Intro 1
รอว์ฟ ครูซเชอร์ ท่านประธานบริษัทขนส่งขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของอเมริกา เขากำลังนั่งหน้าตาอ่านเอกสารตรงหน้า และพิจารณาตัวเลขในบัญชีรายรับรายจ่ายของบริษัท ด้วยใบหน้าที่พึงพอใจกับผลกำไรของบริษัทในปีนี้ นับว่าการที่เขาตัดสินใจขยายสาขาไปทั่วทั้งอเมริกาเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง นับจากนี้เขาคงทำงานน้อยลงกว่าเดิมอีกหลายเท่านัก เพราะตอนนี้บริษัทลูกทั้งหมดอยู่ได้ด้วยตัวเองภายใต้ปีกอันกว้างใหญ่ของครูซเชอร์ กรุ๊ป ที่แข็งแรงและมั่นคง
“บอสครับ”
คาร์มือขวาคนสนิทพ่วงด้วยตำแหน่งเพื่อนรักเดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม และนี่เป็นบุคลิกประจำตัวของเขาที่ดีมากๆ
“มีอะไรเหรอ คาร์”
บอสหนุ่มเงยหน้าขึ้นมาจากเอกสารเอนตัวพิงกับพนักเก้าอี้ตัวใหญ่มองเพื่อนรักด้วยสายตาเป็นคำถาม
“มีนิดหนึ่ง เอ้ว่าแต่บอสทำอะไรอยู่ท่าทางจะอารมณ์ดีนะเนี่ย” คาร์เอ่ยแซว
“ตรวจบัญชีอยู่น่ะ นายดูนี่สิ” รอว์ฟยื่นเอกสารตรงหน้าให้กับคาร์ดู เขาก็รับมาอ่านแล้วก่อยจะมองหน้าบอสหนึ่มตาโต
“โอพระเจ้า มันเป็นไปได้ยังไง รอว์ฟ”
“นั่นสิ ฉันอ่านเป็นสิบๆ รอบแต่ผลก็เป็นเหมือนเดิม” รอว์ฟตอบออกมาพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของความพึงพอใจ
“ยินดีด้วยเพื่อนรัก นายทำสำเร็จแล้วเพื่อน” สองหนุ่มกอดกันเพื่อแสดงความยินดีให้แก่กัน
“ขอบใจนายมากคาร์ ที่นายคอยช่วยฉันมาตลอด ลูกค้าจากอเมริกาใต้ก็ติดต่อมาเพื่อที่จะให้ทางเราส่งสินค้าให้ตลอดระยะเวลาสามปี ถือว่าเราได้ลูกค้ารายใหญ่เพิ่มอีกที่แล้วและก็เป็นลูกค้ารายใหญ่เสียด้วย สินค้าเป็นประเภทอุปโภคบริโภค แต่ถึงยังไงก็ต้องตรวจสอบให้ละเอียดก่อนส่งสินค้านายคงเข้าใจว่าฉันหมายความว่ายังไง”
“อื่ม”
คาร์พยักหน้าเข้าใจในความหมายที่รอว์ฟต้องการสื่อ ธุรกิจขนส่งเป็นธุระกิจที่จะต้องมีความระมัดระวังในเรื่องการขนส่งสินค้าผิดกฎหมาย หากถูกจับได้ละก็คงเป็นเรื่องราวใหญ่โต
“อ้อ ว่าแต่นายเข้ามาในห้องฉัน มีอะไรหรือเปล่าคาร์”
“คือว่า...ภรรยาฉันอยากเชิญนายไปทานอาหารด้วยกัน นายว่างไหมเย็นนี้”
คาร์เอ่ยชวน รอว์ฟเองก็ไม่มีโปรแกรมจะไปไหนอยู่แล้ว เพราะเขารู้สึกเบื่อที่จะต้องออกไปตระเวนหาความสุขชั่วครั้งชั่วคราวกับใครต่อใครที่ไม่มีแม้แต่ความจริงใจนอกจากต้องการเงินของเขาเท่านั้น
“ไปสิ อยากเจอครอบครับนายพอดี ไม่เจอกันนานแล้ว”
สองหนุ่มต่างก็พากันเก็บเอกสารข้าวของจนเป็นที่เรียบร้อย แล้วจึงพากันเดินทางตรงไปยังบ้านของคาร์ ซึ่งเป็นอพาร์ทเม้นท์ค่อนข้างจะหรูหราในย่านนั้น
“อยากรู้นักที่บ้านนายมีอะไรดีนักหนานายถึงไม่อยากไปไหนเลยเวลาเลิกงาน อยากแต่จะกลับบ้านท่าเดียว” รอว์ฟ เอ่ยขึ้นมาเบาๆ
“อยากรู้นายก็รีบแต่งงานสิ”
“แต่งได้ยังไงก็ยังไม่มีเจ้าสาวที่น่ารักเหมือนกับนายนี่นะ” รอว์ฟกระเซ้าเพื่อนไม่จริงจังนัก
“อื่ม..นั่นสินะฮ่าๆ” คาร์หัวเราะออกมาเบาๆ
“.....” รอว์ฟได้แต่อมยิ้มบางๆ
ทั้งสองคนเป็นเพื่อนรักกันมานาน คาร์มาช่วยงานรอว์ฟทันทีที่เขาลาออกจากการเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัย และแต่งงานมีครองครัวกับมีนา หญิงสาวนักศึกษาชาวไทยที่ยอมเสียสละทุกอย่างที่บ้านเกิดแต่งงานและใช้ชีวิตร่วมกับคาร์ที่นี่ครอบครัวของคาร์ทั้งรักทั้งเอ็นดูมีนายิ่งเธอมีหลานคนแรกให้ครอบครัวด้วยแล้วมีแต่คนรุมล้อมเอาอกเอาใจทั้งคุณแม่และคุณลูก แต่กว่าที่เขาจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับมีนาได้อย่างทุกวันนี้เขาก็ต้องฝ่าฟันอุปสรรค์มากมาย ต้องทนเก็บความรู้สึกที่มีต่อเธอเอาไว้ไม่ให้ใครรู้เพราะทั้งสองอยู่ในฐานะอาจารย์กับนักศึกษา จนกระทั่งเธอเรียนจบและเขาก็ลาออกจากมหาวิทยาลัยนั่นแหล่ะถึงจะยอมเปิดเผยความจริงให้สังคมและครอบครัวรับรู้
บ้านของคาร์
“แด็ดดี้ขาลิซ่าคิดถึงแด็ดดี้จังเลยค่ะ”
เด็กหญิงตัวน้อยโผเข้าหาอ้อมกอดของบิดาทันทีที่เปิดประตูบ้านเข้ามาพร้อมส่งเสียงออดอ้อนบิดาอย่างน่ารัก ผู้เป็นบิดาหอมแก้มยุ้ยๆ นั้นซ้ายทีขวาทีอย่างรักใคร่
“กลับมาแล้วหรือคะที่รัก”
ผู้เป็นภรรยาเข้ามาหอมแก้มต้อนรับสามีพร้อมช่วยถือกระเป๋าเอกสารและเสื้อสูทให้สามี ก่อนจะหันมาส่งยิ้มทักทายใครอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆสามีของเธออย่างอ่อนหวาน
“สวัสดีค่ะรอว์ฟ เชิญเข้ามาข้างในก่อนค่ะ”
มีนาภรรยาคนสวยของคาร์เอ่ยปากเชิญรอว์ฟที่เป็นทั้งเจ้านายและเพื่อนสนิทของสามีให้เข้ามาในบ้านอย่างสุภาพ
“ขอบคุณครับคุณมีนา”
รอว์ฟกวาดสายตาคมเข้มของเขาไปทั่วห้องพักที่แสนจะเรียบง่ายแต่ดูทีทันสมัยของมือขวาที่เป็นเพื่อนสนิทของเขาด้ายสายตาที่ออกจะทึ่งในความสามารถในการตกแต่งห้องพักของมีนา บ้านของคาร์ช่างน่าอยู่และดูอบอุ่นนัก เมื่อเขามองไปรอบๆ ก็สะดุดเข้ากับรูปภาพใบใหญ่ เป็นภาพของคาร์และมีนาในชุดแต่งงาน ใบหน้าทั้งสองดูมีความสุขมากเหลือเกิน สายตาของทั้งคู่เมื่อมองกันมันแสดงถึงความรักความผูกพันธ์ที่ทั้งสองมีให้แก่กัน ยังมีภาพต่อๆ ไปอีกหลายภาพในสถานที่ต่างๆมากมายที่ทั้งสองเคยไปด้วยกัน และส่วนใหญ่เป็นภาพที่ภรรยาของคาร์อุ้มท้อง เริ่มตั้งแต่ท้องเล็กๆ จนกระทั้งท้องโต และคลอดลูกจากนั้นก็จะมีแต่รูปทารกตัวน้อยที่ค่อยเติบโตขึ้นทีละนิดๆจนถึงภาพปัจจุบัน รอว์ฟ อ่านข้อความใต้ภาพทุกภาพแล้วเกิดความรู้สึกประทับใจมาก เขายิ้มออกมาเมื่อมองภาพเด็กหญิงตัวน้อยในอ้อมแขนของคาร์ที่อ้าปากร้องไห้จนหน้าตาแดงก่ำไปหมดและคาร์ก็กำลังปลอบลูกสาวของเขาช่างเป็นภาพที่ดูอบอุ่นยิ่งนัก
“คุณแม่บอกว่าตอนเด็กๆหนูน่าเกลียดมากๆ ไม่จริงใช่ไหมคะคุณลุง”
เสียงเล็กๆ ที่ดังขึ้นพร้อมกับขากางเกงของเขาถูกกระตุกเบาๆ รอว์ฟก้มลงมองก็เห็นว่าน้องลิซ่าลูกสาวตัวน้อยของคาร์กำลังเงยหน้าขึ้นมามองเขาแล้วส่งยิ้มหวานมาให้ ชายหนุ่มก้มลงอุ้มเด็กน้อยขึ้นมาแล้วพาไปนั่งที่โซฟาด้วยกัน
“ตอนนี่ลิซ่าน่ารักแล้วก็สวยที่สุดเลยครับ”
คำตอบที่ได้จากเพื่อนของบิดาสร้างความพึ่งพอใจให้แก่เด็กน้อยยิ่งนัก ลิซ่าจึงส่งยิ้มหวานๆให้กับคุณลุง แล้วชวนคุณลุงคุยต่อเสียงแจ้วๆ บางครั้งก็ส่งเสียงหัวเราะอย่างอารมณ์ดี น้องลิซ่าทำให้รอว์ฟรู้สึกผ่อนคลายแล้วก็ทำให้เขารู้สึกดีอย่างประหลาด
“เอ่อแล้วคุณลุงชื่ออะไรหรอคะ”
รอว์ฟถึงกับหัวเราะออกมาเสียงดังเมื่อเห็นน้องลิซ่าบิดตัวใบมาด้วยความเขินอายเมื่อถามชื่อของเขาทั้งๆ ที่ก็คุยกันมาเป็นนานสองนานแล้วก็หลายครั้งแล้วด้วย
“ฮ่าๆ”
“ก็หนูลืมถามนี่คะ” เด็กน้อยอ้อมแอ้มตอบอย่างน่ารัก
“ ลุงชื่อรอว์ฟครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณลิซ่าคนสวย”
แล้วรอว์ฟก็ต้องหัวเราะออกมาอย่างชอบใจอีกครั้งเมื่อน้องลิซ่าลุกขึ้นยืนแล้วกระพุ่มมือไหว้เขาอย่างอ่อนช้อยสมกับเป็นกุลสตรีไทยเหมือนอย่างเช่นมารดาของเธอ
“สวัสดีค่ะ”
น้องลิซ่าพูดออกมาแล้วส่งยิ้มมาให้อย่างน่ารักน่าเอ็นดู รอว์ฟช้อนอุ้มเด็กน้อยขึ้นมาแล้วหอมแก้มยุ้ยนั้นอย่างหมั่นเขี้ยว น้องลิซ่าหัวเราะ ออกมาเสียงดังด้วยความจักจี้ เสียงหัวเราะของลูกน้อยดังเข้าไปถึงในห้องครัวเลยทีเดียวทำให้คู่สามีภรรยาที่กำลังช่วยกันทำอาหารหันมาส่งยิ้มให้แก่กันและกันอย่างมีความสุข
“ดูแล้วแล้วรอว์ฟคงจะรักเด็กมากเลยนะคะที่รักแต่ไม่รู้ทำไมไม่ยอมแต่งงานเสียทีนะคะ” มีนาหันมาพูดกับสามี ที่กำลังช่วยเธอจัดโต๊ะอาหารเบาๆพอได้ยินกันสองคน
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันสงสัยคงยังไม่ถูกใจกับสาวๆ คนไหนละมั้ง จะเหมือนผมได้ยังไงล่ะครับที่ได้ภรรยาน่ารักและแสนดีอย่างคุณ” คาร์หยอดคำหวานใส่ภรรยาตามด้วยสายตาหวานฉ่ำ จนมีนารู้สึกเขินอายขึ้นมาบ้าง
“ยกอาหารออกไปได้แล้วค่ะ พูดมากจริงคุณนี่”
“อ้าวก็มันจริงนี่ครับ”
“ค่ะคุณพ่อคนเก่ง” มีนาบีบจมูกโด่งของสามีอย่างหยอกเย้า
“ที่รักคิสผมก่อน”
มีนาส่ายหน้าให้กับความช่างจดช่างจำของสามียิ่งนัก ทุกวันเมื่อกลับมาจากที่ทำงานคาร์จะต้องจูบเธอให้หายคิดถึงเสียก่อน จนบางครั้งเธอก็อดที่จะอายลูกไม่ได้ เพราะน้องลิซ่ามักจะเห็นบ่อยๆ
“เดี๋ยวนี้หรือคะ” มีนาถาม
“อื่ม...คิส”
เขายื่นหน้ามาใกล้ มีนายื่นหน้าเข้าไปจูบเขาอย่างดูดดื่มก่อนที่จะดันตัวออกจากอ้อมแขนเขาอย่างยากลำบากเพราะเขาไม่ยอมปล่อยเธอเสียที
“พอแล้วค่ะ...ยกอาหารได้แล้วค่ะที่รัก”
คาร์หันมาจุ๊บแก้มภรรยาคนสวยอีกครั้งก่อนจะยกอาหารที่หอมกรุ่นออกไปวางที่โต๊ะจากนั้นจึงเดินไปนั่งคุยกับรอว์ฟและลูกสาวตัวน้อย ก่อนที่ภรรยาจะเรียกให้ไปทานอาหารเมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว