ตอนที่ 1 (ครึ่งแรก)

3255 Words
Demon's Love รักอันตราย... คุณชายมาเฟีย! Writer : Aile'N ตอนที่ 1 (ครึ่งแรก) ปัง! "อ๊าก!" กระสุนหนึ่งนัดจากปลายกระบอกปืนสีดำมันวาวแหวกเนื้ออุ่นๆ ตรงหน้าขาของคนที่นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นห้องสี่เหลี่ยมกว้างอันเป็นห้องทำงานของนายใหญ่แก๊งมาเฟียตระกูลฟิลเลอร์จนทะลุบดกระดูกข้างในแตกละเอียด เศษเนื้อและเลือดสีแดงสดกระเซ็นเล็กน้อยแต่ความเจ็บปวดกลับมหาศาลจนเจ้าของร่างกายนั้นกรีดร้องลั่นห้อง ไม่นานเลือดแดงฉานก็ไหลซึมออกมานองเต็มพื้นเพราะคมกระสุนปลิดเส้นเลือดใหญ่จนขาดสะบั้น! ปัง! "อ๊าก!" ตุ้บ! อีกหนึ่งนัดเจาะเข้าตรงจุดเดิมแต่เป็นหน้าขาอีกฟังจนร่างท้วมนั้นไม่สามารถทรงตัวให้นั่งอยู่ได้ แรงโน้มถ่วงของโลกจึงเหนี่ยวรั้งคนๆ นั้นให้ลงไปนอนโอดครวญอยู่บนพื้นอย่างน่าเวทนา แต่ร่างสูงในชุดสูทเนี้ยบตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าที่ยืนถือเพชฌฆาตสีดำวาวกลับยืนมองร่างท่วมเลือดสีแดงสดนั้นด้วยสายตาเรียบนิ่ง ไร้วี่แววซึ่งความเมตตา! "อ๊าก! ฆะ..ฆ่ากู!! ฆ่า..กู อึก เลย!!" คนบนพื้นกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวแม้สภาพตัวเองจะเหมาะกับการร้องขอชีวิตมากกว่าแต่เขาก็ไม่ทำ! เพราะรู้ดีแก่ใจว่ากับคนตรงหน้าต่อให้อ้อนวอนอย่างไรทางเดียวที่คนๆ นั้นจะมอบให้ก็คือ 'ความตาย' "หึหึ.. จะรีบตายไปไหน คนอย่างมึงนรกเขาไม่ต้องการหรอก อยู่ให้กูทรมานเล่นดีกว่า" น้ำเสียงเรียบนิ่งดุจน้ำทะเลกว้างแต่ลึกลงไปภายใต้ผืนน้ำที่นิ่งสงบนั้นกำลังเชี่ยวกราดก่อตัวเป็นคลื่นพายุลูกใหญ่เตรียมซัดเข้าฝั่งทำลายล้างทุกอย่างให้วอดวายในพริบตาเอ่ยขึ้นมาเรียบๆ ใบหน้าหล่อเหลาเฉยชานั้นไร้ที่ติแม้อายุจะเหยียบเลข 4 กว่าๆ เข้าไปแล้วแต่ก็ยังดูอ่อนวัยราวกับคนเพิ่งจะ 30 ต้นๆ ร่างสูงกำยำเชื้อสายเยอรมันครึ่งหนึ่งหยัดยืนล้วงกระเป๋ากางเกงมองเหยื่อร่างโชกเลือดตรงหน้าอย่างไม่เดือนร้อนใจ ก๊อกๆ! "นายครับ นายน้อยมาแล้วครับ" เสียงเคาะประตูไม่ได้ทำให้นายใหญ่ผู้น่าเกรงขามสนใจ แต่เป็นมือขวาคนสนิทที่ยืนอยู่ข้างกายเป็นคนเดินไปเปิดประตูให้ เมื่อร่างสูงของคนที่ได้ชื่อว่าเป็น 'นายน้อย' ของแก๊งปรากฏขึ้นทุกคนในห้องต่างก็ก้มหัวทำความเคารพกันอย่างพร้อมเพรียง ร่างนั้นเดินเข้ามาในห้องเพียงไม่กี่ก้าวก่อนหยุดยืนนิ่ง ดวงตาคมกริบเรียบเฉยแววตาแบบเดียวกับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อปราดมองไปที่ร่างโชกเลือดตรงหน้าบิดาเล็กน้อย ไม่นานผู้นำแก๊งก็หันมามองผู้มาใหม่แล้วเหยียดยิ้มให้บางๆ เพียงแค่นั้นคนเป็นลูกก็หลบสายตามองไปที่อื่นโดยไม่พูดอะไร ครั้งที่เท่าไรแล้วก็ไม่สามารถนับได้ที่คนๆ นี้เรียกเขามาพบในตอนที่กำลังจะฆ่าคน! คล้ายๆ ว่าเป็นโรคจิตอย่างหนึ่งก็คงจะไม่ผิดนักที่ดูเหมือนว่าคนเป็นพ่อจะอยากให้เขาเห็น.. อาจจะเพื่อปลุกปั้นสร้างความเคยชินให้เขาเพราะตำแหน่งหัวหน้ามาเฟียตระกูลฟิลเลอร์คนต่อไปก็คือเขา! แล้วถ้าวันนั้นมาถึง.. คนที่จะต้องยืนถือปืนจ่อขมับเหยื่อผู้โชคร้ายและเหนี่ยวไกปลิดชีวิตคนพวกนั้นก็คือเขา!! "รอเดี๋ยวนะไอ้ลูกชาย.. ขอเล่นกับคนทรยศแป๊บนึง" เสียงทุ้มเข้มๆ เอ่ยบอกอย่างอารมณ์ดี ท่าทางนายใหญ่ที่ดูเฉยเมยในตอนแรกจะเริ่มอารมณ์ดีขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อมีอีกคนเข้ามายืนมองเหตุการณ์ด้วย "โชคยังเข้าข้างมึงนะ เพราะมึงจะได้ตายเร็วขึ้น!" ปัง! ปัง! "อ๊าก!!" สิ้นคำปลายกระบอกปืนกระบอกเดิมก็ถูกเล็งไปที่หัวไหล่ของคนทรยศต่อแก๊งที่นอนครวญครางแผ่วเบาอยู่บนพื้นอย่างน่าเวทนา ก่อนที่ปลายนิ้วเรียวยาวจะเหนี่ยวไกยิงออกไปสองนัดเจาะเข้ากระดูกตรงหัวไหล่ซ้ายขวาของร่างนั้นจนทะลุ ร่างสูงผู้มาใหม่เบือนสายตาหนีด้วยความเบื่อหน่ายทันที แต่กระนั้นก็ยังคงได้ยินเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดอยู่ดี "กูไม่ฆ่ามึงทีเดียวหรอก มันง่ายไป.. แต่กูจะให้มันตายช้าๆ อย่างทรมาน!" ปัง! กระสุนอีกหนึ่งนัดเจาะเข้าที่ช่องท้องของเหยื่ออย่างไร้ความปรานี ทั้งที่การจะฆ่าใครสักคนก็แค่เล็งที่หัวนัดเดียวความตายคงจะไม่ไปไหนไกล แต่ร่างสูงนั้นกลับเล็งใส่แต่จุดที่ไม่สำคัญ ไม่ทำให้ตายในทันทีแต่จะตายอย่างช้าๆ และทรมานเจียนขาดใจ! ปัง! "อ๊าก!!" อีกหนึ่งนัดตรงกลางเป้ากางเกงของอดีตลูกน้องที่บังอาจคิดทรยศเผยแพร่ข้อมูลสำคัญของแก๊งรั่วไหลไปให้แก๊งอื่นรู้จนทำให้ความปลอดภัยของแก๊งกำลังสั่นคลอนและต้องขอกำลังจากองค์กรอื่นเข้ามาช่วย ลำพังคนที่มีอยู่นั้นก็ใช่ว่าจะฝีมือไม่ดีแต่พักหลังมานี้มันมีหนอนบ่อนไส้ผุดขึ้นมาอย่างกับดอกเห็ดจนไว้ใจใครอย่างสนิทใจไม่ได้! ฉะนั้นก่อน 1 ปีที่ 'ซีเตอร์' ลูกชายเพียงคนเดียวจะขึ้นรับตำแหน่งเขาจะต้องกำจัดคนทรยศให้สิ้นซาก!! พรึ่บ! "ถ้ามันยังไม่ตายก็อย่าเพิ่งลากออกไป!" มือหนายื่นปืนให้คนสนิทพร้อมสั่งกำชับเสียงเหี้ยม ก่อนจับสูทให้เข้าที่เล็กน้อยแล้วหันมาหาเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองที่ยืนมองมาที่เขาด้วยสายตาเรียบนิ่ง ซีเตอร์มีคุณสมบัติที่จะเป็นมาเฟียได้ดีไม่แพ้เขา หรือที่เรียกกันว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นนั่นแหละ ใบหน้าหล่อเข้มนั้นเรียบนิ่งไร้อารมณ์ แววตาเย็นชาว่างเปล่า พูดน้อยน่าเกรงขาม แม้จะดูนิ่งๆ แต่ฉลาดหลักแหลม เรียนรู้ทุกอย่างได้รวดเร็วอย่างไม่มีที่ติ ทุกอย่างเพอร์เฟ็กต์ตรงใจเขา มีเพียงอย่างเดียวที่ขัดใจอย่างถึงที่สุดก็คือลูกชายเพียงคนเดียวที่มีมันไม่ได้อยากจะเป็นมาเฟียอย่างพ่อของมัน! "มีไรก็รีบพูด.. สะอิดสะเอียน" น้ำเสียงเรียบนิ่งเอ่ยสั่งราวกับคนตรงหน้าไม่ใช่บุพการี ทำเอาคนฟังฉุนไม่น้อยแต่ก็นั่นแหละ.. นี่เป็นการพูดคุยกันปกติไม่ได้มีเรื่องโกรธเคืองกันแต่อย่างใด มุมปากหนายกยิ้มเยาะออกมาก่อนปรายตามองไปยังกองเลือดสีแดงฉานส่งกลิ่นคาวคละคลุ้งไปทั่วห้องที่คนเป็นลูกไม่อยากจะเห็นมัน แต่เขาต่างหากที่จงใจอยากให้ซีเตอร์เห็นมันบ่อยๆ ยิ่งลูกต่อต้านพ่อมันก็ยิ่งอยากบีบบังคับ! "เลิกไปเรียน! ปีหน้าแกต้องขึ้นรับตำแหน่งหัวหน้าแก๊งฟิลเลอร์แทนฉัน ระหว่างนี้ก็เริ่มเรียนรู้งานได้แล้ว ภายใน 1 ปีแกต้องพิสูจน์ให้ฉันเห็นว่าแกดูแลแก๊งของเราได้ ฉันให้เวลาทำใจ 3 วัน จากนั้นแกจะต้องบินไปดูบ่อนที่มาเก๊า!" น้ำเสียงดุดันพูดบอกอย่างจริงจังพร้อมเชิดหน้าขึ้นอย่างหยิ่งทระนง ดวงตาคมกริบมองสบตาเรียบนิ่งของลูกชายไม่ละสายตา เพราะตัวเองเป็นคนผิดสัญญาก็เลยเอาความเป็นพ่อเป็นนายใหญ่ของแก๊งเข้าข่มและก็รู้ว่าซีเตอร์ไม่มีทางขัดใจเขาได้ "ไหนว่าจะไม่มายุ่งเรื่องเรียน.." คนเป็นลูกเอ่ยถามนิ่งๆ ไม่เปลี่ยนท่าที นั่นคือคำสัญญาที่พ่อเคยพูดว่าขอแค่เขาขึ้นเป็นหัวหน้าแก๊งคนต่อไปจะเรียนอะไรพ่อก็จะไม่มายุ่ง แต่แล้วจู่ๆ ก็มาบอกให้เลิกเรียนทั้งที่เพิ่งขึ้นมหาวิทยาลัยแท้ๆ "จะเรียนไปทำไมในเมื่อสุดท้ายแกก็ต้องขึ้นเป็นหัวหน้าแก๊ง ไม่จำเป็นจะต้องเรียนให้เสียเวลา!" คนพูดยกยิ้มเยือกเย็นอย่างไม่สะทกสะท้าน มือที่ล้วงกระเป๋ากางเกงยกขึ้นมาดูนาฬิการาคาแพงยิบที่ข้อมือก่อนเลิกคิ้วเล็กน้อยเมื่อถึงเวลานัดหุ้นส่วนคนสำคัญพอดี "เอาแต่ใจ.." เสียงทุ้มดังเล็ดลอดออกมาจากลำคอทำเอาเจ้าพ่อมาเฟียเงยหน้าขึ้นมาขำเบาๆ แต่หน้าคนพูดกลับไม่ขำด้วย ดวงตาดำขลับจ้องหน้าคนเป็นพ่อเขม็งแสดงอาการไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจน "เตรียมตัวไว้ให้ดี" ผู้นำแก๊งทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านั้น ก่อนเดินเฉียดไหล่ลูกชายออกจากห้องไปพร้อมคนติดตามเป็นขบวน เสียงถอนหายใจเล็ดลอดออกมาอย่างหนักหน่วงทันทีหลังจากที่ประตูบานใหญ่ปิดลง ตาคมเหลือบมองคนของพ่อที่กำลังเก็บกวาดซากไร้วิญญาณอดีตเพื่อนร่วมงานของพวกเขาด้วยใบหน้าเรียบเฉยราวกับไม่มีความรู้สึกอะไรที่คนๆ นั้นตายไปต่อหน้าต่อตา.. .. .. คิงผับ.. "เฮียสวัสดีครับ" น้ำเสียงสุภาพจาก 'เจเจ' บาร์เทนเดอร์หนุ่มทักขึ้นเมื่อเห็นร่างสูงของหนึ่งในเจ้านายเดินเข้ามาหย่อนก้นนั่งลงบนเก้าอี้บาร์ตัวสูง เขาและเพื่อนในกลุ่มที่คนเรียกกันว่า 'เดมอนส์' อีก 4 คนร่วมกันสร้างผับกลางคืนแห่งนี้ขึ้นด้วยจำนวนเงินหลายสิบล้านและแวะเวียนกันมาเฝ้าดูความเรียบร้อยประจำแล้วแต่ว่าใครจะสะดวกหรือว่างมา แต่ในกรณีนี้ซีเตอร์ตั้งใจมาดื่มมากกว่าจะมาเฝ้าผับเพราะถึงไม่เฝ้าคนของเขาก็ดูแลกันเองได้สบายอยู่แล้ว เพียงแต่ปกติเขาจะขึ้นไปนั่งดื่มบนห้องวีไอพีที่ชั้น 2 ไม่สันทัดข้างล่างเท่าไรแต่วันนี้มีเรื่องต้องคิดมากมายเลยไม่อยากอยู่เงียบๆ คนเดียว "โรมาเน่ขวด" ร่างสูงพยักหน้ารับไว้ก่อนสั่งไวน์ยี่ห้อแพงจากเด็กหนุ่ม เจก็รีบจัดให้อย่างรวดเร็ว ถ้าเป็นเจ้านายคนอื่นคงจะถูกเด็กหนุ่มกวนประสาทเล่นไปนานแล้วแต่กับคนๆ นี้แม้แต่มองสบตาเจยังไม่ค่อยจะกล้าเท่าไร ก็เพราะใบหน้าเรียบเฉยกับสายตาเย็นเฉียบที่มองทีไรก็เป็นอันต้องเสียวสันหลังทุกทีนั่นแหละ ไม่รู้คนหรือหุ่นยนต์! =_=^ เมื่อได้ไวน์มาร่างสูงนั้นก็ไม่สนใจใครอีก เจก็แยกไปทำงานของตนแต่แอบลอบมองสังเกตเขาเรื่อยๆ ทั้งสงสัยและระแวงเมื่อมีเจ้านายคนที่ไม่สนิทมานั่งดื่มใกล้ๆ แบบนี้ และก็ดูเหมือนว่าคนข้างล่างจะแตกตื่นกันพอสมควรเมื่อเห็นเขา เพียงแค่นั่งอยู่เฉยๆ ก็โดดเด่นเหมือนมีแสงจ้าอะไรบางอย่างเปล่งประกายออกมาจากตัวจนต้องหันมามองเรื่อยๆ แต่ร่างโปร่งนั้นกลับไม่สนใจใคร ดวงตาคมกริบเหม่อมองไปข้างหน้าไม่ได้โฟกัสที่จุดใดแต่ก็ทำให้สาวน้อยใหญ่ที่อยู่ในระยะใกล้เคียงเนื้อเต้นพยายามเรียกร้องเชิญชวนให้เขาหันมาสนใจ "เฮ้ย เป็นไปได้หรอวะ ไอ้ซีนั่งข้างล่าง" เสียงใครบางคนแว่วมาให้ได้ยินแต่ไม่ได้ทำให้คนที่ถูกพูดถึงหันมาสนใจแม้แต่หางตา จนกระทั่งรู้สึกได้ถึงแรงเหนี่ยวรั้งอย่างหนักหน่วงบริเวณต้นคอจึงเหลือบตามองนิ่งๆ "หวัดดีเพื่อนรัก^^" อีกหนึ่งคนที่เป็นเจ้าของที่นี่และเป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกัน 'เวย์อิ้ง' พูดกวนพร้อมฉีกยิ้มแป้นแต่กลับไม่ได้มีความจริงใจเลยนอกจากตั้งใจจะกวนประสาทเพื่อนอย่างเช่นทุกที ข้างกายที่ตามเข้ามาติดๆ คือเพื่อนอีกคนที่ถึงแม้จะเป็นบุรุษเพศแต่กลับมีใบหน้าสวยสดจนผู้หญิงยังต้องเขินอายเมื่อได้เห็น 'แอล' ร่างสูงนั้นมองมาที่เขาอย่างสนใจ "เฮียๆ หวัดดีค้าบ" น้ำเสียงทะเล้นจากบาร์เทนเดอร์ที่เคยทักทายซีเตอร์แต่บรรยากาศกลับต่างกันมากเมื่อเทียบกับเพื่อนทั้งสองคนดังขึ้นอย่างสดใส ทั้งคู่หันไปพยักหน้ารับเล็กน้อยก่อนหันกลับมาสนใจเขาอย่างเดิม "ไมมึงไม่ขึ้นข้างบน" แอลถามขึ้นอย่างสงสัย เพราะในบรรดาเพื่อนทั้ง 5 คนนอกจากเนตันแล้ว ซีเตอร์ก็เป็นอีกคนที่ไม่ค่อยจะเห็นลงมานั่งดื่มข้างล่างแบบนี้สักเท่าไรแถมยังทำหน้านิ่งเสียจนไม่ค่อยมีใครอยากจะเข้าใกล้ ปกติก็นิ่งอยู่แล้วนั่นแหละแต่วันนี้รู้สึกจะนิ่งเกินไปจนผิดสังเกต "มึงเป็นอะไรหรือเปล่า?" หนุ่มหน้าสวยถามต่ออย่างนึกเป็นห่วง เพราะเป็นคนเงียบๆ ไม่พูดเยอะเวลามีเรื่องอะไรคนอื่นเลยไม่รู้ จึงต้องจับสังเกตเอา และครั้งนี้แอลมั่นใจว่าเขาคิดถูก.. เพื่อนจะต้องมีเรื่องไม่สบายใจแน่ๆ "พ่ออีกแล้วหรอ? คราวนี้อะไรอีกล่ะ?" ยังไม่ทันที่คนถูกถามจะได้ตอบ แอลก็ถามย้ำจี้ใจคนฟังเข้าไปอีก พอประเด็นมันตรงร่างสูงนั้นจึงพยักหน้ารับอย่างง่ายดาย "ปีหน้าต้องรับตำแหน่งแล้ว.." เสียงถอนหายใจหนักๆ ตามหลังคำพูดออกมาด้วยความกลัดกลุ้ม เขาเคยพูดกับพ่อเรื่องนี้ตั้งหลายครั้งว่าเขาไม่ได้อยากเป็นมาเฟีย เขาอยากเป็นหมอเหมือนแม่ แต่ทุกครั้งที่พูดคนเป็นพ่อบังเกิดเกล้านั้นก็เป็นอันต้องโมโหขึ้นมาทุกทีจนเขาเหนื่อยที่จะพูดเพราะต่อให้พูดทุกวันเขาก็เปลี่ยนอะไรไม่ได้อยู่ดี ชีวิตของเขาถูกกำหนดด้วยคนๆ นี้ไว้แล้วมาตั้งแต่เกิด! "ห้ะ!? ไหนบอกว่าเรียบจบ นี่เพิ่งเข้ามหาลัยเองนะ" เวย์อิ้งที่นั่งฟังอยู่ด้วยกันโผล่งขึ้นมาด้วยความสงสัยระคนตกใจ แอลพยักหน้าเห็นด้วยกับคำถามเพื่อนก่อนที่ทั้งคู่จะหันมามองหน้าซีเตอร์อย่างรอฟังคำตอบ "ไม่รู้.." เสียงทุ้มเข้มเอ่ยเพียงเท่านั้นก่อนที่แก้วไวน์ในมือจะถูกกระดกลงคอรวดเดียวจนหมด ใบหน้าคมเข้มนั้นยังคงนิ่งเฉยราวกับไม่ทุกข์ร้อนอะไร แต่เพื่อนอีกสองคนรู้ดีว่าความคิดร้อยพันกำลังวนเวียนอยู่ในหัวเขาจนหนักอึ้งและดูเหมือนจะหาทางออกไม่ได้นอกเสียจากต้องยอมก้มหน้ารับกรรม "อะไรวะ! กูเพิ่งรู้ว่ามาเฟียแม่งไม่มีสัจจะ!!" เวย์อิ้งสบถออกมาอย่างฉุนๆ คำด่าทอถึงบิดาทำคนนั่งเหม่อปรายตามองเพื่อนด้วยหางตาเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเพราะมันคือเรื่องจริง มาเฟียไม่ใช่กษัตริย์ที่พูดแล้วคืนคำไม่ได้เนื่องจากเกรงจะเกิดคำครหาจากประชาชนจนทำให้เกิดความไม่น่านับถือ แต่มาเฟียไม่จำเป็นต้องแคร์ใครหน้าไหน คำสั่งของผู้นำสูงสุดเท่านั้นที่ถือเป็นเด็ดขาดไม่ว่าจะกลับกลอกไปกี่ครั้งก็ตาม! "แล้วถ้ามึงขึ้นเป็นหัวหน้าแก๊ง มึงก็จะไม่ได้เรียนแล้วดิ ใช่มั้ย?" แอลถามอย่างสงสัย และคิดไว้ว่ามันต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้วเพราะมาเฟียก็มีงานต้องทำใช่ว่าจะได้อยู่ว่างๆ เสียเมื่อไร "อืม.. ตั้งแต่พรุ่งนี้" ซีเตอร์ตอบเอื่อยๆ แม้จะช็อกกับคำตอบที่ได้ฟังไม่หายแต่ทั้งแอลและเวย์อิ้งก็ไม่มีใครพูดอะไรต่อเมื่อเห็นท่าทางของเพื่อน บรรยากาศระหว่างทั้ง 3 คนเงียบลงไปอย่างน่าอึดอัด มีเพียงเสียงเพลงแดนซ์มันๆ ที่ดีเจประจำผับเปิดดังกระหึ่มขึ้นมาให้คนที่กำลังเครียดต้องปวดหัวเล่น ทุกคนทุกโต๊ะต่างโยกย้ายส่ายสะโพกไปมาตามจังหวะตื๊ดๆ ของเสียงเพลงกันอย่างมีความสุขสนุกสนาน ใครบางคนได้แต่กวาดสายตามองภาพนั้นนิ่งๆ จริงอยู่ว่าสถานที่แห่งนี้มันคือที่สำหรับปลดปล่อยทุกสิ่งทุกอย่างแย่ๆ ที่เจอมาตลอดทั้งวันทิ้งไปแล้วสนุกให้เต็มที่ แต่จะให้เขาวางแก้วลงแล้วไปเต้นๆ โยกๆ อย่างคนพวกนั้นน่ะหรอ? แค่คิด... ก็ขนลุก =_=^ "มึง ชุดดำโต๊ะ 4" คนที่ยังโสดข้างๆ สะกิดไหล่เพื่อนให้มองตามด้วยความตื่นเต้น หน้าตาหล่อใสหวานเยิ้มจนต้องละสายตาหนีไปมองโต๊ะต้นเหตุที่เพื่อนบอกอย่างไม่ค่อยใส่ใจ เพราะอารมณ์ในตอนนี้ไม่อยากจะสนใจอะไรเพียงแค่มองตามคำชวนอย่างเป็นมารยาทเท่านั้น แอลเองก็มองตามอย่างไม่คิดอะไรเช่นกัน.. โต๊ะ 4 ตัวปัญหามีสุภาพสตรีเพียงสองคนเท่านั้น คนแรกนั่งดื่มเงียบๆ ไม่ค่อยสนใจใคร แต่สาวชุดดำอีกคนที่ตกเป็นเป้าสายตาของทั้ง 3 หนุ่มและอีกหลายๆ คนในผับกำลังโยกย้ายส่ายสะโพกไปมาตามเสียงเพลงอย่างสุดยั่ว ชุดเดรสรัดรูปนั้นแนบไปกับสัดส่วนเว้าโค้งของร่างกายขาวผ่องยามแสงไฟตกกระทบ ดวงหน้าสวยหลับตาพริ้มพร้อมระบายยิ้มอ่อนหวานคล้ายคนเมาออกมาอย่างมีความสุขกับการยืนเต้นคนเดียวอยู่ภายในโต๊ะของตัวเอง ร่างกายสุดเซ็กซี่นั้นทำเอาผู้ชายหลายคนมองตาค้างไม่ละไปไหนเพราะโต๊ะของพวกเธอค่อนข้างอยู่ในจุดที่คนรอบข้างมองเห็นชัดเจน "เหี้ย โคตรเอ็กซ์อ่ะ กูอยากได้!" เวย์อิ้งพึมพำออกมาอย่างหลงใหลเพ้อฝันเพราะร่างบางนั้นตรงสเป็คจนเหมือนหัวใจมันถูกกระชากออกไปตั้งแต่แวบแรกที่เจอ แต่ก็ไม่ได้เดินเข้าไปทำความรู้จักแต่อย่างใด ปล่อยให้ความสนุกนั้นดำเนินเป็นอาหารตาให้ได้มองกันต่อไปเรื่อยๆ "จัดดิ มองเฉยๆ คงได้แดกหรอก" แอลเหยียดยิ้มเยาะเพื่อนอย่างไม่จริงจัง โดยส่วนตัวนั้นก็ใช่จะปฏิเสธว่าเธอคนนั้นไม่สวย สวยมากต่างหาก แต่ไม่ใช่สเป็คและเขาก็มีคนรักอยู่แล้วเลยไม่คิดจะสนใจ ส่วนอีกคนที่นั่งนิ่งอยู่ก็คงจะไม่ต่างกัน โสดแต่ก็ไม่เห็นสนใจใครสักที "กูไม่อยากขัดความสุขเขาเว้ย" เวย์อิ้งตอบพร้อมยักคิ้วใส่เพื่อนอย่างทะเล้น ความจริงเห็นผู้ชายเข้าไปหาร่างบางนั้นหลายคนแล้วแต่ก็โดนปฏิเสธทุกรายเลยไม่มั่นใจว่าถ้าตัวเองเข้าไปจะถูกเมินอีกคนหรือเปล่า เพราะก่อนหน้านั้นก็มีแต่คนหล่อๆ รวยๆ ทั้งนั้นดูเหมือนสาวเจ้าจะหยิ่งไม่เบา ถ้าโดนเมินนอกจากจะเสียเซลฟ์แล้วยังถูกเพื่อนหัวเราะเยาะอีก เกรงว่ามันจะไม่คุ้ม! "มึงเคยปฏิเสธด้วย?" แอลถามออกมาอย่างแปลกใจ มองหน้าเพื่อนอย่างแสดงออกชัดเจนว่าไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เวย์อิ้งพูดนัก "เอ้า ไอ้นี่! กูไม่ใช่ไอ้ฟิลนะเว้ย" คนถูกถามหน้ามุ่ยเถียงกลับอย่างเอาเรื่อง แต่คำพูดเถียงข้างๆ คูๆ นั้นกลับทำคนฟังยิ้มเหยียดใส่อย่างจงใจ "เมื่อก่อนมึงกับมันต่างกันตรงไหน ตอนนี้มันมีเมียแล้วมันยังหยุด แต่มึงอ่ะเมื่อไรจะมี เผื่อจะหยุดเหี้ยได้อย่างมันบ้าง" หนุ่มหน้าสวยแขวะเพื่อนไปอย่างเจ็บแสบ ทำเอาคนฟังถึงกับสะอึก "แหม มีเมียล่ะนิ! แขวะกูจัง อย่าให้มีบ้างนะมึง" คนพูดเบ้ปากอย่างเคืองๆ ก่อนเลิกสนใจเพื่อนหันไปสนใจสาวชุดดำต่อ บทสนทนาเลยจบลงเพียงเท่านั้น แอลหันไปมองซีเตอร์ที่ยังคงนั่งเหม่ออย่างเดิมแล้วถอนหายใจออกมาด้วยความสงสารเพื่อนจับใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากยื่นมือไปตบไหล่เพื่อนเบาๆ .. ..
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD