสดใสประดับ ส่วนเจาจื่อจิ้งหากไม่ติดว่ามีรูปโฉมงดงามโดดเด่น สีหน้าคุณชายเจาเข้าใกล้คำว่าดำทะมึนมากทีเดียว ได้ยินว่าพี่สาวยอมให้เข้าพบ ฝูหว่านอิงพุ่งเข้าไปในเรือนจี๋ฟางคนแรก ส่วนเจาจื่อจิ้งรั้งตัวชิวถงสอบถามเรื่องเสี่ยวไกว “พี่ใหญ่ข้ามาเยี่ยมท่านเจ้าค่ะ พี่ใหญ่! ใบหน้าของท่าน” “เจ้าโวยวายอะไร” ทันทีที่สายตาฝูมู่เสวี่ยมองเห็นใบหน้าน้องสาวฝาแฝดถนัดตา ความตื่นตะลึงชั่วขณะแวบผ่านออกมาบนใบหน้าเย็นชาเห็นได้ชัด วาจาสาวใช้บอกว่าพวกนางสองพี่น้องใบหน้าคล้ายกัน พอได้เห็นฝูหว่านอิงตัวจริงกลับไม่อาจบรรยายออกมาเป็นคำพูด! นี่ไม่ได้เรียกว่าคล้ายกัน แต่เรียกว่าถอดแบบออกมาเหมือนกันยันรูขุมขนต่างหาก “พี่ใหญ่ใบหน้าของท่านมีแผลได้อย่างไรกัน ไหนว่าพี่ใหญ่ปลอดภัยดีไม่บาดเจ็บ” ฝูหว่านอิงดวงตาพร่าเลือนหยาดน้ำ “เหตุใดท่านไม่ยอมบอกท่านแม่ หากชิวถงไม่พูดท่านตั้งใจให้ใบหน้ามีแผลเช่นนี้หรือเจ้าคะ” ฝ่ามือน้อยของฝูหว่านอิงแตะปลายคางพี่สาว หยาดน้ำตาในดวงตากลมโตใกล้จะร่วงลงมาอยู่แล้ว ฝูมู่เสวี่ยรู้สึกเหมือนตนเองกำลังชมฉากงิ้ว หนำซ้ำยังเป็นฉากงิ้วที่มีตัวเอกหญิงเป็นนางเอง “พี่ใหญ่ท่านเจ็บมากใช่หรือไม่ เป็นข้าไม่ดีเองเมื่อคืนหากข้าไม่เชื่อฟังท่านแม่ยอมมาเยี่ยมท่าน แผลนี้มีหรือข้าจะไม่เห็น” หยาดน้ำตาอุ่นหยดหนึ่งจากดวงตากลมโตหล่นร่วงลงมากระทบหลังมือฝูมู่เสวี่ย ตอนนี้เองสติที่กำลังเตลิดกระเจิงของคุณหนูใหญ่ฝูกระเด้งกลับเข้าที่ กว่าฝูหว่านอิงจะรู้ตัว ใบหน้างดงามไม่ต่างกับนางขยับห่างออกไป ฝูมู่เสวี่ยยกมือป้องรอยไฝแดงใต้ดวงตาของนาง กำไลข้อมือลวดลายอสรพิษน้อยขาวใสเผยออกมาให้เห็น “น้องสาวคิดมากไปแล้ว แผลนี้ข้าได้มาอย่างไรตนเองยังไม่รู้ แต่ที่รู้แน่ข้าไม่เจ็บไม่คันแม้แต่น้อย เป็นเช่นนี้เลยไม่อยากรบกวนท่านแม่” “พูดเช่นนี้ได้อย่างไรเจ้าคะ แผลของท่านดูอย่างไรก็ขัดตา แต่ก่อนพี่ใหญ่ไม่ชอบให้ใบหน้ามีรอยแผล หากพี่ใหญ่เจ็บข้าพลอยปวดใจไปกับท่าน” “ข้าไม่ได้โป้ปดเจ้า แผลนี้ไม่เจ็บแม้แต่น้อย” ฝูหว่านอิงจับมือพี่สาวข้างที่ป้องรอยแดงเอาไว้ ยามนี้ดวงตากลมโตไร้ร่องรอยหยาดน้ำตาให้เห็น พอมองดูชัดเต็มสองตา รอยแดงที่ฝูหว่านอิงตระหนกจนผมชี้กลับดูคล้ายไฝแดงเสียมากกว่า ไฝเม็ดสีแดงเหมือนอย่างรูปวาดหญิงงามในตำรา “ข้าไม่เจ็บจริงๆ หากน้องสาวไม่เชื่อเจ้าลองจับดูหรือไม่” “..ไม่....ไม่ดีกว่าเจ้าค่ะ แต่ข้าจะให้ท่านแม่ตามหมอมาดู” “วันนี้เวลาล่วงเลยแล้ว เอาเป็นพรุ่งนี้ก็แล้วกัน” ฝูหว่านอิงพยักหน้าราวกับลูกนก นางตื่นตกใจกับรอยแดงบนใบหน้าพี่สาวจนลืมสังเกตความผิดปกติไปเสียสนิท ฝูมู่เสวี่ยวันนี้ไม่เพียงพูดมากยังรู้จักโต้แย้งอีกด้วย น่าเสียดายข้อสงสัยนี้ยังไม่ทันหยิบยกมา กำไลข้อมือสีขาวใสเผยสู่สายตาดึงความสนใจฝูหว่านอิงไปเสียสนิท “พี่ใหญ่กำไลวงนี้ลวดลายแปลกเสียจริง ท่านได้มาอย่างไรเจ้าคะ” “อ้อ” ฝูมู่เสวี่ยขานรับ “ข้าได้มาจากพ่อค้าข้างทาง เห็นลวดลายแปลกตาเลยซื้อเอาไว้” “เป็นเช่นนี้เอง”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD