ตอน 10

1004 Words
(“ไปเช่าผู้ชายค่ะ บอกว่าคนนี้ผัว พี่บาสจะได้หาผู้หญิงใหม่ คือเขาเข้าใจว่าแกไม่มีใครไง พี่บาสเลยไม่ไปไหน”) ฉันยังคงคุยโทรศัพท์อย่างหนักอกและหนักใจ ไม่รู้ว่าจะหลบพี่บาสได้นานแค่ไหน ก่อนหน้านั้นก็โม้ไว้เยอะว่าบ้านอยู่ตรงซัมดง แต่จริงๆ ฉันเป็นเพียงผู้อาศัย แล้วยังไปบอกเขาอีกว่าตอนเช้าวิ่งออกกำลังกาย แต่แท้จริง นอนที่เตียงคนไปวิ่งคือติน (“เออ อีกเรื่อง สตูที่เช่าวันนี้คิวก่อนหน้าเราคือมิตรเทียมเราจ้ะ”) “โลกจะแตกเหรอ” (“โลกยังไม่แตกหรอกจ้ะ แต่ก็ใกล้ตาย เพราะผัวเก่าหล่อนมาแน่นอน”) โศกนาฏกรรมได้บังเกิดแกฉัน เมื่อผู้ชายที่พัวพันในชีวิตต้องมาอยู่ในที่เดียวกันถึง 3 คน พี่นัท = แฟนเก่า พี่บาส = ผู้ชายที่กำลังจีบ ติน = ผัวปัจจุบัน (“ให้ไปรับไหม”) “มาสิ เอาฉันไปถ่วงน้ำที” ร่างกายหมดแรงอย่างไร้จุดหมายปลายทาง เรี่ยวแรงในการไปทำงานเท่ากับศูนย์ ในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้ฉันจะต้องต่อสู้กับอะไรบ้าง ฉันควรขุดหลุมฝังตัวเอง แล้วไม่ออกมาเจอผู้คนน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า หรือ จะหนีออกนอกประเทศก็เป็นตัวเลือกที่ค่อนข้างน่าสนใจ แต่เอาไงดีละ ก็ตัวเองฉันยังมีพันธสัญญากับผู้ชายตัวโตที่กำลังนั่งทานข้าวและเล่นไอแพดอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไร ก็คนที่ซวยมันคือฉันนี้ไง! “ฉันไปกับสานะ” ฉันบอกเขา เขาก็ได้แต่พยักหน้า ความเอ็นดูเมีย = ศูนย์ การออกจากบ้านของตัวเองก็ไม่เหมือนคนทั่วไป เพราะต้องเอาหมวกมาปิดหน้าตาตัวเองด้วยเหมือนกัน จะออกไปแบบปกติเหมือนคนทั่วไปก็ไม่ได้ คนที่ลำบากมีเพียงฉันคนเดียว ส่วนคนที่สบายก็คือ ติน เอี๊ยดดด... รถเก๋งสีขาวมาจอดที่หน้าบ้าน มันคือรถของสาเพื่อนฉันเอง ฉันรีบพาตัวเองขึ้นรถ และถอดอุปกรณ์พรางตัวออก “ได้เป็นเมียซุปเปอร์สตาร์แท้ๆ แต่ชีวิตแกวุ่นวายสุดๆ” สาส่ายหน้าเล็กๆ เมื่อเห็นฉันเอาของออกจากร่างกายอย่างพะรุงพะรัง ฉันโยนของทุกสิ่งไว้เบาะหลัง แล้วสาก็ทำการออกจากบ้านโดยเร็ว เดี๋ยวจะมีคนผิดสังเกต ฉันทำแบบนี้มาสี่เดือน ถ้าไม่ใช่เพราะปู่ของตินฉันจะไม่ยอมทนกับอะไรแบบนี้เด็ดขาด “พี่บาสก็ตื้อแกไม่เลิกเหมือนกันนะ” พี่บาสเป็นรุ่นพี่ที่มหาลัย เรารู้จักกันตั้งแต่สมัยเรียน ฉันรู้มาตลอดว่าพี่บาสไม่ได้คิดกับฉันเพียงแค่พี่น้อง แต่เรื่องความรักมันก็เป็นเรื่องที่พูดยาก คนที่ชอบเรา เราก็ไม่ชอบ ส่วนคนที่เลวๆ ฉันกับชอบ อย่างเช่นแฟนเก่าฉันเป็นต้น ที่ทิ้งเพชรอย่างฉันไปคว้าเพชรเทียม จนฉันเลิกกับพี่นัท พี่บาสก็ยังตามดูแลฉันอยู่เรื่อยๆ งานที่บริษัทก็เป็นเพราะพี่บาสชวนฉันเข้ามาทำงาน หลายคนเลยมองว่าฉันเข้ามาที่นี้ได้เพราะใช้เส้น ไม่ได้มาจากความสามารถตัวเอง แถมยังมีข่าวซุบซิบเรื่องฉันเป็นเมียเก็บพี่บาสอีก ก็อย่างว่าพี่บาสเป็นถึงประธานบริษัท แต่ความกันเองและความเข้าถึงลูกน้องเลยทำให้คนอื่นๆ คิดไปต่างๆ นานา ส่วนฉันก็ไม่ได้ใส่ใจ เรื่องแบบนี้ฉันโดนบ่อยจนชิน แต่มาถึงตอนนี้คงเริ่มที่จะไม่ใส่ใจไม่ได้ “แหมม วันนี้ใส่แหวนนะจ๊ะ” “ตินให้ใส่นะสิ” “ผัวทิพย์ฉันเนี้ยนะ สงสัยผัวแกอาจจะสัมผัสอะไรได้ เลยบังคับให้ใส่” “ฉันว่าฉันโดนข่าวลืออีกแน่” “แน่นอน ระดับแกไม่พ้นหรอก” ไม่นานเราสองคนก็ขับรถมาถึงสตูดิโอที่เราเช่า เรานัดกับตินถ่ายโฆษณาเพื่อโปรโมทสินค้าให้กับเราในครั้งนี้ ฉันตั้งใจว่าจะไม่เจอคนรู้จักหรือใครแล้ว เพราะเลือกสตูดิโอที่ค่อนข้างใกล้บริษัท แต่ก็ยังมีคนที่มาใช่ร่วมกับฉัน ทั้งที่ตัวเองอยู่ไกล ความลงทุนและการหักหน้าฉันพร้อมเสมอ “ยัยนี่! รู้สึกว่าตัวเองเปลืองน้ำมันบางไหม” เรายังไม่ทันลงจากรถ ยัยสาก็บ่นขึ้นมา เพราะเราเห็นเชอร์ (อบเชย) ที่เดินลงมาจากรถหรู Mercedes-Maybach Exelero รถหรูราคาเหยียบ 200 ล้านบาท การเดินลงจากรถด้วยท่าทางมั่นใจ และมองรถของเราที่จอดข้างๆ เธอ ผู้หญิงตัวเล็กผมบรอนด์ทองที่มัดผมรวบตึง เธอทาลิปสติกด้วยปากสีแดงสด ยืนกอดอกอยู่ข้างรถ ยัยสาถึงกับเบ้ปากใส่ “นึกถึงสมัยก่อนเลยนะ ที่ยัยนั้นเชยสมชื่อนาง พอได้ดีขึ้นมาหน่อย จากเชยก็ทำตัวเป็นหงส์” “ไปทำงานกันเถอะ” ฉันไม่อยากจะมีเรื่องกับเชอร์แล้ว รู้สึกว่าเราทะเลาะกันเรื่องไร้สาระมาเยอะ ฉันยอมรับว่าเคยโมโหเธอเรื่องพี่นัท แต่ตอนนี้ก็ผ่านมาหลายปี จนฉันก็ไม่ได้มีความรู้สึกดีๆ ให้พี่นัทแล้ว ถึงตอนนั้นจะเศร้าหนักถึงขั้นเก็บตัว แต่ตอนนี้ฉันไม่สนใจเรื่องที่มันมากระทบจิตใจฉันแล้วเหมือนกัน “เดี๋ยวสิ” ฉันกับสากำลังจะเดินเข้าไปในสตู เสียงใสๆ ของเธอก็เอ่ยทักขึ้นมา “ไม่คิดจะทักทายเพื่อนเก่าเลยหรือไง” “จะให้ทักอะไรยะ เรามีเรื่องต้องคุยกันด้วยเหรอ” สาเป็นคนที่ออกปากเสียงแทน เธอพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ฉันรู้สึกว่าช่วงนี้ฉันเจอเธอบ่อย ไม่รู้ว่าโชคชะตาหรือว่าตั้งใจกันแน่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD