บทที่3 กูเลี้ยงมึงเอง

1918 Words
ใครจะคิด...ใครจะคิดว่าไอ้บ้านั่นจะกัดฉันไม่ปล่อย ฉันตื่นเช้าขึ้นมาแล้วเดินไปเปิดประตู เพื่อให้แสงแดดสาดเข้ามาในบ้านเพื่อให้ความสว่าง แต่ใครจะไปคิดว่าลูกน้องของไอ้นายพักตร์จะมายืนมาดเข้มหน้าประตูบ้านฉันนี่สิ! แถมมันไม่จบเพียงแค่นั่นนะ มันยังหิ้วปีกฉันแล้วยัดเข้าไปในรถตู้สีดำสนิทอีก นี่มันอาชญากรรม!! โอ๊ย!! เวรกรรม!! ตอนนี้ฉันกำลังนั่งมองหน้าชายพักตร์ที่มีผ้าพันคอหนาๆ พันรอบบาดแผลที่ฉันกดคมมีดลงไปเมื่อวาน และเขาก็กำลังมองฉันกลับด้วยสายตาที่ไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่า เขาคิดอะไรอยู่ในหัวกันแน่! แล้วไง! คิดว่าฉันจะกลัวเขาอีกงั้นเหรอ ก็นิดหน่อย... ควันสีขาวหม่นฟุ้งตลบอบอวลไปทั่วทั้งห้อง ฉันรีบปิดจมูกตัวเองอย่างเร็ว จะออกจากห้องพักฟื้นก็ไม่ได้ ในเมื่อพวกเขาไม่ยอมให้ฉันออกไป แล้วจะให้ฉันทนสูดกลิ่นพวกนี้เนี่ยนะ จะบ้าเหรอ! มันไม่ใช่ควันของบุหรี่ แต่มันเป็นก***า! ไอ้เลวเอ๊ย! โคตรเลวเลย! สูบก***าในโรงพยาบาล "ถ้ายังไม่หยุดทำเรื่องอย่างว่า พวกมึงเคลิ้มเมื่อไหร่กูจับปาดคอทิ้งทุกตัวแน่! " ฉันตวาดแว้ดพร้อมกับชี้หน้าทุกคนที่อยู่ในห้องหรือแม้กระทั่งคนที่ไม่ได้สูบก็ตาม พักตร์ชะงักไอ้ของที่ถืออยู่ในมือกลางอากาศก่อนจะวางลงบนโต๊ะใกล้ๆ "เปิดหน้าต่างเดี๋ยวนี้! " "ครับ เจ๊! " ชายคนที่อยู่ใกล้หน้าต่างรีบวิ่งไปเปิดมันอย่างรวดเร็ว เหมือนเขาจะกลัวว่าฉันจะจับปาดคอหมดทุกคน จริงๆ ฉันก็พูดไปแบบนั้นแหละ ฉันไม่มีอาวุธติดตัวด้วยซ้ำ จะเอาอะไรไปปาดคอพวกมันเขากันล่ะ "เจ๊พ่อมึงสิ! " "ดุฉิบหาย! " เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้นเบาๆ แต่ฉันได้ยินเลยปลายสายตามองเขาด้วยความเกรี้ยวกราด แม่จะตบให้หัวหลุด! ฉันไม่ได้แก่ขนาดนั้นนะเว้ย!! "มองอะไรวะ! " ฉันหันไปมองนายพักตร์ที่กำลังมองฉันด้วยรอยยิ้มมุมปาก เป็นโรคอัมพฤกษ์ อัมพาตซีกเดียวหรือไง ยกยิ้มมุมปากอยู่นั้น! บ้าหรือเปล่า จ๊อกกก!! โคตรจังหวะนรกมากที่ฉันกำลังจ้องเขม็งนายพักตร์อย่างไม่เกรงกลัว และแววตาของฉันมั่นใจเลยว่าทำให้เขาสามารถหลบสายตาของฉันได้ แต่ไอ้ร่างกายมันกลับทรยศฉันจนอยากมุดดินหนี จากที่ทั้งห้องอึมครึมเพราะแรงกดดันของฉันเมื่อสักครู่ กลายมาเป็นเสียงหัวเราะเยาะเย้ยเบาๆ เมื่อท้องฉันร้องขึ้นมาเสียก่อน "เสียงท้องร้องหรือว่าฟ้าผ่า ถามจริง? " นายพักตร์มองหน้าฉันอย่างยิ้มเยาะ สายตาของเขากำลังล้อเลียนฉันเห็นๆ ไอ้บ้าเอ๊ย! น่าขายหน้าชะมัด! ร้องออกมาได้ไงนะ! "เรื่องของฉัน! " กอดอกเชิ่ดหน้า ทั้งๆ ที่ตัวฉันอายจนไม่กล้าสู้หน้าใครแล้ว ไอ้ตัวฉันนี่นะ ไม่ใช่คนไม่ดีอะไรหรอกนะ ที่ทำไปลงไปทั้งหมดเพียงเพราะป้องกันตัวจากผู้คนไม่ดีเท่านั้น เพื่อไม่อยากให้พวกไม่ดีเข้ามาข่มเหงไง เลยชอบปฏิบัติตัวว่าตัวเองนั้นเก่ง ทั้งๆ ที่มันไม่เก่งเอาเสียเลย "หึๆ " นายพักตร์หัวเราะออกมาเบาๆ พร้อมกับส่ายหน้า เออ! ดี! หัวเราะเข้าไป เอาให้ฉันขาดใจตายในห้องนี้ก็ดี! คิดว่าเรื่องนี้มันตลกนักหรือไง ฉันอายนะเว้ย! ฉันทำเสียหน้าต่อหน้าผู้ชายอ่ะ คิดดูสิ! ฉันคือผู้หญิงคนหนึ่งเท่านั้นเอง "ออกไป" นายพักตร์แปล่งเสียงไล่เบาๆ ฉันได้แต่ร้องตะโกนในใจว่า 'ไชโย' เพราะอยากจะหลุดพ้นไปจากตรงนี้จริงๆ ฉันที่กำลังจะเดินออกไป "ไม่ใช่มึง! " ฉันหันกลับไปหาเขาอย่างสงสัยก่อนจะชี้อกตัวเอง "เออ! มึงนั่นแหละ! " ฟึ่บ! จำใจนั่งลงอย่างเสียไม่ได้และมองประตูห้องด้วยสายตาละห้อยที่เห็นคนอื่นๆ เดินออกไปอย่างง่ายดาย ได้โปรดเอาฉันออกไปจากห้องนี้ด้วยนะ ไม่อยากจะอยู่ในห้องนี้กับผู้ชายเลวๆ คนนี้หรอกนะ! มันอึดอัดจนอยากกัดลิ้นตาย ฉันเหล่มองเขาที่กำลังมองมาที่ฉันเหมือนกัน เอาใหม่! เมื่อกี้มันเกิดการผิดพลาดขึ้นเล็กน้อย ฉันรีบปั้นหน้ามาดขรึมตามฉบับตัวเองทันที ก่อนจะกอดอกและกระดิกเท้าอย่างกวนๆ "เรียกกูว่าเฮียพักตร์" เขาพูดขึ้นเบาๆ เหมือนกำลังพูดกับตัวเอง "..." แล้วไง? บอกฉันเพื่ออะไร ในเมื่อฉันไม่อยากจะรู้จักเขาเลยด้วยซ้ำ "เฮียพักตร์! " เขาย้ำชื่อตัวเองด้วยโทนเสียงดุดัน ที่ทำเอาฉันไม่กล้าสบตากับเขา "เฮียพักตร์? " เลยต้องจำใจพูดชื่อนี้ออกไป "เออ! " จ๊อกกก!! ไอ้ท้องทรยศ!!!! กรี๊ดดดด!!! ฉันไม่สามารถเอาหน้าไว้ประดับบนใบหน้าได้อีกต่อไปแล้ว อายจนไม่กล้าสบตากับเขา อายจนอยากแทรกแผ่นดินหนีหรือตายกลายเป็นปุ๋ยเลยก็ได้ เกราะกำบังที่สร้างเอาไว้มลายหายสูญ ตามด้วยความอายที่ประดับบนหน้าแทน เกลียดตัวเองชะมัด! "เดี๋ยวกูเลี้ยงมึงเอง" เฮียพักตร์พูดขึ้นพลางยิ้มเยาะเบาๆ พร้อมกับพยาบาลเดินเข้ามาพอดี ฉันถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอก ไม่ได้อยู่ตามลำพังแล้ว ฉันเอาหูไปหาเอาตาไปไร่ ฟังบ้างไม่ได้ฟังบ้าง เพราะมันไม่ใช่เรื่องของฉันอยู่แล้ว เขารอดตายก็ถือว่าเราไม่มีอะไรต่อกันใช่ไหมล่ะ ระหว่างที่ฉันกำลังนั่งเพลินๆ ในห้องสีขาวสะอาดและกลิ่นของยาตลบอบอวล เสื้อกาวน์ราวๆ สิบกว่าชุดเดินกรูเข้าในห้อง นั่นทำให้ฉันและเฮียพักตร์เริ่มงงๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สีหน้าของเฮียพักตร์เริ่มไม่ค่อยจะสบอารมณ์สักเท่าไหร่นัก ยิ่งเห็นนักศึกษาแพทย์ยืนอัดกันเต็มห้องอยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง ฉันแน่ใจว่าทำไมเขาถึงอารมณ์ไม่ค่อยจะดี เพราะในห้องมีแค่นักศึกษาแพทย์ผู้ชายทั้งนั้น ในห้องมีแค่ฉันและพยาบาลเองที่เป็นผู้หญิง "เข้ามาทำเหี้ยอะไรวะ! " เสียงของเขาบ่งบอกว่ากำลังหัวเสียสุดๆ "พวกเขาเข้ามาหามึงไงเฮียพักตร์! " ฉันจงใจเน้นชื่อของเขาพลางหัวเราะเบาๆ แบบผู้ดีที่นิยมปิดปากกระเมียดกระมิ้ม "เหี้ยอ่ะ" "หุบปากไปซะ อีนี่!! " มือหนาของเฮียพักตร์พุ่งตรงดิ่งมาหาฉันที่นั่งอยู่ข้างๆ เขา ก่อนจะโดนสายน้ำเกลือกระตุกรั้งแขนเขาไว้เบาๆ "โง่! " ก่อนจะโดนฉันสวนกลับด้วยคำพูดแทน "ขอโทษครับ เผอิญว่าหมอเข้าผิดห้อง" ไม่กี่วินาทีถัดมานักศึกษาแพทย์รวมถึงหมออาวุโส ทยอยออกจากห้องอย่างรวดเร็วหลงเหลือไว้เพียงฉันและเฮียพักตร์เท่านั้น เวรเอ๊ย! แต่หางตาฉันเห็นนักศึกษาแพทย์คนสุดท้ายกำลังปิดประตูห้องอย่างช้าๆ นั้น ฉันเผลอหันไปมองเขาพอดี และสายตาของเราทั้งคู่สบตากันอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่ประตูจะปิดลง เฮ้ย!! พี่คราม! รุ่นพี่มหาลัยเดียวกันกับไอ้น้ำและยังเป็นรูมเมทคนนั้นด้วย! เพราะฉันเคยเจอพี่เขานะสิ ฉันยังจำเหตุการณ์ในวันนั้นได้ดีด้วย ปกติเสื้อผ้าของฉันไม่ได้แต่งชุดฟรุ้งฟริ้งเหมือนสาวๆ สมัยนี้กันหรอกนะ เพียงแต่สวมชุดธรรมดาๆ กับเสื้อฮู้ดตัวใหญ่ๆ มีหมวกก็เท่านั้น ใช้เอาไว้อำพลางใบหน้าเวลากลางค่ำกลางคืนเท่านั้น และในกลางคืนวันนั้น น้ำมันไม่ยอมรับโทรศัพท์จากฉันสักสาย ฉันเลยตัดสินใจเข้าไปหามันที่หอพักรวมของมัน ฟึ่บ! อยู่ๆ ก็มีท่อนแขนแข็งแกร่งกอดคอฉันไว้เบาๆ ก่อนจะดึงเข้าไปหาตัวเขา กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ลอยเข้าแตะจมูกเป็นระยะๆ เล่นเอาฉันเคลิ้มเพราะกลิ่นนี้จริงๆ "ทำไมไม่เข้าห้องล่ะ ยืนเหมือนเป็นขโมยไปได้" น้ำเสียงนุ่มนวลดังขึ้นข้างๆ หู "..." ฉันยืนนิ่งเป็นรูปปั้นหิน เพราะตั้งแต่จำความได้ ฉันไม่เคยมีแฟนมาก่อน ฉันไม่เคยโดนผู้ชายกอด นอกจากไอ้น้ำและเฮียนทีเท่านั้น "อ้าว! เป็นไร ทะเลาะกับน้องสาวนายอีกแล้วเหรอ ฮ่าๆ นายนี่นะ! " กำปั้นใหญ่ๆ เคาะหัวฉันเบาๆ ด้วยความอ่อนโยน เหมือนพี่ชายเล่นกับน้องชายมาก "อะ...เอ่อ มาหาน้ำ น้ำอยู่ไหมคะ" ฉันค่อยๆ หันไปมองหน้าเขาที่กำลังไขประตูห้องพร้อมกับกอดคอฉันไว้ มือของเขาชะงักลงเมื่อสิ้นสุดเสียงของฉัน พร้อมกับใบหน้าคมคายค่อยๆ ก้มลงมองมาที่ฉัน "เอ่อ..." ฝ่ามือหนาดึงหมวกฉันก่อนพร้อมกับเส้นผมที่รวบเอาไว้คลายลงทิ้งดิ่งตามแรงโน้มถ่วงของโลก และพลิ้วสยายตามแรงลม "น้องสาวฝาแฝดของน้ำ? " "หนูเป็นพี่สาวต่างหาก! " ฉันขยับตัวออกห่างเขาเล็กน้อย เนี่ย! น้ำมันชอบให้คนอื่นเข้าใจผิดว่าฉันเป็นน้องสาวมันอยู่เรื่อยเลย รุ่นพี่คนนี้ก็อีกคนดันไปหลงคำพูดปลอมของมันจนได้ เข้าใจผิดไปอีก! "ห๊ะ! อืมๆ อย่างที่มันบอก..." เขาพยักหน้าเบาๆ "พี่ชื่อครามนะ เป็นรุ่นพี่น้ำ" "ค่ะ น้ำบอกหนูแล้ว" "น้องชื่อเอวาใช่มั้ยครับ" "ค่ะ" เราสองคนยืนคุยอยู่หน้าประตูห้อง พี่เขาเป็นฝ่ายชวนฉันคุยต่างหาก วันนั้นฉันรับรู้ว่าเขาคือรุ่นพี่ที่เป็นรูมเมทกับน้ำ เขาออกค่าใช้จ่ายภายในห้องให้น้ำทั้งหมด พี่เขาเรียนหมออยู่ปี4 และอีกเยอะมากที่เรายืนคุยกันหน้าประตูห้องก่อนที่น้ำมันจะเปิดประตูออกมา ในวันนั้นฉันได้รู้จักพี่ครามเป็นครั้งแรก พี่เขาหล่อ... "เป็นเหี้ยอะไร เหม่อเหมือนเจอผัวเก่า! " ปากหมาๆ ของเฮียพักตร์ดังขึ้นในโสตประสาทหู "ผัวเก่าอะไรของมึง! " ฉันกอดอกตัวเองพลางเหล่ตามองเขาด้วยหางตา อยากออกไปจากที่นี่จนใจจะขาด เอ๊ะ! ดูเหมือนว่าเขามีบางอย่างที่แปลกไป เขาไม่ได้สวมชุดของโรงพยาบาลนี่น่า!! "เดี๋ยวกูเลี้ยงมึงเอง" เฮียพักตรูพูดจบ เขาดึงแขนฉันให้เดินตามเขาไปอย่างรวดเร็ว ชนิดที่ว่าขาฉันไม่ถึงพื้นด้วยซ้ำ! อย่าลากสิวะ! ไอ้พักตร์!! ไม่จริง!! ไม่ใช่สิ! มันต้องไม่ใช่อย่างนี้! ฉันเดินลงจากรถอย่างงงๆ และสับสนที่สุดแล้วในขณะนี้ เขาบอกว่าจะเลี้ยงฉัน เลี้ยงในที่นี่ ในที่ฉันเข้าใจคือเลี้ยงข้าวสักมื้อไม่ใช่เหรอ เพราะเขาได้ยินเสียงท้องร้องของฉัน แต่ข้างหน้าฉันมันคือคฤหาสน์หลังใหญ่มหึมา มีคนสวมชุดดำเดินไปมากันให้สับสนและวุ่นวาย มันเหมือนกับในละครหลังข่าวที่ฉันชอบดู… มาเฟียชัดๆ "มึงอยู่ที่นี่กับกู" "...!! " "กูจะเลี้ยงมึงเอง" "...!!! " ไม่รู้ว่าหิวข้าวหรือคำพูดของเขาที่ทำเอาร่างกายของฉันวูบสั่นไปทั้งตัว สิ่งสุดท้ายที่ฉันเห็นคือสีหน้าของเขากำลังตกใจและร่างของฉันกลับทิ้งลงพื้นในเวลาต่อมา เจ็บจัง...ก่อนจะไม่รู้สึกตัวอีกเลย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD