ณ บ้านของเจย์เดน
“โรสรินอยู่ที่ไหน” ตะวันถามขึ้นอีกครั้ง
“ไม่รู้” ระริน
“ไม่รู้หรือไม่บอก” ตะวัน
“จะเอาอะไรมารู้ละ ก็เห็นว่าฉันก็กำลังเดินตาหาพวกเขาอยู่” ระรินพูดออกมา
“เธออย่าบอกนะว่า” ตะวันกำลังจะพูดต่อ
“พวกเขาทิ้งฉันไง ทิ้งให้ฉันต้องมาซวยเผชิญชะตากรรมอยู่กับพวกใจยักษ์” ระรินพูดออกมาด้วยความโมโหที่ตัวเองถูกทิ้ง
“หมายความว่ายังไง” เจย์เดนที่เดินเข้ามาถึงถามขึ้นทันที
“ก็ตามที่บอกเลยคะ ฉันถูกพวกเข้าทิ้งให้อยู่กับพวกคุณ” ระรินจ้องมองไปที่ใบหน้าของเจย์เดน
“เด็กกะโปโลอย่างเธอฉันจะเอามาทำอะไรได้ นอกจากคนใช้แต่อย่างว่าคนใช้ก็ไช่ว่าจะรอดดูท่าจะทำอะไรไม่เป็นมิหน่ำซ้ำยังจะแอบมาลักขโมยของฉันอีกต่างหาก” เจย์เดนมองไปที่หน้าของระริน
“นี้นาย” ระรินกำลังจะพูดต่อ
“นี้เธอ นี้คุณเจย์เดน มาเฟียใหญ่ระดับหัวหน้าเธอจะมาเรียก นาย นาย แบบนี้ไม่ได้” ตะวันพูดแทรกขึ้น
“ช่างเขาเถอะตะวัน เด็กกะโปโล ไม่มีใครสั่งสอนก็แบบนี้ เด็กก็คือเด็กจะไปทำอะไรได้” เจย์เดนมองมาที่หน้าของระรินแล้วแสยยะยิ้มมุมปาก
“ถ้าเก่งจริง มีความคิดจริงๆ ฉลาดเหมือนที่อวยกันจริงคงคิดได้ว่าทำไมแม่ของฉันจึงต้องเอาฉันมาแทนพี่โรส อย่างว่าพวกมาเฟีย ป่าเถื่อน เน้นใช้กำลังมากกว่าใช้ความคิด” ระรินพูดออกมาโดยไม่รู้เลยว่ากำลังปลุกเสือร้ายในตัวของเจย์เดนอยู่
“นี้เธอ”
“จะฆ่าก็ฆ่าเลย ต่อให้ฉันตายพวกนายก็ตาหาพี่โรสกับแม่ไม่เจอหรอก” ระรินต่อปากต่อกับกับเจย์เดนเพียงเพราะกำลังให้กำลังใจตัวเองเพราะอ่านเกมส์ออกตั้งแต่แรกยังไงเจย์เดนก็ไม่มีวันฆ่าตัวเองแน่นอน
ครืดดดด ครืดดดดดด ครืดดดดดดดดด เสียงโทรศัพดังขึ้น
“นายครับ” ตะวันมองมาที่เจย์เดนแล้วพยักหน้าให้เจย์เดนเบาๆ
“เอามันไปขัง ส่งมันไปเรียนที่โรงเรียนในเครือให้จบ วันหยุดให้มันมาทำงานรวมกับคนงานที่สวนผักกาดเพื่อใช้หนี้จนกว่าเราจะตามหาตัวโรสรินเจอ” เจย์เดนพูดจบก็เดินออกไปพร้อมตะวันทันที
“เห้ย ปล่อยก่อนดิ ปล่อยฉันไปก่อนฉันสัญญาว่าจะหาเงินมาใช้หนี้นาย นาย กลับมาก่อนสิ” ระรินพยายามตะโกนแต่ไม่เป็นผล ชายชุดดำพาระรินมาที่พัก ที่อยู่กลางไร่ผักกาด ห่างจากในเมือง 15 กิโลเมตร
“พักที่นี้ ตอนเช้า 6.30 จะมีรถมารับไปส่งโรงเรียน” ชายชุดดำพูดจบก็เดินออกไปทันที
“เดี๋ยวดิ แล้วเสื้อผ้าของใช้ฉันละ นี้ นิ้ บ้าเอ้ย” ระรินสบถด้วยอารมณ์หัวเสียนิดหน่อย
ในที่พักของระริน ถูกเตรียมพร้อมด้วยชุดนักเรียน ร้องเท้า หลังสือและอุปกรณ์การเรียนพร้อม ในที่พักนี้ก็พออยู่ได้ถึงจะไม่ได้หรูหราใหญ่โต แต่ตามสถาณภาพของระรินแล้วที่อยู่ตรงนี้คือที่ที่ดีมากๆแล้ว
“ไม่แปลกใจทำไมแม่ถึงให้เรามาอยู่ที่นี้แทนที่จะเป็นพี่โรส ถ้าพี่โรสมาเจอสภาพนี้แย่แน่” ระรินพึมพำออกมา
“สาหวาดดี” เสียงคนพูดไม่ชัดทักทายขึ้นทำให้ระรินหลุดออกจากความคิดของตัวเอง
“หวัดดี” ระรินกล่าวทักทาย
“โคนงานหม่ายเย๋อ ราชื่อ ม่าลินะ” เสียงพูดออกมาแม้ไม่ค่อยชัดแต่ระรินสัมพัสได้ว่าไม่มีพิศมีภัยอะไรแน่นอน
"เราชื่อ ระรินนะ เรียกรินเฉยๆก็ได้ ชื่อมะลิใช่ไหม” ระรินถามย้ำขึ้น
“ช่ายๆๆ ราพูกม่ายค่ายชาดน่ะ” มะลิที่พยายามพูดไทยให้ชัดเท่าที่จะทำได้
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวเราสอนให้” ระรินยิ้มกว้างให้มะลิ ระรินสอนภาษาให้มะลิแลกกับที่มะลิต้องสอนงานที่นี้ให้กับระรินเป็นการตอบแทน ซึ่งก็วินๆทั้งคู่
วันแรกของการไปเรียน
“เห้อ!!!” ระรินถอนหายใจออกมาทันทีที่ต้องเดินทางมาโรงเรียนจากจุดที่รถขนผักจอดที่ตลาดระรินต้องเดินมาอีก เกือบ 2 กิโลเมตรกว่าจะมาถึงโรงเรียนก็เกือบ 8 โมงพอดี
“ระรินเอ๋ย ทำไมชีวิตแกต้องมาเจออะไรแบบนี้ อดทนนะระริน อดทนแกต้องอดทน”ระรินนั่งลงโต๊ะว่าง ท่ามกลางสายตาของนักเรียนทั้งห้องที่มองมาที่ระริน เหมือนระรินเป็นตัวประหลาดของห้อง
“เป็นเรื่องปรกติของคนที่นี้ เธอต้องทำใจเธอมันเด็กเส้นนิ” ชายคนหนึ่งเดินเข้ามานั่งข้างๆระรินแล้วพูดขึ้น
“หมายความว่าไง” ระรินถามออกไปด้วยความสงสัย
“เธอเป็นเด็กของคุณเจย์เดนเจ้าของโรงเรียนนี้นิ”
“นายคือใคร ฉันไม่ใช่เด็ดอีตามาเฟียบ้านั้นน่ะ” ระรินพยายามอธิบาย
“ฉันชื่อ มาร์ค เป็นลูกชายของนักค้าอาวุธรายใหญ่ที่พ่อไม่มีเวลาอยู่บ้านดูแลจึงให้ฉันมาเรียนที่นี้ ยินดีที่ได้รู้จัก”
“เราชื่อ ระริน จะเรียกรินเฉยๆก็ได้”
“งั้นเราสองคนเป็นเพื่อนรักกัน ดิว” มาร์คจับมือระรินขึ้นมาจับมือตนเองแล้วพูดขึ้น
“ห๊ะ” ระรินทำหน้าตาสงสัยกับสิ่งที่มาร์คพูดเมื่อตะกี้
“เธอไม่สงสัยเหรอ ทำไมเธอกับฉันไม่มีเพื่อน ไม่มีใครอยากมานั่งใกล้หรือคุยด้วยมองดูรอบๆสิ”
“อือ นั้นสิ จริงอย่างที่นายว่าเลย” ระรินพึงจะสังเกตุแล้วพูดขึ้น
ฝั่งเจย์เดน
“ตามหาตัวของโรสรินไปถึงไหนแล้ว” เจย์เดนหนมาถามตะวัน
“ตอนนี้คนของเรากำลังเร่งตามหาทุกที แต่ยังไม่มีวี่แววเลยครับนาย” ตะวันตอบออกไปตามตรง
“ตะวัน นายสงสัยไหมทำไมคุณมารศรึงเลือกส่งระรินมาแทนที่จะส่งโรสรินมาให้ฉัน” เจย์เดนมองไปที่ตะวันแล้วถามขึ้น
“สงสัยครับ แต่คุณเจย์เดนครับ ผมว่าเด็กที่ชื่อระรินไม่ธรรมดาแน่นอนครับ เด็กคนนี้ต้องมีอะไรพิเศษแน่ๆ” ตะวัน
“อือ ฉันก็รู้สึกแบบนั้น ตามดูเด็กคนนั้นไม่ให้คลาดสายตาแล้วมารายงานฉันทุกอย่าง” เจย์เดนออกคำสั่งแล้วนั่งลงที่โต๊ะทำงานทันที
“แม่สาวตุ๊กตากระเบื่องเคลือบเธอจะหนีฉันไปไหนรอด” เจย์เดนมองไปที่รูปถ่ายของโรสรินแล้วพึมพำออกมาเบาๆ
เวลาล่วงเลยไป เกือบสองอาทิตย์ ระรินก็ไปเรียน เลิกเรียนมาทำงาน วนๆซ้ำๆอยู่แบบนี้จขนมาถึงช่วงเวลาปิดเทอมช่วงเวลานี้ ระรินมีเวลาว่างมากพอที่จะให้มาร์คพาไปหาสมัครงานเพราะอยากมีงานทำเป็นรายได้เสริมในการซื้อของใช้ ส่วนเงินเดือนของตัวเองก็ให้อีตามาเฟียบ้านั้นหักเป็นการใช้หนี้ไปเลย แต่ระรินไม่รู้เลยว่าทุกการกระทำ ทุกที่ที่ระรินและมาร์คไปอยู่ในสายตาของเจย์เดนตลอดเวลา
วันเงินเดือนออก
“ทำไมไม่หักไปเลยนะต้องให้ฉันเอาไปให้ทำไม” ระรินพึมพำออกมาพรางเดินเข้ามาในบริษัทที่เจย์เดนประจำอยู่ ระรินเดินเข้ามาด้วยชุดชาวสวนธรรมดาเปื้อนดินเปื้อนโคลนเล็กน้อยตามประสา จนพนักงานที่นั้นมองเป็นสายตาเดียวกัน
“มะ มะ มาพบคุณเจย์เดนคะ” ระรินพูดออกมาด้วยน้ำเสียงประม่าเล็กน้อยเพราะทุกคนมองมี่ระรินเป็นสายตาเดียวกัน
“อะ เอ่อ”
“อ้าวมาแล้วเหรอ ไม่เป็นไรเธอมาหาคุณเจย์เดน เข้ามา" ตะวันที่เดินมาเจอระรินและหันไปบอกพนักงานก่อนที่จะบอกให้ระรินเดินตามเข้าไป
ภายในห้องทำงานของเจย์เดน
“คุณเจย์เดนครับ” ตะวัน
“มาแล้วเหรอ” เจย์เดนอยู่ในท่านั่งพิงหลังมือคืบบุหรี่หมุนเก้าอี้กลับมาแล้วถามขึ้น
“ยังไม่มามั่งคะ คงยังอยู่ที่สวนอยู่” ระรินพึมพำออกมา
“หึ ปากคอเราะร้ายจังนะ ยัยเด็กกะโปโล” เจย์เดนพึมพำออกมาเบาๆ
“นี้เงิน ฉันเอามาใช้หนี้นาย” ระรินเดินถือซองเงินเดือนมาให้เจย์เดน
“เงินเดือนเท่าไหร่ ตะวันนับสิ” เจย์เดนมองมาที่ซองเงินเดือนแล้วพูดขึ้น
“แปดพันกับอีก เก้าสิบหกบาทครับ” ตะวันนับแล้วบอกยอดเงินออกมา
“หึ เป็นหนี้ทั้งหมดรวมต้นรวมดอก 8พันล้านบาทใช้หนี้เดือนละ แปดพันคงชาติหน้าสิน่ะถึงจะหมด” เจย์เดนยิ้มออกมาแล้วมองไปที่ระริน
“แปดพันก็เงิน” ระรินมองไปที่เจย์เดนแล้วพูดขึ้น