บทที่ 1.1 - จุดเริ่มต้น (จอมบงการ)

1321 Words
       “ไปไหนมา!”            เปิดประตูเข้าห้องไม่ทันไรเสียงเข้มทรงอำนาจก็ดังขึ้นท่ามกลางความตกใจของหญิงสาว ริมฝีปากอวบอิ่มซีดเผือด เนื้อตัวสั่นเทาขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ หล่อนวางกระเป๋าสะพายลงบนโต๊ะทานข้าวในท่าทีระแวดระวัง เปลือกตากลมโตหลุบมองพื้นตลอดเวลา            “ถามว่าไปไหนมา”            ถามย้ำเมื่อหล่อนเงียบ นำพาร่างกายแข็งแกร่งเข้าใกล้คนตัวเล็ก สัมผัสได้ถึงความหวาดกลัวแต่หาสนใจไม่ กลับยิ่งชอบเพราะมันทำให้เขารู้สึกถึงความได้เปรียบ มุมปากแสยะยิ้มร้ายกาจ แววตาเสือร้ายกระหายหิวทุกครั้งยามมองแม่ดอกเอื้องฟ้าที่เขาปรารถนาตั้งแต่แรกพบ            “ไปงานเลี้ยงวันเกิดเพื่อนมาค่ะ” ตอบเสียงอ้อมแอ้มและไม่กล้ามองหน้า ปริญเชยปลายคางมนขึ้นสบตา            “เพื่อนผู้หญิงหรือผู้ชาย” แน่นอนว่าเขาต้องถาม            “ผะ ผู้ชายค่ะ”            และหล่อนก็ใสซื่อเกินกว่าจะกล้าโกหก มันไม่คุ้มหากเขามารู้ทีหลัง เธอไม่อยากเจอกับพายุอารมณ์เกรี้ยวกราดของเขา มันน่ากลัวเกินไป            “งั้นหรือ?” นัยน์ตาสีเหล็กกล้าเยาะหยัน เลือดในกายร้อนวูบวาบ            “เขาเป็นเพื่อนสมัยเรียนค่ะ เราสนิทกันมากฟ้าก็เลย…”            “หุบปาก!” ปริญตวาดกร้าว เอื้องฟ้าสะดุ้งโหยง “ฉันไม่อยากรับรู้ว่าเธอกับมันจะสนิทสนมกันยังไง ไม่อยากฟัง!”            อารมณ์หึงหวงมากล้นเกินกว่าจะทนฟังได้ เพียงรู้ว่าเธอมีเพื่อนผู้ชาย ใจของเขาก็ร้อนรุ่มราวกับมีเปลวเพลิงสุมกองอยู่ข้างใน ผลักใบหน้าหวานออกเบาๆ แต่เอื้องฟ้ากลับรู้สึกเจ็บร้าวไปถึงขั้วหัวใจ            “คุณนัยมานานแล้วหรือคะ” เอื้องฟ้าพยายามใจดีสู้เสือ เอ่ยถามเสียงหวานพลางมอบรอยยิ้มอ่อนโยนให้เขา            ถึงไม่ชอบการถูกคุกคามแต่ก็ต้องรู้จักเอาอกเอาใจเพื่อสร้างเกาะคุ้มกันให้ตัวเองปลอดภัย ปริญทิ้งตัวนั่งไขว่ห้างบนเตียงนอนขนาดกะทัดรัด เขาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกทุกเม็ดแล้วแหวกสาปเสื้อแยกเป็นสองฝั่ง เผยแผงอกกำยำอันเต็มไปด้วยมัดกล้ามเรียงรายเป็นลอนเงาสวยงาม เขาใช้สายตาพิฆาตนารีจ้องมองเธออย่างมีเลศนัย กระดิกนิ้วเรียกให้ร่างบางเข้ามาใกล้ เอื้องฟ้ากัดริมฝีปากจนห้อเลือด สืบเท้าเข้าไปหาเขาช้าๆ ยังไม่ทันถึงตัวดีปริญก็คว้าเอวบางรั้งเจ้าหล่อนให้นั่งลงบนตัก เขาทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ หงุดหงิดกับกิริยาเชื่องช้าไม่ได้ดั่งใจ            “ทำไมชอบกัดปากตัวเองนัก… หืม”            เอ่ยถามพลางลูบไล้กลีบปากนุ่ม มอบจูบเร่าร้อนจนคนในอ้อมกอดเสียสติไปชั่วขณะ เอื้องฟ้าดันอกกว้างออกห่าง รีบสูดลมหายใจเข้าลึกๆ สายตาฉ่ำแววพิศวาสยิ่งทำให้กายสาวสั่นสะท้าน กลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ             “อย่าค่ะ”            “ทำไม!?”            ตวัดหางเสียงไม่พอใจ เกลียดนักท่าทีต่อต้านในยามที่เขาต้องการ ทำราวกับไม่เคยไปได้ ไม่มีส่วนไหนบนเรือนร่างอรชรที่เขาไม่เคยเห็น เขาสัมผัสความงามมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ตักตวงความหอมหวานอย่างเอาแต่ใจ เอื้องฟ้าเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่มาทำงานในเมืองใหญ่ ตรากตรำต่อสู้เพื่ออนาคต ไม่เคยคิดว่าจะถูกใครรังแก จนกระทั่งได้พบกับเขา ผู้ชายที่มาพร้อมความผิดพลาดเพียงชั่วข้ามคืน เขาใช้อำนาจกดดันให้เธอตกเป็นเบี้ยล่างอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ชีวิตที่เป็นอยู่ไม่ต่างอะไรกับลูกไก่ในกำมือ จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด            “หรือว่าพอไปเจอไอ้เพื่อนชายคนนั้นก็เริ่มเบื่อผัวอย่างฉัน” เขากล่าวหาทั้งๆ ที่ไม่รู้ความจริงว่าใจของเธอคิดเช่นไร            “คุณนัย” เอื้องฟ้าน้ำตาคลอ เจ็บลึกกับถ้อยคำดูถูก “ทำไมพูดแบบนี้คะ”            “แล้วจะให้ฉันพูดยังไง เธอมีอาการขัดขืนหลังไปงานเลี้ยงวันเกิดไอ้เวรนั่น” ซึ่งผู้ชายคนนั้นเป็นใครปริญไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยรู้จัก แต่ในเมื่อมันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเอื้องฟ้า หลังจากนี้คงต้องมีการสืบประวัติกันเสียหน่อย            เขาจำเป็นต้องสแกนทุกคนที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับเธอ            “ฟ้าไม่พร้อมค่ะ” เอื้องฟ้าหลบสายตา มือหนาบีบกำแขนเรียวจนสาวเจ้านิ่วหน้า            “ฟ้าเจ็บ” หล่อนร้องบอกทั้งน้ำตา และนั่นยิ่งทำให้ปริญไม่พอใจ            “เธอจะร้องไห้เอาโล่หรือไง อยู่กับฉันมันทุกข์ใจมากใช่ไหม!”            สันกรามแกร่งบดแน่น หงุดหงิดทุกครั้งที่เอื้องฟ้าทำเหมือนขลาดกลัวยามอยู่ใกล้ชิดกับเขา เพราะหล่อนชอบตีตัวออกห่างแบบนี้ไงเล่า เขาถึงต้องร้ายเพื่อให้ได้อยู่ใกล้            “แล้วไม่พร้อมที่ว่าหมายความว่ายังไง”            “ฟ้ามีรอบเดือนค่ะ” ช่างเป็นคำตอบที่น่าอายเหลือเกิน            “จริงหรือเปล่า?” ปริญหรี่ตามองราวกับจ้องจับผิด เอื้องฟ้าพยักหน้าถี่ๆ            “ไหนดูสิ” ไม่รอให้ได้รับอนุญาตจากร่างบาง เขาสอดมือเข้าไปสำรวจจุดซ่อนเร้นด้วยตนเอง            “คุณนัย!” เอื้องฟ้าเบิกตากว้าง ตกใจในความห่ามดิบของผู้ชายตรงหน้า            “โอเค” อาวุธคู่กายของผู้หญิงในยามแดงเดือดเป็นคำตอบที่ชัดเจนที่สุด            “ไม่โกหกผัว ดีมากเมียรัก”           เขาประกบกลีบปากนุ่มเพื่อมอบจูบดุดันระบายอารมณ์เบื้องลึกแทนการหลอมกายเป็นหนึ่งเดียวกับเธอ         สามเดือนที่แล้ว…            เอื้องฟ้าชะเง้อหากลุ่มเพื่อนหลังถึงที่นัดหมาย หญิงสาวไม่ค่อยอยากเข้าไปเท่าใดนัก สถานที่อโคจรเต็มไปด้วยแสงสีเสียงและกลิ่นควันบุหรี่ที่สำลักทุกครั้งยามได้กลิ่น เธอยกมือปิดจมูกแต่สายตากวาดมองไปรอบๆ บริเวณ ความสวยงามของเครื่องหน้าหวานสะดุดสายตานักท่องเที่ยวชายหลายคน แม้หญิงสาวจะอยู่ในชุดยูนิฟอร์มของบริษัทฯ ไม่ได้สวมเสื้อผ้าอวดเนื้อหนังมังสาเฉกเช่นสตรีนางอื่น แต่ดอกเอื้องฟ้าดอกนี้กลับส่งกลิ่นหอมและงดงามจนเรียกสายตาของใครหลายๆ คนให้หยุดมองเธอได้ไม่ยาก            “สวัสดีครับคนสวย ให้เกียรติดื่มกับผมสักแก้วได้ไหมครับ”            หนุ่มหน้าตี๋คนหนึ่งขวางทางร่างบางเอาไว้ เอื้องฟ้าใจเต้นระส่ำเพราะไม่เคยตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงเช่นนี้            “มาคนเดียวหรือครับ”            ถามต่อแต่แววตากลับจ้องมองอกอวบอิ่มที่เด่นรัดเสื้อเชิ้ตสีครีมอย่างจาบจ้วง เอื้องฟ้ากระชับสูทสีน้ำเงินเข้มให้ปกปิดทรวดทรงน่ามอง            “มากับเพื่อนค่ะ”            “ไหนเพื่อนครับ ผมไม่เห็นเลย” ว่าแล้วก็ทำทีมองหา            “เพื่อน… อยู่ตรงนู้นค่ะ” เอื้องฟ้ายิ้มกว้างหลังเห็นกลุ่มเพื่อนโบกมือบอกตำแหน่ง “ขอตัวก่อนนะคะ” เธอรีบจ้ำอ้าวเดินหนีแทบไม่ทัน            “ตายแล้วๆ ยัยฟ้าน้อยของเรามีหนุ่มมาจีบจ้า” น้ำฝนเอ่ยแซวทันทีที่ร่างบางนั่งลงบนโซฟา            “หล่อซะด้วยนะแก น่ากินมาก!” มิรินด้ารีบกล่าวสมทบ            “เอาหน่อยไหมยัยฟ้า พวกเราอยากเห็นแกมีแฟน”            ชมพู่คะยั้นคะยอ เอื้องฟ้าส่ายหน้าทันควัน เล่นเอาบทสนทนาก่อนหน้าเจื่อนลงถนัดตา            “โหย! ไรวะ” ชมพู่เบ้ปากใส่            “แล้วมาผับแต่งตัวอะไรของแกเนี่ย” น้ำฝนจับร่างบางลุกยืนแล้วหมุนรอบๆ “อย่าบอกนะว่าทำงานเสร็จก็มาเลย”            “กลัวว่าถ้ากลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องแล้วจะมาดึกน่ะ” เอื้องฟ้าตอบซื่อๆ            “โอ๊ยยัยฟ้า! มาผับก็ต้องมาดึกๆ นั่นแหละ หล่อนนี่กลัวอะไรไม่เข้าเรื่อง” มิรินด้าส่ายหัวให้กับความเฉิ่มเชยของเพื่อนสาว            “พรุ่งนี้ฉันมีประชุมเช้า ยังไงก็ขอกลับเร็วหน่อยนะ” 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD