วูบ〜
ดวงวิญญาณสาวลอยตามแผ่นหลังกว้างของคนร่างใหญ่ออกไปนอกบ้านเมื่อเห็นว่าในมือใหญ่ของใครบางคนถือมีดออกไปด้วย
“จะทำอะไรน่ะ” ประโยคคำถามของดวงวิญญาณสาวดังพึมพำหากแต่ไม่ได้ต้องการคำตอบจากเจ้าของแผ่นหลังกว้างเพราะเธอคิดว่าเขามองไม่เห็นเธอ
“อึ๊บ!” ฝ่าเท้าใหญ่ปีนป่ายขึ้นไปบนต้นไม้ใหญ่ข้างรั้วบ้าน คิ้วเรียวสวยของดวงวิญญาณสาวที่ลอยตามขึ้นไปบนต้นไม้ถึงกับขมวดเข้าหากันเป็นปม ทว่าร่างใหญ่ที่มองเห็นเงาดำมืดมิดกลับคิดว่าวิญญาณร้ายที่ลอยตามขึ้นมาอาจจะทำอันตรายเขาให้ตกต้นไม้ก็เป็นได้ แต่เขาก็ไม่กลัวหรอก หากเป็นอย่างนั้นจริงเขาจะได้เริ่มเปิดศึกกับเธอ
ฉับ ฉับ ฉับ!
มือใหญ่สะบัดมีดเข้าหากิ่งไม้ที่ยื่นออกไปนอกรั้วบ้านหลังข้าง ๆ จนเกิดเสียงดัง แรงกระแทกจากคมมีดทำให้ต้นไม้ใหญ่สั่นไหวเล็กน้อย ตอนนี้ดวงวิญญาณสาวเข้าใจแล้วว่าคนบนต้นไม้ตั้งใจจะทำอะไร
“สงสัยต้องมาดูบ่อย ๆ แล้วมั้ง จะได้ไม่ยื่นออกไปบ้านคนอื่นเขา” ร่างใหญ่พึมพำ
“เดี๋ยวก็ตกหรอก” ดวงวิญญาณสาวเอ่ยขณะลอยขึ้นไปนั่งห้อยขาบนกิ่งไม้ใหญ่ไม่ไกลกันนัก
ฉับ ฉับ ฉับ!
ร่างใหญ่สะบัดมีดเข้าหากิ่งไม้อย่างชำนาญ เสียงหวานเมื่อครู่ดังกระทบหูพลอยให้ริมฝีปากหนานั้นยกยิ้มไปด้วย บางครั้งเขาเองก็นึกเอ็นดูเจ้าของเงาดำนี้เพราะชอบทำตัวราวกับเป็นคนปกติไหนจะชอบพูดอะไรที่ทำให้เขาต้องขมวดคิ้วอยู่หลายครั้ง
“ตกลงใช่หรือไม่ใช่กันแน่” ริมฝีปากหนาพึมพำขณะริดกิ่งไม้เล็กออกจากกิ่งเล็กหลังจากตัดแต่งกิ่งใหญ่แล้ว เขาอยากรู้ว่าเงาดำที่วนเวียนอยู่ในบ้านหลังนี้ใช่วิญญาณร้ายที่จ้องจะเอาชีวิตพี่สาวเขาหรือเปล่า
คิดอะไรเรื่อยเปื่อยได้ไม่ทันไร เสียงน้ำไหลกระทบพื้นหญ้าก็ดังขึ้น ดวงตาคมกริบของคนบนต้นไม้มองไปตามต้นเสียงก็พบว่ารั้วบ้านหลังข้างกันมีเรือนร่างอรชรของใครบางคนยืนรดน้ำต้นไม้อยู่
“เจ้มะนาวสวัสดีครับ” เสียงทุ้มเอ่ยทักทายหญิงสาวที่กำลังยืนรดน้ำต้นไม้อยู่ริมรั้วติดกันเมื่อเห็นว่าเป็นเพื่อนรักของพี่สาวตน
“...!” คนถูกทักชะงักไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงก่อนจะมองหาต้นเสียงแล้วฉีกยิ้มกว้างให้เขาเมื่อมองเห็นใครบางคนยืนอยู่บนกิ่งไม้ใหญ่ข้างรั้วบ้าน “ไม้? ไม้จริง ๆ เหรอ?”
“พอดีผมเพิ่งย้ายมาเมื่อวานอะเจ้ ว่าจะไปทักทายแต่มัวยุ่งเรื่องจัดบ้านแล้วก็ไปซื้อของกินมาติดบ้านไว้เลยไม่ได้เข้าไปทักสักที” น้ำเสียงร่าเริงของคนอายุน้อยกว่าเอ่ยบอกก่อนจะถามข่าวคราวของผู้ใหญ่ที่ตนรู้จัก “ว่าแต่เจ้กับคุณป้าสบายดีไหม”
“สบายดี ๆ แล้วนี่มีอะไรให้พี่ช่วยไหม อยากได้อะไรเพิ่มหรือขาดเหลืออะไรบอกได้เลยนะ หรือจะมากินข้าวที่นี่ก็มาได้ตลอดเลยนะ” เสียงหวานตอบกลับ
มะนาวรู้จากมัดหมี่มาว่าน้องชายของเพื่อนรักจะมาพักที่บ้านหลังข้างเธอ เธอจึงไม่แปลกใจอะไรเมื่อเจอเขา แต่เธอกังวลเรื่องอื่นมากกว่า...
“โหเรื่องนั้นเจ้นาวไม่ต้องห่วงหรอก เจ้หมี่กับเฮียจัดการให้ผมหมดแล้ว”
“ว่าแต่ยัยหมี่จะกลับมาอีกทีวันไหนอะ ไม้พอจะรู้ไหม” เสียงหวานเอ่ยถามถึงเพื่อนรักที่ช่วงหลัง ๆ มานี้ไม่ได้เจอกันเลย
“เห็นว่าจะกลับมาตอนเจ้นาวแต่งงานโน่นแหละ ตอนนี้ที่บ้านกำลังเปิดร้านอาหารยุ่งมากเลยเจ้”
“อ๋อแบบนี้นี่เอง” เจ้าของเสียงหวานพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจเมื่อรู้ข่าวคราวของเพื่อนที่นาน ๆ ครั้งจะได้คุยกันผ่านโทรศัพท์ เพราะต่างคนต่างก็ยุ่งกันไปตามหน้าที่ ยิ่งเพื่อนรักแต่งงานแล้วก็มีเวลามาเจอเธอน้อยลง
“เจ้… ถ้าผมถามอะไรอย่างนึงเจ้จะว่าผมบ้าปะ” คนบนต้นไม้พูดขึ้นด้วยสีหน้าลังเล เขาไม่แน่ใจว่าควรถามเรื่องนี้ดีไหมเพราะรู้ดีว่ามะนาวนั้นกลัวผีมากแค่ไหน แต่ถ้าไม่ถามออกไปเรื่องนี้ก็กวนใจเขาไม่เลิก
“อื้ม ถามมาสิ”
“คือประมาณสองสามเดือนที่แล้วอะ เจ้หมี่กลับไปบ้านแล้วบอกผมว่ามีผีจะมาเอาเจ้แกไปอยู่ด้วย ถ้าไม่ใช่ว่าเจ้หมี่เป็นคนเชื่อเรื่องผีผมคงว่าแกคิดมากไป แต่นี่คนไม่เคยเชื่อเรื่องผีมาพูดแบบนี้ผมก็อดคิดตามไม่ได้” คนอายุน้อยกว่าพูดขึ้น “ผมได้ข่าวว่าบ้านเช่าหลังนี้ผีเฮี้ยนเหรอเจ้ เจ้คิดว่ามันเฮี้ยนจริงปะ เมื่อวานผมออกไปหน้าหมู่บ้านลุงยามก็บอกว่าใครมาอยู่มีอันต้องย้ายออกภายในวันสองวัน แต่มีเจ้หมี่อะที่อยู่นาน เจ้นาวคิดว่าไง”
“…” ประโยคยาวยืดของคนบนต้นไม้ทำเอาใบหน้าสวยหวานถึงกับถอดสีราวกับรู้อะไร “พี่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะไม้ แต่ที่เขาลือกันก็เรื่องจริงนะ ที่ว่าคนมาเช่าบ้านหลังนี้แล้วย้ายออกภายในวันสองวันหมดเลยน่ะ แต่เรื่องอื่นพี่ก็ไม่แน่ใจ”
“อืมม…” ร่างใหญ่พยักหน้าน้อย ๆ เมื่อได้คำตอบ ถึงจะไม่ค่อยเชื่อที่มะนาวพูดเท่าไหร่ก็ตาม
“ว่าแต่ไม้ไม่กลัวผีใช่ไหม”
“ไม่หรอกเจ้ เจ้อย่าลืมสิว่าตระกูลของไม้เป็นตระกูหมอผีเก่านะ ถึงตอนนี้จะไม่มีใครสืบทอดวิชาหมอผีแต่ไม้ก็มีทั้งตำราแล้วก็ของดีที่ทวดเก็บไว้ให้เยอะแยะ อีกอย่างไม้ก็เริ่มฝึกอะไรตามตำราไว้ด้วย”
“...” คำตอบของไม้ยิ่งทำให้มะนาวมีสีหน้าเป็นกังวลชัดขึ้น มันยิ่งทำให้ไม้สงสัยว่าบ้านหลังนี้ต้องมีอะไรแน่ ๆ
“ถ้าผีไม่อยู่ส่วนผีก็คงได้เห็นดีกันอะเจ้” หากแต่ประโยคถัดมาของชายหนุ่มกลับทำให้ดวงวิญญาณสาวที่นั่งฟังอย่างเงียบ ๆ ถึงกับขนลุก ราวกับว่าเขาตั้งใจขู่เธออย่างไรอย่างนั้น แต่จะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อเธอพรางตัวดีขนาดนี้
“แต่ยังไงก็ระวังตัวด้วยนะ เผื่อไม่ใช่ผีแต่เป็นพวกขโมยขโจร”
“ครับเจ้”
วันนี้ทั้งวันไม้ยุ่งกับการตัดแต่งกิ่งไม้น้อยใหญ่บนต้นไม้ที่อยู่ตามรั้วบ้าน ทั้งยังจัดการตัดหญ้าที่สูงเกินไปก่อนจะเข้าไปจัดแจงบ้านด้านในให้เข้าที่เข้าทาง เพราะเมื่อวานเขายังทำไม่เสร็จดี กระทั่งล่วงเลยมาเป็นเวลามืดค่ำหลังจากชายหนุ่มทานมื้อเย็นเสร็จแล้วจึงเข้าไปอาบน้ำอาบท่าเตรียมตัวพักผ่อน
วูบ〜
ดวงวิญญาณสาวปรากฏกายขึ้นในห้องนอนของใครบางคนพร้อมกับกวาดสายตามองหาผู้เป็นเจ้าห้อง
ซ่า!
ทว่าเสียงสายน้ำที่ไหลกระทบพื้นและกลิ่นสบู่ที่โชยออกมาจากประตูห้องน้ำที่ปิดสนิทก็ทำให้ดวงวิญญาณสาวรู้ว่าเจ้าของห้องกำลังอาบน้ำอยู่
“มีของดีติดตัวมาจริง ๆ เหรอ?” เสียงหวานพึมพำพลางสอดส่องสายตาหาสิ่งของที่เกรงว่าวันข้างหน้าจะเป็นอันตรายกับเธอเข้า หากเธอเจอมันเธอจะไหว้วานให้มะนาวแอบเข้ามาในนี้เพื่อกำจัดทิ้งเสีย นอกจากมัดหมี่ผู้เป็นนายหญิงของเธอแล้ว มะนาวก็เป็นอีกคนที่รู้เรื่องราวของโลกวิญญาณเพราะรายนั้นก็กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกับวิญญาณในเร็ว ๆ นี้เช่นกัน
แกร๊ก!
“เฮือก!” เสียงประตูห้องน้ำที่เปิดออกทำให้ร่างบางสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ มือเรียวปิดปากตัวเองไว้แน่นก่อนจะกระโดดขึ้นเตียงแล้วดึงผ้าห่มมาคลุมตัวใว้ หัวใจดวงน้อยเต้นระส่ำราวกับจะทะลุออกมานอกอกเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าใหญ่ดังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ
ตึก ตึก ตึก