“หมอเมสวยมาก ๆ เลยนะคะปะป๊า ทั้งสวยทั้งใจดี เหมือนนางฟ้าเลยค่ะ น้องลันรักหมอเมมาก ๆ เลย”
“ขนาดนั้นเลยเหรอครับ? ว้า… อย่างนี้ก็ไม่รักปะป๊าแล้วล่ะสิ ปะป๊าชักน้อยใจแล้วนะ” ผมแกล้งทำหน้าเศร้าเรียกร้องความสนใจจากร่างเล็กที่ทำตาโตได้น่ารักสุด ๆ
“ไม่ใช่นะคะปะป๊า น้องลันรักปะป๊าที่สุดในโลกเลยค่า”
ลันตากระโดดกอดคอผมด้วยความรักใคร่ ผมมีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็นรอยยิ้มของลันตา เธอเป็นทุกอย่างในชีวิตของผมจริง ๆ ผมโชคดีเหลือเกินที่มีลูกสาวน่ารักแบบลันตา โชคดีที่ป๊าและพี่น้องของผมรักและเอ็นดูลันตา โชคดีในความโชคร้ายเพราะผมได้ลันตามาเพื่อแลกกับชีวิตของลิลิน
ถ้าลิลินยังมีชีวิตอยู่ เธอไม่มีทางให้ผมได้เจอลันตาแน่ ๆ ไม่สิ… ผมคงไม่มีวันได้รู้ว่าตัวเองเป็นพ่อคนต่างหาก ขนาดวันที่เธอคลอดลันตา วันที่ความตายพรากเธอไปจากผม… ผมยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย!
.
.
.
[บทบรรยาย เมบี]
“อ้าวไอ้เม แกมีขึ้นวอร์ดตอนเย็นด้วยเหรอ?” นิต้าที่กำลังก้มขีดเขียนอะไรบางอย่างหน้าเคาน์เตอร์พยาบาลเงยหน้าขึ้นมาถามด้วยความสงสัย ฉันถอนหายใจเซ็ง ๆ พลางวางกระเป๋าลงบนโซฟาแล้วทิ้งตัวนั่งลงเหนื่อย ๆ เพราะไอ้บ้านั่นคนเดียวเลยที่ขับรถมาทิ้งฉันไว้ที่นี่น่ะ ฉันเลยต้องกลับเข้ามานั่งพักร้อนในนี้ก่อน เดี๋ยวค่อยกลับไปเอารถที่มหาวิทยาลัยแล้วกัน
“อ้าวยัยเม? กลับมาทำไมอีกอ่ะ?” ข้าวหอมเดินเข้ามาในชุดไปรเวทธรรมดา มันคงเพิ่งจะออกเวรสินะ ดีเลย! จะได้ให้มันขับรถไปส่งที่มหาวิทยาลัย
“ออกเวรแล้วยัง?” ฉันไม่ตอบแต่กลับเลือกที่จะถามมันกลับ ข้าวหอมพยักหน้านิด ๆ ก่อนจะหันไปมองหน้านิต้าเป็นเชิงถามว่าฉันย้อนกลับมาที่โรงพยาบาลทำไม “งั้นไปส่งที่มหาลัยหน่อยดิ”
“เอ้า! ทำไมอ่ะ? ก็แกเพิ่งไปมหาลัยมาไม่ใช่ไง แล้วจู่ ๆ กลับมานี่ทำไมหะ ฉันงงไปหมดแล้วเนี่ย” ข้าวหอมทิ้งตัวนั่งลงด้านข้าง มันมองฉันด้วยสีหน้ายุ่ง ๆ
“ไปมาแล้วนั่นแหละ! แต่ดันไปเจอไอ้บ้าเจไนท์น่ะสิ! คิดแล้วก็น่าโมโหอ่ะแก! ไอ้บ้านั่นมันจะลากฉันไปไหนก็ไม่รู้!” ฉันเม้มปากอย่างเจ็บใจสุด ๆ นับวันฉันก็ยิ่งขยาดกับนิสัยของเจไนท์ขึ้นทุกที หมอนั่นคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของชีวิตฉันหรือยังไงกันนะถึงได้ทำอะไรถ่อย ๆ กับฉันอยู่ได้!
“ตายแล้ว! แล้วแกเอาตัวรอดมาได้ยังไงกันเนี่ย!”
“นั่นดิ! ปกติไอ้บ้านั่นมันไม่ยอมปล่อยแกง่าย ๆ อยู่แล้วนิ?” นิต้าที่ยืนฟังอยู่หลังเคาน์เตอร์หันมาสนใจพวกเราในทันที
“ฉันก็…” ฉันเว้นช่วงเพื่อคิดทบทวนว่าควรจะบอกความจริงกับพวกมันดีไหม? เรื่องที่ฉันดึงกาฬวาตมามีส่วนร่วมในสงครามประสาทครั้งนี้น่ะ “เออน่า! เอาเป็นว่าฉันรอดมาได้แล้วกัน!”
“โว๊ะ!” สองเสียงประสานกันราวกับผิดหวัง อะไรกันยะ! รู้สึกจะอยากรู้อยากเห็นจริง ๆ เลยนะพวกแก!
“แล้วนี่แกไม่ไปหาลันตาหรือไง? นัดกันไว้ไม่ใช่เหรอ?”
“เออจริงด้วย! ฉันนัดกับลันตาเอาไว้นี่นาว่าจะไปเจอกับปะป๊าของลันตา” ฉันลุกขึ้นยืนด้วยความรวดเร็วเมื่อนึกขึ้นได้ ทำให้สองสาวพากันหันมองฉันเป็นตาเดียว
“ปะป๊าของลันตา?” นิต้าทวนคำพูดของฉันด้วยความสงสัย
“ใช่! พวกแกเคยเห็นหน้าป่ะ?”
“ไม่นะ… ปกติเจอแต่พี่เลี้ยงอ่ะ อีกอย่างลันตาอยู่แผนกหัวใจด้วยนี่ พวกฉันไม่ค่อยได้เข้าไปตรวจแผนกนั้นหรอก”
จริงสินะ… ถึงแม้พวกเราจะเป็นนักศึกษาแพทย์แต่พวกเราก็มีหน้าที่รับผิดชอบแค่เฉพาะในแผนกของสาขาตัวเองเท่านั้น นี่คงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ฉันคลาดกับพ่อของลันตาทุกครั้งเลย และครั้งนี้ก็คงจะคลาดกันเหมือนเดิม…
“แล้วตกลงแกจะไปหาลันตาไหม?” ข้าวหอมใช้นิ้วชี้จิ้มเบา ๆ ตรงแขนฉัน
“คงไปไม่ได้อ่ะ วันนี้ฉันต้องไปซื้อของจัดห้องใหม่น่ะสิ ฉันก็เพิ่งจะนึกได้ตอนเห็นหน้าแกนี่แหละ กลับก่อนนะนิต้า” ฉันหันไปโบกมือลานิต้าก่อนจะลากข้าวหอมให้เดินตามออกมา
“เดี๋ยว ๆ เกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ!”
“เกี่ยวสิ! ก็ฉันจะพาแกไปด้วยน่ะสิ!”