“คุณไม่ใช่สามีฉัน ปล่อย!”
ปริญเริ่มเดือด เกลียดแววตารังเกียจของหล่อนเหลือเกิน เขาไม่ใช่ผู้ชายกระจอกเหตุใดถึงยอมรับกันไม่ได้
“ปล่อยนะ” เขาดึงร่างบางเข้าสู่อ้อมกอดแล้วรัดแน่นประหนึ่งงูเหลือมกอดรัดเหยื่อ
“รังเกียจฉันนักหรือไง!”
กระซิบถามเสียงห้าว แววตาดุกร้าวแข็งกระด้างน่ากลัว แต่เอื้องฟ้ากลับมองเห็นช้างเป็นมด หล่อนเชิดหน้าตอบกลับด้วยถ้อยคำเจ็บแสบ
“ใช่! ผู้ชายอย่างคุณมันน่ารังเกียจ น่าขยะแขยงยิ่งกว่าหนอนขยะที่ชอนไชอยู่กับพวกสิ่งของเหน่าเหม็นซะอีก”
คนฟังร้าวลึกไปถึงขั้วหัวใจ เหมือนถูกตอกหน้าด้วยของแข็งซ้ำๆ แล้วเหยียบขยี้ร่างให้จมลงสู้ใต้ธรณีที่ลึกที่สุด ปริญกัดกรามจนขึ้นสันนูน มือที่บีบแขนสองข้างนั้นรุนแรงขึ้นจนเธอร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด
“มากไปแล้วนะเอื้องฟ้า เธอจะดูถูกคุณค่าของฉันมากเกินไปแล้วนะ!!!” ชายหนุ่มคลุ้มคลั่งตวาดลั่น โชคดีที่ห้องทำงานแห่งนี้เก็บเสียงชั้นเยี่ยม มิเช่นนั้นเลขาฯ ส่วนตัวหน้าห้องคงได้วิ่งแตกตื่นเข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่แคล้วได้เห็นสงครามระหว่างผู้ชายตัวโตกับสตรีร่างเล็กที่กำลังยื้อยุดฉุดกระชากกันอย่างรุนแรง
“ปล่อยฉันนะคุณปริญ คุณจะทำอะไร ปล่อยนะ!”
เอื้องฟ้าดิ้นรนสุดชีวิตเมื่อถูกปริญคว้าเอวแล้วลากร่างบางไปยังชั้นหนังสือขนาดใหญ่ เขากดปุ่มอะไรสักอย่างที่เธอมองไม่ถนัดเพราะมัวแต่ระดมกำปั้นทุบอกกว้างไม่ยั้ง รู้ตัวอีกทีเขาก็พาเธอเข้ามาสู่ห้องๆ หนึ่งที่มีเตียงนอนขนาดคิงไซส์ตั้งตระหง่านอยู่กลางห้อง พร้อมด้วยเฟอร์นิเจอร์หรูครบครัน ดวงตากลมโตเบิกกว้าง ไม่คิดว่าปริญจะมีห้องนอนลับซ่อนอยู่ในห้องทำงานเช่นเดียวกับภูเบศเจ้านายของเธอ
“คุณจะทำอะไร อย่าเข้ามานะ!” เอื้องฟ้าถอยกรูดจนชิดปลายเตียง หญิงสาวเอี้ยวตัวหลบได้ทันก่อนที่เขาจะเข้าถึงตัวเธอ พยายามมองหาสิ่งของหวังใช้เป็นอาวุธคู่กายเพื่อเอาตัวรอดจากจอมมารหน้ามืด แต่ปริญนั้นไวกว่าจึงพุ่งกอดเธอไว้แล้วเหวี่ยงร่างบางลงบนเตียงกว้างอย่างไม่ปรานีปราศัย เอื้องฟ้าเจ็บจุกไปทั่วท้องน้อย
“อย่าเข้ามานะคุณปริญ ถ้าคุณทำอะไรฉันคุณติดคุกแน่!”
คำขู่ของหล่อนส่งผลให้ร่างหนาระเบิดเสียงหัวเราะราวกับฟังเรื่องขบขันเสียเต็มประดา
“อย่าโง่ไปหน่อยเลยที่รัก เงินมันซื้อได้ทุกอย่างแม้กระทั่งความถูกต้อง” ถึงจะพูดเช่นนั้นแต่เขาไม่เคยใช้เงินซื้อความถูกต้องหากตัวเองทำผิดจริง แต่เพื่อข่มขวัญแม่สาวจอมพยศที่กล้าเปรียบเทียบเขาเป็นหนอนขยะมันก็ต้องเล่นให้สมน้ำสมเนื้อกันหน่อย จะได้หลาบจำว่าอย่าริอ่านมาเหยียบย่ำเขาด้วยวาจาไร้ความคิดเช่นนั้นอีก
“คุณปริญ!” เอื้องฟ้าตกใจมองผู้ชายตัวโตที่ดึงทึ้งเสื้อผ้าของตัวเองออกจากกายอย่างลวกๆ ปริญสลัดกางเกงสแล็คเนื้อดีออกจากข้อเท้าแล้วตวัดเหวี่ยงไปทางด้านหลัง ไม่สนว่ามันจะไปตกอยู่ตรงมุมไหนของห้อง สายตาของเขาจับจ้องร่างบางที่เอาแต่กระเถิบหนีจนชิดหัวเตียง แรงจุกเสียดที่ช่วงท้องทำให้เอื้องฟ้าหมดกำลังจะถอยหนี ทำได้เพียงยกมือยันแผงอกกำยำเอาไว้ ไม่ยอมให้เขาเบียดชิดได้ง่ายๆ
“คุณปริญได้โปรด ถ้าฉันทำให้คุณโกรธฉันขอโทษ อย่าทำกับฉันแบบนี้เลยนะคะ ฮึก ปะ ปล่อยฉันไปเถอะนะ”
สุดท้ายหล่อนก็ต้องอ้อนวอนเขา ปริญกระตุกยิ้มเหี้ยม
“ใช่… ฉันโกรธมาก และสิ่งเดียวที่จะทำให้ฉันหายโกรธก็คือเธอต้องยอมเป็นเมียฉัน”
แววตานั้นจริงจังไร้ซึ่งการล้อเล่น เอื้องฟ้าส่ายหน้าทั้งน้ำตา
“ไม่… คุณปริญ ไม่”
“ตอบฉันหน่อยเถอะแม่ตัวดี มีผู้ชายหล่อรวยอย่างฉันมาวิ่งตามเธอไม่ชอบใช่ไหมหะ!”
เสียงเข้มตะคอกอย่างเหลืออด ระยะเวลาร่วมปีที่เขาเฝ้ามองเพียงแต่เธอ เขาอดทนรอให้เธอใจอ่อนอย่างใจเย็น แต่จนแล้วจนรอดแม่คุณก็ยังทำท่าทีหวาดระแวงประหนึ่งเขาคือโจรผู้ร้ายที่ไม่น่าอยู่ใกล้
“ฉันไม่ได้รักคุณ ฮึก ระ เราสองคนไม่ได้รักกัน”
“ไม่รักก็เอากันได้!”
ปริญสวนกลับอย่างคนเห็นแก่ได้ เอื้องฟ้ามองเขาอย่างอึ้งๆ
“นี่หรือความคิดของผู้บริหาร น่าสมเพชสิ้นดี!”
ปากเจ้ากรรมพอโกรธก็ลืมไปว่าสถานการณ์นั้นตกเป็นรอง พ่นวาจาแสบสันเพิ่มโทสะให้อีกฝ่าย ปริญกดร่างคนปากดีนอนราบกับเตียงแล้วคร่อมทับอย่างรวดเร็ว
“กรี๊ด!!! อย่านะ” เอื้องฟ้ากรีดร้องสุดเสียง เล็บแหลมจิกข่วนหน้าตาและลำคอแกร่งไม่ยั้ง
“โอ๊ะ! ฉันเจ็บนะ” ปริญพยายามหลบหลีกอาวุธคู่กายของหล่อน เขาจัดการรวบข้อมือเล็กกดตรึงเหนือศีรษะทุยแล้วซุกไซ้วงหน้าลงบนซอกคอหอมกรุ่นอย่างรุนแรง เอื้องฟ้าสะอื้นทั้งน้ำตาแต่คนกำลังคลั่งไม่สน กลิ่นกายสาวที่เฝ้ารอพร่าผลาญความผิดชอบชั่วดีให้หมดไปจากใจ เหลือทิ้งไว้เพียงแรงปรารถนาที่เขาต้องการระบายลงกับเธอ แม่ดอกเอื้องฟ้าจะได้รู้เสียทีว่าเขาต้องการหล่อนมากเพียงใด
“หยุดร้อง!” ปริญเงยหน้าสั่งเสียงเข้ม “ถ้าไม่หยุดฉันจะรุนแรงกับเธอ แล้วอย่ามาหาว่าฉันใจร้าย” เขาพูดจริงทำจริง เอื้องฟ้าเม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรง กลั้นสะอื้นเป็นเด็กน้อยถูกดุ
“ดีมากที่รัก” ปริญลูบเรือนผมสลวยพลางยกยิ้ม กดริมฝีปากแนบจูบลงบนหน้าผากมนไต่ระดับผ่านปลายจมูกโด่งรั้นที่แดงก่ำเพราะเพิ่งผ่านการร้องไห้มาสดๆ ร้อนๆ เคล้าคลึงแก้มใสสลับซ้ายขวา เขาจ้องมองเรียวปากอิ่มเคลือบลิปกลอสสีหวานรสสตอเบอรี่อย่างหลงใหล
“อืม” ปริญสอดชิวหาอุ่นชื้นเข้าสำรวจโพรงหวามอย่างย่ามใจ เขากดข้อมือเล็กจนแทบจมหายไปกับฟูกนอน เอื้องฟ้ามึนงงไปกับรสจูบแสนป่าเถื่อน หากกระนั้นก็แฝงไว้ความอ่อนหวานอ้อยอิ่งจนคนใต้ร่างสัมผัสได้ กลีบปากนุ่มถูกดูดดึงจนแทบหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกับปากหยัก ปริญเลาะเล็มกวาดลิ้นชิมความละมุนทั่วไรฟันขาวสะอาด สติอันน้อยนิดกู่ไม่กลับเสียแล้ว เรี่ยวแรงที่จะต่อต้านถดถอยลงไปทุกที ปริญมอบความรู้สึกแปลกใหม่ให้เธอได้เรียนรู้ท่ามกลางไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศที่ทำงานอย่างหนักหน่วง แต่กระนั้นเอื้องฟ้ากลับร้อนรุ่มเสมือนอยู่ท่ามกลางทะเลทรายอันร้อนระอุ ลำคอแห้งผากยามเขาถอนจูบออกในลักษณะเชื่องช้าประหนึ่งเสียดายรสชาติหวานล้ำ ชายหนุ่มผู้มากล้นประสบการณ์รู้ดีว่าต้องทำการกระตุ้นอย่างไรหล่อนถึงจะยอมศิโรราบให้กับผู้ชายอย่างเขา เอื้องฟ้าเป็นเพียงผู้หญิงอ่อนด้อยกามอารมณ์ เพียงจูบเดียวก็ทำให้เธอแน่นิ่งและทำอะไรไม่ถูก ได้แต่นอนลืมตามองเพดานห้องสีขาว และกว่าจะรู้สึกตัวอาภรณ์ก็ไม่เหลือติดกายเสียแล้ว
“สวย… สวยมาก”