bc

เจ้าสาวร้ายซาตานรัก

book_age18+
1.0K
FOLLOW
3.1K
READ
billionaire
love-triangle
possessive
love after marriage
arrogant
drama
bxg
office/work place
enimies to lovers
gentle and slow
like
intro-logo
Blurb

เขาตั้งแง่รังเกียจเพราะหล่อนต่ำต้อยกว่า บังคับขู่เข็ญให้เลิกยุ่งกับคนในตระกูลอนันตเมธา ขณะที่หล่อนกลับเชิดหน้าท้าทาย ความเย่อหยิ่งของอีกฝ่ายกลายเป็นความยั่วยวนที่ดึงดูดให้เขาเข้าใกล้ สิ่งที่ตามมาจึงมิใช่การแย่งชิงแต่มันคือการสั่งสอนให้รู้ว่าคนอย่างเขาทำได้ทุกอย่าง แม้แต่การแยกหล่อนออกจากคนรัก!!

ทว่า...เขากลับตกหลุมที่ตัวเองขุด ถูกพันธนาการด้วย ‘ขยะ’ ที่เคยตราหน้าผูกมัดจนดิ้นไม่หลุด!!

chap-preview
Free preview
ลูกขยะ
๑ ลูกขยะ ตอนเย็นวันอาทิตย์ท้องฟ้าเริ่มมืด ลมเริ่มพัดแรง เด็กหญิงตัวน้อยวัยสิบขวบชะเง้อใบหน้าเล็กๆ มองออกไปนอกหน้าต่างไม้บานเก่าที่มีสีเนื้อไม้ซีดเสียจนไม่เหลือเค้าเดิมให้เห็น เด็กหญิงกันติชา ธารารักษ์ หนูน้อยผู้กำพร้าบิดาตั้งแต่ยังจำความไม่ได้ เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่เริ่มมืดครึ้มไปด้วยเมฆฝนที่ตั้งเค้าหนาแน่นไม่นานก็เทลงมา ภายในใจเริ่มเป็นห่วงมารดาที่ทำงานเป็นพนักงานเก็บขยะ ทั้งที่ตอนนี้เป็นเวลาร่วมหกโมงเย็นเข้าไปแล้วแต่ยังไม่มีวี่แววว่าท่านจะกลับมาเสียที… ปัง! ใบหน้าของหนูน้อยหดกลับเข้ามาแทบไม่ทันเมื่อหน้าต่างบานเก่าถูกลมตีเข้ามาเต็มแรง สายฝนที่สาดซัดไม่ยอมหยุดนั้นทำให้หนูน้อยเดินกลับไปยังมุมหนึ่งของบ้านซึ่งใช้เป็นที่นอนสำหรับเด็กหญิงและมารดา หนูน้อยนั่งกอดเข่าเนื้อตัวสั่นเทา ใบหน้าเล็กๆ ชะเง้อมองออกไปนอกบ้านเป็นระยะๆ ขณะที่ฟ้าร้องครืนครานดังกึกก้องน่ากลัว ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังถี่ ทำให้หนูน้อยรีบวิ่งไปยังประตูบ้านด้วยความดีใจเมื่อรู้ว่ามารดากลับมาแล้ว “แม่!” กิ่งแก้วพาเนื้อตัวอันเปียกปอนเข้าบ้านด้วยความหนาวสั่น ก่อนจะผลักประตูปิดลงตามเดิมแล้วหันมารับผ้าขนหนูที่ลูกสาวตัวน้อยวิ่งไปหยิบมาส่งให้ตรงหน้า “ขอบใจ กลัวไหมลูก ฟ้าร้องแรงเชียว”  เด็กหญิงส่ายหน้าให้มารดาก่อนจะตอบออกไป “ไม่กลัวจ้ะ แต่หนูเป็นห่วงแม่ ทำไมวันนี้ถึงกลับเย็นล่ะจ๊ะ” กิ่งแก้วผลัดผ้าที่เปียกชื้นออกจากร่าง ก่อนจะหันมาพูดกับบุตรสาวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “ติดฝนน่ะสิลูก แม่ต้องหยุดพักอยู่ร้านค้าหน้าปากซอยอยู่พักใหญ่ พอฝนเริ่มซาแม่ถึงได้รีบมานี่แหละ เป็นห่วงหนู” เด็กหญิงกันติชาเข้าไปหามารดาพร้อมกับเงยใบหน้าเล็กๆ ขึ้นมองท่านด้วยความรู้สึกอบอุ่นใจ “เป็นอะไรลูก มายืนมองหน้าแม่แบบนี้” กิ่งแก้วดึงบุตรสาวเข้ามากอดพลางลูบศีรษะแล้วถามออกไปด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เปล่าจ้ะ แม่เดี๋ยวพรุ่งนี้ตอนเย็นหลังเลิกเรียนหนูจะออกไปช่วยแม่เก็บขยะนะจ๊ะ”  กิ่งแก้วเลิกคิ้วมองบุตรสาวด้วยแววตาไหวระริก ก่อนจะยิ้มแย้มออกมา “ไม่ต้องหรอกลูก เดี๋ยวก็ถูกเขาไล่มาอีกหรอก คราวก่อนก็ทีหนึ่งแล้วไม่ใช่เหรอ” คำพูดของมารดาทำให้เด็กหญิงกันติชาหน้าบึ้งเมื่อคิดถึงเด็กผู้ชายตัวสูงโย่ง ลูกชายเจ้าของบ้านหลังเบ้อเร่อที่หล่อนไปคุ้ยถังขยะหน้าบ้านของเขาคราวนั้น “แต่หนูไม่ได้ทำเลอะเทอะนี่จ๊ะ หนูค้นแล้วก็เก็บเหมือนเดิม คนนิสัยไม่ดี ตัวเองก็รวยยังจะมาว่าเราอีก ไม่มีน้ำใจ!” กิ่งแก้วได้แต่ยิ้มอ่อนๆ ทว่าภายในใจคิดเป็นห่วงบุตรสาวตัวน้อย “ถ้าหนูอยากช่วยแม่จริงๆ ก็ไปเก็บที่เขาให้เราเก็บจะได้ไม่ต้องไปมีเรื่องกับเจ้าของบ้านเขาอีก” กิ่งแก้วบอกพลางลูบศีรษะเล็กๆ ของหนูน้อยอย่างเอ็นดูรักใคร่ “แล้วทำไมพี่อีกคนเขาไม่เห็นว่าเลยล่ะจ๊ะ หนูเจอเขาทีไร เขาก็ให้หนูเก็บได้ทุกที”เด็กหญิงกอดอกมองมารดาด้วยแววตาเป็นคำถาม จนผู้เป็นมารดาต้องผ่อนลมหายใจยิ้มๆ “งั้นก็เอาอย่างนี้ ถ้าหากหนูเดินผ่านหน้าบ้านเขาไปแล้วเห็นพี่คนที่ใจดีอยู่ หนูก็ค่อยเก็บ แต่ถ้าเห็นคนที่ชอบดุอยู่ หนูต้องรีบเดินผ่านไปให้เร็วเข้าใจไหมลูก” กิ่งแก้วก้มลงพูดกับลูกสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนจึงได้รับรอยยิ้มแจ่มใสของบุตรสาวตอบกลับมา “ได้จ้ะแม่ หนูจะทำตามที่แม่บอก” เวลา 17.12 น. ของวันรุ่งขึ้น… เด็กหญิงกันติชาในชุดกางเกงขาสั้นสีดำกับเสื้อยืดแขนสั้นสีขาวที่ตอนนี้กลายเป็นสีกระดำกระด่างเพราะความเก่าและเปรอะเปื้อนไปด้วยสิ่งปฏิกูลจากขยะที่เก็บมาตลอดสองข้างทาง เด็กหญิงตัวน้อยมาหยุดอยู่หน้าคฤหาสน์หลังโตก่อนจะค่อยๆ ย่องเข้าไปเกาะประตูรั้วสนามหญ้าหน้าบ้านว่างเปล่าไม่มีคนใจร้ายมาเล่นฟุตบอลเหมือนเคย แต่พี่ใจดีคนนั้นก็หายไปด้วย แม่หนูน้อยคิดถึงคำเตือนของมารดา แล้วทำหน้าครุ่นคิด… แม่บอกว่า ถ้าคนใจร้ายอยู่ให้รีบเดินหนี แต่ถ้าคนใจดีอยู่ให้เก็บได้ แล้วถ้าหากไม่มีใครอยู่แบบนี้ก็คงไม่มีใครมาว่าแน่นอน เด็กน้อยคิดได้ดังนั้นก็ยิ้มให้กับตัวเองแล้วรีบวิ่งไปยังถังขยะใบใหญ่ที่ตั้งเยื้องประตูด้านหน้าคฤหาสน์หลังโตทันที แต่ขณะที่เด็กหญิงกำลังโน้มถังขยะใบใหญ่ รถยนต์คันใหญ่สีดำมันปลาบก็แล่นผ่านเด็กหญิงตัวเล็กเข้าไปภายในคฤหาสน์ ทว่าเพียงแค่พ้นประตูไปได้สามเมตรรถก็หยุดลงกะทันหัน พร้อมกับเด็กชายตัวสูงเก้งก้างที่ก้าวออกมาด้วยสีหน้าถมึงทึง พลางกระแทกประตูรถยนต์ปิดดังปังขณะตวัดสายตามองออกไปนอกรั้วบ้านก่อนจะสาวเท้าตรงไปยังเป้าหมายอย่างรวดเร็ว “นี่เธอ! ยัยเด็กขยะหยุดเดี๋ยวนี้นะ”  เด็กหญิงตัวน้อยสะดุ้งโหยงเมื่อเสียงคุ้นหูตวาดดังลั่นอยู่ด้านหลังทำให้ขวดน้ำพลาสติกหลุดออกจากมือน้อยมอมแมมอย่างรวดเร็ว ถังขยะที่ถูกปล่อยเด้งกลับไปตั้งอยู่ที่เดิมเมื่อเจ้าของใบหน้าซีดเซียวรีบปล่อยมือกะทันหันริมฝีปากจิ้มลิ้มเผยอเตรียมอธิบาย... “เอ่อ…หนู” “ออกไป!”  เสียงตวาดที่ดังมาเป็นครั้งที่สองทำให้เด็กหญิงกันติชาน้ำตาเกือบไหลเพราะความตกใจและหวาดกลัว แต่แล้วแม่หนูน้อยก็ใจชื้น เมื่อมีเสียงคุ้นหูของใครอีกคนดังขึ้น “โธ่พี่ธีร์ อย่าไปเอ็ดน้องสิ... ปล่อยให้น้องเก็บเถอะนะ” เด็กหญิงหันขวับ เรียวปากเล็กๆ เผยอยิ้มกว้างด้วยความดีใจเมื่อเด็กชายตัวสูงน้อยกว่าคนหน้าดุซึ่งอยู่ในชุดนักเรียนเช่นเดียวกันเดินเข้ามาห้ามทัพไว้ได้ทัน “นายไม่ต้องเลย ใจดีกันนัก นายน่ะไม่รู้อะไร วันก่อนยัยเด็กขยะนี่ด่าฉันด้วย”  ธีร์ธวัชหันหน้าบึ้งๆ ไปพูดกับน้องชายอย่างโกรธจัด ซึ่งธีรศักดิ์ก็ได้แต่ส่ายหน้า พี่ชายเขาเป็นอะไรไป เจอเด็กคนนี้ทีไรเป็นต้องเข้ามาหาเรื่องได้ทุกที “โธ่น้องอาจไม่ได้ตั้งใจก็ได้ ใช่ไหมน้อง... ชื่ออะไรล่ะเราน่ะ” ธีรศักดิ์หันมาถามเด็กหญิงตัวน้อยที่ยืนหน้าซีดอยู่ข้างถังขยะ “หนูชื่อ…” “ไม่ต้อง! ฉันไม่อยากรู้จักเธอ จะไปไหนก็ไปเลย เกลียดขี้หน้าชะมัด ดูสิเนื้อตัวก็สกปรกมอมแมม เหม็นอีกต่างหาก” เด็กหนุ่มพูดพลางแสดงสีหน้ารังเกียจอย่างเปิดเผย จนคนเป็นน้องรู้สึกสงสารหนูน้อยที่ยืนทำท่าเหมือนจะร้องไห้ เขามองดูแขนขาเล็กๆ ที่เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบฝุ่นและเสื้อผ้าที่มอมแมมไปด้วยคราบสกปรกจากการคุ้ยหาขยะอย่างรู้สึกเวทนา “พี่เข้าบ้านก่อนเถอะ เดี๋ยวผมดูน้องให้เอง” ด้วยความเป็นคนมีจิตใจดีของธีรศักดิ์ เขาจึงกล่าวอาสาพี่ชายพร้อมกับหันไปมองเด็กหญิงที่ยืนเกร็งหน้าซีดด้วยแววตาอ่อนโยน “ดี นายจัดการไล่กลับบ้านไปเลยนะ” ธีร์ธวัชสั่งด้วยน้ำเสียงห้วนๆ “อ้อ แล้วไม่ต้องมาเก็บขยะหน้าบ้านฉันแล้วนะ เสียบรรยากาศหมด” คนพูดตวัดสายตากลับมามองเด็กหญิงตัวน้อยอีกครั้งก่อนจะก้าวยาวๆ เข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็วปล่อยให้ธีรศักดิ์ได้แต่ส่ายหน้าอย่างระอาก่อนหันกลับมาเอ่ยกับคนตัวเล็ก “อย่าถือสาพี่ธีร์เลยนะ เขาเป็นแบบนั้นเอง ว่าแต่น้องชื่ออะไรล่ะ” เด็กหนุ่มเอ่ยถาม แม่หนูน้อยที่ยืนก้มหน้านิ่งจึงยอมเงยขึ้นตอบอีกฝ่าย “หนูชื่อกันจ้ะ ชื่อจริงชื่อว่ากันติชา” “ชื่อเพราะจัง แล้วทำไมต้องมาเก็บขยะล่ะ” เด็กหญิงยิ้มให้เขา เมื่ออีกฝ่ายกล่าวชม “อ๋อ หนูอยากช่วยแม่หาเงิน แม่หนูทำงานเป็นคนเก็บขยะ พอเลิกเรียนหนูก็เลยมาเก็บบ้าง แล้วเอาไปขายต่อ จะได้มีเงินเก็บเยอะๆ” ธีรศักดิ์เลิกคิ้วมองเด็กหญิงอย่างทึ่งๆ เด็กตัวแค่นี้รู้จักคิดมากกว่าผู้ใหญ่บางคนเสียอีก ความรู้สึกนี้ทำให้เขานึกแวบไปถึงพี่ชายที่เดินเข้าบ้านไปแล้ว “แล้วเรียนอยู่ที่ไหนล่ะ” “หนูเรียนอยู่โรงเรียนวัดตรงโค้งนี่เองจ้ะ” เด็กหนุ่มพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะล้วงมือลงไปในกระเป๋าเป้พลางหยิบขนมปังออกมาสองห่อแล้วส่งให้เด็กหญิง “อ่ะ พี่ให้.... เอาไปกินนะ” แม่หนูน้อยนิ่งชะงัก แม้นัยน์ตาจะพราวระยับขึ้นก็ตาม “แต่ว่า หนู…” “เอาไปเถอะ พี่ให้” เขาคะยั้นคะยอ เด็กหญิงรับขนมปังที่เขาส่งให้มาถือไว้แล้วยกมือไหว้ขอบคุณ “พี่ชื่อทิมนะ เรียกพี่ทิมก็ได้” หนุ่มน้อยแนะนำตัวยิ้มๆ ขณะที่แม่หนูน้อยยิ้มตอบแล้วชะเง้อมองข้างในรั้วบ้าน “แล้วคนนั้นเขาไม่ว่าเหรอจ๊ะ ที่พี่ทิมมายืนคุยกับหนูแบบนี้” ธีรศักดิ์ยิ้มให้ก่อนส่ายหน้า “ไม่หรอก เขาไม่สนใจอะไรหรอก ว่าแต่บ้านเราอยู่ที่ไหน” เขาถามเมื่อเด็กหญิงยัดขนมปังใส่กระเป๋ากางเกงข้างละถุงจนตุงออกมาอย่างขบขัน “หนูอยู่ข้างหลังที่เขาทิ้งขยะจ้ะ อยู่กับแม่ แต่ว่าพี่จะให้หนูเก็บที่เหลือได้ไหมจ๊ะ ถ้าให้ หนูขอขวดพลาสติกนะ” “ได้สิ เก็บเลย พี่อนุญาต” พอเขาอนุญาตเด็กหญิงก็รีบลงมือเก็บทันที เด็กหนุ่มเห็นเด็กน้อยโหนถังขยะใบใหญ่อย่างยากลำบากจึงเข้าไปช่วยเอียงให้ เด็กหญิงกันติชาจึงหันมายิ้มให้พร้อมคำขอบคุณ “เรียนอยู่ชั้นอะไรแล้วล่ะ” เขาชวนคุยอีก “หนูอยู่ปอสี่ อายุสิบขวบ พี่ทิมล่ะจ๊ะ” เด็กหญิงแนะนำตัวพลางถามเขาออกไปทั้งๆ ที่มือก็คุ้ยหาขยะอย่างคล่องแคล่ว “พี่อยู่มอหนึ่ง อายุสิบสามขวบ” เขาโต้ตอบเลียนแบบอย่างนึกสนุก เด็กหญิงหยุดเก็บขยะพลางยกมือขึ้นนับนิ้วก่อนจะร้องบอกออกมา “พี่ทิมแก่กว่าหนูสามขวบแน่ะ แต่บ้านพี่รวยเนอะ บ้านหลังใหญ้ใหญ่” ธีรศักดิ์หัวเราะออกมากับคำชมของเด็กน้อย “พี่ไม่รวยหรอก พ่อพี่ต่างหากที่รวย” “อ้าว แล้วมันไม่เหมือนกันตรงไหน” คิ้วเล็กๆ ขมวดมุ่น เมื่อเจอคำตอบแบบนั้นเข้า “ก็ต่างกันตรงที่พ่อพี่ทำงานก็เลยมีเงินเยอะ แต่พี่ยังไม่ได้ทำงานก็เลยยังไม่มีเงิน ทุกวันนี้ยังขอพ่ออยู่เลย” “อ๋อ...” แม่หนูลากเสียงยาวอย่างเข้าใจ “แล้วคนนั้นล่ะ คนที่ดุๆ น่ะ เขาขอเงินพ่อแบบพี่หรือเปล่า”  “ขอสิ พี่ธีร์เพิ่งอยู่มอสามเอง ต้องขอเหมือนกัน” คำตอบของธีรศักดิ์ทำให้หนูน้อยเบ้ปากอย่างไม่ชอบใจพลางยกมือขึ้นมานับนิ้วอีกครั้ง “โอ้โห! อายุแก่กว่าหนูตั้งห้าปี! แต่ทำไมไม่รู้จักช่วยพ่อทำงานเหมือนหนูช่วยแม่ทำงานล่ะ แล้วคนนั้นเขาเป็นพี่ของพี่ทิมจริงเหรอ ทำไมเขาดุจัง” คำถามแกมเหยียดหยันของเด็กหญิงทำให้หนุ่มน้อยถึงกับหัวเราะพรืดก่อนตอบ “ก็เป็นจริงๆ น่ะสิ อย่าไปสนใจเขาเลย เอาเป็นว่าทีหลังถ้าจะมาเก็บก็ดูให้ดีนะ ถ้าเห็นพี่อยู่เก็บได้โลด แต่ถ้าเห็นพี่ธีร์อยู่ก็อย่ามาเก็บล่ะ เดี๋ยวถูกดุอีก” “ด่าด้วย เขาชอบด่าหนูว่าสกปรก เขาหาว่าหนูเป็นเด็กขยะ!” เด็กหญิงได้ทีฟ้องปากเล็กยื่นออกอย่างไม่ชอบใจ ขณะที่หนุ่มน้อยลูกชายคนเล็กของเจ้าของบ้านก็ได้แต่ถอนใจยิ้มๆ เพราะไม่รู้จะพูดอย่างไร เขารอจนแม่หนูช่างพูดเก็บขยะจนเสร็จจึงได้กลับเข้าบ้าน...

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

FirstLove น้องพี่ที่รัก

read
6.0K
bc

My Buddy เล่นเพื่อน

read
14.6K
bc

นางสาวอินทุอรณ์

read
5.4K
bc

กระชากกาวน์

read
4.4K
bc

ซ่านเสน่หา พี่น้องต่างสายเลือด

read
3.7K
bc

ร้อยสวาททาสหัวใจ

read
2.6K
bc

แคดดี้ที่รัก

read
1.2K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook