ไม่ให้จูบ

814 Words
ไม่พอเขายังแตะมือบนหน้าผาก สัมผัสที่ธรรมดาแต่กลับทำให้ใจฉันเต้นและคล้ายตกในภวังค์ ตอนที่เรามองตากันอีกครั้งทุกอย่างก็พร่าเลือน จนเบสแตะหน้าผากกับหน้าผากเหมือนจะเช็กอุณหภูมิอีกรอบ...เช็กแค่ตรงหน้าผากไม่พอเขายังเช็กด้วยจมูกโด่งที่ไล้ตามสันจมูก ปลายจมูกชนกันและริมฝีปาก....ที่เขาให้ผู้หญิงคนอื่นจูบ ภาพตอนนั้นแว่บเข้ามาให้ฉันดันหน้าเขาออกทัน ค้อนเขาไปทีหนึ่งแล้วก็หลบตา ขณะที่เจ้าตัวก็นิ่งไปครู่ใหญ่ๆ ...ก็คงไม่ได้ตั้งใจจะมาพิศวาสอะไรฉันหรอก คงยังเมาค้างอยู่มั้ง “ตกลงไม่สบายหรือเปล่า ตัวอุ่นๆ” แล้วเขาก็ถามเรื่องสุขภาพฉันต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “เปล่า ไม่ได้เป็นอะไร” “แต่ปกติเธอไม่เคยตื่นไปเรียนไม่ทัน” “ก็นาฬิกาปลุกฉันอยู่ข้างนอกไง” “มันก็จริง แต่ต่อให้ไม่มีนาฬิกาปลุกเธอก็ไม่น่าตื่นสิบโมงไหม แมงมุม หรือเมื่อคืนนอนไม่หลับ ไม่ใช่งอนฉันกับผู้หญิงคนนั้นจนนอนร้องไห้ทั้งคืนหรอกนะ” “หน้าฉันเหมือนคนร้องไห้หรือไง” คิดอะไรแต่ละอย่าง “อืม ก็ไม่น่าใช่ หรือมันแค้นจนนอนไม่หลับ แล้วแบบนี้ถ้าครั้งต่อไปฉันพาผู้หญิงมานอนห้อง เธอจะทำยังไง” ดูคำถามเขาสิ มันใช่เรื่องไหม แต่ฉันก็เชิดหน้าตอบ จะมาให้เขาเย้ยตั้งแต่ตอนนี้ก็ไม่ได้ “เรื่องของแก จะพามากี่คนก็พามา” “พูดแล้วนะ” เชื่อเลยว่าเขาพามาแน่ๆ ชอบแกล้งชอบทำให้ฉันเสียใจเล่นแบบนั้น “ถ้าไม่เกี่ยวกับเรื่องนั้นจริงๆ ทำไมตื่นสายล่ะแมงมุม” แล้วเขาก็กลับมาสนใจเรื่องนี้อีกครั้ง แววตาดูคิดอะไรจริงจัง และเบสน่าจะพอรู้คำตอบอยู่แล้ว “ฉันกินยานอนหลับ เลยอาจหลับลึกมั้ง” ก็เลยต้องตอบเขาไปตามตรง อีกฝ่ายขมวดคิ้ว “กลับมากินยาตั้งแต่เมื่อไหร่” ฉันต้องกินยาคลายเครียด และยานอนหลับตั้งแต่ที่แม่เสีย รักษามาตลอดจนมาหยุดยาได้เกือบปี “สักพัก” ไม่ได้อยากอธิบายอะไรไปมากกว่านี้ อีกฝ่ายเงียบและนิ่งขึ้นไม่เหลือแววขี้เล่นใดๆ ฉันไม่ได้บอกหรือปรึกษาอะไรเขา เพราะมันเป็นช่วงที่เราเหมือนจะทะเลาะกันหนัก...แบบทะเลาะกันจริงๆ แล้วเขาก็ห่างๆ ออกไป ก็ช่วงที่เขาชอบพี่พลอย มันคงเป็นความชอบที่จริงจังที่เบสคงไม่อยากให้ผู้หญิงที่เขาชอบเข้าใจผิดเรื่องฉันเหมือนที่ผ่านมา และฉันก็โตพอที่จะรู้ว่าต้องถอยออกมาเหมือนกัน “เหรอ แล้วไปหาหมอบ่อยไหม” เขายังดูสนใจเรื่องนี้อยู่ “ไม่หรอก เดือนละครั้ง” ปกติน้าบัวจะเป็นคนพาไป แล้วเขาก็ไปด้วย หรือช่วงเข้ามหาวิทยาลัยน้าบัวก็วางใจที่จะให้ฉันไปหาหมอด้วยตนเอง ซึ่งเขาจะไปเป็นเพื่อนตลอด แต่หลังจากที่รู้สึกว่ามีปัญหากันฉันก็แค่บอกน้าบัว แล้วก็ไปคนเดียวหรือชวนเพื่อนไปเป็นเพื่อน “ช่วงมีเรื่องเครียดอะไรเหรอ” “ก็ ไม่มีอะไร แค่รู้สึกว่านอนไม่ค่อยหลับ แล้วเพื่อนก็ทักว่าดูแปลกๆ น่ะ เลยกลับไปหาหมอ ก็เลยได้ยามากิน อืม คงเรื่องเรียนมั้งแต่ไม่รู้ตัว” “แล้วใครพาไปหาหมอ แม่เหรอ” “ไปเอง โตแล้ว” ฉันเลิกคิ้วใส่อย่างกวนๆ แต่เบสดูจะไม่มีอารมณ์ขันด้วย “ถ้าวันหลังไม่มีเพื่อนไปก็บอก” มันเป็นความห่วงใยจากคนที่หาเมินกันมาเกือบปีที่ทำให้ใจฉันอ่อนยวบเหมือนกัน “อืม” “ในฐานะเพื่อนนะแมงมุม ยังไงเรื่องคู่หมั้นเรื่องแต่งงานอะไรนั่นฉันก็ไม่เปลี่ยนใจ เธอเองก็อย่าดื้อนักเลย ขัดแม่บ้างเถอะ” ทำไมพอเขาพูดกันดีๆ มันเจ็บกว่าการถูกเขาประชดประชันหรือหาเรื่องแกล้งกันอีก “แกขัดได้ไหมล่ะ” “ไม่ แต่ฉันว่าแม่จะฟังเธอมากกว่าฉันอยู่ดี” “อืม จะพยายาม” ฉันมองเขาตรงๆ มองให้เขาเห็นความรู้สึกกันชัดๆ แต่อีกฝ่ายกลับหลบตาเสียอย่างนั้น ไม่เชื่อถือเหรอว่าฉันจะทำอย่างที่พูดได้จริงๆ ตอนนี้ก็ทำไม่ได้จริงๆ นั่นแหละที่จะไม่ให้รู้สึกอะไรกับเขา แต่ถ้าเบสยังชัดเจนเสมอต้นเสมอปลายว่าเป็นได้แค่เพื่อนจริงๆ ฉันก็คงต้องพยายามอย่างที่รับปากเขานั่นแหละ ปากดีเหลือเกินนะเรา...แต่เท่าๆ ที่ดูมา เราอะเผลอตัวเผลอใจให้เขาตลอดนะ...หาเรื่องเอาเปรียบเขาอยู่เรื่อย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD